สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 139 สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ 5
ทันทีที่สวี่หลิงอวิ๋นพูดจบ คนจำนวนเจ็ดแปดคนก็เดินขึ้นมาบนแท่น จากนั้นคนอีกสิบกว่าคนก็ทยอยออกมาอย่างเงียบ ๆ
สีหน้าของผู้บังคับบัญชากองทหารที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งเริ่มเปลี่ยนเป็นตกตะลึง! คนพวกนั้นเป็นทหารที่มียศร้อยเอก แต่ทำไมถึงกลายเป็นสายลับได้?!
ทหารเกือบร้อยนายจากจำนวนทั้งหมดหนึ่งแสนนายเดินออกมาอย่างต่อเนื่องเชียวหรือ? ยังมีอีกกี่คนที่ยังไม่ได้มีส่วนร่วมในครั้งนี้?
องค์ชายใหญ่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง ก็เขาเป็นคนบอกน้องสาวคนเล็กเองไม่ใช่เหรอว่าที่นี่อาจจะมีจำนวนสายลับอยู่ไม่มากนัก? แต่เหตุการณ์ตรงหน้ากลับตบหน้าเขาอย่างแรง!
ยิ่งมองเห็นใบหน้าที่คุ้นหน้าคุ้นตามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมือนโดนตบหน้ามากขึ้นเท่านั้น
สวี่หลิงอวิ๋นหยุดเวลา “หมดเวลาแล้ว”
เธอหันไปถามคนด้านหลังว่า “พวกนายอยู่ในทีมเดียวกันกับสองคนนั้นใช่ไหม?”
ทุกคนพยักหน้าและตอบว่าใช่
“เพื่อนร่วมทีมของพวกนายมากันครบแล้วใช่ไหม?” ทุกคนพยักหน้าอีกครั้ง โดยบอกว่าพวกเขามากันครบแล้ว
อีกอย่าง ถ้ามีใครคนหนึ่งยืนขึ้น คนที่เหลือก็ต้องยืนขึ้นเช่นกัน การยืนแข็งเป็นซากศพที่นี่จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อคนที่เหลือจะต้องเปิดเผยตัวตนของพวกเขาอย่างแน่นอน
“ดีมาก” สวี่หลิงอวิ๋นเดินวนรอบพวกเขาและเอ่ยถามนักวิจัยยาที่ยืนอยู่ด้านข้างว่า “ตรวจสอบดูทีว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายไปกี่ที่แล้ว”
“องค์หญิงสาม สมุนไพรกว่าเก้าสิบแห่งถูกทำลายไปแล้วครับ” นักวิจัยยากัดฟันด้วยความโกรธจัด ขณะมองดูคนนับร้อยที่ยืนอยู่บนแท่น
สำหรับนักวิจัยยาเหล่านี้ พวกเขารอคอยสมุนไพรเพิ่มระดับพลังงานสายพันธุ์ใหม่นี้มานานนับร้อยปี พวกเขายังไม่ทันได้แสดงความสามารถออกไปด้วยซ้ำ แต่คนสารเลวพวกนี้กลับมาทำลายมันเสียก่อน แล้วจะไม่รู้สึกโกรธได้อย่างไร?
พวกเขาไม่เพียงแต่ทำลายความเชื่อมั่นเท่านั้น แต่พวกเขายังทำลายความหวังของนักวิจัยยาจากจักรวรรดิชิงเหย้าด้วย
ในยุคปัจจุบัน การมีอยู่ของสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มระดับพลังงานทั้งห้วงดวงดาวนั้นเกิดจากคนรุ่นก่อนนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และได้นำมาทำเป็นยารักษาโรคต่าง ๆ
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พวกเขาเหล่านั้นได้กลายมาเป็นนักวิจัยยาในยุคปัจจุบัน ที่มีบทบาทค้นหาสูตรปรุงแต่งยาที่หลากหลาย และมันจะกลายเป็นความคุ้มค่าในชีวิตของพวกเขาที่ไม่สามารถค้นหาได้ที่ไหนอีกเลย
ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์แล้ว และนั่นทำให้นักวิจัยยาทั้งหลายรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก สำหรับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ พวกเขาคิดค้นกันจนหัวแทบจะระเบิด แต่คนสารเลวพวกนี้กลับทำลายมันไปต่อหน้าต่อตา
“ดีมาก ดูเหมือนว่าสายลับและผู้สมรู้ร่วมคิดจะออกมากันหมดแล้ว ไม่เลวนี่” สวี่หลิงอวิ๋นปรบมือ จากนั้นสายลับทั้งหลายก็ถูกพาตัวลงไป
“ฉันจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้ จากนี้ไปพวกนายจะต้องยืนยันตัวตน แล้วพวกนายก็ไปบอกคนที่ว่าจ้างพวกนายซะว่าฉันไม่ได้ตรวจสอบอะไร”
เมื่อองค์ชายใหญ่เห็นองค์หญิงสามยังไม่ลงมือทำอะไร เขาจึงรีบเตือนขึ้นว่า “รีบฉีดสเปรย์พวกนั้นใส่ทหารที่เหลืออีกสักทีสิ อาจจะยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดหลงเหลืออยู่ในนั้น เผื่อเราจะบังเอิญหาคนที่เหลือเจออีก”
สวี่หลิงอวิ๋นขยิบตาให้เขาและพูดว่า “พี่คะ เราต้องเชื่อใจในทหารของพวกเราสิคะ ควรจะไว้วางใจกันและกันให้มากกว่านี้นะคะ ใช่ไหมล่ะคะพี่?”
