สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 226 มุ่งสู่ดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ 4
ตอนที่ 226 มุ่งสู่ดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ 4
ถั่วชมพูเหยียดอุ้งเท้าออกมากอดรอบขาของสวี่หลิงอวิ๋น “เมี๊ยว…ให้ฉันชิมมั่งสิเมี๊ยว!”
โลกของนักกินไม่จำเป็นต้องมีศักดิ์ศรี!
สิ่งมีชีวิต 9 ดาวคืออะไร? มันคืออะไรเหรอ?! ไม่เห็นรู้จักเลย!
เจ้าถั่วชมพูจ้องมองด้วยดวงตากลมโตที่น่าสงสาร นัยน์ตาสีฟ้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อล้น ช่างเป็นแมวน้อยที่น่าสงสาร! ให้มันลิ้มลองสักหน่อยแล้วกัน!
หัวใจของสวี่หลิงอวิ๋นอ่อนยวบลงทันที
“งั้นก็ลองกัดดูสักคำสิ!” หลังจากพูดเช่นนั้น มันก็เปิดปากเตรียมกัด
ทว่าโอคาซีกลับดึงกลับมาแล้วกล่าวว่า “มันไม่ได้ให้ไร่อ้อยเราด้วยซ้ำ ทำไมต้องให้เค้กมันด้วย?”
“ถ้าอยากกินเค้กก็ต้องมาแลกกันสิ!”
สวี่หลิงอวิ๋นยักไหล่และเอ่ยถามเจ้าถั่วชมพู “แกเห็นหรือยัง ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้แกกินสักหน่อย แต่เพราะแกไม่มีสัจจะต่างหาก!”
ถั่วชมพูหมอบลงด้านข้างด้วยท่าทางเศร้าสร้อย และจ้องเขม็งที่ไปโอคาซีหลายครั้ง
เป็นเพราะไอ้ผู้ชายสารเลวคนนี้! ไม่อย่างนั้นเธอก็หลงความงามของมันและมอบอาหารให้มันไปนานแล้ว!
ของหวานชิ้นนี้จะต้องเข้ามาให้ปากของมันให้ได้!
ในขณะเดียวกัน หัวใจของมันก็เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง ควรจะให้ไร่อ้อยพวกนี้ไปดีไหม?! ให้ดีไหม? ไร่อ้อยนี้เต็มไปด้วยพลังงานที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งทางกลุ่มชาติพันธุ์ของพวกมันได้!
อย่าให้เลย…ฮือ ๆๆ แต่ว่ามันอยากกินเค้กนั่น!
โอคาซียังคงกินอย่างละเมียดละไม เมื่อสวี่หลิงอวิ๋นเห็นท่าทางที่อุตลุดของมัน เธอจึงตะโกนว่า “โอ้ ท่านอย่ากินเร็วนักสิคะ ไม่อย่างนั้นจะเหลือไม่พอให้ถั่วชมพูกิน!”
โอคาซีกล่าวอย่างเชื่องช้า “มันไม่กินหรอก!”
“เมี๊ยว?! ใครบอกว่าฉันไม่กิน!? เมี๊ยว! ฉันอยากกิน! ฮึ่ม! ก็แค่ไร่อ้อยใช่ไหม?!”
เพียงแค่ถั่วชมพูโบกอุ้งมือของมัน ต้นอ้อยก็ล้มลงมากับพื้นทันที ก่อนที่ถั่วชมพูจะลิ้มลองรสชาติ หืม! ต้นอ้อยต้นนี้มีพลังงานต่ำสุด เพราะฉะนั้นจะมอบต้นอ้อยนี้ให้กับมนุษย์สองคนนี้!
ฮิฮิ! ช่างเป็นเอเลี่ยนเกอหลัวที่ฉลาดหลักแหลมอะไรเช่นนี้!
สวี่หลิงอวิ๋นกับโอคาซีส่งยิ้มให้กันและกัน ก่อนจะส่งเค้กชิ้นเล็กที่เหลือให้กับถั่วชมพู “ค่อยสมเหตุสมผลหน่อย ไม่อย่างงั้นแกไม่ได้กินเค้กหรอก!”
ถั่วชมพูกินเค้กเข้าไปภายในคำเดียว!
“เมี๊ยว…! อร่อยมากเมี๊ยว!” ดวงตาของถั่วชมพูหรี่ลงเล็กน้อยด้วยความสุขใจ และไม่เต็มใจที่จะลืมตาขึ้น!
ความเร็วในการเคี้ยวค่อนข้างช้าเป็นอย่างมาก จนไม่อยากจะกลืนก้อนเค้กลงไป อยากจะกลืนกินให้มากกว่านี้!
