สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 183 สงครามครั้งใหญ่บนดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ 5
แขนกลมีคุณสมบัติเป็นเหมือนกับผู้ช่วยแม่ครัว พอทอดจนเหลืองกรอบก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย…
หั่นขิงและกระเทียมลงไปผัดจนส่งกลิ่นหอม ใส่พริกไทยเสฉวนและน้ำพริก ผัดเข้าด้วยกันจนส่งกลิ่นหอมอีกครั้ง ใส่เนื้อตั๊กแตนลงไป เติมเกลืออีกนิดหน่อย ใส่เครื่องปรุงรสและอื่น ๆ
พอดมกลิ่นแล้ว ทั้งเผ็ดทั้งซาบซ่าน!
สวี่หลิงอวิ๋นตักขึ้นมาชิม “ว้าว ไม่เลวเลยแฮะ! ดีกว่าเนื้อไก่ด้วยซ้ำ!”
“หนึบหนับหน่อย ถึงจะเหนียวไปบ้าง แต่เนื้อก็นุ่มละมุนกว่า”
ชาวเน็ตทั้งหลายพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง ใช่แล้ว! ถูกต้อง! มันอร่อยมาก!
ปากของพวกเขาเต็มไปด้วยรสชาติเผ็ดและซาบซ่าน!
[องค์หญิงสาม กินอีกสองสามชิ้นสิเพคะ! พวกเรายังอยากรับรสชาติอีก!]
[แง ๆๆ ฉันเกลียดจัง ทำไมฉันถึงไม่ตั้งใจเรียนนะ ถ้าฉันตั้งใจเรียนกว่านี้ ฉันคงได้เป็นผู้ติดตามองค์หญิงสามไปแล้ว!]
[ฉันเกลียดที่ตัวเองเกิดมาก่อนตั้งหลายปี ไม่อย่างงั้นนะ ฉันคงกลายเป็นผู้ติดตามขององค์หญิงแล้วเหมือนกัน]
[คอมเมนต์บนเป็นนักเรียนหัวกะทิกันหรือไง? เสียมารยาทเกินไปแล้ว!]
—
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกพอใจกับตั๊กแตนพวกนี้เป็นอย่างมาก
เธอรู้ว่าเอเลี่ยนพวกนี้บินไปกัดกินวัชพืชหรือดื่มน้ำแร่จากภูเขาตลอดทั้งวันทั้งคืน แล้วเนื้อของพวกมันจะมีรสชาติแย่ได้อย่างไร?
นี่ก็เหมือนกับเนื้อไก่ในชาติที่แล้ว! คัดสรรจากธรรมชาติล้วน ๆ ดุจดั่งสัตว์ในป่า!
เงินจำนวนมากก็ไม่สามารถซื้อพื้นที่ป่าได้!
หึหึ ขอบคุณที่ได้มายังโลกเอเลี่ยนแห่งนี้ ไม่อย่างนั้น เธอจะสามารถกินเนื้อสัตว์ทั้งหลายตราบเท่าที่ต้องการได้อย่างไร?
บริเวณต้นขาของตั๊กแตนมีเนื้ออยู่จำนวนมาก เมื่อปรุงรสชาติของมันแล้วก็เอามาตากแห้งเหมือนกับไก่หย็อง!
วัยรุ่นชาวเน็ตทั้งหลายต่างตกตะลึง นี่คือรายการถ่ายทอดสดของกองทัพทหารไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ ๆ ถึงได้กลายเป็นรายการชวนชิมไปได้?
ทำไมพิธีกรไม่พูดอะไรเลยล่ะ?
เมื่อพิธีกรได้กลิ่นหอมเย้ายวน เขาก็ไม่สามารถเก็บน้ำลายเอาไว้ได้ และน้ำไหลเริ่มไหลออกมาอย่างบ้าคลั่งจนน่าสยดสยอง!
พวกเขายังคงเพลิดเพลินกับรสชาติอันแสนอร่อยที่ลอยออกมาจากปุ่มแบ่งปันรสชาติ และรู้สึกไม่เต็มใจที่จะต้องหยิบไมโครโฟนในมือขึ้นมาพูด
ทว่าเขาต้องพูดอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ชาวเน็ตด่าทอใช่ไหม!?
“แม่คะ ทำไมองค์หญิงสามถึงทำอาหารอร่อยจังคะ?!” เด็กหญิงตัวน้อยในชุมชนแออัดยังคงรู้สึกถึงรสชาติในปากของเธอ ขณะเอ่ยถามผู้เป็นมารดาที่กำลังน้ำลายไหลเช่นกัน
“เพราะว่าเธอเป็นองค์หญิงไงล่ะจ๊ะ!”
แม่ตอบคำถามอย่างเป็นธรรมชาติ “ถ้าเธอทำอะไรไม่เป็น แล้วเธอจะเป็นองค์หญิงได้ยังไงล่ะจ๊ะ?”
