สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 132 ศัตรูหัวใจ 5
“อ๊ะ ดูท่านพูดเข้าสิคะ ห้ามชอบมันเพราะว่าฉันชอบมันเด็ดขาดนะคะ ท่านต้องตัดสินใจเองเข้าใจไหมคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นปิดบังใบหน้าของตนเอง อ๊ากกกก ทำเกินไปแล้ว!
โอ้ย…ต้านทานต่อไปไม่ไหวแล้ว!
มุมปากของโอคาซียกยิ้มขึ้น เขารู้ว่าสวี่หลิงอวิ๋นก็ชอบเขาเหมือนกัน
บรรยากาศรอบตัวของทั้งสองเริ่มคลุมเครืออีกครั้ง ราวกับฟองสีชมพูลอยฟ่องอยู่เต็มไปหมด
แต่หลังจากนั้นไม่นานอสูรกายเขี้ยวยักษ์ก็ฉวยโอกาสเข้ามาโบกสะบัดก้ามของมัน สวี่หลิงอวิ๋นยังไม่ทันได้เคลื่อนไหว โอคาซีกลับคว้าดาบเลเซอร์ของเขาขึ้นมาฟันมันเสียก่อน
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะพัฒนาความสัมพันธ์เล็ก ๆ น้อย ๆ กับสวี่หลิงอวิ๋น ถึงบรรยากาศจะพาไป แต่อสูรกายเขี้ยวยักษ์ที่เข้ามาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยนั้นช่างน่ารำคาญเสียจริง!
สวี่หลิงอวิ๋นกระแอมเบา ๆ “เอ่อ พวกเราไปทำงานต่อเถอะค่ะ!”
โอคาซีพยักหน้า และทั้งสองก็เดินไปตามทางของอสูรกายเขี้ยวยักษ์อีกครั้ง
สวี่หลิงอวิ๋นสำรวจดูพื้นโดยกวาดเครื่องตรวจจับไปมาอย่างไม่ใส่ใจนัก บัดซบ! สิ่งของบ้าอะไรอยู่ในชั้นใต้ดินที่หนาแน่นพวกนี้?
และเริ่มลงมือขุด!
เธอใช้แขนกลขุดพื้นดินให้เปิดออก โอ้ มีเหง้าพืชบางอย่างฝังตัวอยู่ในชั้นใต้ดินที่หนาแน่น! มีเหง้าสีขาวอวบอ้วนอยู่ทุกที่!
สวี่หลิงอวิ๋นใช้เครื่องมือตรวจสอบสารพิษแล้วจึงพบว่ามันปลอดสารพิษ แต่หลังจากนั้นเธอกลับต้องประหลาดใจเสียยิ่งกว่า
“มันมีคุณค่าทางอาหารมาก และมีพลังงานด้วย ฉันแนะนำให้รีบเก็บรักษามันไว้!”
สวี่หลิงอวิ๋นตกตะลึง! เพราะนี่คืออาหารที่ให้คุณค่าทางพลังงานสูงมาก!
เฉกเช่นเดียวกับดอกชมจันทร์ที่เป็นตราสัญลักษณ์ของตระกูลฟิล ดอกชมจันทร์สามารถใช้เป็นยารักษาพลังจิตและพลังดวงดาวที่ได้รับความเสียหายได้ ว่าแต่พืชชนิดนี้คืออะไร?!
แน่นอนว่าโอคาซีได้ยินคำพูดดังกล่าว และบอกเธอให้ฝังกลบที่นี่เอาไว้อีกครั้ง จากนั้นจึงสั่งให้ทหารทั้งหลายมาปกป้องมันทันที
สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับตาลาย!
สิ่งของชนิดนี้ยอดเยี่ยมกว่าธุรกิจปลาหมึกกระป๋องของเธอเสียอีก! หึหึ
ในปัจจุบันทั้งห้วงดวงดาวมีจำนวนพืชไม่ถึงห้าสิบชนิดที่สามารถรักษาระดับพลังงานเอาไว้ได้ และใครก็ตามที่เป็นผู้ค้นพบจะกลายเป็นมหาเศรษฐีทันที
ทว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือดาวเคราะห์นี้ถูกจัดอยู่ในวงโคจรระยะไกล!
สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับจินตนาการว่าเธอเป็นเจ้าของพื้นดินที่ใช้ขุดเจาะแห่งนี้!
