สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 185 การโจมตีของเอเลี่ยนเกอหลัวผู้น่ารัก 1
เครื่องตรวจจับที่บินอยู่ในอากาศมองเห็นว่าเอเลี่ยนเกอหลัวกำลังเปลี่ยนทิศทาง และเคลื่อนตัวไปยังทิศทางเดียวกันกับองค์หญิงสาม
“ดูเหมือนว่าเอเลี่ยนเกอหลัวจะมีเป้าหมายเป็นองค์หญิงสามหรือเปล่า?”
“บอกให้องค์หญิงสามรีบขึ้นไปบนยานอวกาศ” คณบดีพูลแมนกล่าวขึ้น ขณะขมวดคิ้ว
“ขึ้นยานอวกาศเหรอครับ?” อาจารย์ที่ยืนอยู่ด้านข้างรู้สึกตกตะลึง และพยักหน้า “ครับ ผมจะประสานงานกับยานอวกาศ”
องค์หญิงสามเป็นสมาชิกของราชวงศ์ นอกจากตำแหน่งอันสูงส่งแล้ว วิธีการที่เธอใช้เพิ่มพลังจิตและพลังดวงดาวยังคุ้มค่าแก่การที่จะให้เธออพยพออกไปก่อน
สวี่หลิงอวิ๋นและองครักษ์ส่วนตัวของเธอได้รับข้อความดังกล่าว
“อะไรนะ? ให้ฉันหนีไปก่อนเหรอ? ตลกเป็นบ้าเลย!” สวี่หลิงอวิ๋นหงุดหงิดเมื่อรู้เรื่องดังกล่าว!
ผู้ติดตามของเธอมายังดาวเคราะห์แห่งนี้ก็เพราะเธอ หากเธอวิ่งหนีไปเช่นนั้น จะกล้าสู้หน้ากับคนอื่น ๆ ในอนาคตได้อย่างไร? และจะเป็นหัวหน้าได้อย่างไร?!
“องค์หญิง พวกเราหนีออกไปก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ กำลังเสริมกำลังจะมาถึงในไม่ช้า นักเรียนก็หาที่กำบังกันได้แล้ว จะต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน!”
ชาลีอีไลยังคงเกลี้ยกล่อมองค์หญิง ขณะที่เหงื่อไหลออกมาท่วมศีรษะ
“ชาลี นายก็รู้ว่านักรบที่นี่มีพละกำลังสูงสุดแค่เจ็ดดาวเท่านั้น รวมถึงนักเรียนพวกนั้นด้วย ฉันเป็นสมาชิกของราชวงศ์ และทุกย่างก้าวย่อมหมายถึงความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ ถ้าฉันเอาแต่หนี ราชวงศ์จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ไหนจะประชาชนอีก? แล้วนักรบผู้กล้าหาญพวกนี้ล่ะ?!”
“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ฉันจะหนีไปแบบนี้ไม่ได้” สวี่หลิงอวิ๋นดึงมือของชาลีออก และนั่งลงบนเครื่องจักรกล
สิ่งมีชีวิตแปดดาวอย่างนั้นเหรอ? จะต้องจัดการกับพวกมันอย่างไร?
จิตใจของสวี่หลิงอวิ๋นว้าวุ่นราวกับพายุ ครุ่นคิดเกี่ยวกับวิธีการรับมือ
ชาลีอีไลถอนหายใจ องค์หญิงดื้อรั้นยิ่งนัก ถึงพวกเขาจะรู้สึกปลาบปลื้มกับความกล้าหาญขององค์หญิง ทว่าตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกปวดหัวที่ภารกิจข้างต้นไม่ประสบความสำเร็จ
“ชาลี สิ่งมีชีวิตแปดดาวคืออะไร? มันมีลักษณะเฉพาะไหม?”
“มันคือเอเลี่ยนเกอหลัวพ่ะย่ะค่ะ เป็นเอเลี่ยนลูกผสม เผ่าพันธุ์ของพวกมันมีจำนวนอยู่ไม่มากนัก” ชาลีคิดเกี่ยวกับมัน และกล่าวขึ้นว่า “อันที่จริง พวกเราไม่ได้เห็นมันมาหลายปีแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เพราะเหตุนั้นจึงไม่มีใครรู้จักนิสัยของพวกมันมากนัก
“ถ้าอย่างงั้น พวกเราสร้างกับดักกันก่อนเถอะ!” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าว เธอไม่อาจต่อสู้ได้หากไม่เตรียมการล่วงหน้า
“ดูเหมือนว่าเกอหลัวจะตั้งเป้าหมายมาที่ฉัน ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันจะเป็นเหยื่อล่อเอง” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มเยาะ
“องค์หญิงสาม! จะทำอย่างงั้นได้ยังไง!” เหล่าทหารรู้สึกตกใจ ในขณะที่องค์หญิงสามถูกใช้เป็นเหยื่อล่อ เหล่าทหารธรรมดาทั้งหลายจะนั่งมองอยู่ด้านข้างได้อย่างไร?
