สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 387 อาวุธลับ
ตอนที่ 387 อาวุธลับ
ตอนที่ 387 อาวุธลับ
ปรากฏตัวได้เท่มาก จนกาน่าสุดหล่อแทบจะล้มตึงกับพื้น!
สิ่งมีชีวิตสองขาหมายความว่ายังไง? ภาษาถิ่นที่ห่วยแตกนั้นคืออะไร? กาน่าผู้ยิ่งใหญ่ไม่เข้าใจ!
เสี่ยวอ้ายเฝ้าดูสถานการณ์อยู่กลางอากาศ หากมีอะไรผิดพลาด มันจะรีบลงมาคุ้มกันทันที
นอกจากนี้ นายท่านดูเหมือนจะรับมือกับสถานการณ์ได้อยู่!
ต้องบอกว่าพรสวรรค์ของนายท่านเป็นเลิศยิ่งนัก! อย่างไรก็ตามเธอแทบจะเอาชนะอสุรกายกาน่าตัวนี้ไม่ได้เลย
อสุรกายกาน่าเป็นอสุรกายชนิดหนึ่งในเขตดาวต่างแดน ความแข็งแกร่งของมันถือได้ว่าเป็นระดับกลางในหมู่อสุรกาย เป็นอสุรกายร้ายที่มีสติปัญญาและชื่นชอบการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ
หลังจากอสุรกายร้ายถูกสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาจับกุม มันจะลดระดับสติปัญญาของตัวมันลง ต่อให้ขนาดตัวจะใหญ่โตสักแค่ไหน แต่สติปัญญาของมันจะเหลือเท่ากับเด็ก 10 ขวบเท่านั้น มันโลภมาก มีทั้งความสามารถ และพละกำลังที่แข็งแกร่ง
มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่ชนชั้นสูงผู้มีสติปัญญาต้องมีไว้ติดบ้าน!
“แง ๆๆ!” กาน่าจ้องมองไปยังหญิงสาว มันสูดดมกลิ่นของเธอ และรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีกลิ่นหอมมาก!
เอ๊ะ? กลิ่นนี้มันคล้ายกับ…อะไรกันนะ?! มันคิดไม่ออก ทว่าน้ำลายกลับไหลลงมาเป็นสาย!
อา! ผู้หญิงคนนี้ต้องอร่อยมากแน่! มองดูผิวขาวเนียนละเอียด! เนื้อคงจะหอมนุ่มหนึบหนับด้วย!
มันร้องคำราม และอ้าปากอันเปื้อนเลือดไปทางสวี่หลิงอวิ๋น!
โอคาซีรีบกระโดดเข้าไปขวางทันทีที่เห็นเช่นนั้น เขาผลักสวี่หลิงอวิ๋นลงไปที่พื้น แต่แล้วอสุรกายร้ายกลับต้องกระโดดโลดเต้นไปมา!
มันปิดตาแน่น! ผู้หญิงคนนี้เอาอะไรมาใส่ในดวงตาของมัน?!
สวี่หลิงอวิ๋นโรยอะไรลงไป? แน่นอนว่ามันคือพริกไทยเสฉวน ผงยี่หร่า และผงพริก!
เมื่อเธอได้ยินว่าจะต้องมาช่วยเหลือจักรวรรดิไอเดน เธอก็เตรียมอุปกรณ์การทำเนื้อบาร์บีคิวเพื่อมาดื่มด่ำกับอาหารที่นี่ด้วย แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างที่เธอเดินทางมาที่นี่?!
ดวงตาของอสุรกายร้ายระคายเคืองเพราะผงพริก แต่แล้วมันก็ได้กลิ่น ผงยี่หร่าที่ช่างหอมหวนยั่วยวนนัก!
มันตวัดลิ้นขนาดใหญ่ออกมา แม้เลียเครื่องปรุงรสบนใบหน้าของตัวเองออกไปแล้ว ทว่าดวงตาของมันก็ยากที่จะเปิดออกท่ามกลางน้ำตาที่เอ่อล้น!
มันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น! ในไม่ช้าดวงตาของมันก็เบิกกว้าง รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วทั้งร่างกาย ร่างกายเต็มไปด้วยรูเลือดที่ถูกลูกธนูสีทองทิ่มแทง ไม่นานนักลูกธนูสีทองก็จางหายไป!