องค์ชายใหญ่ตกตะลึง โดยไม่รู้เลยว่าน้องสามกำลังถือยาอะไรอยู่ในมือ เขารู้เพียงแต่ว่าเรื่องนี้กำลังมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
ดังนั้นเขาจึงทำตามคำพูดของสวี่หลิงอวิ๋น “ก็ได้ ในเมื่อน้องสามพูดว่าอย่างนั้น เราก็จะไม่คิดจู้จี้จุกจิกแล้ว”
สวี่หลิงอวิ๋นปรบมือ ก่อนที่ทหารทั้งหลายจะแยกย้ายกันกลับไปยังที่พักของตนเอง
โอคาซีเดินเข้ามาหาเธอ “มีคู่ข้างหน้าไม่ยอมออกมาครับ”
“ฉันเห็นแล้วล่ะค่ะ” ใบหน้าของสวี่หลิงอวิ๋นเคร่งขรึมขึ้น “แต่ตอนนี้เรารีบไปสอบปากคำคนพวกนั้นก่อนเถอะค่ะ ทำให้เขาสารภาพออกมาใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง”
ทว่าองค์ชายใหญ่กลับรีบแย้งขึ้นอย่างรวดเร็ว “ยานั่นเป็นของปลอมเหรอ?”
“ใช่แล้วค่ะพี่ สเปรย์ที่มีอยู่อันนั้นกับขวดยา ถูกบรรจุด้วยของเหลวอย่างอื่นค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกเหนื่อยล้าที่ต้องอธิบาย
“เสด็จพ่อคงเสียใจใช่มากเลยใช่ไหม?” องค์ชายใหญ่รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะพ่อของเขารู้เกี่ยวกับการค้นพบสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ เขาสามารถจินตนาการได้เลยว่าพ่อของเขาจะมีความสุขมากแค่ไหน แต่ตอนนี้ท่านพ่อคงต้องโกรธจัดแน่ ๆ เพราะทุกอย่างกลับถูกทำลายลงภายในสองวัน
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะมันเป็นถึงสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ แล้วเสด็จพ่อจะไม่เสียใจได้ยังไงล่ะคะ?”
