สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 369 เผ่าพันธุ์เงือก
ตอนที่ 369 เผ่าพันธุ์เงือก?
ตอนที่ 369 เผ่าพันธุ์เงือก?
ในที่สุดนากาก็สมใจตามความปรารถนาของมัน อีกทั้งสวี่หลิงอวิ๋นยังมอบปุ่มมิติกักเก็บให้มัน เพื่อที่จะได้เก็บสิ่งของไว้เป็นพิเศษ
ทำให้ช่วงนี้นากาน้ำหนักขึ้นเยอะมาก!
นอกจากนอนดูโทรทัศน์ เล่นเกม และกินแล้ว จิตวิญญาณความเป็นผู้นำอันแรงกล้าหายไปไหนหมด?!
ตอนนี้มันกลายเป็นสมาชิกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในพระราชวัง!
เนื่องจากเสี่ยวอ้ายติดตามสวี่หลิงอวิ๋นไปทุกหนทุกแห่ง ในขณะที่นากาเอาแต่อยู่ที่พระราชวังเพราะมันต้องการดูโทรทัศน์!
องค์ชายใหญ่แวะมาครั้งคราวเพื่อต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีงามกับนากา แต่กับคาดไม่ถึงว่านิสัยตรงไปตรงมาขององค์ชายใหญ่กับนากาจะเข้ากันได้ดี!
เอเลี่ยนหุ้มเปลือกบนดาวเคราะห์หงหยางถูกจัดการราบคาบ พวกมันถูกแรงกดดันของถั่วชมพูบดขยี้จนลงไปกองกับพื้น และไม่สามารถลุกขึ้นมาได้!
เอเลี่ยนหุ้มเปลือกระดับ 9 ดาว อดไม่ได้ที่จะร้องไห้อีกครั้ง!
เพิ่งหนีออกมาจากถ้ำหมาป่า กลับวิ่งมาเจอเสืออีก?! ทำไมชีวิตของมันช่างขมขื่นนัก!
ถั่วชมพูโบกสะบัดหางด้วยความพึงพอใจ นี่คือวิธีการเปิดฉากสิบดาวที่ถูกต้อง!
ดูสิว่าพวกเอเลี่ยนหุ้มเปลือกจะกลัวมันแค่ไหน?! ฮ่า ๆๆๆๆ! ถั่วชมพูรู้สึกถึงชัยชนะ เชิดหางขึ้นสูงจนคนที่ไม่รู้คิดว่ามันกำลังมีความรัก!
ฮึ!
ชาวชิงเหย้าจัดเตรียมจาน ขณะที่สวี่หลิงอวิ๋นเพิ่มวิดีโอการสอนทำเอเลี่ยนหุ้มเปลือกในร้านค้าของเธอได้ทันเวลา รวมถึงป้อนข้อมูลให้กับแขนกล
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเครื่องปรุงรส!
มันเป็นสินค้าเพียงสิ่งเดียวที่ผู้คนต่างแย่งกันซื้อ!
ประชากรผู้อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ที่ถูกจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์คัดออกก็เข้าร่วมกระบวนการซื้อขายเช่นกัน!
[เฮ้ย! พวกคุณไม่กินกันไม่ใช่หรือไร?! ทำไมถึงได้มาแย่งกับพวกเราล่ะ?!]
นี่คือเสียงเรียกร้องจากจิตวิญญาณของชาวชิงเหย้าดั้งเดิม!
ถึงแม้พวกเขาจะรู้สึกดีใจที่ทุกคนเริ่มรู้จักวิถีการกินอันแสนพิเศษของพวกเขา ทว่าเครื่องปรุงพวกนี้มีจำนวนน้อยมาก มาแย่งกันแบบนี้ ทำเกินไปหรือเปล่า?!
[อย่าขี้งกนักเลย! ทุกคนก็คือชิงเหย้านั่นแหละ ทำไมต้องมามองกันแบบคนนอกด้วย?]
ชาวปีกพิสุทธิ์มีความหน้าด้านสูงมาก พวกเขาไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติกับเรื่องนี้ อีกทั้งยังปลอบโยนพวกชิงเหย้า!
[พวกคุณทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้! ตอนนี้พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว จงทำตัวให้ชินซะ! อีกอย่างพวกเรายังมีสินค้าพิเศษอยู่ ยินดีให้พวกคุณมาซื้อด้วยกัน!]
