ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 428 เก็บดอกเบี้ย
ในขณะที่อวิ๋นเจี่ยวกำลังจะถาม ก็ได้ยินเยี่ยยวนพูดขึ้น “มาแล้ว”
“อะไร” เธอยังไม่ทันได้เข้าใจ ทันใดนั้นก็รู้สึกภายในห้องสว่างขึ้นไม่น้อย ทั้งที่เป็นเวลากลางวัน แต่บนผ้าม่านที่ปิดเอาไว้กลับปรากฏดวงแสงสว่างไสวจำนวนมาก เธอเปิดม่านออกเพื่อ ดู เห็นเพียงแสงสีทองจำนวนมากกำลังหลั่งไหลมาจากทิศทางหนึ่งด้านนอกหน้าต่าง ดวงแสงเล็กๆ น้อยๆ หลอมรวมกันสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นถาโถมเข้าไปในร่างกายของคนที่ยังฝังอยู่บนกำแพง งดุจดั่งน้ำที่หลากเข้ามา
ชายแก่ที่เหมือนหลอดไฟสว่างมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร่างกายที่จมลงไปในกำแพงเคลื่อนย้ายออกมาอย่างช้าๆ ภายใต้ผลกระทบของแสงสีทองแห่งคุณงามความดี เวลาผ่านไปไม่นาน อวิ๋นเจี่ยวที่อยู่ห ห่างออกไปหลายเมตรก็มองไม่เห็นสิ่งของตรงหน้าแล้ว ภายในวิสัยทัศน์หลงเหลือเพียงแสงสีทองแสบตา
อีกทั้งคุณงามความดีด้านนอกไม่มีแนวโน้มจะหยุดลง หากแต่รวมตัวมากยิ่งขึ้น รวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ภายในบ้านของอวิ๋นเจี่ยว แม้แต่ชั้นของอาคารก็ตกอยู่ท่ามกลางแสงสีทองแห่งคุณงาม มความดีของชายแก่
แม้แต่ชายแก่เองก็ตกตะลึง เป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่าตนเองมีคุณงามความดี มากมายเพียงนี้ คนทั้งคนลอยขึ้นมา จนกระทั่งได้ยินเสียงที่คุ้นเคยและแสบหูดังขึ้น “เอ๊ะ! เสียงอะไร” ชายแ แก่ผงะ “เจ้าหนู อุปกรณ์บ้านเจ้าพังเหรอ”
อวิ๋นเจี่ยวผงะ สักพักถึงได้พูดขึ้น “ เสียงของกระดิ่งเตือนไฟไหม้! แสงตรงนี้สว่างเกินไป จึงมีคนคิดว่าไฟไหม้!”
“ฮะ? อ้า!” ชายแก่ตะลึง
“อ้าอะไร ท่านรีบเก็บแสงนี้ลงไป!”
“อ่อๆ!” ชายแก่ปรับลมหายใจ คิดจะเก็บคุณงามความดี แต่ข้าว่าไม่มีประโยชน์อันใด เขาลองมาครึ่งวันก็ยังไม่สำเร็จ “ไม่ได้ ข้าเก็บไม่ลง” จำนวนนี้มากเกินไปทันทีที่เก็บลงไปก็ปรากฏ จำนวนมากยิ่งขึ้น
“ไม่ทันแล้ว ข้าได้ยินเสียงของรถดับเพลิงแล้ว!” มีเพื่อนบ้านแจ้งความแล้วอีกทั้งยังแจ้งความด้านไฟไหม้!
“เช่นนั้น…จะทำอย่างไร”
อวิ๋นเจี่ยว ก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นผลลัพธ์เช่นนี้ ทำได้เพียงหยิบยันต์ขนส่งออกมาหนึ่งใบ “ไม่มีวิธีแล้ว ออกจากที่นี่ก่อน!”