มันช่างดูน่าตลกยิ่งนักเมื่อปากของมันค่อย ๆ เคี้ยวอย่างละเมียดละไม
เอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นเฝ้ามองราชาของพวกมันกัดกินเค้กอย่างใจจดใจจ่อ มันต้องอร่อยแน่เลยใช่ไหม?!
พวกมันจ้องมองไปที่สวี่หลิงอวิ๋นอีกครั้ง ทว่าพวกเขากลับเอาต้นอ้อยขึ้นไปบนยานอวกาศและจากไปในทันที! ท้ายที่สุดแล้ว มันไม่มีมีความรักอยู่ในนั้น! พวกมนุษย์ก็แค่หลอกลวง!
เอเลี่ยนเกอหลัวนับห้าร้อยตัวชูนิ้วกลางใส่เครื่องจักรกลอย่างพร้อมเพียงกัน! และนอนลงอย่างโกรธเคือง
หลังจากนักวิจัยทั้งหลายเห็นต้นอ้อยดังกล่าว พวกเขาจึงรู้สึกประหลาดใจมากว่าทำไมถึงได้ต้นอ้อยมาเร็วนัก?
“น่าจะเป็นต้นอ้อยนะพ่ะย่ะค่ะ!” นักวิจัยทั้งหลายที่ครุ่นคิดอย่างรอบคอบรู้สึกได้ว่าต้นอ้อยมีพลังที่ผันผวน ถึงแม้ว่าปริมาณพลังงานจะไม่สูงมากก็ตาม
ต้นอ้อยดังกล่าวถูกวางไว้บนเครื่องตัวจับชนิดพิเศษ และเปรียบเทียบกับค่าพลังงานกับต้นอ้อยทั้งหมด
เมื่อเปรียบเทียบกับต้นอ้อยธรรมดาทั่วไปแล้ว ต้นอ้อยดังกล่าวไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงพิเศษอะไร ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือน้ำอ้อยที่ประจุพลังงานเอาไว้ น้ำอ้อยธรรมดาทั่วไปจะไม่มีค่าพลังงาน
“กระหม่อมคิดว่าต้นอ้อยต้นนี้กลายพันธุ์ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่ได้กลายพันธุ์” นักวิจัยทั้งหลายเกาศีรษะ
“แสดงว่าต้นอ้อยดูดซับสสารพิเศษบางอย่างที่ทำให้พวกมันสร้างพลังงานขึ้นมา!” นักเรียนทั้งหลายเริ่มคาดเดาตามความคิดของพวกเขา
ในความเป็นจริงย่อมมีสสารเช่นนั้นอยู่ในธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใกล้เคียงเมืองแร่พลังงาน พืชพันธุ์จำนวนมากจะดูดซับพลังงานไม่มากก็น้อย
แต่ไม่ปรากฏขึ้นชัดเจนเท่ากับต้นอ้อยต้นนี้
หลังจากมอบน้ำอ้อยดังกล่าวให้กับพลทหารธรรมดาแล้ว พลทหารก็เลื่อนขั้นในทันที! และไม่มีผลข้างเคียงแม้แต่น้อย!
สิ่งนี้เป็นดั่งสายพันธุ์เวทมนตร์ที่สามารถเทียบเท่ากับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ได้!
ทว่ามันแตกต่างจากสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน น้ำอ้อยนี้สามารถทำให้พลทหารเลื่อนขั้นได้โดยตรง ขณะที่สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์สามารถเสริมสร้างพละกำลังของเหล่าทหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มันคือความแตกต่างระหว่างสองแนวคิด…
“จะต้องหาให้เจอว่าต้นอ้อยดูดซับอะไรเข้าไป มีแร่พลังงานอยู่ข้างใต้ไร่อ้อยหรือเปล่า?”