ชาวปีกพิสุทธิ์ก็หันมาใช้สินค้าพิเศษของพวกเขาเช่นกัน!
หลังจากที่ผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ถูกคัดสรรออกมาแล้ว ประชากรจากจักรวรรดิอื่น รวมถึงชาวปีกพิสุทธิ์เองก็เฝ้าจับตามองด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงระหว่างจักรวรรดิหนึ่งที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอีกจักรวรรดิ ไม่ว่าจะเป็นการเมืองหรือเศรษฐกิจ รวมทั้งวัฒนธรรมและศาสนาต่าง ๆ
พวกเขาอยากจะเห็นว่าผู้คนที่ปฏิเสธการย้ายออกจากดาวเคราะห์ดวงดังกล่าวจะเสียใจอย่างไร โดยหวังว่าคนเหล่านั้นจะพรรณนาถึงความโชคร้ายบนหัวข้อกระทู้ แต่กลับกลายเป็นว่า?!
[อา! ปลาหมึกกระป๋องอร่อยจัง! พอกินมันแล้วฉันได้เลื่อนขั้นด้วยล่ะ! แต่พวกคุณคงไม่ได้สนุกแบบนี้หรอก! ฮ่า ๆๆๆๆ!]
[หมูสามชั้นซอสแดงอันนี้อร่อยนะ! ฉันชอบมันมาก! ครอบครัวของเราวางจานกันไม่ลงเลยล่ะ!]
[มันเทศหวานจงเจริญ! ทั้งหวานทั้งหนึบหนับ! อร่อยกว่าเค้กอีก!]
[ว้าว ๆๆ! คนจากจักรวรรดิชิงเหย้ามีความสุขกันแบบนี้นี่เองสินะ! ไม่แปลกใจที่พวกเขาส่งต่ออาหารกันทุกวัน อาหารของชิงเหย้าอร่อยจริง ๆ! ขอบคุณองค์หญิงสามที่มอบอาหารอร่อยแบบนี้ให้พวกเรา!]
…
ผู้คนจากจักรวรรดิอื่นเฝ้าดูประชากรที่ถูกคัดแยกออกมาโอ้อวดอาหารอันแสนอร่อยของพวกเขาทุกวัน และดูเหมือนว่าทุกคนจะจมอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุข!
เนื่องจากประชากรชิงเหย้าหลงรักการกินเป็นชีวิตจิตใจ สินค้าพื้นเมืองของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จึงถูกประชากรชิงเหย้าผู้ขี้สงสัยกวาดซื้อไปจำนวนมาก ทุกคนได้เห็นวิธีการทำอาหารแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ศรีเรือนผู้ฉลาดหลักแหลมได้เรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมนี้ และปลดล็อกอาหารอันแสนอร่อยมากมาย
ตอนนี้จักรวรรดิชิงเหย้าได้รับการยกย่องจากจักรวรรดิอื่นว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวศักดิสิทธิ์ที่ไม่ควรพลาด!
ไม่รู้ว่าเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยแหล่งท่องเที่ยวมีมากน้อยขนาดไหน!