พูดจบก็ดึงอาจารย์ปู่และชายแก่ จากไปด้วยยันต์ขนส่ง นาทีถัดมาร่างของคนทั้งสามหายไปพร้อมกับแสงสีทองแห่งคุณงามความดี
“ไปไหน” ชายแก่ยังพูดไม่จบ นาทีถัดมาภาพตรงหน้าเลือนรางไป ก่อนจะมาถึงสถานที่คุ้นตาแห่งหนึ่ง “นี่…นี่บ้านข้าไม่ใช่เหรอ!” ด้านหน้าคือคฤหาสน์ตระกูลเหลย
“อืม บ้านท่านกว้างใหญ่ ท่านสามารถเปล่งแสงได้เต็มที่!” เธอหาสถานที่อื่นไม่ได้แล้วในเวลานี้ อีกทั้งคฤหาสน์ตระกูลเหลยกว้างใหญ่จริง อีกทั้งยังอยู่โดดเดี่ยว รอบด้านไม่มีคฤหาสน์ห หลังอื่นเชื่อมต่อกัน ระหว่างคฤหาสน์ห่างเป็นระยะไกล อีกทั้งตั้งแต่ชายแก่ย้ายไปอยู่ข้างบ้านเธอ พ่อลูกตระกูลเหลยต่างเป็นห่วงเธอจึงย้ายตามไปด้วย คฤหาสน์หลังนี้ว่างเปล่าตั้งแ แต่เมื่อหลายเดือนก่อน
ก่อนที่คุณงามความดีของชายแก่จะกลับคืนร่างของเขาทั้งหมดคงจะไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะถูกคนพบเห็น…
เสียที่ไหน!
ครึ่งชั่วโมงต่อมา…
มองดูแสงทองแห่งคุณงามความดีของใครบางคนส่องสว่างคฤหาสน์ดุจดั่งแสงอาทิตย์ อีกทั้งยังมีคุณงามความดีที่ถาโถมมาไม่ขาดสาย อวิ๋นเจี่ยวมุมปากกระตุก เธอหันไปมองคนที่นั่งกินขนมอย่างตั้ งใจ ไม่ถูกกระทบแม้แต่น้อย “อาจารย์ปู่…คุณงามความดีเหล่านี้ไม่ใช่แค่ของบนตัวชายแก่?” จำนวนมากเกินไปแล้ว! หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่คฤหาสน์หลังนี้ ยอดเขาแห่งนี้ก็คงจะถู กส่องประกายเป็นสีทอง
“อืม” เยี่ยยวนพยักหน้า พูดขึ้น “เก็บดอกเบี้ยมาด้วย”
“ดอกเบี้ย?” เขาดึงคุณงามความดีของผู้ที่แย่งชิงคุณงามความดีมาด้วย? แต่…มากเกินไปหรือไม่!
อวิ๋นเจี่ยวก้มหน้ามองแสงสีทองที่แผ่ขยายไปด้านนอกคฤหาสน์ราวกับปูพรม ก่อนจะถอนหายใจออกมา ทำได้เพียงหยิบธงค่ายกลออกมาอย่างจำใจ เอาเถอะ! ไม่มีเวลาคิดแล้วว่าอาจารย์ปู่เก็บดอกเบี้ย มากี่เท่า เวลานี้วางค่ายกลซ่อนเป็นเรื่องด่วนที่สุด
ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง อวิ๋นเจี่ยวถึงได้วางค่ายกลซ่อนเร้นรอบด้านเอาไว้ก่อนที่จะถูกเปิดเผย เมื่อค่ายกลสัมฤทธิ์ผล แสงสีทองรอบด้านจึงค่อยๆ เจือจางลงไป
“ตาบอดแล้ว บอดแล้ว!” ถึงแม้จะมีคุณงามความดี แต่ชายแก่ที่อยู่ใจกลางพักสายตาเป็นเวลานานยังไม่ดีขึ้น ถึงแม้แสงสีทองรอบด้านหายไปแล้ว แต่ด้านหน้าของเขายังคงเลือนราง มองไม่เห็นแม้แต่ น้อย เขาขอความช่วยเหลือขึ้นมา “อาจารย์ปู่ คุณงามความดีของข้าคืนมาหมดหรือยัง ดวงตาข้ามองไม่เห็นแล้ว ข้าคงไม่ได้ตาบอดจริงๆ ใช่หรือไม่ ใกล้เวลากินข้าวเย็นแล้ว!” สี่ห้าชั่วโมงแล้ ว คุณงามความดีของเขามีมากมายขนาดนี้เหรอ หากแย่งชิงผักไม่ทันจะทำอย่างไร
“คืนหมด หรือว่า…” เยี่ยยวนเหลือบมองเขาอย่างหาได้ยาก สายตาของเขาหรี่ลง “คืนไม่ไหวถึงจะเสร็จสิ้น”
“ฮะ?” ชายแก่ฟังไม่เข้าใจ
อวิ๋นเจี่ยวผงะไป ก่อนจะตระหนักบางอย่างได้ “อาจารย์ปู่อยากจะ…ใช้สิ่งนี้ล่อให้คนของดินแดนเทียนเหยินออกมา?”
