สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 263 งานเลี้ยงนัดดูตัว 4
ตอนที่ 263 งานเลี้ยงนัดดูตัว 4
ตอนที่ 263 งานเลี้ยงนัดดูตัว 4
“ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นหนุ่มสาว และฉันเองก็เป็นคน ใครที่อยู่กับฉันมานานจะรู้ว่าฉันรักอิสระ ใช้ชีวิตเรียบง่าย และไม่ชอบชีวิตที่ถูกจำกัดมากเกินไป” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าว
“วันนี้เป็นวันที่ฉันจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และในเมื่อมันเป็นงานของฉัน ฉันก็จะบอกกับทุกคนว่า” เธอชูมือขึ้นมาและดีดนิ้ว “ฉันจะร้องเพลงให้ทุกคนได้ฟัง และเพลงนี้มอบให้แก่ทุกคน รวมถึงตัวฉันเอง!”
บทเพลงค่อย ๆ บรรเลงขึ้น และทำนองเพลงค่อนข้างดี
“มีเธอเคียงข้างแม้หนทางอีกยาวไกล ฉันไม่เคยเหนื่อยล้า ก้าวเดินไปกับเธอทุกหนทุกแห่ง ข้ามภูเขาสูงแต่ข้างหน้าสูงชันยิ่งกว่า แม้จุดหมายปลายทางจะยังอีกแสนไกล จงอย่าทิ้งความฝันที่อยู่ตรงหน้า สายทางบางสายอาจยากเย็น อย่าได้หวาดหวั่นกับความทุกข์ยาก ชีวิตของคนเราเมื่อมีสุขย่อมมีทุกข์ สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป…”
เพลง ‘เดินทางเส้นทางแห่งชีวิต’ เป็นเพลงโปรดของสวี่หลิงอวิ๋นในชาติที่แล้ว
ยังคงจำได้ดีเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก เธอแค่ชื่นชอบจังหวะทำนองของมัน แต่เมื่อวันสิ้นโลกมาถึง ครอบครัวและญาติที่น้องของเธอหายไปชั่วข้ามคืน ความพยายามทั้งหมดก็กลายไปเป็นเศษกระดาษที่ไร้ค่า
แต่ชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป ถึงแม้จะหิวโหยแต่ก็ต้องอดทนไว้ ทำได้แค่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดด้วยความหวาดกลัวและร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนจะเดินไปตามท้องถนนอีกครั้ง
เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอรู้สึกไม่ไหว เธอจะร้องเพลงเพลงนี้ซ้ำไปซ้ำมาภายในใจจนนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อมอบความแข็งแกร่งให้แก่ตนเอง
โลกของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่มันไม่ง่ายเสมอไป และชีวิตที่เรียบง่ายมักจะมีคนถือร่มให้อยู่ด้านหน้าเสมอ
จังหวะของเนื้อเพลงเร็วมากกว่าเดิมเล็กน้อย เต็มไปด้วยความปรารถนา ความกล้าหาญ ความพากเพียรอย่างไม่รู้จบ เพียงชั่วพริบตา ผู้คนทั้งหลายก็ออกไปเต้นตามจังหวะ
บางคนเริ่มฮัมเพลงเมื่อสวี่หลิงอวิ๋นร้องเพลงวนเป็นรอบที่สอง
จนกระทั่งทุกคนร้องเพลงตามกัน!
อย่างที่สวี่หลิงอวิ๋นกล่าว คนส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนหนุ่มสาว และคนหนุ่มสาวจะต้องอดทนต่อสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหนุ่มและหญิงสาวจากจักรวรรดิชิงเหย้า เด็กผู้หญิงบางคนถึงกับเริ่มเลียนแบบการกระทำขององค์หญิงสาม ถอดรองเท้าส้นสูงและเขวี้ยงไปไว้ด้านข้าง ก่อนจะตะโกนร้องเพลงเสียงดังลั่น!
แสงไฟยังคงกะพริบตามจังหวะเสียงเพลง ขณะที่ผู้คนทั้งหลายจนอยู่ในท้องทะเลแห่งเสียงเพลง
ราวกับนักร้องคนดังในคอนเสิร์ต
จักรพรรดิถึงกับหลั่งน้ำตาต่อหน้าผู้ชม โอบกอดจักรพรรดินีและกล่าวว่า “จิตวิญญาณของหลิงอวิ๋นพบเจอกับสิ่งเลวร้ายด้านนอกขนาดนั้นเชียวหรือ? ทำไมถึงร้องเพลงได้กินใจขนาดนี้?!”
