ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 435 ลำแสงสองต้น
“ไม่ เป็น…เป็นไปไม่ได้…” เงานั้นตกตะลึงอย่างมาก ไม่เพียงเท่านี้ สายฟ้าจำนวนไม่น้อยหลั่งไหลออกมาจากรอยร้าว ก่อตัวกลายเป็นค่ายกลสายฟ้าขึ้นมาใหม่ ฟาดจิตแห่งเทพที่บีบคออวิ๋นเจี่ย ยวเอาไว้จนแหลกละเอียด
คนที่เรียกจิตแห่งเทพออกมานั้น เดิมทีก็ถูกค่ายกลสะท้อนกลับ เวลานี้ยิ่งล้มลงบนพื้น มองไปยังลำแสงต้นกำเนิดบริเวณใจกลางที่อ่อนลงจนกระทั่งจะหายลับไป เขาเบิกตาโตมองไปยังท ทิศทางของอวิ๋นเจี่ยว “เหตุใด เจ้า…ทั้งที่เจ้าเป็นคนของดินแดนนี้ เหตุใดค่ายกลของเจ้าทำร้ายพวกข้าได้”
“ใครบอกว่าข้าเป็นคนวาง” อวิ๋นเจี่ยวพูดด้วยความจริงจัง “เขาเป็นคนวางต่างหาก” เธอชี้ไปยังชายแก่ที่อยู่ห่างออกไป เห็นได้ชัดว่าเขายังตั้งสติไม่ได้
อะไรนะ!
“…” ไม่เพียงแต่สิบกว่าคนบนพื้น แม้แต่ชายแก่ก็ทำหน้าฉงน เขาเคยวางค่ายกลหรือ
คนนั้นมองไปยังรอบด้าน ท่ามกลางค่ายกลสายฟ้าตรงหน้า แสงสายฟ้าที่มิดชิดที่สุด สักพักถึงได้กระจ่าง สถานที่เหล่านั้น ล้วนเป็นสถานที่ที่เธอเคยสั่งการให้ชายแก่ใช้วิชาเวท ก่อนหน้า านี้พวกเขาคิดว่าเธอกำลังสอนให้อีกฝ่ายต่อสู้กับศัตรู ที่แท้เธอก็ใช้ให้อีกฝ่ายวางค่ายกลตั้งแต่แรก ส่วนสายฟ้าใหญ่ที่โจมตีลงบนพื้นครั้งสุดท้าย ก็เพื่อถ่ายทอดพลังลมปราณให้ แก่ค่ายกล เพื่อให้ใจกลางค่ายกลทำงานขึ้นมาเท่านั้น
ลักษณะของค่ายกลชายแก่เป็นคนวาง ใจกลางค่ายกลเขาเป็นคนใช้พลังเวทกระตุ้นให้ทำงาน ค่ายกลนี้เขาเป็นคนวางตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่ยันต์ที่ใช้กระตุ้นค่ายกล เขาก็เป็นคนวาด ไม ม่เกี่ยวกับดินแดนนี้แม้แต่น้อย ย่อมสามารถพังทลายค่ายกลของพวกเขาได้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ สิบกว่าคนบนพื้นมีสีหน้าบิดเบี้ยวขึ้นมา หนึ่งในนั้นไม่สนใจอาการถูกสะท้อนกลับ พุ่งตรงมายังทิศทางของอวิ๋นเจี่ยว “ถึงแม้จะต้องตาย ก็ต้องลากเจ้าที่ทำลายเรื่อ องสำคัญของพวกข้าไปตายด้วย” วันนี้ไม่ได้บีบให้ต้นกำเนิดของดินแดนแห่งนี้ออกมา พวกเขาย่อมต้องได้รับการแก้แค้นจากหนทางแห่งสวรรค์ อย่างไรก็ต้องตาย สู้แก้แค้นให้ตนเองก่อนเสียด ดีกว่า
พูดจบ ร่างของเขาประกายแสงสีแดงออกมา ไม่เพียงแต่เขา คนทั้งหมดบนพื้นล้วนเหมือนเขา ทั้งตัวเป็นสีแดง พลังรอบตัวเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
“แย่แล้ว พวกเขาจะระเบิดตัวเอง!” ชายแก่ตะลึง ไม่คิดว่าพวกเขาจะโหดเหี้ยมเพียงนี้ หนีตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว เขาทำได้เพียงหยิบยันต์ป้องกันบนตัวทั้งหมดออกมา คุ้มกันไว้รอบตัวของ งเขาและอวิ๋นเจี่ยว
