ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 436 สองหนทางแห่งสวรรค์
อวิ๋นเจี่ยวยากที่จะอธิบายความรู้สึกของเธอในเวลานี้ ราวกับทันใดนั้นก็กระจ่างถึงความจริงของฟ้าดิน รู้ถึงกฎเกณฑ์การหมุนเวียนของดินแดน ควบคุมกฎเกณฑ์ของการเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสิ ง เธอมีความรู้สึกว่าทุกสิ่งบนโลกใบนี้ เพียงแค่เธออยากก็สามารถทำได้ ราวกับ…ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้
“เป็นอย่างไร เป็นอย่างไร” เมื่อเห็นอาจารย์ปู่ชักมือที่จับเส้นชีพจรกลับไป ชายแก่รีบถามขึ้น “เจ้าหนูเป็นไรหรือไม่”
อวิ๋นเจี่ยวเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า
คิ้วของเยี่ยยวนยังคงขมวดมุ่น กวาดตามองศิษย์หลานตัวน้อยของตนเองด้วยสีหน้าซับซ้อน สักพักถึงพูดขึ้น “ร่างกายไม่เป็นอะไร เพียงแค่แน่นท้องไปเท่านั้น” เหมือนดั่งที่อวิ๋นเจี่ยวพูด ด ร่างกายของเธอไม่มีความผิดปกติ เพียงแค่กินอิ่มไปเท่านั้น
เพียงแต่ร่างกายของเธอ…
“อาจารย์ปู่ แสงนั้นคืออะไร” อวิ๋นเจี่ยวมีคำตอบภายในใจ แต่ไม่แน่ใจ
เยี่ยยวนให้คำตอบเธอ “ต้นกำเนิดดินแดนอื่น”
“อะไรนะ!” ชายแก่ผงะ ถามขึ้น “ดินแดนอื่น? ดินแดนอื่นไหน ทางนี้ หรือทางของพวกเรา”
เยี่ยยวนขมวดคิ้ว “ทางที่รุกรานเข้ามา!”
“ฮะ?!” ไม่เพียงแต่ชายแก่ แม้แต่อวิ๋นเจี่ยวก็ตะลึง “อาจารย์ปู่หมายความว่า แสงสีเหลืองเขียวเหล่านั้นคือต้นกำเนิดของดินแดนของเหล่าคนที่ต้องการแย่งชิงต้นกำเนิดของดินแดนนี้” อีกทั้ งยังตกอยู่บนตัวของอวิ๋นเจี่ยว
“อืม” เยี่ยยวนพยักหน้า
“…” ชายแก่เงียบลง นี่ถือว่าขโมยไก่ไม่ได้ ยังต้องเสียข้าวสารไปหนึ่งกำ…ไม่ เสียไปทั้งโกดังหรือไม่
อวิ๋นเจี่ยวครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ถามขึ้น “เหตุใดข้าจึงสามารถซึมซับต้นกำเนิดได้” อันที่จริงเรียกว่าซึมซับก็ไม่ถูกต้อง แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่เธอสัมผัสต้นกำเนิด ต้น นกำเนิดเหล่านั้นก็หลั่งไหลเข้าไปในร่างกายของเธอเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เหล่าเทพตัวปลอมที่เดิมมาขโมยต้นกำเนิดยังไม่สามารถซึมซับต้นกำเนิดเข้าไปเอง หากแต่ชักนำพลังของต้นกำเนิดเ เข้าสู่ดินแดนของพวกเขา
ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งต้นกำเนิดไม่ใช่ใครจะซึมซับหรือควบคุมก็ได้ มิเช่นนั้นหนทางแห่งสวรรค์คงไม่ขอร้องให้อาจารย์ปู่ยอมรับดินแดนทางนี้