โอคาซีรีบย้ายกองทัพทหารของตัวเองมาที่นี่ ซึ่งนั่นทำให้องค์ชายใหญ่ตกตะลึงและไม่รู้เลยว่าโอคาซีกำลังทำบ้าอะไรอยู่ หรือว่าเขาเจอรังของอสูรกายเขี้ยวยักษ์?
แต่ว่านี่มันไม่มากเกินไปเหรอที่ผู้ชายคนนั้นจะย้ายฐานทัพตามอำเภอใจตนเอง?
เอริก้าขมวดคิ้ว ขณะยืนอยู่ด้านข้างองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อต “ดูเหมือนว่าคุณจะไม่มีเสน่ห์ดึงดูดมากพอให้โอคาซีหันมาสนใจนะ”
“โอ้ พูดอย่างกับท่านเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างนั้นแหละ ทำไมท่านไม่พูดบ้างล่ะว่าทันทีที่ท่านมาถึงองค์หญิงก็วิ่งหนีท่านไปอยู่กับโอคาซีซะงั้น”
ทั้งสองพูดจาว่าร้ายกันเล็กน้อย แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะรู้สึกดี การพูดให้ร้ายอีกฝ่ายก็เหมือนกับการพูดให้ร้ายตัวเองไม่ใช่เหรอ?
ทั้งสองมองหน้ากัน “งั้นก็ไปด้วยกันเลยไหมคะ?”
แลนเซล็อตตอบกลับด้วยความยินดี
เมื่อองค์ชายใหญ่เห็นชู้รักชายหญิงเดินจากไป เขาถึงกับส่ายหัวราวกับหัวใจแตกสลาย ตามที่คาดเดาไว้เลย โลกนี้ช่างโหดร้ายนัก! ทำไมคนแปลกหน้าชายหญิงคู่นี้ถึงเดินไปด้วยกันอย่างสนิทสนม?!
เขาสมควรจะบอกตัวเองว่าอะไรดี?
ลืมมันไปเสียเถอะ แค่ดูแลสถานการณ์โดยรวมให้ดีก็พอ! องค์ชายใหญ่ปลอบใจตัวเองขณะเฝ้ามองดูทหารที่เหลือ ก่อนจะถอนหายใจออกมาและนั่งลงบนที่นั่งผู้บัญชาการเพื่อคอยรับข้อมูลจากทุกฝ่าย
ผู้ช่วยชาร์ลรีบวิ่งไปสถานที่แห่งนั้นขณะหายใจหอบหลังจากที่ได้รับข่าวมาว่าองค์หญิงสามค้นพบพืชที่เพิ่มระดับพลังงานได้! และนั่นทำให้เขาทึ่งจนอ้าปากค้าง!
แต่ก่อนพวกเขาคิดว่าพริกขององค์หญิงสามเป็นพืชที่เพิ่มระดับพลังงาน แต่หลังจากผ่านการทดสอบมานับครั้งไม่ถ้วนก็พบว่าพริกอันนั้นไม่ยกระดับพลังงานเลย และคาดไม่ถึงว่าองค์หญิงสามจะค้นพบพืชที่ช่วยเพิ่มระดับพลังงานได้ในชั่วพริบตา!
นี่มันยากเสียยิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง!
“องค์หญิงสาม ได้โปรดอนุญาตให้ผมแขวนรูปของท่านไว้ที่บ้านได้ไหมครับ?”
ผู้ช่วยชาร์ลจ้องมององค์หญิงสามอย่างใจจดใจจ่อ “ในอนาคตท่านจะไปบังเอิญขุดหลุมที่ไหนอีกไหมครับ??”
ครั้งล่าสุดเธอขุดหลุมจนเจอมันเทศหวาน และครั้งนี้เธอขุดเจอพืชระดับพลังงาน!
นี่คือความโชคดีใช่หรือไม่!
“ได้สิ!” สวี่หลิงอวิ๋นตอบรับ อมยิ้มและลูบหัวของเขาราวกับหมาน้อย ก่อนจะได้ตอบอะไรออกไป กลับเหลือบเห็นใบหน้าของโอคาซีที่เริ่มบูดบึ้งเสียก่อน สายตาของเขาจับจ้องมาที่ศีรษะของชาร์ล จนชาร์ลหวาดกลัวและรีบดึงศีรษะของเขาออก จากนั้นจึงแสร้งทำเป็นมองที่พื้นอย่างไร้เดียงสา
“ชาร์ล ฉันจำได้ว่านายยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะไม่ใช่เหรอ” โอคาซีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ใช่ครับ ท่านพูดถูก!” ชาร์ลรีบใส่เกียร์หมาวิ่งออกไปทันที “ขอโทษด้วยนะครับองค์หญิงสาม แต่ว่าผมต้องไปแล้ว”
สวี่หลิงอวิ๋นนิ่งเงียบขณะมองดูชาร์ลวิ่งหนีไป และหันกลับมามองโอคาซี เขาอดไม่ได้ที่จับมือสกปรกข้างนั้นขึ้นก่อนจะหยิบใบหน้าของอีกฝ่าย “ชาร์ลหนีไปแล้ว ท่านจะทำอะไรไม่ดีใส่ฉันหรือเปล่าคะ?”