นาทีถัดมา ได้ยินเพียงเสียงดั่งสนั่น คนนั้นก็ระเบิดออกราวกับดอกไม้ไฟ พลังขนาดใหญ่กระจายออกไปทั่วทุกทิศ พังทลายเกราะป้องกันห้าหกชั้นรอบตัวของคนทั้งสอง แม้แต่น้ำทะเลที่ถูกก กีดกันอยู่รอบด้านก็ถดถอยออกไปหลายจั้ง
นี่เป็นเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น เมื่อเห็นว่าคนอื่นก็กำลังจะระเบิดตัวเอง ชายแก่จึงทำได้เพียงหยิบยันต์ป้องกันออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ทันความเร็วในการระเบิดของพวกเขา อีกท ทั้งตอนนั้นพลังลมปราณของเขามีไม่มาก ยันต์วิเศษบนตัวจึงมีไม่มาก
เมื่อเห็นว่าเกราะป้องกันถูกระเบิดพังทลายลงอย่างต่อเนื่อง อวิ๋นเจี่ยวกัดฟัน ร่ายเวทเปลี่ยนแปลงค่ายกลรอบด้านอีกครั้ง สายฟ้าจำนวนมากถูกเรียกมาอยู่รอบตัวคนทั้งสอง ก่อตัวเป็นกำแ แพงต้านเอาไว้รอบด้าน หวังว่าสามารถต้านทานได้เล็กน้อย
เสียงระเบิดดังมากขึ้น ทั่วท้องทะเลกำลังสั่นสะเทือน พื้นดินถูกระเบิดจนลึกลงไปเป็นชั้น
ข้างตัวของคนทั้งสอง ค่ายกลสำหรับดึงดูดต้นกำเนิดพังทลายลงจนหมดสิ้น ลำแสงสีทองเหลือเพียงขนาดเท่าแขน ใกล้จะถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง อวิ๋นเจี่ยวพยายามประคองค่ายกลสายฟ้าเอาไว้ ต้านทานพลังระเบิดที่ถาโถมมาจากทางด้านหน้า เมื่อหันไปพบว่า ด้านข้างลำแสงต้นกำเนิดสีทองมีลำแสงขนาดเท่าท่อน้ำสีเหลืองเขียวปรากฏขึ้น ก่อนหน้านี้ลำแสงต้นกำเนิดสีทองมีขนาดใหญ่เกิน นไป มันถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้านในจึงมองไม่เห็น เวลานี้ค่ายกลพังทลาย ลำแสงหดเล็กลงจึงปรากฏออกมา
“นี่คืออะไร” อวิ๋นเจี่ยวที่ยืนอยู่ด้านข้างพอดีผงะ
“อย่าแตะต้องมัน!” เทพตัวปลอมที่กำลังเร่งจิตระเบิดเบิกตาโต ตะโกนเสียงดัง
“อ่อ?” อวิ๋นเจี่ยวหรี่ตาลง ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง “ข้าจะแตะ!” พูดจบก็ยื่นมือจับเข้าไปที่ลำแสงสีเขียวเหลืองนั้น
“ไม่!”
เทพตัวปลอมที่เตรียมตัวระเบิดกรีดร้องออกมาพร้อมกัน นาทีถัดมาร่างของพวกเขาสลายไปราวกับทรายที่ถูกลมพัดผ่าน แม้แต่ระเบิดตัวเองยังทำไม่ทัน
“เกิดอะไรขึ้น” แรงกระแทกของระเบิดรอบด้านหยุดลง อวิ๋นเจี่ยวทำหน้าฉงน
ชายแก่ร้องเสียงหลงออกมา “เจ้าหนู! เจ้า…บนตัวเจ้าคืออะไร”
“อืม?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ ก้มหน้ามอง ก่อนจะพบว่าลำแสงสีเหลืองเขียวที่เธอจับเมื่อสักครู่หลั่งไหลเข้าไปในร่างกายของเธออย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งยังหลั่งไหลเข้าเส้นชีพจรเสวียนของเธ ธออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นร่างกายของเธอเปรียบเหมือนดั่งหลอดไฟ ส่องประกายไปด้วยแสงสีเขียวเหลือง
นี่มัน…อะไรกัน!!
