สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 12 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (12)
ตอนที่ 12 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (12)
องค์หญิงสามไม่ได้ดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเองหรอกเหรอ?
ชาร์ลครุ่นคิดอย่างหนัก แต่เมื่อเขานึกถึงการแสดงออกขององค์หญิงสามก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มผู้น้อยกว่าคนนี้กลับส่ายหัว
ไม่! เขาจะไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด!
ในที่สุดวันรุ่งขึ้นก็มาถึง
สวี่หลิงอวิ๋นบิดขี้เกียจ ลุกขึ้นจากเตียงและเดินออกจากห้องไปอย่างเกียจคร้าน
“พระเจ้า! เมล็ดพันธุ์ออกผลแล้ว!”
พืชพันธุ์สูงเกือบสิบเมตร! นี่เป็นเพราะเทคโนโลยีสุดล้ำสินะ?!
โอคาซีเดินเข้ามาหาเธอ “ท่านนอนหลับสบายดีไหม?”
“ก็ดี แต่ทำไมเมล็ดพวกนั้นถึงโตเร็วนักล่ะ?” สวี่หลิงอวิ๋นถามขณะชี้ไปยังพืชพันธุ์
“เราโรยยาที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเมล็ดพืช อีกทั้งที่ดินบนดาวเคราะห์แห่งนี้ก็อุดมสมบูรณ์มาก นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเมล็ดพืชถึงเติบโตได้ไวนัก” โอคาซีก็รู้สึกแปลกใจเช่นกันที่เห็นเมล็ดพืชเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วขนาดนี้…
หากเมล็ดพืชเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบนี้ พวกเขาจะสามารถเก็บผลผลิตได้ภายในสิบวัน
“ไปกินข้าวกันก่อนเถอะครับ แล้วหลังจากนั้นเราค่อยไปหาอาหารอย่างอื่นเพิ่มกัน” บางทีพวกเขาอาจค้นพบมันเทศหวานหรืออย่างอื่นที่คล้ายกัน แต่มันต้องเป็นวัตถุดิบที่ดีอย่างแน่นอน
“ค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นเป็นคนตรงไปตรงมา เธอนึกถึงเงินรางวัลที่ได้รับเมื่อวาน ก่อนจะเปิดโปรแกรมถ่ายทอดสดอีกครั้งด้วยความคิดเจ้าเล่ห์
ทันทีที่เธอเริ่มถ่ายทอดสด ผู้ชมหลายหมื่นล้านคนบนเส้นขอบดวงดาวก็พุ่งเข้ามาในช่องถ่ายทอดสดของเธออย่างบ้าคลั่ง จึงทำให้โปรแกรมถ่ายทอดสดที่น่าสงสารรองรับผู้ชมทั้งหมดไว้ไม่ไหว จึงส่งผลให้หน้าจอกะพริบสองสามครั้งก่อนจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ช่างเทคนิคจากสำนักงานของจักรวรรดิเช็ดเหงื่อที่ไหลลงมาจากศีรษะของพวกเขา ในที่สุดพวกเขาก็รับมือกับมันได้!
“สวัสดีทุกคน!”
สวี่หลิงอวิ๋นทักทายผู้ชมด้วยรอยยิ้มขณะนั่งอยู่ในโรงอาหาร เธอถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าทหารและโอคาซีก็นั่งอยู่ข้างเธอเช่นกัน
“ตอนนี้ใครบางคนกำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ ฉัน พวกคุณอยากเห็นท่านพลเอกสุดที่รักของพวกคุณไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นถามพร้อมกับอมยิ้ม
“อยากค่ะ อยาก! องค์หญิงสาม พวกเราอยากเห็นค่ะ” เมื่อผู้ชมรู้ว่าท่านพลเอกนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ พวกเขาจึงส่งข้อความแสดงความต้องการ
“ไหนมาดูกันว่ามีเงินรางวัลไหมน้า! ถ้าเงินรางวัลน้อยกว่าหนึ่งล้านเหรียญ ก็เลิกคิดไปได้เลย! หรือพวกคุณจะทนดูองค์หญิงสามคนนี้เพลิดเพลินกับอาหารเช้าก็ไม่ว่ากัน”
“ฉันไม่ยอมหรอก! องค์หญิงสาม ท่านมันเจ้าเล่ห์!”
“ฉันจะต่อสู้กับท่านบนหน้าจอนี่แหละ!”
