สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 339 การโจมตีของเอเลี่ยนนาการะดับ 10 ดาว
ตอนที่ 339 การโจมตีของเอเลี่ยนนาการะดับ 10 ดาว
ตอนที่ 339 การโจมตีของเอเลี่ยนนาการะดับ 10 ดาว
เหล่าเอเลี่ยนที่ถั่วชมพูเรียกหา มาถึงเมืองหลวงทีละตัว!
ยานรบทั้งหลายเหนือน่านฟ้าจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ได้โจมตีเอเลี่ยนระดับ 9 ดาวที่อยู่บนพื้นอย่างดุดเดือด!
ยอดฝีมือระดับ 9 จำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มออกมารุมล้อมเอเลี่ยนระดับ 9 ดาว
กล่าวได้ว่าคนพวกนี้ทรงพลังมาก! ถึงแม้ว่าเอเลี่ยนระดับ 9 ดาวจะมีพละกำลังที่แข็งแกร่ง และชื่นชอบที่จะลอบโจมตีผู้คน แต่พวกมันก็ยังพ่ายแพ้ต่อมนุษย์!
จอมพลและพลเอกจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่บนยานอวกาศเหนือน่านฟ้า พวกเขายิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อทราบข่าวดังกล่าว
ในที่สุดภัยอันตรายก็ถูกกำจัดออกไป! ขั้นตอนต่อไปคือการจัดการกับอสุรกายยักษ์ระดับ 10 ดาว!
พวกเขาระดมสมองถึงวิธีการหลอกล่ออสุรกายยักษ์ระดับ10 ดาวให้ออกไปโดยปราศจากความขุ่นเคือง แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นความผันผวนของทางเชื่อมมิติในอากาศ?!
ใบหน้าของเหล่าจอมพลทั้งหลายกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง!
เอเลี่ยนจำนวนนับไม่ถ้วนโผล่มาที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์!
และแล้วเอเลี่ยนระดับ 9 ดาวเกือบร้อยตัวก็มาถึงที่นี่! อสุรกายหุ้มเกราะบุกยึดพื้นที่ไปกว่าครึ่ง!
แย่แล้ว! ทหารทั้งหลายเพิ่งยุติการต่อสู้บนพื้นดิน แต่แล้วก็ถูกสายฝนเอเลี่ยนที่ร่วงหลนลงมาจากฟากฟ้าทับตายก่อนได้ทันตั้งตัว!
จอมพลทั้งหลายรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ! นี่คือทหารระดับ 9 ดาวเชียวนะ!
“ไอ้พวกสารเลว! ฉันจะกวาดล้างเอเลี่ยนพวกนี้ให้สิ้นซาก!”
จอมพลรีบออกคำสั่งให้เหล่าทหารยิงปืนใหญ่ใส่เอเลี่ยนทันที!
การยิงปืนใหญ่ไม่ได้ทำให้เอเลี่ยนได้รับบาดเจ็บมากนัก แต่กลับทำให้พวกมันระบายความโกรธออกมาแทน!
สวี่หลิงอวิ๋นขับเคลื่อนยานอวกาศออกไปอย่างชาญฉลาด แต่ก็ไม่วายที่จะพูดเตือนคนกลุ่มนั้นก่อนจากไป “รีบไปเร็ว! เอเลี่ยนมาเยอะมาก ระวังอันตราย!”
“อันตราย?! อ่า! พวกเรามีกันตั้งเยอะยังต้องกลัวอันตรายอีกเหรอ?” จอมพลคนหนึ่งจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋นอย่างเย็นชา “องค์หญิงสามเป็นผู้หญิงนี่เนอะ เราเข้าใจดี รีบออกไปเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
สวี่หลิงอวิ๋นได้ยินคำพูดของเขาเป็นอย่างดี
บัดซบ แกกล้าดูถูกฉันงั้นเรอะ!
ได้! ถ้าอย่างนั้นท่านก็อยู่รอไปเถอะ! ฉันไปก่อนแล้วกัน!
เมื่อพูดจบ เธอก็ขับยานอวกาศออกไปทันที!
ทหารทั้งหลายเข้าไปในเครื่องจักรกลและลงไปต่อสู้บนพื้นอย่างดุเดือด จอมพลผู้วิตกกังวลทั้งหลายต้องการปกป้องทหารของพวกเขาโดยการออกคำสั่งการให้ยานรบเข้าประชิดภาคพื้น ทว่าพวกเขากลับไม่สามารถเข้าไปใกล้เหล่าทหารได้
ในเวลาเดียว เสียงร้องอันน่าตื่นตระหนกของช่างเทคนิคก็ดังขึ้น “ท่านจอมพล แย่แล้วครับ! พวกเราต้องถอนตัวโดยด่วน!”
