สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 452 ช่วยชีวิต
ตอนที่ 452 ช่วยชีวิต
ตอนที่ 452 ช่วยชีวิต
“เกิดอะไรขึ้น?!”
ผู้บัญชาการรีบลุกขึ้นยืนและเตรียมการจะหลบหนี แต่บริเวณใต้เท้ากลับว่างเปล่า ขณะที่เรือรบทั้งลำกำลังถูกบีบรัด!
เขาตกอยู่ในสภาวะเลือนราง มองดูเถาวัลย์ขนาดใหญ่บีบรัดเรือรบจนกลายเป็นเศษซาก!
และพังทลายลง!
กองทัพทหารทั่วทั้งห้วงดวงดาวที่อยู่ด้านล่างกำลังต่อสู้กับโจรสลัดอย่างนองเลือด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากเหนือศีรษะ เรือรบลำมหึมาของโจรสลัดกำลังถูกเถาวัลย์ยักษ์บีบรัดอย่างหนักจนกระทั่งกลายเป็นเศษซากชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
“พระเจ้า! เถาวัลย์งูแสดงพลังอีกแล้วเหรอ?!”
ผู้คนทั้งห้วงดวงดาวรู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมาทันที!
โจรสลัดบนเครื่องบินรบตกตะลึง! นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!
ขณะที่กำลังครุ่นคิด! เถาวัลย์งูจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เถาวัลย์งูพวกนี้มีความรวดเร็วเท่ากับเถาวัลย์งูที่บีบรัดเรือรบของโจรสลัด!
เถาวัลย์หนึ่งต้นต่อเครื่องบินรบหนึ่งลำ ทั้งแม่นยำและรวดเร็ว!
ผู้คนทั้งหลายในห้วงดวงดาวยังคงเฝ้าอธิฐาน ทว่าตอนนี้ปากของพวกเขากลับเปิดกว้าง มองดูพละกำลังเถาวัลย์งู!
ทำไมมันถึงได้ทรงพลังขนาดนี้?!
เถาวัลย์งูหนีไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมการต่อสู้ของมันถึงได้ทรงพลังขึ้นในชั่วพริบตาล่ะ?!
[องค์หญิงสามมาแล้วแน่เลย! องค์หญิงสามจะต้องกลับมาแล้วแน่ ๆ!] ผู้คนจากจักรวรรดิชิงเหย้าคอมเมนต์อย่างต่อเนื่อง ชี้ไปยังยานอวกาศลำเล็กที่อยู่นอกบาเรีย
และในตอนนั้นเองที่ผู้คนสังเกตเห็นว่ามียานอวกาศลำเล็กลอยตัวอยู่ด้านนอกบาเรีย เห็นได้ชัดว่ายานอวกาศลำนี้กับเรือรบของโจรสลัดไม่ได้อยู่ด้วยกัน!
องค์หญิงสามกลับมาแล้วจริงหรือ?!
[ไม่น่าใช่ปะ? ถ้าองค์หญิงสามกลับมาแล้ว ทำไมไม่ปรากฏตัวล่ะ?]
นอกจากนี้ยังมีคนที่เสนอความคิดเห็นและมุมมองที่แตกต่างกัน บางทีคนบนยานอวกาศลำนั้นอาจเป็นคนที่มาจากเขตแดนต่างดาวหรือโจรสลัดด้วยก็เป็นได้? !
[ต้องเป็นองค์หญิงสาม!]
คนพวกนี้คือแฟนตัวยงขององค์หญิงสาม! นอกจากนี้พวกเขายังเป็นประชากรอยู่ในจักรวรรดิชิงเหย้า! ไม่ว่าจะเป็นความดีความชอบอะไรก็ตาม พวกเขาล้วนนึกถึงองค์หญิงของตัวเอง อีกทั้งเมื่อมองดูเถาวัลย์งูที่อยู่ด้านนอกบาเรียนั่น พวกเขาก็รู้ดีว่าจะต้องเป็นฝีมือขององค์หญิงสาม
ดูสิ ถ้าไม่มีองค์หญิงสามของเรา พวกคุณคงจะตายกันไปหมดแล้ว รู้บ้างไหม?!
[อย่ามัวแต่พูดมากเลย! รีบมาดูการต่อสู้เถอะ จะใช่หรือไม่ใช่ เดี๋ยวเราก็รู้กันเองปะ?]