“ภายใต้สถานการณ์ปกติ นอกจากผู้สร้างแล้วไม่มีใครควบคุมต้นกำเนิดได้” เยี่ยยวนกระชับมือของอวิ๋นเจี่ยวแน่น ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขากังวลที่สุด แม้แต่เ เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเหตุใดต้นกำเนิดจึงเข้าไปบนตัวของอวิ๋นเจี่ยว อีกทั้งเธอยังสามารถรับเอาไว้ได้
“เจ้าไม่มีความรู้สึกผิดปกติจริงเหรอ” เยี่ยยวนถามขึ้นอีกครั้ง
“ไม่มี” รู้ว่าเขาเป็นกังวลอะไร อวิ๋นเจี่ยวส่ายหัว อย่าว่าแต่ผิดปกติ แม้แต่ความรู้สึกแน่นท้องก็ดีขึ้นไม่น้อย ร่างกายผ่อนคลายและแข็งแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
สีหน้าของเยี่ยยวนไม่ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย อวิ๋นเจี่ยวถูกกอดจนอึดอัด เธอคิดจะผลักอีกฝ่ายออก แต่เมื่อเห็นสีหน้ากังวลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของอีกฝ่าย จึงทำได้เพียงล้มเลิก สั กพักจึงนึกบางอย่างขึ้นได้ “จริงสิอาจารย์ปู่ ท่านบอกว่าหลังจากซึมซับต้นกำเนิดแล้ว ท่านจะเข้าสู่ห้วงนิทราเหรอ” เหตุใดเขาไม่มีทีท่าจะหลับแม้แต่น้อย
“ตอนนี้ไม่ต้อง!” ใบหน้าของเยี่ยยวนเผยให้เห็นความหงุดหงิด ก่อนจะอธิบาย “พวกเจ้าพังทลายค่ายกลล่วงหน้า ข้าเพียงแต่ทวงคืนต้นกำเนิดที่ถูกส่งเข้าดินแดนอื่น ไม่ได้ครอบครองต้นกำเนิด ดทั้งหมดของดินแดนนี้” ถึงแม้จะเป็นเรื่องในไม่ช้า แต่อย่างน้อยเวลานี้เขาไม่ต้องเข้าสู่ห้วงนิทราทันที
“เวลานี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเจ้า” เยี่ยยวนกำชับเสียงทุ้ม “ระยะนี้ อย่าออกห่างจากสายตาข้า ต้นกำเนิดบนตัวเจ้ายังไม่แน่ใจว่าจะมีอันตรายหรือไม่” หากมีผลกระทบจริง…เยี่ยยวนกอดแน่น ขึ้น ถึงเวลาเขาคงต้องล้มเลิกแผนการเดิม อย่างไรเธอจะเป็นอะไรไม่ได้
“…ได้” อวิ๋นเจี่ยวทำได้เพียงพยักหน้า
อาจเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของอาจารย์ปู่ ในระยะเวลาหลายวันต่อมา แม้แต่ชายแก่ก็ยิ่งเป็นกังวลขึ้นมา สายตาที่มองเธอดุจดั่งกำลังมองตุ๊กตาที่แตกหักง่าย ไม่เพียงถามอากา ารของเธอบ่อยครั้ง แม้แต่การบ้านที่ไม่ยอมทำก่อนหน้านี้ก็ขยันทำขึ้นมา
ทั้งที่อาจารย์ปู่เฝ้าดูอวิ๋นเจี่ยวอยู่ทุกวัน ไม่มีเวลาตรวจพลังของเขา แต่เขาไม่มีทีท่าอู้แม้แต่น้อย อัตราความถูกต้องบนข้อสอบพัฒนามากขึ้น อีกทั้งบางครั้งยังไม่ต้องให้อวิ๋นเจี่ย ยวเตือน เขาก็ลงมือทำการบ้านล่วงหน้า น่าวางใจอย่างประหลาด
แต่อวิ๋นเจี่ยวไม่เข้าใจความวิตกของทั้งสองคนแม้แต่น้อย หลายวันผ่านไป ร่างกายของเธอไม่มีแนวโน้มเลวร้ายลง หากแต่แข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งเนื่องจากความแตกต่างระหว่างสองโลก ทำให้ปั ญหาบางอย่างเธอไม่อาจเข้าใจได้ก่อนหน้านี้ ในเวลานี้ก็กระจ่างขึ้นมา วิชาเวทย์แต่ละประเภทที่ซับซ้อนยากต่อการเข้าใจ เวลานี้เธอก็เข้าใจได้อย่างง่ายดาย ก็เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลง งพลังต่างๆ เท่านั้น