เมื่อไม่นานมานี้สวี่หลิงอวิ๋นกำลังยุ่งอยู่กับการส่งต่องาน เพราะเธอวางแผนจะพาสัตว์เลี้ยงไปตามล่าหาเอเลี่ยนและดาวเคราะห์ดวงอื่น
เนื่องจากว่าดาวเคราะห์จำนวนมากมายในจักรวาลแห่งนี้คือดินแดนที่ไร้ซึ่งเจ้าของ
บางดวงหลุดออกไปจากวงโคจร บางดวงตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย และส่วนใหญ่ถูกเอเลี่ยนครอบงำอย่างแน่นหนา
ทันทีที่เธอเตรียมตัวพร้อม แลนเซล็อตก็ส่งข้อความมาหาเธอ
“ลูกพี่ลูกน้องของผมอยากพบท่าน พอจะสะดวกไหมครับ?” ใบหน้าของแลนเซล็อตดูจริงจัง ราวกับว่ามีบางอย่างที่สำคัญเกิดขึ้น
หลังจากสวี่หลิงอวิ๋นครุ่นคิดเรื่องนี้เป็นเวลานาน เธอก็นึกขึ้นได้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาคือกิบสัน ชายหนุ่มรูปงามตัวน้อยที่มีเกล็ดสีฟ้าอยู่ข้างหลังใบหู
“เกิดอะไรขึ้นกับเขา? โอ้! อยากได้ของอร่อย ๆ ใช่ไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นพูดติดตลก
“เขากำลังจะเลื่อนขั้น!” แววตาของแลนเซล็อตเผยให้เห็นความวิตกกังวล ผสมปนเปกับความยินดี
การเลื่อนขั้นเป็นสิ่งดีงาม ทว่ากลับมีปัญหาเกิดขึ้น
เขาเลื่อนขั้นได้อย่างไร? ทำไมพวกเขาถึงหาเหตุผลไม่เจอ? แต่เป็นเพราะว่าเมื่อไม่นานมานี้ลูกพี่ลูกน้องได้กินอาหารขององค์หญิงสาม ไม่รู้ว่าอาหารเหล่านั้นคือต้นเหตุการเลื่อนขั้นของลูกพี่ลูกน้องหรือเปล่า
แต่ลูกพี่ลูกน้องเป็นลูกผสมนางเงือกจากจักรวรรดิดาวสมุทร ดังนั้นการเลื่อนขั้นของเขาจะเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของชาวเงือกด้วย
วิวัฒนาการของกิบสันเชื่อมโยงกับหัวใจของทุกคน และทุกคนต้องการรู้ว่าสวี่หลิงอวิ๋นให้กิบสันกินอะไรเข้าไป!
บางทีมันคือความลับแห่งการวิวัฒนาการ
สวี่หลิงอวิ๋นครุ่นคิด เธอมอบอาหารให้เขาหลายอย่าง จะจำทั้งหมดได้อย่างไร?!
ว่าแต่ชาวเงือกอย่างนั้นเหรอ? ว่ากันว่านางเงือกงดงามดั่งเทพธิดา อยากรู้ดวงตาของเธอจะได้จับจ้องชาวเงือกในตำนานบ้างหรือไม่?!
“ท่านอยากมาหากิบสันไหม?” องค์ชายรัชทายาทกำลังมีปัญหา
เนื่องจากเงือกเป็นเผ่าพันธุ์ที่เกลียดชังชาวต่างกลุ่ม อาของเขาจึงพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะทำความรู้จักกับเงือก จนได้แต่งงานกับน้าสาว ถึงอย่างนั้นช่วงเวลาที่เขาได้พบกับน้าก็มีจำกัดเหลือเกิน
สวี่หลิงอวิ๋นคิดว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นเรื่องราวเช่นนี้
แลนเซล็อตทำได้เพียงกล่าวขอโทษที่ทำให้สวี่หลิงอวิ๋นต้องรอ เนื่องจากเขาต้องถามความยินยอมก่อน
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าอาของเขาจะตอบตกลงกะทันหัน!
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก จำเป็นจะต้องขอร้องให้องค์หญิงสามเดินทางมาที่นี่!”
อาของแลนเซล็อตพูดต่อว่า “บอกองค์หญิงสามทีว่า หากสามารถค้นพบความลับวิวัฒนาการของกิบสันได้ ชาวเงือกก็เต็มใจจะยกฝ่าบาทให้เป็นเพื่อนพ้อง และเดินทางมาท่องเที่ยวที่ดาวสมุทรได้อย่างอิสระเสรี”
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจ!
เธอเคยได้ยินว่ามีเผ่าพันธุ์แปลกประหลาดมากมายอยู่นอกเหนือจากสหภาพห้วงดวงดาว แต่ว่าเผ่าพันธุ์นี้กลับทรงพลังและไม่เต็มใจจะคลุกคลี่กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพราะฉะนั้นจึงมีไม่กี่คนที่ได้ไปเยือนที่นั่น
อาของแลนเซล็อตบังเอิญไปเจอจักรวรรดิดาวสมุทรก่อนที่เขาจะได้พบกับเงือกสาว และสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการเป็นสามีภรรยา
มีคำกล่าวไว้ว่าความรักของทั้งสองคนนี้เป็นตำนานมากเช่นกัน ถ้าไม่ใช่ว่ายังมีชีวิตอยู่หรืออยู่ในราชวงศ์ คาดว่าหลายคนคงนำเอาเรื่องนี้ไปทำเป็นละครโทรทัศน์จนได้รับความนิยมไปนานแล้ว!