กาน่าเดือดจัด! แม้ว่าอาการบาดเจ็บจะไม่ร้ายแรงนัก แต่มันกลับโมโหที่ถูกพวกแมลงชั้นต่ำยั่วโมโห!
มันลุกขึ้นยืน พร้อมกับเปลวไฟที่ลุกโชนไปทั่วทั้งร่างกาย ทุกย่างก้าวลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ ตรงดิ่งไปหาสวี่หลิงอวิ๋น!
ความว่องไวของสวี่หลิงอวิ๋นยังไม่เร็วเท่าโอคาซี แม้ว่าเธอจะผลักโอคาซีออก “หนีไป!”
ทว่าโอคาซีไม่ทำเช่นนั้น เขากอดรัดสวี่หลิงอวิ๋นและวิ่งหนีไป!
อสุรกายร้ายพ่นเปลวไฟไล่ตามหลัง ทั้งสองยกเกราะป้องกันขึ้นเพื่อปิดกั้นเปลวไฟ แต่ปัญหาก็คือเปลวไฟของอสุรกายร้ายส่งผลต่อการใช้พลังดวงดาวด้วยเช่นกัน
โชคดีที่ทั้งสองมีต้นไม้แห่งชีวิต พลังจิตจึงถูกกักเก็บเอาไว้อย่างต่อเนื่องเพื่อเติมเต็มให้พวกเขา เพื่อที่เกราะป้องกันของพวกเขาจะได้ไม่จางหายไป
“ทำยังไงดี!?” สวี่หลิงอวิ๋นกัดฟันแน่น “วิ่งเข้าไปหาพวกเอเลี่ยน!”
เอเลี่ยนหุ้มเปลือกพวกนั้นคงจะก่นด่าหากพวกมันได้ยินคำพูดของสวี่หลิงอวิ๋น!
จะต้องเกลียดชังกันขนาดไหน? ถึงได้จงใจฆ่าพวกมันแบบนี้?!
การต่อสู้ของพวกเจ้ามันไม่ดีพอใช่ไหม?!
ดีพอหรือเปล่า? ไม่ได้เรื่องเลยต่างหาก!
สวี่หลิงอวิ๋นต้องการยืมมือให้อีกฝ่ายเข้ามาช่วย โดยการปล่อยให้ราชาเอเลี่ยนต่อสู้กับอสุรกายร้าย!
เสี่ยวอ้ายมองดูสถานการณ์ด้านล่าง อืม! นายท่านทำได้ดีมาก! ประสบการณ์การต่อสู้และปฏิกิริยาตอบกลับเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว!
ท้ายที่สุด เธอคือนายท่านของเสี่ยวอ้าย!
เสี่ยวอ้ายหลงคิดว่าโอคาซีคนนี้ก็ไม่แย่ เขารับรู้ได้ถึงสถานการณ์วิกฤต และยังพานายท่านหลบไปพร้อมกัน! สมแล้วที่เป็นสุภาพบุรุษ!
เอเลี่ยนเหล่านั้นโชคร้ายมาก พวกมันมาถึงดาวเคราะห์แปลกประหลาดของพวกมนุษย์ แต่กลับไม่คาดคิดว่าอสุรกายร้ายจะตามมาที่นี่ด้วย ดังนั้นเจ้าก็ไปสู้กับมนุษย์ก่อนสิโว้ย!
มนุษย์พวกนี้คงจะสมองป่วย เจ้าสู้กับอสุรกายร้ายไม่ได้เอง แล้วจำเป็นจะต้องนำทางให้อสุรกายร้ายเบนเข็มมาหาพวกข้าด้วยเหรอ?!
เอเลี่ยนเพิ่งจะนั่งพักได้ไม่ถึงครึ่งวัน มันก็ต้องกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง!
วิ่ง!
เอเลี่ยนหุ้มเปลือกตัวหนาที่สูงถึง 10 เมตร วิ่งนำหน้าพวกเธอไปอย่างกระฉับกระเฉง โอคาซีกระโดดขึ้น และข้ามหัวของพวกมันไป!
เดิมทีมันจะต้องควงครีบเพื่อต่อสู้กับเหล่ามนุษย์อย่างสิ้นหวัง แต่ตอนนี้พวกมันไม่สนใจแล้ว!