เธอกระจ่างในทันทีว่าเหตุใดเวลานั้นอาจารย์ปู่ถึงได้หยิบตำราวิชาเวทย์ออกมาได้มากมาย ที่แท้ก็เป็นเพียงการอธิบายวิธีการหมุนเวียนพลังแต่ละชนิดเท่านั้น
อวิ๋นเจี่ยวรู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลกระทบที่ต้นกำเนิดนำมาให้ ดังนั้นเธอในเวลานี้สามารถเขียนวิชาเวทย์ออกมาได้จำนวนมาก แต่เธอรู้สึกได้ว่า สิ่งเหล่านี้แตกต่างจากที่อาจา ารย์ปู่เคยสอน ซึ่งอาจเป็นเพราะความแตกต่างระหว่างสองดินแดน
สิ่งที่ต้นกำเนิดนี้นำมาทั้งแปลกใหม่ทั้งทำให้คนกังวล ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดว่าจะพัฒนาไปถึงระดับไหน จะนำมาซึ่งผลกระทบอะไร ก็มีคนเดินทางมาอธิบายถึงที่
อีกฝ่ายเป็นเด็กชายในชุดยาวสมัยโบราณสีเหลืองเขียว เขาเกล้ามวยผมขึ้นไป ส่วนสูงยังไม่เท่าขาของเธอ เมื่อยิ้มมีลมรั่วออกมา ปรากฏขึ้นหน้าต่อเธออย่างกะทันหัน จุดด้อยของเขานอกจ จากฟันหักแล้ว เขาถือว่ามีลักษณะน่ารักเป็นอย่างยิ่ง ใบหน้ากลมที่ทำให้คนพบเห็นอยากจะเดินเข้าไปหยิกสักทีสองที โดยเฉพาะดวงตากลมโตที่กำลังมองเธอด้วยความแพรวพราว ภายในดวงตาเ เต็มไปด้วยความดีใจและ…คิดถึง?
ทันทีที่เด็กปรากฏตัว เขาก็หันไปยังทิศทางของอวิ๋นเจี่ยว ก่อนจะเรียกเสียงดัง “ท่านแม่!”
พู่…
“แค่ก...แค่ก” อวิ๋นเจี่ยวที่กำลังดื่มนมสำลักจนกระแอมไอออกมา
เขาเรียกว่าอะไรนะ!
“ฮึ ไร้ยางอาย!” ทันทีที่สิ้นเสียง เด็กชายอีกคนปรากฏขึ้น เขามีใบหน้าที่งดงามเหมือนกัน เพียงแต่บนตัวของเขาสวมชุดสูท อีกทั้งกำลังจ้องมองเด็กชายในชุดโบราณด้วยใบหน้าเหยียดหยาม ม
เด็กชายในชุดสูทเธอรู้จัก
“หนทางแห่งสวรรค์?!” เขามาได้อย่างไร คนที่ปรากฏตัวขึ้นทีหลังคือหนทางแห่งสวรรค์ของดินแดนนี้ที่พบเมื่อครั้งก่อน
หนทางแห่งสวรรค์มองเธอ ราวกับต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกเด็กชายเกล้ามวยขัดขึ้น “ทำไม เจ้าอิจฉาข้าเหรอ ข้าโชคดี เจ้าอิจฉาก็ไม่มีประโยชน์!”
“ถุย! ใครอิจฉากัน” ใบหน้าเล็กหนทางแห่งสวรรค์ย่นลง “เจ้าขี้ขโมยไร้ยางอาย หากไม่ใช่…”
เขายังพูดไม่ทันจบ ประตูก็ถูกเปิดออกเสียงดัง ร่างของเยี่ยยวนปรากฏต่อหน้าคนทั้งสอง เขาจ้องมองคนทั้งสองด้วยสีหน้าดำทะมึน เด็กชายหนทางแห่งสวรรค์ที่กำลังทำท่าทีจะทะเลาะแปรเ เปลี่ยนสีหน้าประจบทันที ก่อนจะส่งเสียงเล็กออกมา “ท่านพ่อ!”
“ถุย ไร้ยางอาย!” เด็กชายเกล้ามวยคืนคำพูดให้อีกฝ่ายทันที
อวิ๋นเจี่ยว “…”