สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 234 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 5
- Home
- สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ
- ตอนที่ 234 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 5
ตอนที่ 234 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 5
วินเซอร์ปลีกตัวออกไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่จักรพรรดินีวางถ้วยชาลงและจ้องมองลูกสาวอย่างไม่พอใจ
“หลิงอวิ๋น ลูกพูดเกินไปแล้วนะ!” มันเป็นความจริงที่หลานสาวคนนี้มีข้อบกพร่องเล็กน้อย คำพูดและการกระทำของเธอยังไม่พลังพอ แต่สิ่งที่สวี่หลิงอวิ๋นพูดออกไปมันจะส่งผลกระทบต่อทัศนคติดำรงชีวิตและความคิดของเธออย่างมาก!
หากเกิดข้อผิดพลาดกับชื่อเสียงที่กอบกู้มายาวนาน และไม่สามารถความคิดในช่วงระยะเวลาอันสั้นได้ ข้อบกพร่องก็จะเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย
สวี่หลิงอวิ๋นหยักไหล่ “ลูกก็พูดตามความจริงนี่เพคะ”
นอกจากนี้ เธอยังพูดมันออกมาจากใจ
ลูกพี่ลูกน้องเพิ่งตระหนักรู้ถึงการเลียนแบบคนอื่น เธอรู้บ้างหรือเปล่าว่าตอนนี้ตนเองเป็นอย่างไร? บางทีตอนนี้เธออาจจะไม่รู้ว่าเธอชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไรแล้วก็ได้?!
วินเซอร์รู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก และความคิดของเธอกำลังสันสน
สวี่หลิงอวิ๋นพูดถูก เธอชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร เดิมทีเธอเป็นหญิงสาวที่ชื่นชอบการพูดคุยกับหัวเราะ เธอยังจำคำพูดของแม่ได้ดีว่า โอ้ ลูกไม่เหมือนกับตอนที่ยังเป็นเด็กเอาซะเลยนะ ตอนเด็ก ๆ ลูกชอบหัวเราะมากกว่านี้!
ตอนที่เธอเป็นเด็ก เธอชอบหัวเราะด้วยเหรอ? บางทีเธออาจจะใช้ชีวิตอยู่ตามแบบฉบับของคนอื่นไปเสียแล้ว
ใครก็ตามที่เห็นเธอ มักจะกล่าวว่าเธอคล้ายคลึงกับผู้เป็นป้าเมื่อครั้นยังเป็นเด็ก!
เธอมีภาพลักษณ์เหมือนกับป้าในตอนนั้น!
ในอนาคต เธอจะยอดเยี่ยมเหมือนป้าของเธอแน่นอน!
เธอมองดูตัวเองในกระจก ช่างงดงามและบอบบางนัก เธอเคยรู้สึกชื่นชมตนเองตอนที่เห็นภาพลักษณ์เช่นนี้ แต่ในตอนนี้เธอกลับพบว่าความงดงามที่แท้จริงของเธอกลับไม่ได้รับความนิยม
“ไม่เอาน่า! อย่าปล่อยให้ลูกพี่ลูกน้องดูถูก!” วินเซอร์ให้กำลังใจตนเอง และรู้ดีว่าสวี่หลิงอวิ๋นตั้งใจพูดขึ้นมาเพื่อกวนประสาทและทำให้เธออับอาย!
ฮึ่ม! ฉันจะไม่เป็นไปตามที่เธอต้องการหรอก!
หลังจากสงบจิตใจอยู่ครู่หนึ่ง วินเซอร์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ในเวลานี้ เธอมีคุณสมบัติเพียบพร้อมแก่การเป็นองค์หญิงอีกครั้ง
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูบุคคลที่เลียนแบบแม่จากระยะไกล แม้หญิงสาวจะรู้สึกพ่ายแพ้อยู่ด้านใน แต่กลับรู้สึกชื่นชมบางอย่างอยู่ในใจ
เหลือเชื่อไปเลยลูกพี่ลูกน้องของฉัน! แบบนี้จะยิ่งน่าสนใจขึ้นใช่ไหม?