จักรพรรดินีลูบศีรษะของผู้เป็นสามี และไม่ได้กล่าวอะไรไป มีเพียงน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาของเธอเท่านั้น
วินเซอร์จ้องมองไปสวี่หลิงอวิ๋นบนเวทีด้วยสายตาว่างเปล่า
ลูกพี่ลูกน้องน่าทึ่งมาก! เธอกล้าหาญ เป็นอิสระ และเรียบง่าย เพราะฉะนั้นเธอจึงมีเสน่ห์เหลือล้น!
โอคาซีจ้องมองหญิงสาวด้วยความภาคภูมิใจ นี่คือผู้หญิงของเขา บางครั้งเขาอยากจะขอบคุณสวี่หลิงอวิ๋นที่วิ่งไล่ตามและจับตามองเขาเสมอมา
เธอที่เป็นแบบนี้ช่างน่าทึ่งเหลือเกิน!
เขาขอสาบานว่าจะเก็บไข่มุกเม็ดงามนี้ไว้กับตัว!
แลนเซล็อตแอบถอนหายใจในใจ ผู้หญิงคนนี้สร้างเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจได้ตลอดเวลาสินะ หากเขาได้แต่งงานกับเธอ ชีวิตของเขาคงจะมีแต่สีสันตลอดใช่ไหม?
สวี่รุ่ยอวิ๋นกำหมัดแน่น สวี่หลิงอวิ๋นไม่สมควรอยู่ในจักรวรรดิชิงเหย้าอีกต่อไป เธอจะต้องแต่งงานออกไปที่อื่น!
แต่งงานกับใครล่ะ? กับใครก็ได้ที่ไม่ได้อยู่ในจักรวรรดิชิงเหย้า!
เขาถือขวดของเหลวไว้ในมือ ของเหลวนี้… เขาได้มันมาจากตลาดมืด ตราบใดที่คืนนี้เขาใส่ของเหลวลงไปในแก้วของสวี่หลิงอวิ๋น ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น!
เพลงบทเพลงจบลง แสงไฟระยิบระยับก็กลับสู่สภาพเดิม ดวงตาของชายหนุ่มและหญิงสาวเปล่งประกายเจิดจรัส และพบว่าเสื้อผ้าของพวกเขาไม่ได้เรียบร้อยเมื่อในตอนแรก
หญิงสาวทั้งหลายนั่งยอง ๆ ขณะมองหารองเท้าส้นสูงของพวกเธอด้วยรอยยิ้ม ท่าทีที่สงวนไว้ก่อนหน้านี้เริ่มผ่อนคลายลง และใบหน้าของทุกคนก็ไม่ได้ดูตึงเครียดอีกต่อไป
“ขอบคุณทุกคนที่เข้าร่วม!” สาวใช้หยิบรองเท้าส้นสูงขึ้นมาและวางลงที่ด้านหน้าเวที สวี่หลิงอวิ๋นสวมใส่รองเท้าส้นสูง และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกคุณจะได้สนุกแล้ว! คืนนี้มาดื่มด่ำและเต้นรำกันให้สุด ๆ ไปเลย!”
ทุกคนปรบมือสนั่น บรรยากาศเริ่มมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
สวี่หลิงอวิ๋นเดินลงมาจากเวที ขณะที่โอคาซีเดินมารับเธอ
“ฉันร้องเพลงเป็นไงบ้างคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองแฟนหนุ่มสุดที่รัก โอ้โห่ ยิ่งดูก็ยิ่งหล่อเหลือเกิน!
โอคาซีเอาแขนโอบรอบเอวของเธอ ขณะที่หญิงสาวบริเวณโดยรอบถึงกับอุทานออกมา
“พลเอกโอคาซีเป็นแฟนกับองค์หญิงสามเหรอ?!”
“ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้ยินมาว่าองค์หญิงสามไล่ตามจีบพลเอกโอคาซี แต่พลเอกโอคาซีไม่ได้ชอบเธอไม่ใช่เหรอ?”
“พวกคุณน่ะตกข่าวกัน!” หญิงสาวทั้งหลายจากจักรวรรดิชิงเหย้ารอคอยเวลานี้มานาน!