“เลิกพูดไร้สาระสักที เร็วเข้า!”
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองเวลา มันสายเกินไปแล้ว อีกสองถึงสามนาทีเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์และเอเลี่ยนเกอหลัวคงจะมาถึงที่นี่ เธอนั่งลงในห้องโดยสารของเครื่องจักรกล ครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน และหยิบน้ำมันดิบจำนวนหนึ่งที่เก็บรวบรวมมาจากดาวเคราะห์ปลาหมึกออกมาจากปุ่มมิติกักเก็บ
ถึงจะมีจำนวนไม่มาก แต่อย่างก็น้อยก็ช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
“ทุกคนที่กำลังโบยบินอยู่ในอากาศ จำไว้ว่าทันทีที่ปลาหมึกยักษ์มาถึง ให้ทุกคนราดน้ำมันพวกนี้ลงไปบนหัวของพวกมันและจุดไฟเผาซะ”
สวี่หลิงอวิ๋นมอบถังน้ำมันขนาดเล็กให้แก่ทุกคน ตราบใดที่ทุกคนสามารถราดลงไปได้อย่างแม่นยำ ปลาหมึกยักษ์พวกนี้ก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
ส่วนเอเลี่ยนเกอหลัวที่อยู่ระดับ 8 ดาวนั้น คงขึ้นอยู่กับโชคชะตา
ความเสียใจมีอยู่มากเหลือเกิน อย่างน้อย เธอก็ยังไม่ได้บอกลาแฟนหนุ่มสุดที่รักเลยด้วยซ้ำ
ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่?
โอคาซีรีบไปที่ดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ด้วยกำลังทั้งหมดที่เขามี ระยะห่างระหว่างดาวเคราะห์ทั้งสองดวงไม่ได้ไกลมากนัก แต่ก็ไม่ได้ใกล้กันนัก ถึงแม้ว่าเขาจะขับเคลื่อนยานอวกาศด้วยความเร็วสูงสุด ก็ไม่สามารถไปถึงได้ทันเวลา
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ภายในใจเอาแต่บอกว่าเธอจะต้องปลอดภัย!
คณบดีพูลแมนเรียกกองกำลังที่อยู่ในดาวเคราะห์บริเวณรอบ ๆ ให้รีบไปที่ดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้โดยด่วนที่สุด กองทัพทหารทั้งหลายรีบตอบรับและมุ่งดาวไปยังดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ทันที
[เอเลี่ยนระดับ 8 ดาวมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ทำไมพวกมันถึงมาที่ดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้? ที่ดาวเคราะห์นั้นไม่มีพืชระดับพลังงานด้วยซ้ำ]
[อาจจะไม่มีอะไรก็ได้! ฮึ่ม! ไม่รู้ว่าองค์หญิงสามจะผ่านบททดสอบนี้ไปได้ไหม]
[คอมเมนต์ปากเสียเกินไปแล้ว องค์หญิงสามจะไม่รอดได้ยังไง? เธอคือหญิงสาวในคำทำนายนะ!]
[ฮิฮิ คำทำนายงั้นเหรอ? ถ้าอย่างงั้นก็ควรเอาชีวิตรอดก่อนสิ! ไม่ว่าองค์หญิงสามจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่เธออยู่ในระดับ 7 ดาวเท่านั้น จะเอาชนะระดับ 8 ดาวได้ยังไง? ต่อให้จะมีความสามารถก็เถอะ แต่เอเลี่ยนเกอหลัวไม่ได้มีแค่ตัวเดียวสักหน่อย มันยกกันมาเป็นโขยง]
—
ทุกคนรู้ดีว่าองค์หญิงสามไม่อาจปกป้องตนเองในครั้งนี้ได้
พวกเขาไม่คิดว่าเธอจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์เหมือนกับตอนเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ได้อีก
เอเลี่ยนเกอหลัวสั่งให้เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้าพวกมันก็ค้นพบต้นกำเนิดของกลิ่นหอมที่มาจากก้อนเหล็กสีชมพู
“เจี๊ยบ ๆๆๆ!” มันมาจากที่นั่น!