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้คนยากที่จะหลบซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดิน และออกมามองดูการต่อสู้กันอยู่เงียบ ๆ
หลังจากนั้นการต่อสู้ก็สิ้นสุดลง
โจรสลัดพวกนี้เป็นพวกที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง และไม่ได้พากองกำลังที่แข็งแกร่งมามากมายนัก ทำให้โจรสลัดทั้งหลายถูกกำจัดจนสิ้นซากภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง…
เถาวัลย์งูที่ได้รับการฝึกฝนจากต้นไม้แห่งชีวิตเป็นการส่วนตัวก็หดตัวเข้าหากันอีกครั้ง และกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ขนาดเล็กหวนคืนสู่มือของสวี่หลิงอวิ๋น
เมื่อมองดูบาเรียที่ขาดรุ่งริ่ง สวี่หลิงอวิ๋นก็รู้สึกถึงลมหายใจที่รวยรินของต้นไม้แห่งชีวิตที่กำลังจะสูญเสียจุดยืน
“ตอนนี้จะทำยังไงกันดี?” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูบาเรียที่อยู่ด้านหน้าด้วยความวิตกกังวล
ต้นไม้แห่งชีวิตเสียสละจิตวิญญาณของตัวเอง เพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถ้ามันต้องล้มลงแบบนี้ เธอคงจะทนรับไม่ไหว!
เสี่ยวอ้ายมองดูบาเรียและถอนหายใจออกมา มันกับต้นไม้แห่งชีวิตมีความผูกพันธุ์ลึกซึ้งต่อกัน รู้ดีว่าถ้าไม่ช่วยเหลือต้นไม้แห่งชีวิต มันจะต้องล้มลงแน่!
“เอาต้นไม้แห่งชีวิตคืนมาก่อนได้ไหม?” เสี่ยวอ้ายพูด ทว่ามันยังคงลังเลเล็กน้อย
หากต้นไม้แห่งชีวิตถูกเอาคืนมา แหล่งที่ตั้งดาวเคราะห์ของมวลมนุษย์จะต้องถูกเปิดเผย!
เผ่าพันธุ์มนุษย์จะต้องถูกทุกเผ่าพันธุ์ค้นพบ ถึงตอนนั้นจะทำอย่างไร!
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูต้นไม้แห่งชีวิตที่อยู่ในฝ่ามือเธอ
ดูเหมือนว่าต้นไม้แห่งชีวิตทั้งสองต้นจะรู้ภารกิจของตัวเอง พวกมันรีบถูตัวเข้ากับสวี่หลิงอวิ๋นและโอคาซีเบา ๆ
หลังจากนั้นไม่นาน สวี่หลิงอวิ๋นก็ได้ยินเสียงเด็กน้อยดังขึ้น
“ไม่ต้องห่วง ถึงพวกเราจะต้องกลายเป็นบาเรีย แต่พวกเราจะไม่เป็นเหมือนรุ่นพี่ต้นไม้แห่งชีวิตต้นนั้นแน่นอน” ต้นไม้แห่งชีวิตพูดขึ้น
“หลังจากที่เสี่ยวโอกับฉันกลายเป็นบาเรียแล้ว มวลมนุษย์ที่เราคุ้มครองอยู่จะเพาะปลูกเมล็ดต้นไม้ที่มาจากพวกเรา ตราบใดที่พวกเขายังอยู่ที่นี่ พวกเราก็จะเป็นอมตะ”
“อีกอย่างพวกเรายังรักษาสติปัญญาเอาไว้ได้ และทำให้พละกำลังของเราแข็งแกร่งมากขึ้น!”
สวี่หลิงอวิ๋นรับฟัง เฮ้! นี่มันเป็นผลประโยชน์ร่วมกันหรือเปล่า?
“ใช่! นี่เป็นวิธีการที่รุ่นพี่ต้นไม้แห่งชีวิตของเอลฟ์สอนพวกเรามา!” ต้นไม้แห่งชีวิตพูดต่อ “เธอเล่าถึงวิธีการของเธอให้เราฟัง ตอนนี้เราเลยจะใช้วิธีการนี้ผสมผสานกับวิธีการปลูกต้นกล้าไว้ในหัวของมวลมนุษย์”
“ถ้าเป็นไปได้ หลังจากนี้เผ่ามนุษย์จะกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดแน่นอน!”