“องค์หญิงสามของเรากับท่านพลเอกโอคาซีรักกันมานานมากแล้ว แต่ตอนนั้นท่านพลเอกโอคาซีไม่กล้ายอมรับเพราะองค์หญิงสามยังไม่บรรลุนิติภาวะ!”
เป็นอย่างนี้นี่เอง!
เมื่อมองดูบุคคลรูปงามทั้งสองยืนอยู่ด้วยกัน ทุกคนก็นึกถึงวลีที่ว่าสวรรค์ส่งให้มาเป็นคู่กัน?!
มีผู้คนมากมายที่ต้องการเชิญชวนองค์หญิงวินเซอร์ออกไปเต้นรำ ทว่าเธอกลับกล่าวปฏิเสธ
สายตาของเธอจับจ้องไปที่ใครบางคนเป็นเวลานาน
แลนเซล็อตจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋นกับโอคาซีที่ยืนอยู่ด้วยกัน ดวงตาของเขายังคงดูสงบนิ่ง และไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“องค์ชายแลนเซล็อต สวัสดีค่ะ ฉันขอเป็นคู่เต้นรำกับท่านได้ไหมคะ?”
ผู้คนบนลานเต้นรำส่วนใหญ่ล้วนเต้นรำกันเป็นคู่
องค์หญิงวินเซอร์ที่ยืนอยู่ข้างเขากล่าวทักทาย และริเริ่มที่จะเชิญชวนก่อน
แลนเซล็อตเหลือบมองสวี่หลิงอวิ๋นและโอคาซีที่กำลังเต้นรำอยู่ด้วยกัน และหยักหน้า “เป็นเกียรติที่ได้เต้นรำกับองค์หญิงวินเซอร์”
สวี่หลิงอวิ๋นเป็นศูนย์กลางของการเต้นรำ และการเต้นรำของเธอกับโอคาซีย่อมทำให้เกิดความโกลาหลตามมา
ผู้ชายมากหน้าหลายคนต้องการเข้ามาหาสวี่หลิงอวิ๋น ทว่าตอนนี้พวกเขากลับปล่อยวางและเริ่มประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
การเต้นรำของแลนเซล็อตและวินเซอร์ทำลายหัวใจของหญิงสาวจำนวนนับไม่ถ้วนอย่างไม่ต้องสงสัย
“ดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะดูเข้ากันได้ดี!” องค์หญิงวินเซอร์เป็นองค์หญิงผู้เลิศเลอที่ได้รับการยอมรับจากทุกจักรวรรดิ
ส่วนองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตเป็นองค์ชายที่เก่งกาจและโดดเด่น และที่สำคัญที่สุดเป็นรัชทายาทสายตรงของจักรวรรดิเอเดน!
หญิงสาวทั้งหลายกัดผ้าเช็ดหน้าด้วยความอิจฉาริษยา อยากจะเข้าไปแทนที่เธอ
จักรพรรดิมองดูฝูงชนเต้นรำอยู่ที่ด้านล่างด้วยความสนใจ และเชิญชวนจักรพรรดินีให้มาเต้นรำด้วยกัน
จักรพรรดินีเห็นด้วยอย่างยิ่ง
เสียงเพลงบรรเลงเริ่มเปลี่ยนไป หญิงสาวหน้าตาดีคนนี้ยืนอยู่บนเวทีขับขานท่วงทำนองด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ชายหนุ่มผู้ชื่นชอบการไล่ตามจีบดาราดังจดจำเธอได้เป็นอย่างดี
“นั่นลูตี้นี่! พระเจ้า! เธอมาแล้ว!”
ลูตี้อาจเป็นเพียงดาราสำหรับหญิงสาวทั้งหลาย แต่สำหรับชายหนุ่ม เธอคือคนในฝันของพวกเขา!
ภาพลักษณ์ของเธอดูบอบบางและน่าทะนุถนอม รูปร่างที่น่าภาคภูมิใจ และใบหน้างดงามดึงดูดความสนใจของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี
ดวงตาของเธอมีสีสันน่ารักและชวนหลงใหล ซึ่งทำให้เธอดูมีเสน่ห์เหลือล้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอจ้องมองไปที่ใครสักคน มันเหมือนกับว่าเธอกำลังแสดงความรักของเธออยู่