สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 434 ชัดเจน
ตอนที่ 434 ชัดเจน
ตอนที่ 434 ชัดเจน
อวี้ซินชื่นชมความเฉลียวฉลาดของโอคาซีเป็นอย่างมาก ตั้งแต่นั้นมาอวี้ซินก็เคารพเขาในฐานะอาจารย์!
ตอนนี้การจัดการช่องรั่วไหลเป็นคำถามแรกที่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้า ไม่รู้ว่าควรจะบอกจอมพลเอเดนด้วยวาจาที่สุภาพอย่างไรดีว่าองค์ชายคนโปรดของเขาคือบัวลอยงาดำ?!*[1]
ด้วยเหตุนี้ สวี่หลิงอวิ๋นจึงทำบัวลอยงาดำให้เขาเป็นเวลาสองสามวัน
เพื่ออ้างอิงถึงการอุปมาเป็นพิเศษ!
“จอมพลเอเดน คุณคิดว่าบัวลอยงาดำดูเหมือนอะไรบ้างคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นถาม
“ดูเหมือนอะไร? โอ้! ผมคิดออกแล้ว! เหมือนเกี๊ยวไง!” เมื่อไม่นานมานี้ สวี่หลิงอวิ๋นทำเกี๊ยวได้ถูกใจเขามาก หลังจากกินมันติดต่อกันหลายวัน เขาก็ยืนกรานจะให้สวี่หลิงอวิ๋นทำเกี๊ยวเพิ่ม และสั่งให้หุ่นยนต์บรรจุใส่ห่อให้เขาเอากลับไปกินที่บ้าน
“ฉันหมายถึงมันดูเหมือนองค์ชายรองไหมคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นพูด “คุณลองดูสีขาวข้างนอกนี้สิคะ ดูดีมากเลย!”
“ใช่ ๆ! คุณพูดถูก! ส่วนสีดำมืดนั่นคือความรู้! คำอธิบายของคุณสมบูรณ์แบบมากครับ!”
จบสิ้นแล้วสวี่หลิงอวิ๋น!
เธอยังไม่ยอมแพ้ และพูดต่อว่า “แล้วคุณคิดว่าบัวลอยงาดำนี้ดูเหมือนองค์ชายใหญ่ไหมคะ?”
“เหมือน! องค์ชายใหญ่ชอบใส่เสื้อผ้าสีดำ! แถมยังชอบอวดเบ่ง!”
จอมพลเอเดนพูดออกไปอย่างมีชัย “องค์ชายใหญ่คงคิดว่าผมไม่รู้ว่าเขาหลงตัวเอง!”
สวี่หลิงอวิ๋นจบสิ้นอีกครั้ง!
“แล้วคุณว่าเหมือนองค์ชายสามไหมคะ?!”
“เหมือน!” จอมพลเอเดนพูด “ปกติแล้วคนนี้ชอบทำตัวแอบลักขโมย ก็ต้องเป็นเหมือนน้ำเสียสีดำใช่ไหม?!”
อื้ม! ในที่สุดคุณก็หาคำตอบได้สักที!
“แล้วคุณเคยคิดบ้างไหมคะว่าองค์ชายรองจะเป็นเหมือนน้ำเสียในบัวลอยงาดำ?”
“องค์ชายรอง? จะเป็นไปได้ยังไง?” จอมพลเอเดนหัวเราะ “ผมเฝ้าดูองค์ชายรองเติบโตขึ้นมา เขาเป็นคนอ่อนโยน สุภาพมาตั้งแต่เด็ก แล้วจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงครับ?”
“บางทีแม้เขาจะหุ้มไปด้วยเปลือกสีขาว แต่คุณจะรู้ไหมว่าเขาทำอะไรลับหลังบ้าง?”
สวี่หลิงอวิ๋นแทบจะชี้ไปที่หัวของจอมพลเอเดนและพูดว่าองค์ชายรองเป็นคนเลวต่างหากละโว้ย!
แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดออกไป ความประทับใจของบุคคลหนึ่งที่สะสมมาตลอดหลายปี เพียงแค่คำพูดง่าย ๆ ของเธอจึงไม่อาจหักล้างทัศนคติของอีกฝ่ายได้
บอกได้แค่ว่าจะต้องสงวนท่าทีกับจอมพลเอเดน และต้องไม่บอกอะไรที่เป็นความลับแก่เขา
จอมพลเอเดนดื่มด่ำกับรสชาติอาหารด้วยรอยยิ้ม จนกระทั่งกลับบ้านไป
ทันทีที่เขากลับไปถึงบ้าน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป รอยยิ้มบนใบหน้าเปลี่ยนเป็นไม่ยี่หระ ดูเรียบนิ่งจนน่ากลัว
เขาจำสิ่งที่สวี่หลิงอวิ๋นพูดได้ดี และไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าอีกฝ่ายพยายามจะใบ้ให้เห็นถึงปัญหาขององค์ชายรอง
เขาเริ่มนึกถึงความสัมพันธ์กับองค์ชายรองและสิ่งต่าง ๆ ที่ตัวเองพบเจอมาตลอดทั้งปี
มีอะไรผิดปกติกับองค์ชายรองอย่างนั้นเหรอ? เขาจะต้องพิสูจน์ให้ได้
ทัศนคติของสวี่หลิงอวิ๋นแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของอวี้ซินในระดับหนึ่ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ร่วมมือกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ ไม่ใช่เพื่อตอบแทนบุญคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางแผนสร้างความกว้างขวางให้กับตัวเองในอนาคต
ต้องบอกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นมาก และพรสวรรค์เหล่านี้ได้ให้คำแนะนำทางการเมืองที่จะเป็นไปได้ในอนาคตแก่เขา จนทำให้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากจอมพลธรรมดาเป็นจอมพลคนแรก
สิ่งนี้ยังทำให้เขาตระหนักได้ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เฉลียวฉลาดมาก แม้แต่สติปัญญาของพวกมนุษย์ยังแข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธุ์อันชาญฉลาดของเขา
คุณหญิงชาช่าเดินเข้ามาดูใบหน้าเรียบนิ่งของสามี รับรู้ได้ว่าสามีจะต้องพบเจอเหตุการณ์ที่ร้ายแรงมา ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่แสดงสีหน้าเช่นนี้
“เกิดอะไรขึ้นคะ? มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณหรือเปล่า?”
“ไม่หรอก ผมแค่คิดว่าผมกำลังถูกไอ้เด็กเวรนั่นปลิ้นปล้อนใส่” จอมพลเอเดนไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดอะไรกับภรรยาดี
ดังนั้นเขาจึงเล่าเรื่องการอุปมาบัวลอยงาดำของสวี่หลิงอวิ๋นให้เธอฟัง
“คุณก็รู้ว่าสติปัญญาของพวกมนุษย์ไม่ธรรมดา ในเมื่อคุณสวี่พูดแบบนั้น ก็หมายความว่าเรื่องนี้จะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล คุณลองไปคุยกับอวี้ซินเรื่องนี้ดูสิคะ”
“ผมรู้ แต่ว่าตอนนี้ผมไม่ไว้ใจใครเลย” จอมพลเอเดนพูดออกมาอย่างเฉื่อยชา “เราเฝ้าดูองค์ชายรองเติบโตมาตลอด เขาอ่อนโยนและจิตใจดี จะกลายเป็นคนแย่แบบนั้นได้ยังไง?”
ครั้งหนึ่งเขาคิดว่าองค์ชายรองจะเป็นเหมือนกับองค์ชายทั้งสอง แสร้งทำเป็นสมบูรณ์แบบเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากเขา แต่เรื่องนี้กลับทำให้เขาไม่สบอารมณ์นัก
ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายหลอกลวง แต่เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังทำให้เขาเป็นคนโง่ และนั่นทำให้เขารู้สึกเสียใจมาก
“ผมขอไปตรวจสอบก่อนแล้วกัน”
คุณนายชาช่าตบไหล่เขาและไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่ใช้ภาษากายเพื่อสนับสนุนความคิดเห็นของเขา
ทว่าการสืบสวนไม่ง่ายนัก เพราะจะต้องไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ และจะต้องไม่ให้ใครค้นพบ ดังนั้นจึงมีเพียงวิธีการเดียวเท่านั้น
นั่นคือจะต้องวางแผนหลอกล่อ
เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาจะต้องร่วมมือกับอวี้ซิน
โอคาซี อวี้ซิน และจอมพลเอเดน ทั้งสามคนนั่งพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง และหลังจากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มปฏิบัติการลับ
สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้ถามว่าพวกเขาทำอะไรกันบ้าง?