ลูกสาวตัวน้อยพยักหน้า “นั่นสิคะ! องค์หญิงสามสุดยอดไปเลย! หนูชอบเธอที่สุดแล้ว!”
เมื่อมองดูการตกแต่งบ้าน เดิมทีบ้านที่ยุ่งเหยิงหลังนี้ได้รับการต่อเติมใหม่ หลังคาเดิมถูกแทนที่ด้วยไม้กระดานที่แข็งแรงทนทาน และไม่หวาดหวั่นต่อหยาดฝนอีกต่อไป
ภายในบ้านมีเครื่องใช้สำหรับครัวเรือนมากมาย นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์การเรียนรู้อัจฉริยะที่สามารถช่วยให้เด็กน้อยทั้งหลายเรียนรู้ได้
กระถางดอกไม้หลายใบถูกปลูกเอาไว้บนขอบหน้าต่าง บริเวณนอกบ้าน ชายคนหนึ่งกำลังถือมีดแกะสลักเพื่อแกะสลักเปลือกของต๋าหลู่ที่อยู่ในมือ
ผู้คนยากจนต่างกล่าวทักทายกันและกันอยู่ที่ถนนบริเวณด้านนอก เสื้อผ้าของพวกเขาสะอาดสะอ้าน อาจจะไม่ต้องกล่าวถึงราคาแพง แต่ทั้งหมดล้วนเป็นเสื้อผ้าใหม่
เด็กหญิงตัวเล็กถือถุงเนื้ออบแห้งไว้ในมือ เนื้ออบแห้งมีรสชาติอร่อยมาก!
ต๋าหลู่เป็นเอเลี่ยนที่วิเศษที่สุดในโลก!
เนื้อตั๊กแตนหั่นฝอยเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว
เพียงกัดหนึ่งคำ รสชาติเผ็ด เปรี้ยว และซาบซ่าน จะจัดจ้านถึงใจแน่นอน!
สวี่หลิงอวิ๋นกำลังนั่งกินอาหารอันแสนอร่อย ขณะที่นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งกำลังดิ้นรนเอาตาข่ายที่ทำมาจากพลังดวงดาวไปไล่จับเจ้าตั๊กแตนสารเลว
ตั๊กแตนพวกนี้มีไหวพริบที่ดีมาก!
ในตอนแรกเธอสามารถจับพวกมันได้ถึงหนึ่งหรือสองตัว ก่อนที่ใบหน้ายิ้มแย้มของพวกมันจะถูกจามออกมา จากนั้นเอเลี่ยนตั๊กแตนก็ตระหนักได้ถึงวิกฤต ถึงจะวิ่งไล่อย่างรวดเร็ว แต่เหล่านักเรียนก็ไม่สามารถจับพวกมันทัน
หลังจากเปิดฟังก์ชันเร่งความเร็วแล้ว พวกเขาก็สามารถไล่ตามพวกมันจนทัน ทว่าตาข่ายพลังดวงดาวในมือของพวกเขากลับไม่เป็นใจ และคว้าอะไรไว้ไม่ได้เลย
เจ้าพวกสารเลวทั้งหลายพากันวิ่งวนเป็นตัวเอส จนทำให้เหล่านักเรียนเริ่มขุ่นเคือง!
ระดับความเร็วเริ่มว่องไวกว่าเดิม!
คณะอาจารย์เคลื่อนตัวไปพร้อมกับพวกเขาอย่างมีความสุข และเริ่มบทสนทนาอย่างออกรส!
“เฮ้ ทำไมบ้าบอขนาดนี้? เกือบจะจับได้แล้วเชียว! จะว่าไปนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งก็มีความสามารถเหมือนกันนะเนี่ย ฉันยังจำครั้งแรกที่พวกเราไล่ตามเอเลี่ยนตั๊กแตนพวกนี้ได้อยู่เลย หึหึ หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเราไล่ตามตั๊กแตนลงไปในบ่อโคลนเชียวล่ะ”
“นั่นน่ะสิ โอ้ สิบปีผ่านไปไหวเหลือเกิน มองดูกระแสของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่สิ หึหึ พลเอกโอคาซีเพิ่งจะอายุยี่สิบกว่าปีเท่านั้น แต่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับเก้า ขนาดแลนเซล็อตยังอยู่ในระดับ 8 ดาว และคงใกล้จะได้เลื่อนขั้นไประดับ 9 แล้วด้วย”
“องค์หญิงสามของเราก็ไม่แย่เหมือนกัน ผมไม่คิดว่าเธอจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนักหรอก ระดับ 8 ดาวนั่นก็เร็วมากใช่ไหม?”
“เกือบแล้วล่ะเกือบแล้ว! โธ่เอ๊ย! น่าเศร้าชะมัด ผมเพิ่งจะหกดาวเอง หึหึ!”
“ใช่ไหมล่ะ!”