“เงินรางวัลอีกแล้ว! เพื่อเห็นแก่ท่านพลเอกโอคาซี ฉันจะส่งเครื่องบิน!”
“ฮึ่ม! ของฉัน! จะส่งเรือบิน!
……….
รางวัลทะลุล้านเหรียญในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น!
“นี่ ก่อนหน้านี้ฉันแค่พูดเล่นเท่านั้น ฉันไม่คิดว่าพวกคุณจะส่งเงินรางวัลให้ฉันจริง ๆ ฮ่า ๆ! พวกคุณทำดีมาก ฉันจะยอมให้พวกคุณได้เห็นเขา” สวี่หลิงอวิ๋นหยอกล้อผู้ชมอย่างเจ้าเล่ห์ ทว่าผู้ชมกลับแทบกระอักเลือด!
ในไม่ช้า เส้นผมสีเงินของท่านพลเอกโอคาซีก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขา ซึ่งมาช่วยระงับความโกรธในใจของผู้ชมได้ทันเวลา
“ว้าว! ท่านพลเอกคะ! วันนี้ฉันสามารถกินข้าวได้อีกจานนะ!”
“กินสิ! ถ้าเธอกินอีก เธอก็จะกลายเป็นยัยอ้วน! และห้ามเข้ามาในกลุ่มแฟนคลับของท่านพลเอกล่ะ!”
“บัดซบ ฉันลืมไปสนิทเลย ต้องลดน้ำหนักแล้วล่ะ! ลดน้ำหนัก!”
……..
ชุดเครื่องแบบสีเข้มทำให้ท่านพลเอกโอคาซีดูโดดเด่นและหล่อเหลามากยิ่งขึ้น
พลเอกหนุ่มยังคงดูสง่างาม แม้ว่าจะกำลังกินอาหารกลางวันอันแสนเรียบง่ายที่ทำจากเนื้อปลาหมึกยักษ์หั่นเป็นลูกเต๋าอยู่ก็ตาม
“หล่อมาก! ฉันรักท่าน…ท่านพลเอกขา! ฉันอยากจะมีลูกกับท่าน!”
……..
จากนั้นคำพูดดังกล่าวก็เพิ่มมากขึ้นในช่องแสดงความคิดเห็น
โอคาซีรับประทานอาหารเสร็จอย่างรวดเร็ว โดยยังคงท่าทีที่สง่างามเอาไว้ ต่างจากสวี่หลิงอวิ๋นที่มีท่าทีโผงผาง!
อาหารเพียงหนึ่งจานไม่เคยเพียงพอสำหรับเธอ ดังนั้นสวี่หลิงอวิ๋นจึงขอเพิ่มอีกจาน
หัวหน้าพ่อครัวไม่มีท่าทีโกรธเคือง ทว่ากลับส่งยิ้มให้เธอแทน และช่วยหญิงสาวตักเพิ่มอีกสองสามชิ้น จากนั้นจึงถามว่าต้องการมันเพิ่มอีกหรือไม่
สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหน้า
เธอพบว่าทัศนคติของผู้คนในค่ายทหารดูดีขึ้นเล็กน้อย?
ดีขึ้นกว่าตอนแรก! เนื่องจากอาหารที่เธอทำเมื่อวานนี้ช่วยเติมเต็มท้องอันว่างเปล่าของเหล่าทหารอย่างสมบูรณ์แบบ! นอกจากนี้องค์หญิงสามยังช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนอาหารที่เรื้อรังมายาวนานและค้นพบการเพิ่มระดับพลังอีกด้วย แล้วพวกเขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไร?
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าแต่ก่อนองค์หญิงสามเป็นคนเอาแต่ใจมากแค่ไหน แต่เพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัว จึงทำให้เธอกลายเป็นคนเช่นนั้นไม่ใช่หรือ?
นอกจากนี้ องค์หญิงสามเพียงแค่อารมณ์เสียเท่านั้น แต่ไม่เคยแสดงปฏิกิริยาที่ไม่ดีออกมา ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่คนที่เลวร้ายมากนัก
โอคาซีเข้าไปในเครื่องจักรกลหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เดิมทีชายหนุ่มลังเลว่าจะเชิญองค์หญิงสามเข้ามาในเครื่องจักรกลของตัวเองดีหรือไม่ แต่ทุกคนกลับตรงไปที่เครื่องจักรกลของตนเอง รวมถึงองค์หญิงสามก็ตรงไปที่เครื่องจักรกลของเธอเองเช่นกัน
พวกเขาขับเคลื่อนเครื่องจักรกลไปบนพื้นที่ที่มีลักษณะเหมือนกับชื่อของมันเอง สายตาทอดยาวมองเห็นเพียงทะเลสาบแห่งความเงียบงันบนดาวเคราะห์รกร้างแห่งนี้
“เจ้าพวกเอเลี่ยนบ้า! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าดาวเคราะห์ที่สวยงามจะมีสภาพแบบนี้!”