แต่หลังจากผ่านไปแปดวัน ใบหน้าของจอมพลเอเดนก็ดูน่าเกลียดน่ากลัวมากขึ้น จากนั้นเขาก็กินอิ่มจนพุงกางและกลับบ้านไป
โอคาซีกลับมาเล่าให้เธอฟังอย่างละเอียด
หลังจากที่ทั้งสามคนพบกัน จอมพลเอเดนก็แสร้งทำเป็นเปิดเผยข้อมูลถึงองค์ชายรองอย่างไม่ได้ตั้งใจว่า อวี้ซินกำลังเคลื่อนย้ายมนุษย์ที่เขาช่วยเหลือไว้ได้ไปที่ถ้ำ
ในขณะเดียวกัน เขายังแสร้งแสดงความสงสัยว่าผู้ทรยศในจักรวรรดิดวงดาวจะต้องเกี่ยวข้องกับองค์ชายใหญ่
องค์ชายรองกล่าวไว้ว่าหากต้องการความช่วยเหลืออะไร เขายินดีจะช่วยเหลือพวกเขาทั้งหมด
โอคาซีรับผิดชอบหน้าที่สนับสนุนทางด้านเทคนิค ในขณะที่อวี้ซินกับจอมพลเอเดนจับตามองการแสดงขององค์ชายรอง
หลังจากบอกลากับจอมพลเอเดน องค์ชายรองก็รีบติดต่อกับคนสนิทของเขาทันที จากนั้นคนสนิทก็ติดต่อไปยังสายลับที่อยู่ในหน่วยงานขององค์ชายใหญ่
สายลับขององค์ชายใหญ่ได้สอดแนมองค์ชายใหญ่เงียบ ๆ จากนั้นจึงนำผู้รับซื้อที่ได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นสูงทั้งหลายมาปิดล้อมพวกมนุษย์
ในขณะเดียวกัน อีกกลุ่มหนึ่งก็ได้ปรากฏตัวขึ้น คนกลุ่มนี้เป็นอีกกลุ่มผู้รับซื้อ พวกเขาเข้ามาปิดล้อมและปราบปรามกลุ่มผู้รับซื้อก่อนหน้านี้
เผ่าพันธุ์มนุษย์ถูกกลุ่มรับซื้อที่มาทีหลังจับตัวไปได้สำเร็จ
“ฮ่า ๆๆ! เก็บเกี่ยวครั้งใหญ่! มีมนุษย์ตั้งสามสิบคนเลยใช่ไหมนะ? คงจะทำเงินได้เยอะแน่!”
หัวหน้ากลุ่มผู้รับซื้อมองดูทั้งชายและหญิง รวมถึงเด็กและคนแก่ที่ยืนอยู่ด้วยความสุขอย่างล้นหลาม!
อันที่จริงคนเหล่านี้จะต้องถูกพาไปที่ถ้ำมนุษย์ แต่พวกเขากลับต้องปวดใจนัก ไม่คาดคิดว่าฮวงจุ้ยจะหมุนเปลี่ยนไวขนาดนี้ ควรจะพาพวกเขาไปที่รังมนุษย์ไม่ใช่เหรอ?!
ใบหน้าของอวี้ซินบิดเบี้ยวขึ้นมา
เขายืนอยู่ในกลุ่มมนุษย์ดังกล่าว มองดูใบหน้าของผู้รับซื้อ ก่อนจะลุกขึ้นไปต่อสู้กับผู้รับซื้อโดยไม่พูดไม่จา
เขาทรงพลังและอยู่ในระดับสิบห้าดาว เมื่อเปรียบเทียบกับผู้รับซื้อที่อยู่ในระดับสิบสามถึงสิบสี่ดาว คนพวกนี้จะสามารถเอาชนะได้อย่างไร? และภายในเวลาไม่นาน ทุกคนก็ถูกจับ
[1] บัวลอยงาดำ คือคำอุปมาถึงคนที่ภายนอกดูดี แต่ภายในกลับมีจิตใจชั่วร้าย