“มีอะไร!” จอมพลขมวดคิ้วและถามขึ้น
“มี…มีเอเลี่ยน 10 ดาวกำลังมาที่นี่!” ช่างเทคนิคมองดูการแจ้งเตือนบนหน้าจอแสดงความผันผวนของพลังงาน หลังจากนั้นทุกคนก็หันไปมองในอากาศ!
ทางเชื่อมมิติขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้น!
เอเลี่ยนที่คล้ายคลึงกับงู ทว่ามีกรงเล็บจำนวนนับไม่ถ้วนโผล่ออกมา
พวกเขาตระหนักได้ว่านี่คือการต่อสู้กับเอเลี่ยนที่รู้จักกันในนามเจ้าแห่งโลหิต เอเลี่ยนนากา!
มันเป็นเอเลี่ยนประเภทที่ดุร้ายมาก ใครก็ตามที่กล้าท้าทายยั่วยุมัน มันจะตามไล่ฆ่าเป็นหลายพันไมล์จนกว่าคู่ต่อสู้จะจบชีวิตลง!
นากามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?! เมื่อมองดูตำแหน่งเกลียวสีทองอร่ามที่อยู่เหนือศีรษะของอีกฝ่าย นี่คือเผ่าพันธุ์ราชาระดับ 10 ดาวที่ตัวโตเต็มวัย!
เกล็ดสีดำที่ทำมาจากโลหะเปล่งประกายแวววาวไปทั่วทั้งร่างกาย แม้แต่อาวุธชีวภาพทางนิวเคลียร์ก็ไม่สามารถทำลายเกล็ดดังกล่าวได้ ไม่ทำให้มันสะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียว
และนี่คือนากา!
ทันทีที่เอเลี่ยนนากาดิ่งลงมาบนพื้น เอเลี่ยนเกือบทุกตัวก็สยบลงแทบเท้ามัน!
ขนของเจ้าถั่วชมพูลุกซู่ไปทั่วทั้งร่างกาย!
แย่แล้ว! มันกล้าไปลองดีกับนากา! แถมยังเป็นราชานากาอีก!
พระเจ้าช่วย! ถ้ามันถูกฆ่าตาย มันคงจะกลายเป็นเอเลี่ยนเกอหลัวตัวแรกที่ถูกนากาฆ่าตายในประวัติศาสตร์เกอหลัวอย่างแน่นอน!
นัยน์ตาของนากาเป็นสีทองโปร่งแสง ดวงตาของมันจับจ้องไปที่กองทัพทหารและเอเลี่ยนระดับ 9 ดาวที่อยู่บริเวณโดยรอบ มันสูดดมกลิ่น ไม่ใช่เจ้าพวกนี้!
แต่!
ดวงตาของนากาหันไปหามนุษย์ทั้งหลาย เอเลี่ยนพวกนั้นเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน จะฆ่ากันไม่ได้ แต่มนุษย์พวกนี้…
เกลียวบนศีรษะของนากาที่เปล่งประกายสีทองอร่ามพุ่งแทงเผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกคนที่อยู่ในสายตาของมัน!
ยานรบที่อยู่กลางอากาศไม่สนใจอะไรอีกต่อไป รีบสั่งให้ช่างเทคนิคหมุนลำกลับทันที!
แต่ว่ามันจะง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ?!
พลังจิตของนากากว้างใหญ่ไพศาล!
มันใช้พลังจิตปิดกั้นพื้นที่ทั้งหมด! ยานรบที่ต้องการจะทะยานออกไปพบว่าพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนที่ได้!
ขณะที่คอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ส่งสัญญาณเตือนฉุกเฉิน
“…เปิดการใช้งานไม่สำเร็จ! พลังงานภายนอกรบกวน เปิดการใช้งานไม่สำเร็จ!…”
ในใจของทุกคนมีเพียงคำหนึ่งคำ จบเห่! จบเห่แล้ว!
โดยเฉพาะจอมพลอาวุโสที่เยาะเย้ยสวี่หลิงอวิ๋นก่อนหน้านี้รู้สึกเสียใจยิ่งนัก เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา? ทั้งที่มีคนเตือนให้หนีไป แต่พวกเขากลับไม่ยอมไป!?