อาจารย์ทั้งสองพูดคุยกันขณะเดินไปสาธิตวิธีการที่ถูกต้องให้กับเหล่านักเรียนทั้งหลาย
“พวกคุณว่านักเรียนพวกนี้อยู่ในระดับ 6 ดาวตั้งแต่พวกเขายังอยู่ในชั้นปีที่หนึ่ง จะมีกี่คนที่ได้เลื่อนขั้นไปถึง 7 ดาวหรือมากกว่านั้น?”
“ใครจะไปรู้กัน ก็เหมือนกับพวกเราทั้งสองนั่นแหละครับ เริ่มแรกพวกเราก็กระฉับกระเฉง และทั้งหมดก็ล้วนอยู่ในระดับ 6 ดาวไม่ใช่เหรอ? พอเถอะ หลังจากผ่านมาหลายปี พวกเราก็ยังอยู่ในระดับ 6 ดาว”
พูดไปแล้วก็มีเหตุผล
หลังจากระดับหกดาวแล้วจะพบเจออุปสรรคมากมาย สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือพรสวรรค์
เมื่อวันเวลาผ่านพ้นไป เหล่านักเรียนทั้งหลายจะค่อย ๆ มองหาแรงบันดาลใจ และในที่สุด ตาข่ายสองอวนจากจำนวนทั้งหมดสิบอวนก็สามารถจับเอเลี่ยนได้ถึงสองสามตัว
“นี่ก็ดึกแล้ว ไม่รู้ว่านักเรียนชั้นปีสี่กำลังทำอะไรกันอยู่”
เมื่อคิดไปคิดมาว่าอาจจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะนี่คือสิ่งที่นักเรียนชั้นปีที่สี่จะต้องเรียนรู้ จะมีอะไรที่เป็นอันตรายอีก? พวกเขาต้องจัดการกับเอเลี่ยนต๋าหลู่ที่ไม่ได้มีความดุร้ายเลยสักนิด ตราบใดที่พวกเขาสามารถวิ่งหนีได้อย่างรวดเร็ว ก็ย่อมไม่เกิดอันตรายอะไรอย่างแน่นอน
นักเรียนชั้นปีที่สี่เป็นอย่างไรบ้าง?
พวกเขากำลังวิ่งไล่ตามเอเลี่ยนต๋าหลู่ แต่ทำไมเอเลี่ยนต๋าหลู่ถึงได้ดูผิดแปลกไปนักล่ะ? ก่อนหน้านี้พวกมันเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าอยู่ในเปลือกของพวกมันไม่ใช่เหรอ? แต่ตอนนี้กลับขดตัวและกลิ้งไปอย่างรวดเร็ว
“วิ่งไล่ตามต่อไม่ได้แล้ว เครื่องตรวจจับของฉันบอกว่าข้างหน้ามีเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์อยู่”
หลี่ซิว หัวหน้าประจำชั้นปีที่สี่ออกคำสั่งให้ทุกคนหยุดวิ่ง และไม่อนุญาตให้พวกเขาเดินหน้าไปต่อ
“หัวหน้า เกิดอะไรขึ้น?”
โรเบิร์ต นิค นักสู้ตัวฉกาจขับเคลื่อนเครื่องจักรกลของตนเองมาเทียบข้างหลี่ซิว และเอ่ยถาม
“ตรงไปข้างหน้าจะเป็นฐานทัพของเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ พวกเราไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะผ่านไปได้”
“ปลาหมึกยักษ์?” โรเบิร์ตรู้สึกสนใจ ความแข็งแกร่งของเขากำลังเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 7 ดาวแล้ว และเขารู้สึกกระตือรือร้นที่จะประลองกับปลาหมึกยักษ์พวกนั้น
“อย่าทำอะไรทั้งนั้น” หลี่ซิวขมวดคิ้ว “รีบพาคนของเราออกไปจากที่นี่ซะ”
“ทำไมล่ะ? ทำไมพวกเราไม่ไปที่นั่นกัน?” ถึงแม้ว่าโรเบิร์ตจะค่อนข้างแข็งแกร่ง ทว่าคำสั่งของหัวหน้าก็คือคำสั่ง ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมพาคนของพวกเขาออกไปจากที่นี่
ซอฟต์แวร์ถ่ายทอดสดก็ติดตามมาที่นี่เช่นเดียวกัน พิธีกรรู้สึกสงสัยเล็กน้อยเมื่อเห็นนักเรียนชั้นปีที่สี่กำลังอพยพผู้คน
“พวกเราจะสามารถเห็นได้ว่านักเรียนชั้นปีที่สี่กำลังเตรียมอพยพกันนะครับ ถึงกับยอมแพ้ต่อเอเลี่ยนต๋าหลู่ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ไม่รู้ว่าพวกเขาพบเจอกับอะไรบางอย่างที่ไม่คาดคิดหรือไม่”
เกิดอะไรขึ้น?!