สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 32 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (32)
ตอนที่ 32 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (32)
สวี่หลิงอวิ๋นยกยิ้ม “แล้วฉันพูดหรือไงว่าฉันกำลังล้างบาปให้ตัวเองอยู่? อ๊ะ แล้วแต่พวกเธอจะคิดแล้วกัน ฉันจะกินต่อแล้ว สำหรับพวกคุณ ถ้าพวกคุณยังอยากดูต่อ ก็เชิญดูต่อ แต่ถ้าไม่อยากดูก็…เชิญออกไป!”
ไม่เอาน่า เดิมทีองค์หญิงสามเป็นคนที่ปากแข็งอยู่แล้ว เธอไม่เคยพูดจาด้วยถ้อยคำอ่อนหวาน และนั่นทำให้ผู้ชมทั้งหลายต่างรู้สึกโกรธ
พลเอกโอคาซีถึงกับส่ายหน้า “พวกคุณไม่เคยรู้จักกับองค์หญิงสามเป็นการส่วนตัวมาก่อน ดังนั้นได้โปรดอย่าเข้าใจเธอผิดจากข่าวลือพวกนั้นเลยครับ เธอไม่ใช่คนแบบนั้น!”
“ว้าว…ท่านพลเอก!”
“ท่านพลเอกคะ พวกเรารู้ว่าท่านเป็นคนจิตใจดี แต่พวกเราไม่สามารถอดทนกับผู้หญิงสารเลวคนนี้ได้อีกต่อไปแล้ว!”
“เธอเป็นองค์หญิงและควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน เธอไม่จำเป็นต้องลดตัวลงมาเกลือกกลั้วกับประชาชนอย่างองค์ชายสองก็ได้ แต่เธอก็ไม่ควรทำร้ายผู้คนอย่างนี้!”
……….
ผู้ช่วยชาร์ลคิดหนักและขมวดคิ้วหลังจากเห็นข้อความแสดงความคิดเห็นจากผู้ชมทั้งหลาย ถึงเขาจะเกลียดองค์หญิงสามจากใจจริง แต่ก็คิดว่าองค์หญิงสามไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ชาวเน็ตกล่าวหา ตรงกันข้าม เธอกลับจริงใจกว่าองค์ชายสองและองค์ชายหนึ่งเสียอีก
ดังนั้นเขาจึงพิมพ์ข้อความแสดงความคิดเห็นลงบนจอถ่ายทอดสด
‘องค์หญิงสามก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ จาก ผมคือชาร์ล’
ข้อความของเขาเปรียบดั่งลูกอ๊อดท่ามกลางมหาสมุทร จะมีสักกี่คนเชียวที่เห็นข้อความของเขา? ไม่มีน้ำกระเซ็นมาแม้แต่หยดเดียว!
โอคาซีขมวดคิ้ว “พวกคุณกำลังตั้งคำถามกับความคิดเห็นของผมเหรอครับ?”
โอ้! ทันทีที่เขาพูดจบ หัวใจของผู้ชมก็แทบแตกสลาย!
ในชั่วขณะหนึ่ง ผู้ชมทั้งหลายต่างไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะพูดอะไรออกไปดี ถ้าพวกเขาเชื่อคำพูดของท่านพลเอก นั่นหมายความว่าพวกเขาเข้าใจองค์หญิงสามผิดไป แต่ถ้าพวกเขาไม่เชื่อ นั่นจะเป็นการทำให้ท่านพลเอกที่รักของพวกเขาเสียใจไม่ใช่เหรอ?
ผู้ชมทุกคนต่างตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก!
เมื่อสวี่หลิงอวิ๋นได้ยินดังนั้น เธอก็เหลือบมองหน้าจอก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง
“โอ้ ให้ฉันพูดเถอะนะท่านพลเอก ท่านกำลังทำให้แฟนคลับของท่านอับอาย หึหึ เป็นแฟนคลับของท่านนี่มันยากจริง ๆ เลยนะ!”
“ท่านไม่รู้สึกกังวลเลยเหรอ?” โอคาซีมองมาที่เธอ
“มีอะไรต้องกังวล?” สวี่หลิงอวิ๋นโบกมืออย่างเฉยเมย “ยิ่งท่านพูดอธิบายมากเท่าไหร่ ผู้คนก็ยิ่งไม่เชื่อมากเท่านั้น มีคำกล่าวไว้ว่าความดีไม่เคยแพร่กระจาย แต่ความชั่วร้ายแผ่ซ่านไปเป็นพันไมล์ ธรรมชาติของผู้คนมักจะเชื่อในด้านชั่วร้ายของมนุษย์มากกว่าด้านดีอยู่แล้ว แล้วมีอะไรที่จะต้องเป็นกังวลอีก?”