อสุรกายร้ายโจมตีพวกมันด้วยเปลวเพลิงอย่างไม่เลือกหน้า เอเลี่ยนหุ้มเปลือกที่ถูกโจมตีล้วนโดนย่างจนส่งกลิ่นหอม!
กาน่าได้กลิ่นเนื้อย่างแล้วแทบจะหยุดวิ่ง แต่เมื่อเห็นว่ามนุษย์ทั้งสองคนยังคงวิ่งอยู่ มันก็พ่นไฟออกไปอีกครั้งและวิ่งตามต่อ!
กาน่าผู้ยิ่งใหญ่จะต้องจับมนุษย์สองคนนี้ให้ได้! จะเอาไปย่างกิน!
หนังหัวของราชาเอเลี่ยนหุ้มเปลือกรัดแน่นขึ้น แน่นอนว่ามันไม่มีหัวหรอก มีเพียงเปลือกส่วนหัวเท่านั้น และเปลือกส่วนหัวของมันก็มึนงงไปชั่วขณะ!
ทันทีที่มันหันกลับมาแล้วเห็นมนุษย์ทั้งสองคนวิ่งมาทางมัน มันก็ทะยานหนีไปอีกครั้ง!
มันเตรียมจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แล้วเอเลี่ยนตัวหนึ่งก็ถูกมนุษย์ทั้งสองคนโปรยผงบางอย่างใส่ จนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เพราะดวงตาของมันเริ่มแสบร้อน!
มันคือบ้าอะไร! น่าขนลุกชะมัด!
อสุรกายร้ายที่อยู่ด้านหลังได้กลิ่นผงยี่หร่าอีกครั้ง กลิ่นนี้! อสุรกายร้ายหยุดวิ่ง จ้องมองไปที่เอเลี่ยนหุ้มเปลือกระดับ 10 ดาวที่กำลังใช้ครีบของมันเช็ดดวงตา
มันได้กลิ่นแล้ว หอมมาก! เอาไปย่างดีไหม?!
แม้ว่าเอเลี่ยนหุ้มเปลือกจะไม่สามารถลืมตาได้ แต่มันก็รับรู้ได้ว่ามีสิ่งชีวิตระดับ 10 ดาวอยู่ตรงหน้ามัน รังสีของอีกฝ่ายชวนให้รู้สึกสะพรึงกลัวกว่าของมันมาก ราวกับอสุรกายจากขุมนรก!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย เอเลี่ยนหุ้มเปลือกจึงเริ่มลงมืออย่างรวดเร็ว! ด้วยการใช้ครีบตีเข้ากับจมูกของอสุรกายร้าย!
อสุรกายร้ายรู้สึกเจ็บปวด และเมื่อหันกลับมามอง เอเลี่ยนหุ้มเปลือกก็วิ่งหนีไปแล้ว!
กาน่าโกรธจัด…
บัดซบ! ยั่วโมโหมันอยู่ได้!
ในฐานะอสุรกายร้าย มันรู้สึกว่ากำลังโดนท้าทายศักดิ์ศรี มันจึงเริ่มวิ่งไล่ตามเอเลี่ยนหุ้มเปลือก
สวี่หลิงอวิ๋นกับโอคาซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ได้พักสักที!
แม้ว่าอสุรกายกาน่าจะมีความแข็งแกร่งระดับกลางในเขตดาวต่างแดน แต่ที่นี่มันจะยังคงเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตระดับ 10 ดาวเท่านั้น และจัดอยู่ในระดับเดียวกันกับเอเลี่ยนหุ้มเปลือก เพียงแต่มันจะแข็งแกร่งกว่าเอเลี่ยนหุ้มเปลือกก็เท่านั้น
ราชาเอเลี่ยนหุ้มเปลือกที่เอาแต่วิ่งหนีในคราวแรก แต่ตอนนี้มันได้เรียนรู้ถึงความหวาดกลัวแล้ว หลังจากถูกลูกไฟของกาน่าโจมตีอยู่สองสามที มันก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่ามัน!
จากนั้นจึงเริ่มสู้!
ระดับสติปัญญาของราชาเอเลี่ยนหุ้มเปลือกอยู่สูงกว่ากาน่าที่ถูกยับยั้งสติปัญญา จากนั้นไม่นานมันก็ค้นพบความแข็งแกร่งทั้งสองด้านของศัตรู และการเผชิญหน้าก็เริ่มต้นขึ้น