ไม่มีร่องรอยของสีเขียว มีเพียงฝุ่นสีเทาเท่านั้นที่ลอยอยู่ด้านบน คอยบดบังความสดใสของท้องฟ้า
ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นนักเรียนจากโรงเรียนทหาร บางคนยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเข้าร่วมกองกำลังสังหารเผ่าเอเลี่ยน อีกทั้งหลายคนก็เกษียณแล้ว ดังนั้นผู้คนเหล่านี้จึงล้วนคุ้นเคยกับภาพตรงหน้าเป็นอย่างดี
“เจ้าพวกเอเลี่ยน! ความปรารถนาตลอดชีวิตนี้ของฉันคือการได้เห็นเผ่าเอเลี่ยนถูกทำลายจนสิ้นซาก!” นี่คือความรู้สึกของอดีตทหารผ่านศึก
ชาวเน็ตหลายคนสังเกตเห็นว่าความคิดเห็นนั้นมาจากทหารที่เกษียณแล้ว พวกเขาจึงกล่าวทักทาย
อดีตทหารผ่านศึกไม่พูดอะไร เพียงแต่ส่งเครื่องบินออกไป
เขาเบื่อที่ต้องทนเห็นดาวเคราะห์กลายเป็นสีเทาเช่นนี้ บางทีพวกเขาอาจจะย้ายไปดาวเคราะห์ดวงอื่น หากมีการค้นพบดาวเคราะห์สีเขียวในสักวันหนึ่ง
“เดี๋ยวก่อน!” สวี่หลิงอวิ๋นจอดเครื่องจักรกลและหยุดชั่วขณะ
นั่นคือพริก!
นอกจากพริกที่เปิดเผยตัวตนอย่างโจ่งแจ้งแล้วยังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่?
สวี่หลิงอวิ๋นเก็บพริกทั้งหมดด้วยท่าทีโผงผาง เหล่าทหารทั้งหลายต่างก้มหน้าก้มตาเก็บพริกเช่นกัน
ผู้ชมแสดงความคิดเห็นด้วยความสงสัย
‘สิ่งนี้คืออะไรคะ? ทำไมมันถึงมีรูปร่างเหมือนผลไม้สีเขียวขนาดเล็กล่ะ? มันกินได้ไหมคะ?’
“มันคือพริก!” สวี่หลิงอวิ๋นยกยิ้มก่อนจะหยิบผลไม้สีเขียวขึ้นมา มันมีขนาดเท่ากำปั้นของเธอ คล้ายกับแอปเปิลเล็กน้อย
“รสชาติของสิ่งนี้ค่อนข้างฉุนเล็กน้อย เป็นรสชาติเดียวกันกับที่พวกคุณได้กลิ่นเมื่อวานนี้ มันช่วยกระตุ้นพลัง และเพิ่มระดับดาวของพวกเราด้วย!”
“และอีกอย่างมันช่วยป้องกันการโจมตีของเหล่าเอเลี่ยน พวกคุณไม่ได้สังเกตเหรอว่าดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นดวงเดียวที่ลอยตัวอยู่อย่างโจ่งแจ้งและเอเลี่ยนไม่ได้บุกมาทำลาย?”
ทว่าเจ้าสิ่งนี้ไม่ได้มีความน่ารักเท่าแอปเปิล เพียงแค่สูดดมกลิ่นในระยะใกล้ก็ได้กลิ่นฉุนที่รุนแรงของมันแล้ว
เหล่าทหารต่างพากันน้ำตาไหล และน้ำมูกของแต่ละคนก็ย้อยลงมาด้วยความฉุนของพริก พวกเขาตกตะลึงและเก็บมันขึ้นอย่างเร่งรีบ
สวี่หลิงอวิ๋นถือเครื่องตรวจจับไว้ในมือของเธอ จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบพื้นที่ หญิงสาวไม่อยากเชื่อเลยว่าจะไม่มีพืชชนิดอื่นอยู่บริเวณรอบ ๆ พริกเหล่านี้!