“นอกจากนี้ สิ่งที่พวกเขาพูดออกมานั้นถูกต้อง ฉันเป็นคนอารมณ์ร้อน ฉันเป็นคนโง่เขลาที่ไม่กลัวฟ้ากลัวดิน แล้วจะต้องทำยังไงล่ะ? ล้างบาปเหรอ? หรือว่าแสร้งทำเป็นใสซื่อ? ฉันทำมันไม่ได้หรอก! ฉันยอมให้พวกเขาคิดว่าฉันเป็นคนชั่วร้ายไปตลอดชีวิต และได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ดีกว่ามานั่งรักษาภาพลักษณ์ให้สมบูรณ์แบบ”
จากนั้นเธอจึงโบกมือให้กับผู้ชม “ส่วนพวกคุณ ฉันจะให้สิทธิพวกคุณได้พูด แต่ถ้าพูดอะไรไร้สาระออกมา ฉันจะขอใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียงของฉัน อืม…สำหรับบางคน ไว้เราเจอกันในศาลนะจ๊ะ!”
“มันจะมากเกินไปแล้ว! กลายเป็นว่าเจอกันในศาลซะงั้น ท่านเป็นองค์หญิง จะไปขึ้นศาลได้ยังไง! ”
“ใช่เลย! ท่านมันก็แค่คนมีอำนาจที่ชอบรังแกคนไร้ทางสู้!”
“ในเมื่อมีอำนาจ ท่านจะตรวจสอบใครก็ได้!”
…….
ชาวเน็ตโพสต์แสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง พวกเขาทั้งหมดต่างรู้สึกว่าองค์หญิงสามชอบทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่และคอยสร้างปัญหาอยู่เสมอ
“พอได้แล้ว!”
สวี่หลิงอวิ๋นยักไหล่ ก่อนจะมองไปที่โอคาซีและกล่าวว่า “นั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่ชอบพวกเขา พอฉันพยายามจะปกป้องสิทธิของตัวเอง พวกเขากลับพูดว่าฉันทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ หน้าที่ขององค์หญิงคือการปล่อยให้พวกเขาด่าทออย่างนั้นเหรอ?”
ผู้ชมได้ยินคำพูดทั้งหมดของเธอ ทว่ากลับไม่เห็นด้วย!
ฮึ!
ก็แค่องค์หญิงสาม!
ลูตี้รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นผู้ชมทั้งหลายด่าทอองค์หญิงสาม ขณะที่พ่อนายกเทศมนตรีกำลังโอบกอดเธอจากด้านหลังและสัมผัสเธออย่างนุ่มนวล “ยาหยี ต่อจากนี้ไปพ่อคงสัมผัสหนูแบบนี้บ่อย ๆ ไม่ได้อีกแล้ว หนูจะคิดถึงพ่อบ้างไหม?”
ลูตี้รู้สึกสะอิดสะเอียนภายในใจแทบตาย แต่กลับต้องแสร้งทำเป็นยิ้มหวาน “คุณพ่อก็พูดตลกจังนะคะ ต่อให้หนูแต่งงานแล้ว ยังไงหนูก็จะกลับไปหาที่บ้านอยู่ดี!”
นายกเทศมนตรีรู้สึกพึงพอใจ “ดีมาก! ให้ได้แบบนี้สิเด็กดีของพ่อ!”
จากนั้นจึงหันมาดูการถ่ายทอดสดด้วยความพึงพอใจ
ฮึ! องค์หญิงหรือท่านพลเอกหน้าไหนอีกที่ยังสร้างปัญหาให้ฉัน? ทันทีที่องค์ชายสองขึ้นครองบัลลังก์ พวกเจ้าทั้งหมดก็จะถูกกวาดล้างและขับไล่ออกจากจักรวรรดิชิงเหย้า!
เนื่องจากโอคาซีกับสวี่หลิงอวิ๋นจัดการพื้นที่โดยรอบไว้ล่วงหน้า เหล่าปลาหมึกยักษ์จึงไม่ได้มาถึงเร็วนัก!
ในขณะเดียวกัน ช่างแผนกเทคนิคต่างทำงานล่วงเวลา และตอนนี้ทางเชื่อมมิติก็เปิดออกเล็กน้อยแล้ว!
“ทำงานให้หนักขึ้นอีก! ทางเชื่อมมิติกำลังจะเปิดออกแล้ว! หลังจากพวกคุณเปิดมันได้ พวกคุณจะกลายเป็นฮีโร่ของจักรวรรดิ!”