สวี่หลิงอวิ๋นกำลังครุ่นคิด
โอคาซีโอบกอดหัวไหล่ของสวี่หลิงอวิ๋น และรู้ดีว่าภารกิจครั้งนี้สำคัญมากแค่ไหน
“เอเลี่ยนเกอหลัวมีสัมผัสที่ไวต่อกลิ่นและเสียง ถ้าท่านต้องการหลีกเลี่ยงเอเลี่ยนเกอหลัว การปล่อยเครื่องตรวจจับลงไปสำรวจพื้นที่จะถูกพวกมันจับได้แน่นอน”
โอคาซีขมวดคิ้ว ไม่ควรประมาทเอเลี่ยนเกอหลัวพวกนี้
พวกมันล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตระดับ 8 ดาว ถึงพวกเขาจะสามารถรับมือกับถั่วชมพูได้ แต่เอเลี่ยนเกอหลัวที่เหลือล่ะ? พวกมันจะไม่ต่อสู้กับทหารเพียงลำพังอย่างแน่นอน
อีกทั้งยังไม่สามารถทำให้เอเลี่ยนเกอหลัวพวกนี้ขุ่นเคืองได้
สิ่งที่เห็นได้ชัดในตอนนี้คือเอเลี่ยนเกอหลัวทั้งหลายถือว่าไร่อ้อยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการฝึกฝนของพวกมัน และไม่อนุญาตให้มนุษย์คนไหนก้าวเข้าไป
ทุกคนตกอยู่ในห้วงความคิดส่วนลึก
ขณะเดียวกัน เจ้าถั่วชมพูโทรศัพท์เข้าทางคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์อีกครั้ง เอเลี่ยนเกอหลัวตัวนี้รู้วิธีการโทรเข้าทางคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ไปหาทหารที่ประจำฐานทัพ และขอให้ต่อสายถึงสวี่หลิงอวิ๋น
สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับพูดไม่ออกเมื่อจ้องมองถั่วชมพูที่นอนอยู่บนพื้น “พูดมา มีอะไรอีก?”
แกมันคนขี้เหนียว ทั้งไม่ให้พวกเราเข้าไปในไร่อ้อย ทั้งไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ แล้วที่นี่จะมาเรียกหาเธออย่างนั้นเหรอ?
ถั่วชมพูที่เงอะงะจ้องมองเธอด้วยแววตาเปล่งประกาย “ฮือ ๆๆ คนสวยเมี๊ยว! ฉันอยากกินเค้กจังเมี๊ยว!”
สวี่หลิงอวิ๋นกอดอกแน่น และจ้องมองมันด้วยสายตาเกียจคร้าน “แกกำลังล้อฉันเล่นหรือไง? ฉันก็ให้แกอยู่ฟรีกินฟรีขนาดนี้แล้ว ตอนนี้ยังไม่สำนึกถึงเอเลี่ยนตัวอื่นอีก แถมยังจะมาสั่งอาหารจากฉันอีกเหรอ?! ที่ฉันไม่ไล่แกออกมาเพราะยังอยากอยู่ดูความสวยของแกหรอกนะ”
ถั่วชมพูรู้ตัวว่ามันทำผิดพลาดไป ก่อนจะยิ้มอย่างเจี๋ยมเจี้ยม “เมี๊ยว! พวกเธอไม่อยากเข้าไปในไร่อ้อยหรือไง? เธอเข้าไปได้นะเมี๊ยว! แต่ไม่ให้เอาออกหรือตัดออกไปนะ เพราะงั้นฉันจะให้พวกเธอเข้ามาไงเมี๊ยว!”
สวี่หลิงอวิ๋นชะงักชั่วคราว และฮัมเพลงเบา ๆ “อืม เอาเป็นว่าฉันจะเก็บไปคิดแล้วกันนะ!”
เธอตอบเช่นนั้นและตัดจบบทสนทนาทางคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ และใบหน้าของทุกคนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
กลับกลายเป็นว่ามันต้องการเค้กเพียงชิ้นเดียว! อย่างไรก็ตาม นักวิจัยทั้งหลายแอบกลืนน้ำลายเงียบ ๆ เพราะพวกเขาก็อยากกินเค้กเช่นกัน!
สวี่หลิงอวิ๋นเริ่มลงมือทำ
วัตถุดิบทั้งหมดวางกองอยู่ที่นี่ และแขนกลก็เริ่มช่วยเธอทำอาหารอย่างขยันขันแข็ง
ไข่ที่นี่มีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับท้องถิ่น มันมีขนาดใหญ่มากแต่รสชาติกลับคล้ายคลึงกับไข่ไก่บนโลก สวี่หลิงอวิ๋นใช้ไข่ประเภทนี้ทำเค้กหลายต่อหลายครั้ง ตอกไข่ขาวและไข่แดงแยกออกจากกันและใส่ลงไปในสองถ้วย เติมน้ำตาล นม และน้ำมันพืชลงไปในถ้วยไข่แดง จากนั้นแขนกลจึงช่วยคนส่วนผสมเข้าด้วยกัน
ร่อนแป้งบนกระชอนลงไปในถ้วยไข่แดง แขนกลเป็นผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับแม่ครัว หลังจากนั้นไม่นาน มันก็คนแป้งจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันอย่างเนียนละเอียด
ขั้นตอนต่อไปคือการคนไข่ขาว และนำไข่ขาวที่ถูกตีแล้วมาเทรวมใส่ในถ้วยไข่แดง
แล้วจึงนำไปอบในเตาอบ