…
บนพื้นผิวทะเล คนที่กำลังขัดขวางต้นกำเนิดผงะไป มองไปยังลำแสงต้นกำเนิดสีทองที่หายไป ก่อนจะมองเส้นทางเชื่อมสองดินแดนที่ยังคงเปิดอยู่ อีกทั้งภายในทางเชื่อมนั้น ยังมีลำแสงสี เหลืองเขียวที่หลั่งไหลเข้ามาทางนี้อย่างต่อเนื่อง คิ้วของเขาขมวดมุ่น
นี่คือ…
เขาสะบัดมือลงไปด้านล่าง น้ำทะเลถูกแหวกออกไปสองฝั่งทันที เผยให้เห็นร่องลึกที่ลงไปถึงใต้ท้องทะเล
“อาจารย์ปู่!” เมื่อเห็นคนที่ลอยลงมา ชายแก่รีบขอความช่วยเหลือ “ท่านรีบดูเจ้าหนู นางเป็นอะไรกันแน่”
เยี่ยยวนปรากฏตัวอยู่ด้านข้างคนทั้งสองทันที เขาหันไปมองคนที่กลายเป็นลูกบอลแสงสีเขียวเหลืองที่สว่างจนมองไม่เห็นร่างคน คิ้วของเขาขมวดมุ่นยิ่งขึ้น “เจี่ยวเจี่ยว!”
“…อาจารย์ปู่?” ด้านในมีเสียงที่คุ้นเคยส่งออกมา
“อาจารย์ปู่ เจ้าหนูไม่เป็นไรใช่หรือไม่ เหตุใดแสงจึงมากขึ้นเรื่อยๆ !” ชายแก่พูดอย่างร้อนใจ
เยี่ยยวนเงยหน้ามองขึ้นไปยังลำแสงที่ยังคงหลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง เขารู้สึกว่าแสงเหล่านั้นลอยลงมาอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น จากนั้นหลั่งไหลเข้าร่างกายของอวิ๋นเจี่ยวอย่างรวดเร็ว สีห หน้าของเขาดำทะมึน ทันใดนั้นดาบยาวสีดำสนิทปรากฏอยู่บนมือทันที
เป็นครั้งแรกที่ชายแก่เห็นอาจารย์ปู่ใช้อาวุธ เห็นเพียงแต่เขาลอยขึ้นไปด้านบน ก่อนจะฟาดลงไปยังลำแสงสีเขียวเหลืองนั้น จากนั้นได้ยินเพียงเสียงดังขึ้น
ลำแสงนั้นถูกเขาตัดขาดไป ไม่ได้พุ่งตรงลงมายังอวิ๋นเจี่ยวอีก แม้แต่เส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างสองดินแดนก็หุบลง กลายเป็นท้องฟ้าเหมือนดังเคย แสงรอบตัวของอวิ๋นเจี่ยวค่อยๆ จางลงไ ไป ร่างกายของเธอโซเซเล็กน้อย
“เจี่ยวเจี่ยว!” เยี่ยยวนประคองคนเอาไว้ โอบกอดเข้ามาด้วยความเป็นห่วง “เป็นอย่างไร”
“ข้า…” อวิ๋นเจี่ยวมองมือของตนเองอย่างฉงน คนทั้งคนยังตกอยู่ในอาการงุนงง แต่ยังคงพยักหน้าช้าๆ “ไม่เป็นไร! แต่ว่า…แน่นท้องไปหน่อย?”
พูดจบราวกับต้องการยืนยัน เธอส่งเสียงดังออกมา…
เอิ้ก
ชายแก่ “…”
เยี่ยยวน “…”