“อืม” เขาพยักหน้า “เทียบกับการตามหา สู้ให้พวกเขาปรากฏตัวเองเสียดีกว่า”
“…” เธอนึกถึงสิ่งที่เผยซื่อจงเคยพูดเอาไว้ เรื่องการแย่งชิงคุณงามความดีมาจากการชี้แนะของคนแห่งดินแดนเทียนเหยิน แต่คุณงามความดีที่แย่งชิงไปบนตัวของตระกูลจางและตระกูลเผยรว วมกันยังไม่เทียบเท่ากับหนึ่งส่วนของชายแก่ แล้วอีกเก้าส่วนไปไหน ย่อมไม่ต้องคิด ส่วนที่เหลือตกไปอยู่ในมือของคนแห่งดินแดนเทียนเหยิน
เวลานี้อาจารย์ปู่เรียกคืนคุณงามความดีบนตัวของชายแก่ อีกทั้งยังเก็บดอกเบี้ยเกินจำนวนอย่างเห็นได้ชัด จากที่อีกฝ่ายให้ความสำคัญต่อคุณงามความดี เวลานี้ขโมยไก่ไม่ได้ อีกทั้งยัง งต้องมาเสียข้าวสารอีกกำมือ ย่อมไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน
“เจ้าอยากช่วยหนทางแห่งสวรรค์ของดินแดนนี้ วิธีนี้เร็วกว่า!” เยี่ยยวนหันไปมองอวิ๋นเจี่ยวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเสริมขึ้น “ข้าช่วยเจ้า!” ไม่ได้ช่วยหนทางแห่งสวรรค์
“…” อวิ๋นเจี่ยวผงะ ทันใดนั้นรู้สึกร้อนผ่าวที่จมูก ภายในใจรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไหลผ่าน ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นตามมาด้วย แม้แต่ใบหน้าที่แข็งกร้าวก็อ่อนโยนลง เผยให้เห็นรอยยิ้ม มเล็กน้อย
เธอเอนตัวเข้าใกล้โอบกอดเอวคนตรงหน้าเอาไว้ พิงหัวบนไหล่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของขนม
“อาจารย์ปู่…”
“อืม?”
“ข้า…อยากเพิ่มข้าวให้ท่านแล้ว”
“ได้!” อีกฝ่ายตอบรับทันที มือที่โอบเธอไว้กระชับแน่น ตามมาด้วยสายตาที่แพรวพราว จากนั้นถามขึ้น “มี…ของหวานไหม”
“…” อวิ๋นเจี่ยวหัวเราะเสียงเบา เงยหน้าทำท่าจะประชิดเข้าไป
“ข้ามองเห็นแล้ว!!” ชายแก่ด้านข้างพุ่งตัวเข้ามา ชี้ไปที่ดวงตาของตนเองด้วยใบหน้าตื่นเต้น “เจ้าหนูรีบดู ข้าไม่ได้ตาบอด ดีจริง! ฮ่าๆ…กินข้าวเมื่อใด เอ๊ะ! อาจารย์ปู่ ทำไมหน้าท่ านดำขนาดนี้ ดวงตาข้ายังไม่หายดีเหรอ”
สีหน้าของใครบางคนดำทะมึนลงดุจก้นหม้อ ก่อนจะยกมือขึ้นสะบัดข้ามไป!
มองดูคนที่กำลังจะลอยไปติดกำแพงตรงข้าม…
“เดี๋ยว!” โชคดีที่อวิ๋นเจี่ยวมือไว จับมือของเยี่ยยวนเอาไว้
“เจี่ยวเจี่ยว…” น้อยใจ “ไม่ใช่! ด้านนั้นเป็นกำแพงรับน้ำหนัก” เดี๋ยวบ้านพังเปลี่ยนอีกด้าน!
เยี่ยยวน “…”
ชายแก่ “…” จิตใจอยู่ไหน!
ปัง!