อย่างนั้นเหรอ?! ถ้าการคาดเดาของต้นไม้แห่งชีวิตถูกต้อง ควบคู่ไปกับการฝึกฝนที่รวดเร็วของมนุษย์ นี่จะเป็นการเอาชนะเขตดาวที่อยู่ยงคงกระพันทั้งหมดใช่หรือไม่?!
สวี่หลิงอวิ๋นต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะมาอยู่ในระดับสิบห้าดาว ถึงแม้ว่าประชาชนธรรมดาจะไม่ได้มีศักยภาพสูงนัก แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ควรจะอยู่ในระดับสิบสองถึงสิบดาวใช่ไหม?!
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูต้นไม้แห่งชีวิตทั้งสองต้นตรงหน้า และหันไปมองโอคาซี
โอคาซีจับมือเธอเอาไว้ “ไม่ต้องกลัว ผมจะคอยสนับสนุนสิ่งที่ท่านทำเสมอ”
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า!
เธอมองไปทางเสี่ยวอ้าย “ตอนนี้ฉันพร้อมจะปลดปล่อยต้นไม้แห่งชีวิตแล้ว เสี่ยวอ้าย แกพร้อมหรือยัง?!”
“อืม!” เสี่ยวอ้ายพยักหน้าไม่หยุด!
สวี่หลิงอวิ๋นกับโอคาซีออกมาจากยานอวกาศ แบมือทั้งสองข้างออก
ต้นไม้แห่งชีวิตทั้งสองต้นส่องแสงเจิดจ้า!
ขณะที่ผู้คนจากทั่วทั้งห้วงดวงดาวกำลังคาดเดาว่าเป็นใคร พวกเขาก็เห็นคนสองคนและอสุรกายทั้งสองตัวออกมาจากยานอวกาศ
เยี่ยมไปเลย เป็นองค์หญิงสามจริง ๆ ด้วย!
พวกเขามองดูองค์หญิงสามถือของอะไรบางอย่างอยู่ในมือ พยายามจะมองดูให้ชัด ทว่าแสงสว่างกลับเจิดจ้าจนดวงตาของพวกเขาแทบบอด!
หลังจากนั้น สัญญาณต่าง ๆ ก็ติดขัด ไม่มีภาพใดปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
ขณะเดียวกัน ทุกคนก็รู้สึกว่าแรงกดขี่ในหัวได้จางหายไป! และหลังจากนั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดกลับชัดเจนขึ้น ราวกับพวกเขาได้เคลื่อนย้ายออกจากหลุมขนาดเล็กไปยังเมืองใหญ่ จนสามารถกระโดดโลดเต้นได้ตามต้องการ!
ต้นกล้าจิ๋วในหัวของพวกเขาขยับเขยื้อนอย่างรุนแรงอยู่ครู่หนึ่ง จนทำให้เวียนหัว และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร?
ต้องการให้พวกเขาฝึกฝนงั้นเหรอ? จะให้พวกเขาฝึกฝนสินะ!
ทุกคนนั่งขัดสมาธิอย่างว่านอนสอนง่ายและเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจัง หลังจากเริ่มฝึกฝน พวกเขาก็ปัดป่ายความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดทิ้งไป
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูต้นไม้แห่งชีวิตที่เหี่ยวเฉาและกลายเป็นสีเหลือง ใบของมันแทบจะร่วงหล่นลงมาจนหมด
เธอถือต้นไม้แห่งชีวิตไว้อย่างระมัดระวัง หัวใจของเธอแทบจะแตกสลายเมื่อเห็นมันทรุดตัวลงและไร้การตอบสนอง
เสี่ยวอ้ายใช้หัวลูบมันด้วยความทุกข์ใจ ดูเหมือนว่ามันจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสจากเพื่อนเก่า มันจึงขยับกิ่งไม้อันจิ๋วอย่างเชื่องช้า ก่อนจะทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรงและไร้การตอบสนองในที่สุด
เสี่ยวอ้ายร้อนรน!
เป็นแบบนี้ได้ยังไง?!
บอนาร์เข้ามามองดูใกล้ ๆ “มันเสียพลังงานมาก ต้องให้ใครสักคนป้อนพลังงานให้มันถึงจะอยู่รอดได้”
เสียพลังงาน?!
สวี่หลิงอวิ๋นเร่งรีบส่งพลังจิตของเธอออกไป ขณะที่พลังดวงดาวจำนวนมากจากปลายนิ้วมือของเธอเริ่มไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของมัน