สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 124 การฝึกภาคสนามของการต่อสู้ชิงตำแหน่งหัวหน้า 36
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพบเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตเข้าเสียแล้ว ค่ำคืนที่ไม่ยอมหลับใหล เฝ้าฝันถึงการขัดเกลากระดองต๋าหลู่
ด้วยความไม่คุ้นเคยในช่วงแรก ทำให้สิ่งของที่ทำออกมายังมีคุณสมบัติไม่ดีพอ แต่ภายหลังกลับเริ่มคล่องมือขึ้น โดยเฉพาะการทำเสื่อเป็นงานฝีมือที่ใช้ทักษะน้อยที่สุด แม้เริ่มแรกจะกระแทกกระทั้นไปบ้าง แต่สุดท้ายเสื่อทุกผืนก็ถูกขัดเกลาจนเรียบเนียนและนุ่มนวล เฉกเช่นเดียวกับงานฝีมือทั่วไป
สวี่หลิงอวิ๋นจ่ายค่าจ้างให้พวกเขาตามระดับคุณภาพของชิ้นงาน
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้คนในสลัมได้รับค่าจ้างในจำนวนมหาศาลเช่นนี้ พวกเขาได้รับเงินเดือนถึงห้าหมื่นเหรียญดวงดาวภายในเดือนเดียว!
ทุกคนถึงกับร้องไห้ออกมาทันทีที่พวกเขาได้รับเงินเดือน!
ทั้งสลัมตกอยู่ในช่วงน้ำตาแห่งความสุข! ห้าหมื่นเหรียญดวงดาว! นี่เท่ากับเงินเดือนของทหาร!
แม่บ้านทุกคนนั่งนับตัวเลขบนสมุดบัญชีออนไลน์ครั้งแล้วครั้งเล่า!
“แม่คะ! พวกเรามีเงินเยอะเลยค่ะ!” เด็กหญิงตัวเล็กมองดูตัวเลขบนสมุดบัญชีธนาคารแล้วปรบมืออย่างมีความสุข “เราจะได้ย้ายไปบ้านหลังใหญ่กันไหมคะ?”
“เจ้าเด็กโง่ พวกเรายังซื้อบ้านหลังใหม่ไม่ได้หรอก แต่ว่าพวกเราทาสีหลังคาใหม่ได้ ซื้อโซฟาตัวใหม่ได้ และซื้อเสื้อผ้าเพิ่มให้ลูกได้แล้วจ้ะ”
หญิงสาวผู้มีประสบการณ์ด้านการขัดเกลามาเป็นเวลาหลายปีพูดเจื้อยแจ้ว ดวงตาของเธอไม่ขุ่นมัวเหมือนเคย แต่กลับมีความหวังเข้ามาแทนที่!
ในเดือนนี้เธอลองคำนวณดูแล้วว่า เธอกับสามียังมีทักษะงานฝีมือที่ไม่ดีพอ พวกเขาจึงได้รับเงินเดือนเพียงห้าหมื่นเหรียญดวงดาวเท่านั้น หากเดือนหน้าพวกเขาขยันกว่านี้และมีทักษะฝีมือชำนาญขึ้น พวกเขาอาจจะได้รับเงินเดือนถึงหกหมื่นหรือเจ็ดหมื่นเหรียญดวงดาวใช่ไหม?!
ผู้คนที่อยู่ในสลัมเดินทางไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อเนื้อ โดยพวกเขาตั้งใจจะกลับมาทำเนื้อตุ๋นที่บ้าน ซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่ให้ลูกและเริ่มปลูกดอกไม้สองสามชนิดไว้หน้าบ้านของพวกเขา
หากเป็นก่อนหน้านี้มันคงไม่มีทางเป็นแบบนี้ได้!
ใครจะคิดว่าคนที่เกียจคร้านไม่ทำอะไร เอาแต่กินกับนอน ใช้ชีวิตธรรมดาจะมีอารมณ์สุนทรีย์เช่นนี้ด้วย?
ธุรกิจต๋าหลู่ของสวี่หลิงอวิ๋นได้รับความนิยมไปทั่วจักรวาล! สินค้าหัตถกรรมที่ทำจากกระดองของต๋าหลู่ถูกขายหมดเกลี้ยงทันทีที่วางเปิดตัว!
และสิ่งที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือเสื่อ เพราะของสิ่งนี้มีผลในการสะกดจิตตามที่องค์หญิงสามได้กล่าวไว้ว่าใครก็ตามที่นอนลงบนเสื่อผืนนี้จะช่วยทำให้นอนหลับสบาย นอกจากนี้มันยังช่วยบรรเทาจิตวิญญาณไม่ให้ฟุ้งซ่าน อีกทั้งยังช่วยให้การดูดซับของพลังดวงดาวเร็วขึ้นอีกด้วย
แต่เสื่อพวกนี้มีราคาถึงหนึ่งหมื่นเหรียญดวงดาว มันค่อนข้างจะแพงไปหน่อย!
เดิมทีรัฐมนตรีการคลังรู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะปลาหมึกยักษ์กำลังขาดแคลนอย่างหนักและรายรับก็ลดลงอย่างมาก แต่ตอนนี้เขารู้สึกโล่งใจแล้ว เพราะเอเลี่ยนต๋าหลู่สามารถทำเงินได้เยอะกว่าปลาหมึกยักษ์เสียอีก และนั่นทำให้เขามีความสุขมาก!
ก่อนหน้านี้มีคนยากจนอยู่ทั่วทั้งจักรวรรดิ คนในสลัมเหล่านี้สร้างความปวดหัวให้แก่ทุกคนมาโดยตลอด ทว่าตอนนี้อาการปวดหัวกลับคลี่คลายลง และคนยากจนกลับกระตือรือร้นทำงานกันมากขึ้นจนทำให้ทุกคนตกใจ!
“องค์หญิงสามทรงมีทางออกอยู่เสมอครับ” รัฐมนตรีการคลังพูดยกย่องกับจักรพรรดิ
ชายชราทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมา แน่นอนว่าพวกเขารู้ดีแก่ใจ
นักเรียนชั้นปีที่สี่สุดเจ๋งของสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิได้เดินลงมาจากยานอวกาศ เตรียมพร้อมจะแสดงอำนาจออกคำสั่งกับรุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่ง ทว่าหลังจากลงจากยานอวกาศแล้ว สวี่หลิงอวิ๋นกลับใช้พวกเขาไปขุดคลอง!
อะไรนะ?!!! ท่านออกคำสั่งให้ว่าที่นักรบอาวุโสผู้สง่าผ่าเผยกับผู้บัญชาการไปขุดคลองอย่างนั้นเหรอ?! ท่านล้อเล่นกันอยู่หรือเปล่า?! ทำไมถึงไม่ให้เกียรติกันขนาดนี้?!
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูคนพิถีพิถันพวกนั้นที่ไม่ยอมขยับตัวไปไหน ก่อนจะขมวดคิ้ว “ไม่อยากทำเหรอ?”
หัวหน้าชั้นปีที่สี่ยืนขึ้น ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าการเป็นผู้บัญชาการนั้นจะต้องดูดีมากแค่ไหน ไม่อย่างนั้นจะซื้อใจคนดูได้เหรอ!
“องค์หญิงสาม พวกเรา…”
“หยุดพูดไร้สาระ แค่ตอบว่าพวกนายจะขุดไหม?!” สวี่หลิงอวิ๋นเอียงศีรษะ “แต่ถ้าไม่ขุดก็จะไม่มีอาหารกินนะ!”
ใบหน้าของผู้บัญชาการชั้นปีที่สี่แข็งทื่อ ก่อนจะเริ่มปรับเปลี่ยนคำพูดของตนเอง “ท่านต้องทำแบบนั้นเลยเหรอครับ?”
“แน่นอนสิ!” สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า เธอมองตรงไปยังท้องทะเล ในท้องทะเลลึกเต็มไปด้วยพริกใต้น้ำที่หนาแน่น เธอจะต้องถ่ายโอนพวกมันให้มาอยู่ในความครอบครองของเธอให้ได้ เพราะมันเหมาะแก่การนำไปปรุงอาหารอันแสนอร่อย!
“พวกเราจะจัดการให้! ตามคำสั่งของท่านครับ!”
พวกเขาต้องการลิ้มลองรสชาติอาหารขององค์หญิงสามมานานแล้ว! เพื่อให้ได้เชยชมนิดหน่อย พวกเขาถึงกับยอมทำทุกอย่าง แม้กระทั่งการขุดหลุมฝังอุจจาระให้ต้าไป๋!
ต้าไป๋เป็นแม่ของลูกสุนัขจิ้งจอกทั้งหลายบนดาวเคราะห์ปลาหมึกเอเลี่ยน
เจ้าพวกนั้นกินปลาหมึกเอเลี่ยนเป็นอาหาร ลูก ๆ ของมันต้องกินปลาหมึกยักษ์วันละหนึ่งตัว และนั่นทำให้รัฐมนตรีการคลังต้องทุกข์ทนกับการคอยให้อาหารพวกเขา เขาจึงขอร้องให้เนรเทศลูกจิ้งจอกพวกนั้นออกไปจากดาวเคราะห์ทันที ทว่าจอมพลก็อดวินกลับไม่ทำตามคำสั่งของเขา!
อุจจาระของจิ้งจอกพวกนี้น่าขยะแขยงมาก พวกเขาต้องขนส่งอุจจาระของพวกมันยังไปพื้นที่อื่นที่มีปลาหมึกยักษ์เหลืออยู่ จากนั้นจึงเปลี่ยนอุจจาระให้กลายเป็นมูลสัตว์และโปรยลงไปเหนือปลาหมึกยักษ์ นี่เป็นทักษะเล่ห์เหลี่ยมเดียวกันกับขององค์หญิงสาม เมื่อทำเช่นนั้นจะสามารถทำให้ปลาหมึกยักษ์ทุกข์ทน สูดดมกลิ่นและน้ำลายฟูมปากตายในที่สุด!
วิกฤตการณ์นับไม่ถ้วนได้ถูกยกระดับขึ้น!
เจ้าตัวเล็กพวกนี้น่ารักเสียจริง คุณต้องการขับไล่พวกมันออกไปเพียงเพราะพวกมันกินปลาหมึกยักษ์แค่ไม่กี่ตัวอย่างนั้นเหรอ? สำหรับเรื่องแบบนี้…มันเป็นวิธีการปกติที่คนเราหว่านพืชก็ต้องหวังผลไม่ใช่หรือไง?!
เพื่อให้ได้ลิ้มลองรสชาติอาหารขององค์หญิงสาม นักเรียนชั้นปีที่สี่ก้าวออกไปด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้า และในไม่ช้าคลองก็ถูกขุดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะเฝ้ามองกระแสน้ำไหลเข้ามาในคลองที่ถูกขุดจนเว้าลึก
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกพึงพอใจมากเมื่อมองดูกระแสน้ำทะเลที่ไหลเข้ามา และเธอวางแผนจะปลูกพืชรสเผ็ดใต้น้ำไว้ในนั้น
นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งที่ต่อสู้เคียงข้างกับกองทัพทหารของพลเอกโอคาซี ก่อนจะพรั่งพรูความรู้สึกออกมาเมื่อมองเห็นนักเรียนชั้นปีที่สี่ และพูดเตือนกันและกันว่า “พวกชั้นปีสี่จะต้องมาตามหาพวกเราแน่ ๆ เพราะพวกเขาอยากจะเป็นจุดสนใจ”
รุยเท้าแขนขึ้น “ก็ให้พวกเขาเข้ามาสิ! ฮึ่ม! คอยดู แล้วฉันจะจัดการพวกนั้นให้สิ้นซาก!”
ความแข็งแกร่งของนักเรียนชั้นปีที่สี่นั้นแข็งแกร่งกว่านักเรียนชั้นปีที่หนึ่งเป็นอย่างมาก ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าผู้คนที่อยู่ในระดับ 6 ดาวมีจำนวนเยอะกว่านักเรียนชั้นปีที่หนึ่งมากแค่ไหน อีกทั้งทักษะการต่อสู้ของพวกเขายังยอดเยี่ยมกว่า
แม้แต่รุยยังต้องยอมรับฝีมือของพวกเขา เพราะอย่างไรเสีย พวกเขาก็ฝึกฝนอย่างเข้มงวดตามหลักสูตรสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิมาเป็นเวลาสี่ปี และในปีหน้าพวกเขาจะได้ลงสนามรบ
ครั้นเมื่อตกดึก นักเรียนชั้นปีที่สี่ก็ออกมาตามหานักเรียนชั้นปีที่หนึ่งจนเจอ
ถึงจะไม่กล้ารุกรานองค์หญิงสาม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่กล้ารุกรานน้องใหม่น่ารักพวกนี้!
“พวกนายเป็นนักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง พวกนายควรรู้กฎไว้บ้างซะนะ” ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มนักเรียนชั้นปีที่สี่ เขามีร่างกายที่กำยำ เห็นได้ชัดว่าเขาคือคนเดียวกับหัวหน้าที่เดินออกมา บางทีเขาอาจจะเป็นอันธพาลมือหนึ่งมาก่อนที่จะได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้า
“กฎอะไร?” รุยเลิกคิ้วขึ้น องค์หญิงสามไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย นั่นหมายความว่าเขาคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้
ฉินหยวนและลุคไม่ต้องการแสดงออกถึงความอ่อนแอ ดังนั้นนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งทั้งหลายจึงยืนอยู่ข้างหลังทั้งสามคน และเมื่อพวกเขารวมตัวกัน พวกเขาก็ไม่หวาดกลัวอะไรทั้งนั้น!
พวกเขาคือตัวแทนขององค์หญิงสาม! หากไม่ยอมต่อสู้และก้มหน้ายอมรับความพ่ายแพ้ มันคงเป็นความอัปยศอดสูต่อองค์หญิงสาม!
นักเรียนชั้นปีที่สี่รู้ดีว่าที่นี่มีกล้องถ่ายสอดสดอยู่ และพวกเขาอยากจะแสดงความกล้าหาญของพวกเขาให้ทุกคนได้เห็น