โอคาซีได้กลิ่นหอมจากร่างกายของเธอในระยะใกล้ มืออีกข้างกวัดแกว่งไปมา ก่อนที่จะขยับไปคว้าเอวของคนตรงหน้า!
สวี่หลิงอวิ๋นตกตะลึง นี่คือโอคาซีที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหรือเปล่า? ความไม่แยแสของท่านหายไปไหน?!
“นี่ ฉันขอพูดอะไรกับคุณสักหน่อยได้ไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นเอื้อมมือและพยายามผลักเขาออกไป แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับสูดลมหายใจเข้าลึก จนทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวและใบหูร้อนแดงเถือก
โอคาซียิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มของเขาเปรียบดั่งดอกไม้ที่บานสะพรั่งจนน้ำแข็งและหิมะต้องละลาย สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองรอยยิ้มอย่างคนโง่เขลา ขณะที่อีกฝ่ายเขยิบริมฝีปากบางเข้ามาใกล้ ก่อนจะแตะเข้ากับริมฝีปากเธอ “ชอบผมไหมครับ?”
“ชอบค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นคนโง่ สมองของเธอกำลังยุ่งเหยิง!
ทหารที่เดินผ่านไปมาหันหน้าหนีอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่หัวใจของพวกเขาเต้นรัวอย่างกับมีวัวคลั่งนับหมื่นตัววิ่งผ่าน!
ท่านพลเอกโอคาซีของพวกเขา! ผู้ชายที่เย็นชาและไม่แยแส…กำลังจีบสาวอยู่!
เขาทำแบบนั้นไปแล้ว ช่างกล้าหาญมาก! สามารถทำให้กลุ่มคนโสดทั้งหลายตกตะลึงได้!
แต่ถ้าเป้าหมายคือองค์หญิงสาม พวกเขาก็อยากจะบอกว่าทำได้ดีมาก!
เร็วเข้ารีบหลอกล่อเธอซะ พวกเขาจะได้กินอาหารแสนอร่อยขององค์หญิงสามไปทุกวัน! ฮ่า ๆๆๆๆ!
แลนเซล็อตและเอริก้าที่อยู่ในระยะไกลเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน ก่อนที่ใบหน้าทั้งสองจะเปลี่ยนเป็นอึมครึม
“พวกเรามาช้าไปหรือเปล่า?” แลนเซล็อตมองดูเหตุการณ์ตรงหน้า เขาไม่คิดว่าการปรากฏตัวของเอริก้านั้น นอกจากจะไม่ได้ทำให้ทั้งสองเข้าใจผิดกัน แต่ยังไปช่วยเพิ่มความรู้สึกของพวกเขาด้วยใช่ไหม?
แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าก่อนหน้าที่เอริก้าจะได้ใช้กลอุบายอะไร สวี่หลิงอวิ๋นกลับทำให้เธอคนนี้หวาดกลัวมากเสียก่อน
ภายในจักรวรรดิ จักรพรรดิกำลังจ้องมองโทรปโลป ผู้อาวุโสประจำตระกูลฟิลด้วยความปวดหัว “เจ้ากำลังจะพูดว่าลูกสาวของเรากลั่นแกล้งลูกสาวของเจ้าบนดาวเคราะห์หยวนเจียงั้นเหรอ? เจ้ามีหลักฐานไหมล่ะ?”
“หลักฐานหรือครับ? ทหารทุกคนที่นั่นล้วนเห็นเหตุการณ์!” โทรปโลปมีเหตุมีผล “หากท่านไม่เชื่อ ท่านลองไปถามทหารที่อยู่ที่นั่นก็ได้ครับ”
“เอาล่ะ พอแล้ว บอกเรามาทีว่าลูกเรากลั่นแกล้งลูกสาวเจ้ายังไงบ้าง?”