บทสนทนาถัดมาตามมาด้วยการจับผิดของแต่ละคน ยิ้มทักทายและเยาะเย้ยกันและกัน
จักรพรรดินีมองดูการต่อสู้ของเด็กสาวทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า นั่งเงียบ ๆ เฝ้ามองสงคราม และพิจารณาความแข็งแกร่งของทั้งสองคน
เห็นได้ชัดว่าหลานสาวยังเสียเปรียบอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับลูกสาวของเธอ
วินเซอร์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และยิ้มออกมา “ได้ยินว่าน้องกำลังเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ใช่ไหม? ขอแสดงความยินดีกับน้องล่วงหน้าด้วยนะ!”
“โอ้ ขอบคุณนะ!” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มเล็กน้อย “ไม่ทราบว่าท่านพี่เข้าร่วมกันการแข่งขันหัวหน้าด้วยหรือเปล่า? ไม่รู้ว่าการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่นี้จะมีอะไรให้ชมบ้างนะ?”
วินเซอร์ส่ายหน้า ใครจะไปเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้ากันเล่า! ฉันไม่ใช่หัวหน้าสักหน่อย!
ทว่าเธอกลับไม่ได้กล่าวออกไปเช่นนั้น!
“อุ๊ย มันเป็นการต่อสู้นี่น่า พี่จะเข้าร่วมได้ยังไงกัน?” เธอปิดปากและเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “พี่ก็ไม่อยากจะบอกน้องหรอกนะ แต่แทนที่น้องจะเอาแต่เที่ยวเล่นอยู่ข้างนอก สู้มาเรียนรู้เรื่องมารยาทดีกว่านะ ถ้าน้องต้องแต่งงานเข้าจักรวรรดิอื่น แม่สามีก็คงจะบอกแบบนี้เหมือนกัน!”
สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจยาวหลังจากได้ยินเช่นนั้น “ไม่มีทาง นี่คือตัวตนของฉัน อีกอย่าง การได้รับความชื่นชอบจากองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตแสดงว่าฉันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นสักหน่อย!”
บัดซบ! นังสารเลว! วินเซอร์สบถด่าในใจ!
หากไม่ใช่เพราะเธอพลาดท่าไปและปล่อยให้สวี่หลิงอวิ๋นได้รับความชื่นชอบจากองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อต อีกฝ่ายก็คงไม่ได้ใช้ชื่อองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตมาจ้วงแทงเธอครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้
“องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตก็ไม่ได้มีความสุภาพนักหรอก น้องอย่าจริงจังไปเลย ถ้าผู้คนด้านนอกมาได้ยินเข้า จะคิดว่าน้องชอบพอกันกับเขา!”
สวี่หลิงอวิ๋นหัวเราะคิกคัก “เอาไว้ครั้งหน้าองค์ชายแลนเซล็อตเสด็จมาที่นี่ ฉันจะถ่ายทอดคำพูดของพี่ให้เขาฟังแน่นอน เขาจะได้ไม่ประพฤติตนจนคนเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ หรือถ้าไม่อยากให้เข้าใจผิด ก็ให้มาแต่งงานกับพี่วินเซอร์คงจะดีกว่า!”
วินเซอร์หน้าแดงก่ำ! บัดซบ! โดนลูกพี่ลูกน้องจับทางได้อีกแล้ว!