เอเลี่ยนเกอหลัวส่งเสียงกรีดร้อง ‘จิ๊ดจิ๊ด’ ลุกขึ้นยืนและร้องออกมาอย่างมีความสุข ดวงตาขนาดเล็กของมันเต็มไปด้วยความดีใจ
เครื่องจักรกลที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ เทน้ำมันในมือของพวกเขาลงมาที่เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ที่อยู่ด้านล่าง!
จมูกของเอเลี่ยนเกอหลัวค่อนข้างไวต่อกลิ่น ถึงแม้พวกมันจะจดจ่ออยู่กับก้อนเหล็กสีชมพูที่อยู่ตรงหน้า ทว่าพวกมันกลับได้กลิ่นแปลกประหลาดที่หล่นลงมาเหนือศีรษะของพวกมันตั้งแต่เนิ่น ๆ เมื่อรู้สึกว่าบางอย่างกำลังหยดลงมา พวกมันก็รีบยกเกราะป้องกันขึ้นโดยไม่ส่งเสียงอะไรออกมา จากนั้นน้ำมันทั้งหมดก็ถูกแยกออกและไหลลงที่ด้านนอกเกราะป้องกัน
“เจี๊ยบ ๆๆๆ!” เอเลี่ยนจ้องมองของเหลวสีดำที่ติดอยู่บนเกราะป้องกัน ตะปบกรงเล็บและกรีดร้อง ทันทีที่เกราะป้องกันหายไป น้ำมันทั้งหมดก็ไหลลงสู่พื้นดิน
ทหารทั้งหลายถึงกับหน้าซีดเผือด!
พวกเขารีบถลาลงมาจากกลางอากาศ คิดที่จะออกไปยืนเป็นแนวหน้าเพื่อป้องกันและมอบความปลอดภัยให้กับสวี่หลิงอวิ๋น แต่พวกเขากลับถูกสวี่หลิงอวิ๋นปฏิเสธด้วยการใช้พลังดวงดาวผลักพวกเขาออกไป
“ไปปกป้องคนอื่นซะ!”
ก็แค่ตายเพียงหนึ่งเดียว!
สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจและหันไปหาปลาหมึกยักษ์ที่อยู่ใกล้ที่สุด ก่อนจะแปลงสภาพพลังดวงดาวให้กลายเป็นเชือก และพยายามผูกมัดอีกฝ่าย
“เจี๊ยบ ๆๆๆ!” เอเลี่ยนเกอหลัวตกตะลึง เจ้าก้อนเหล็กที่อยู่ข้างหน้ากำลังทำอะไร? จะเล่นกับมันเหรอ?
มันกางกรงเล็บขนาดเล็บและตะปบเข้ากับเชือกพลังดวงดาว
เอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นที่อยู่ด้านข้างเอเลี่ยนเกอหลัวตัวนั้นก็ตกตะลึงเช่นกัน มันสัมผัสเข้ากับขนบนหัวที่หมองคล้ำ ก่อนจะกระโดดเข้าไปจับหางของเอเลี่ยนเกอหลัวตัวนั้นเอาไว้
พวกมันเลียนแบบกันและกัน และในไม่ช้าเอเลี่ยนเกอหลัวสิบกว่าตัวก็ถูกมัดเข้าด้วยกัน โดยติดสอยห้อยตามเอเลี่ยนเกอหลัวตัวแรก
สวี่หลิงอวิ๋นประหลาดใจ เจ้าตัวเล็กน่ารักที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร? พวกมันถูกเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์จับมาหรือเปล่า?
นัยน์ตาสีฟ้าแวววาวสดใสขนาดใหญ่จ้องมองตรงมาที่เธอ ขนปุยสีขาว กรงเล็บขนาดเล็บกำลังจับเชือกเอาไว้ สิ่งมีชีวิตทั้งสองมีท่าทีสับสนขณะจ้องมองกันและกัน และไม่มีใครสามารถเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้
ชาลีอีไลรู้สึกวิตกกังวล
“องค์หญิงสาม รีบไปเร็วพ่ะย่ะค่ะ นั่นมันเอเลี่ยนเกอหลัว!”
“มันคืออะไร? เอเลี่ยนเกอหลัวเหรอ? ทำไมน่ารักจัง?” เจ้าตัวสูงหูใหญ่สุดแสนจะน่ารักพวกนี้คือเอเลี่ยนอย่างนั้นเหรอ?
สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้เคลื่อนไหว ทว่าเอเลี่ยนเกอหลัวกลับเคลื่อนไหว