“แต่ไม่ต้องเศร้านานไปหรอกค่ะ เพราะว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ถูกทำลายไปทั้งหมดทีเดียว น้องซ่อนบางส่วนไว้อยู่” สวี่หลิงอวิ๋นกระซิบบอกองค์ชายใหญ่ “พี่ต้องเก็บไว้เป็นความลับนะคะ ห้ามไปบอกใคร”
“จริงเหรอ? ดีมาก พี่จะเก็บไว้เป็นความลับ!” องค์ชายใหญ่ถูมือด้วยความตื่นเต้น จนสีหน้าของเขาไม่สามารถอดกลั้นความสุขไว้ได้ “งั้นตอนนี้พี่จะรีบเอาข่าวดีไปบอกเสด็จพ่อก่อน”
“อย่าเพิ่งค่ะ แค่อย่าปล่อยให้ข่าวสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกทำลายรั่วไหลออกไปก็พอ” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มกว้าง “ใครก็ตามที่ส่งข่าวออกไปว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายจะกลายเป็นผู้สงสัยรายใหญ่ที่สุด”
“เข้าใจแล้ว น้องสาวของพี่ฉลาดที่สุด” องค์ชายใหญ่พยักหน้า
จักรพรรดิยังคงมีความสุขเหลือล้น โดยไม่รู้เลยว่าสมุนไพรสุดหวงแหนเกือบจะถูกทำลายไปจนหมดสิ้น
สวี่หลิงอวิ๋นปิดกั้นข่าวทั้งหมดเกี่ยวกับดาวเคราะห์หยวนเจีย และยอมรับข้อมูลจากทางการอย่างเดียวเท่านั้น รวมถึงตรวจจับสัญญาณที่มาจากแหล่งอื่น
นอกจากนี้เธอยังสั่งให้สายลับทั้งหลายที่ออกมามอบตัวแอบส่งสัญญาณออกไปโดยมีเธออยู่เบื้องหลัง อย่างน้อยการกระทำแบบนี้ก็ไม่ทำให้พวกเขาน่าสงสัย
พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้ครอบครัวของสายลับพวกนี้ปลอดภัย
ขณะเดียวกันสวี่หลิงอวิ๋นก็ได้สั่งให้นักวิจัยยาติดต่อไปยังแผนกเทคนิคเพื่อตรวจจับสัญญาณ ไม่ว่าสัญญาณทั้งหลายจะถูกส่งออกจากสายลับคนไหน และไม่ว่าสัญญาณตัวไหนที่ถูกส่งออกจากสถานที่แห่งนี้ สัญญาณตัวนั้นจะถูกจับตามองตลอดเวลา
บรรดาชนชั้นสูงทั้งหลายรู้สึกยินดีปรีดาเมื่อได้รับข่าวดังกล่าว
“คนพวกนั้นจะไม่หักหลังเราใช่ไหม?”
“หักหลัง? ฮ่า ๆ!” พอลลี่เยาะเย้ย “แล้วพวกมันจะได้รู้ว่าใครคือเจ้านายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง”
ชนชั้นสูงผู้ยิ่งใหญ่พวกนี้ไม่เคยปลูกฝังสายลับทั้งหลายให้ประสบความสำเร็จ เพียงแต่ปล่อยให้เป็นผู้พิทักษ์ในความมืดเท่านั้น
สายลับพวกนี้รู้เพียงแต่ว่าพวกเขาถูกส่งออกมาจากสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังได้เปลี่ยนแปลงสถานที่ดังกล่าวไปแล้ว
ยิ่งกว่านั้น ผู้บงการเบื้องหลังเหล่านี้ไม่เคยแสดงความเมตตาต่อสายลับที่กล้าทรยศต่อพวกเขา
เมื่อพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าตอนนี้สัญญาณถูกตัดขาดออกทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะพวกเขาต้องการตรวจสอบสายลับ!
“ผมล่ะอยากจะรู้ว่าจักรพรรดิออกมาพูดแก้ต่างกับประชาชนทั่วทั้งจักรวรรดิว่ายังไง? ฮ่า ๆๆ!”
เหล่าชนชั้นสูงยกแก้วไวน์ของพวกเขาขึ้นสูง และพูดสรรเสริญกับคนอื่น ๆ บนหน้าจอว่าไชโย!
บรรดาชนชั้นสูงทั้งหลายรอคอยการตื่นตระหนกของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือนว่าทางราชวงศ์จะไม่รับรู้ข่าวสารอะไรทั้งสิ้น นอกจากนี้พวกเขายังเจรจาซื้อขายกับจักรวรรดิอื่นแล้ว แม้แต่ผู้บัญชาการกองทัพทหารทั้งหลายก็พร้อมที่จะจ่ายเงินและรับสินค้าแล้วเช่นกัน
“เจ้าคนพวกนั้นโง่เขลาหรือเปล่า? หรือว่าองค์หญิงสามยังไม่ได้รายงานข่าวว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายไปแล้ว?” ชนชั้นสูงทั้งหลายถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้
พวกเขาถึงขนาดเริ่มคาดเดาว่าองค์หญิงสามจะมีเล่ห์เหลี่ยมและกลอุบายอะไรอีกหรือไม่?
แต่แหล่งข่าวจากสายลับในแผนกวิจัยยาของเขาบอกว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกทำลายจนสิ้นซากไปแล้ว ไม่มีแม้แต่ร่องรอยที่เหลืออยู่