จักรพรรดินีมองดูเวลา “เอาล่ะ ทั้งสองคน ได้เวลาอาหารแล้ว”
บนโต๊ะอาหารเย็น ไคกีและสมาชิกราชวงศ์ทั้งหลายล้วนมีท่วงท่าตามแบบฉบับผู้สูงส่ง ไม่ว่าจะลุกขึ้นยืนหรือนั่งลงย่อมเป็นตามกฎระเบียบ แม้แต่จักรพรรดิผู้เกียจคร้านยังกลายเป็นคนมีมารยาทดีในขณะนี้ และท่วงท่าช่างสง่างามยิ่งนัก
และทุกคนล้วนบีบคั้น
อาหารมื้อนี้กลายเป็นความอัปยศอดสูยิ่งนัก หลังจากสวี่หลิงอวิ๋นทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็แทบจะอดทนรอไม่ไหวที่จะบอกลามื้ออาหารจอมปลอมของวงศ์ตระกูลเพื่อกลับไปที่สถาบัน
เพียงกล่าวว่าการแข่งขันใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว และเธอจะต้องกลับไปฝึกซ้อมอย่างหนัก
เหตุผลนี้ทรงพลังอย่างมาก แม้แต่องค์ชายไคกีก็พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวให้กำลังใจ “เธอโตขึ้นเยอะเลยนะ แถมยังเป็นหัวหน้าที่เก่งกาจอีก ทำให้ดีที่สุดและคว้าชัยชนะจากการแข่งขันมาให้ได้นะ”
“อย่าห่วงไปเลยเพคะ!” สวี่หลิงอวิ๋นสวมกางเกงขายาวและรองเท้าบู๊ตมาร์ตินอย่างคล่องแคล่ว ดูแข็งแรงและมีความสามารถมากนัก
เธอยกมือขึ้นทาบกับศีรษะ การกระทำที่เย็นชาและขี้เล่นของเธอทำให้ผู้ชายทั้งหลายอมยิ้ม
วินเซอร์ยอมรับว่าตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องของเธอแพรวพราวมาก บางทีเธออาจจะดูโดดเด่นท่ามกลางหมู่ผู้หญิง แต่ลูกพี่ลูกน้องก็มีศักดิ์เท่าเทียมกับองค์ชายรัชทายาทเท่านั้น
เมื่อมองดูท่าทีของพี่ชายของเธอ ลูกพี่ลูกน้องหญิงยอดเยี่ยมกว่าองค์ชายคนอื่นด้วยซ้ำ
แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องชายทั้งสองก็ไม่อาจเทียบได้
สวี่หลิงอวิ๋นรีบวิ่งกลับมาที่สถาบันราวกับกำลังหลบหนี
นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งถอยหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่กลับมา
สำหรับนักเรียนชั้นปีที่สองน่ะเหรอ? ดูเหมือนว่าเยล หัวหน้าประจำชั้นปีที่สองจะลืมความเกลียดชังกับนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งไปเสียแล้ว ทันทีที่ได้พละกำลังกลับมา สิ่งแรกที่เขาทำคือการขึ้นบัญชีดำกลุ่มอันธพาลและแก้แค้นอย่างโหดเหี้ยม
นักเรียนทั้งหลายร้องเรียกหาพ่อแม่ และต้องการออกจากสถาบัน
การกลับมาของเยลทำให้นักเรียนชั้นปีที่สองตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เขาแตกต่างจากเยลคนเดิมอย่างสิ้นเชิง เยลคนปัจจุบันเป็นเหมือนกับนักรบผู้ทระนง สิ่งที่เขาทำทุกวันคล้ายคลึงกับการกระทำของอาจารย์เฮอร์ก่อนหน้านี้ ฝึกซ้อมนักเรียนจนสลบไป และปล่อยให้เห็นเพียงโลกที่ไร้สีสันเมื่อตื่นขึ้นมา
กลับกลายเป็นว่ายังมีอย่างอื่นให้คิดอยู่ ทว่าตอนนี้…ได้แต่หวังให้ท้องฟ้ามืดไป
แล้วอาจารย์เฮอร์ล่ะ? ตอนนี้อาจารย์เฮอร์กำลังฝึกสอนนักเรียนชั้นปีที่สอง ตั้งแต่เขาจับได้ว่าเป็นนักเรียนชั้นปีที่สอง ก็ไม่มีใครกล้าตามรังควาญเขาอีก และนั่นให้เขามั่นใจยิ่งขึ้นว่าเขาถูกนักเรียนชั้นปีที่สองกลั่นแกล้ง!
สำหรับนักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง ตั้งแต่ช่วงที่สวี่หลิงอวิ๋นไม่อยู่ พวกเขาก็จัดการหลอกหลอนนักเรียนเหล่านั้นเล็กน้อย ทว่าไม่ได้ทำอะไรเกินเลย
ดูเหมือนว่าทุกชีวิตจะเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว
ขณะนี้ สถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิชิงเหย้าเริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ยานอวกาศทั้งหลายจากจักรวรรดิทั่วทั้งห้วงดวงดาวเคลื่อนตัวมาจอดเทียบท่าเรือ ภายในถูกขับเคลื่อนด้วยนักเรียนที่ยอดเยี่ยมซึ่งเป็นหัวหน้าประจำแต่ละชั้นเรียน
นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าจากสถาบันทางการทหารจากดาวเคราะห์ดวงอื่นที่อยู่ภายใต้จักรวรรดิชิงเหย้า