รัฐมนตรีกระทรวงการเทคโนโลยีส่งเสียงให้กำลังใจ และกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ แม้ว่าเขาจะพูดเกินจริงไปมาก!
“เฮ้!” ช่างเทคนิคปาดเหงื่อออกจากศีรษะของเขาและตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป
“ผมจะไปรายงานข่าวดีนี้ให้พระราชาทราบ จากนั้นผมจะเพิ่มเงินเดือนให้พวกคุณทุกคน! ควรส่งเสริมสิ่งที่ควรสิ่งเสริม!”
เสียงของช่างเทคนิคทั้งหลายดังก้องขึ้นอีกครั้ง
ถูกต้อง! หากคุณต้องการผลประโยชน์ คุณควรให้ผลประโยชน์แก่ผู้อื่นก่อนไม่ใช่เหรอ?
เมื่อพระราชาได้ยินข่าวดี พระองค์รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก!
“ดีมาก! เจ้าทำได้ดีมาก! ท่านรัฐมนตรีกระทรวงการเทคโนโลยี!” ก่อนหน้านี้พระราชารู้สึกเศร้าใจจากความคิดเห็นทั้งหลายของชาวเน็ต ทว่าเขากลับรู้สึกดีขึ้นทันทีที่ได้ยินข่าวที่น่ายินดีเช่นนี้
“ใครก็ได้! สั่งกองกำลังทหารให้เตรียมพร้อม และไปรับองค์หญิงสามกลับบ้าน!”
“ครับ!”
พระราชาได้ปัดเป่าความทุกข์ก่อนหน้านี้ออกไปจนหมดสิ้น จิตวิญญาณของเขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก!
รัฐมนตรีกระทรวงการเทคโนโลยีปาดเหงื่อ “คือว่าฝ่าบาท ช่างเทคนิคของเราทำงานหนักกันมาก…”
“เอาล่ะ เอาล่ะ! ข้ารู้ ข้ารู้ดีว่าผู้คนในแผนกเทคนิคของเจ้าต่างทำงานกันหนักในช่วงเวลานี้ ช่างเทคนิคทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมทางเชื่อมมิติจะได้รับการปรับค่าจ้างขึ้น เจ้าไปติดต่อการเงินกับรัฐมนตรีการคลังได้เลย!”
“ครับ!”
รัฐมนตรีกระทรวงการเทคโนโลยีรีบวิ่งไปหารัฐมนตรีกระทรวงการคลัง
สวี่หลิงอวิ๋นกับโอคาซีได้รับข้อมูลดังกล่าวเช่นกัน ทางเชื่อมมิติจะถูกเปิดออกภายในคืนนี้และกองทัพทหารขนาดใหญ่กำลังมาที่นี่
“โอ้! ฉันต้องกลับไปแล้วสินะ น่าเสียดายที่นี่มีปลาหมึกยักษ์เยอะมาก ฉันคงคิดถึงพวกมันแน่ ๆ แล้วจากนี้ไปฉันจะกินพวกมันได้ที่ไหน?!”
ผู้ชมถึงกับน้ำลายสอเมื่อเธอพูดถึงอาหารทั้งหลาย เพียงแค่นึกถึงรสชาติที่แสนวิเศษเหล่านั้น น้ำไหลก็เกือบจะไหลออกมา!
อ๊ะ อาหารที่องค์หญิงสามเป็นคนทำล้วนมีรสชาติที่แสนอร่อยทั้งนั้น!
“ช่างมันเถอะ มาปาร์ตี้ก่อนจะกลับไปกันเถอะ!”
“อะไรนะ? ปาร์ตี้? ปาร์ตี้คืออะไร?”
ผู้ชมถึงกับตกตะลึง!
“องค์หญิงสามกำลังพล่ามอะไรอีก สงครามกำลังมา เธอจะปาร์ตี้อะไร? มันเป็นเรื่องไร้สาระพรรค์ไหนอีก?”
“อาจจะเป็นบ่อไวน์ป่าแห่งเนื้อ!”
………
ทันทีที่สวี่หลิงอวิ๋นเห็นคำว่า ‘บ่อไวน์ป่าแห่งเนื้อ’ เธอถึงกับหัวเราะออกมาอย่างขบขัน “ไม่เลวนี่! ในที่สุดก็มีคนเข้าใจฉันแล้ว ใช่เลย! มันคือบ่อไวน์ป่าแห่งเนื้อ!”
“เจ้าพวกคนโง่ทั้งหลาย แค่รอดูพวกเรากินอาหารเถอะ!”
“ลาลาลา….”