ตอนนี้เยี่ยมไปเลย! ทุกคนต้องมาจบชีวิตลงที่นี่!
จอมพลอาวุโสถอนหายใจ มองดูพื้นดินที่พังยับเยิน และรอคอยความตายอย่างเงียบ ๆ
นากาตัวนี้ไม่เคยทำให้ผู้คนผิดหวัง แค่ตวัดกรงเล็บเพียงครั้งเดียว ยานรบทุกลำก็ระเบิดออก! ไร้ซึ่งผู้รอดชีวิต!
มนุษย์ที่รอดตายเคลื่อนย้ายไปยังชั้นใต้ดินอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พวกเขากลับรู้สึกสิ้นหวังยิ่งขึ้น!
เหมยหมี่รับรู้สถานการณ์ล่าสุดบนภาคพื้นดิน เธอสั่งปิดระบบสัญญาณทั้งหมด ไม่อนุญาตให้ใครเปิดระบบพลังงาน และไม่อนุญาตให้ใครส่งเสียงดัง
ตอนนี้ปีกพิสุทธิ์กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาที่อันตรายอย่างแท้จริง!
มีระดับ 10 ดาวอยู่สองตัว และระดับ 9 ดาวอีกจำนวนนับไม่ถ้วน!
ปีกพิสุทธิ์กำลังจะพังพินาศลง!
หวังว่าพี่ชายของเธอจะยังมีชีวิตอยู่และไม่เป็นอะไร การบั่นทอนความแข็งแกร่งของจักรวรรดิอื่นเป็นสิ่งเดียวที่น้องสาวอย่างเธอจะทำเพื่อจักรวรรดิและพี่ชายของเธอได้
สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับพูดไม่ออก นี่คือพลังที่แท้จริงของเอเลี่ยนระดับ 10 ดาวใช่ไหม? สามารถกำจัดยานรบได้ด้วยกระบวนท่าเพียงไม่กี่ท่า!?
ไม่แปลกใจที่เมื่อยี่สิบปีที่แล้วยอดฝีมือจำนวนมากจะล้มตายลงเพียงเพราะราชาเอเลี่ยนตัวเดียว!
ช่างน่าเศร้าอะไรเช่นนี้!
สวี่หลิงอวิ๋นเฝ้าดูสถานการณ์เงียบ ๆ เธอสงสัยว่าเสี่ยวอ้ายจะสามารถรับมือได้หรือไม่?
เสี่ยวอ้ายจะรับมือได้ไหม? ต้องได้อยู่แล้วสิ!
มันมีชีวิตอยู่มานานนับพันปี ตอนนั้นเอเลี่ยนกำลังกลายพันธุ์ ขณะที่มันชำนาญจนคล่องแคล้ว และในที่สุดเอเลี่ยนก็พัฒนามาจนถึงจุดสูงสุด
เห็นได้ชัดว่าเจ้านากาตัวนี้รู้จักเสี่ยวอ้าย
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่…ฟ่อ!” นากาพรั่งพรูคำพูดออกมา “อึดอัดจะตายอยู่แล้ว ทำไมจะต้องมาเรียนพูดกับเจ้าด้วยเนี่ย?! ฟ่อ!”
เสี่ยวอ้ายกลอกตา “ก็เสี่ยวอ้ายพอใจแบบนี้! โฮ่ง!”
ถั่วชมพูที่ตัวสั่นเทารู้สึกเคารพเสี่ยวอ้ายมากขึ้นเล็กน้อย!
มันรู้ดีว่านากาตัวนี้คือนากาเผ่าพันธุ์ราชา!
แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะรู้จักกันดี เรียกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เลวเลย!
“เมี้ยว! เสี่ยวอ้าย แกรู้จักมันด้วยเหรอ!?” ถั่วชมพูค่อย ๆ คลานไปที่หูของเสี่ยวอ้าย และเอ่ยถาม
“มันเป็นเพื่อนบ้านกับฉันมาหลายปีแล้ว ก็ต้องรู้จักสิ!” เสี่ยวอ้ายเล่า “เจ้าตัวนี้ชอบต่อสู้มากเลยล่ะ ทุกครั้งที่มันแพ้ มันไม่เคยยอมรับผลต่อสู้ และจะขอสู้ใหม่ทุกครั้ง”
“พอผ่านไปพันปี เราก็เข้าใจกัน!”