สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 462 เข้าร่วมสงคราม
ตอนที่ 462 เข้าร่วมสงคราม
ตอนที่ 462 เข้าร่วมสงคราม
ทหารเหล่านี้เคยเห็นทิวทัศน์ของจักรวาลมานับไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มองดูทิวทัศน์ข้างนอกบาเรีย
ไม่ว่าเหล่าทหารจะเคยชินกับวิวตรงหน้ามากแค่ไหน แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะนั่งพิงหน้าต่างมองดูวิวข้างนอก
“รายงานผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขณะนี้มียานรบจำนวนยี่สิบหกลำ และทหารมากกว่าสามพันนาย” ร่างของโอคาซีปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่ เขารายงานสถานการณ์ต่อสวี่หลิงอวิ๋นด้วยท่าทีจริงจัง “ระดับสิบดาวขึ้นไป รวมถึงผู้บัญชาการสูงสุด และอสุรกายยักษ์อีกสองตัว ทั้งหมดรวมเป็นสี่”
“อะแฮ่ม! ผู้บัญชาการสูงสุดรับทราบ!” สวี่หลิงอวิ๋นกระแอมเบา ๆ ขณะมองดูโอคาซีรูปงามที่อยู่ในชุดเครื่องแบบทหารสีเงิน “แล้วรองผู้บัญชาการจะมาหาฉันเมื่อไหร่คะ?”
“เดี๋ยวนี้แหละครับ!”
เสี่ยวอ้ายกับบอนาร์นอนหาวอยู่ด้านข้าง พวกมันคุ้นเคยกับฉากจีบของคนทั้งคู่เป็นอย่างดี และมีภูมิคุ้มกันมากพอ!
“เสี่ยวอ้าย ตอนนี้เสี่ยวอวี๋เป็นยังไงบ้าง?” สวี่หลิงอวิ๋นถาม เธออยากจะพาเสี่ยวอวิ๋นกับเสี่ยวโอมาต่อสู้ด้วยกัน
จักรวรรดิต่างดาวมีความแข็งแกร่งมาก ถึงแม้พวกเธอจะมีกองกำลังทหารถึงสามพันนาย แต่สวี่หลิงอวิ๋นก็รู้สึกว่าโอกาสที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้นั้นค่อนข้างน้อย
คงจะดีกว่านี้หากนำพละกำลังที่แข็งแกร่งไปด้วย
ถ้าถามว่าใครมีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด? แน่นอนว่าต้องเป็นต้นไม้แห่งชีวิต!
ด้วยพละกำลังของต้นไม้แห่งชีวิต เธอคิดว่าตัวเองจะสามารถบุกสังหารคนได้ทีละจำนวนมาก!
“เสี่ยวอวี๋สบายดี!” เสี่ยวอ้ายกะพริบตา “อยากให้เสี่ยวอวี๋ไปเป็นบาเรียไหม?”
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า “แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
“ได้สิ!” เสี่ยวอ้ายเห็นด้วยและรู้สึกมีความสุข! มันกระดิกหางไปมา “เมื่อไม่นานมานี้เสี่ยวอวี๋เพิ่งฟื้นสติขึ้นมาได้ พลังของมันแข็งแกร่งมาก เมื่อวานนี้มันยังถามฉันอยู่เลยว่าทำไมมันถึงมาอยู่ในนี้ มันควรจะกลับไปเป็นบาเรียคอยปกป้องเผ่ามนุษย์ไหม?”
สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจหลังจากได้ยินเช่นนั้น
เสี่ยวอวี๋ทำเพื่อเผ่ามนุษย์มากเกินไปจริง ๆ!
ขนาดมันเพิ่งฟื้นสติได้ มันก็ยังเอาแต่นึกถึงหน้าที่ของตัวเองและคอยเป็นห่วงเผ่ามนุษย์
“เราจะต้องไม่เป็นอะไร!” สวี่หลิงอวิ๋นพูด “ให้เสี่ยวอวี๋อยู่ที่นี่ เราจะได้วางใจได้”
“อืม ๆ!” เสี่ยวอ้ายพยักหน้าเห็นด้วย
เสี่ยวอวิ๋นกับเสี่ยวโอกลายมาเป็นต้นกล้าจิ๋วอยู่ในมือของสวี่หลิงอวิ๋นอีกครั้ง ขณะที่เสี่ยวอวี๋กลายเป็นบาเรียผู้รอบรู้
ทว่าพฤติกรรมของเสี่ยวอวี๋ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ใครก็ตามที่อยู่ในระดับสิบดาวหรือมากกว่านั้นจะรู้สึกได้ทันทีว่าพวกเขาได้กลับเข้าไปอยู่ในบ้านหลังเล็กอีกครั้ง รวมถึงความรู้สึกกดขี่ทุกรูปแบบ และพลังความแข็งแกร่งที่ถูกหยุดไว้ในระดับสิบดาว
พวกเขาไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกอะไร เพราะองค์หญิงสามเคยมอบความรู้ให้พวกเขามาก่อน นั่นก็คือเมื่อไหร่ก็ตามที่เสี่ยวอวี๋กลายมาเป็นบาเรียต้นไม้แห่งชีวิต ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะถูกจำกัดให้เหลือเพียงระดับสิบดาว
ทว่านี่ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย เพราะถ้ามีผู้บุกรุกภายนอกบุกเข้ามา พวกเขาจะถูกจำกัดให้อยู่ในระดับสิบดาวเช่นกัน เพราะฉะนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงใกล้เคียงกัน ไม่รู้ว่าครั้งนี้ใครจะแพ้ใครจะชนะ!
นอกจากนี้เสี่ยวอวี๋ยังได้รับการรักษาแล้ว จึงไม่มีช่องโหว่ให้เห็นอีกต่อไป ไม่มีปัญหาในการปกป้องเผ่ามนุษย์ในฐานะบาเรียอย่างแน่นอน
ยานรบลำใหญ่ออกเดินทาง!
เสี่ยวอวิ๋นกับเสี่ยวโอเร่งความเร็วโดยการเปิดทางเชื่อมมิติ ยานรบทุกลำมุ่งหน้าเข้าไป
นอกจากนี้ยังเร่งความเร็วในการเดินทางผ่านแรงกระตุ้นโดยอัตโนมัติ พวกเขาเพียงแค่หายใจเฮือกใหญ่ ขณะที่แสงสว่างจ้ากระทบเข้ากับรูม่านตา และในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง
ขณะนี้ยานรบจำนวนนับไม่ถ้วนเข้ามารวมตัวกันที่จักรวรรดิเอล ผู้ที่มาจากจักรวรรดิทั้งหลายพากันมองดูดาวเคราะห์ดวงเล็กที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาด้วยความดีใจอย่างเหลือล้น
“ยืนยันแล้วใช่ไหม? มีมนุษย์อยู่ข้างในแน่นะ?”
“ท่านผู้บัญชาการ ผมไม่มั่นใจเท่าไหร่” ทหารนายหนึ่งที่มีจมูกยาวพูดรายงาน “มีอสุรกายจำนวนมากคอยรับมืออยู่ข้างนอก คงบุกเข้าไปไม่ง่าย ถ้าท่านอยากจะเข้าไปตรวจสอบ ท่านจะต้องกำจัดอสุรกายพวกนี้ก่อน”
ขณะเดียวกันทั่วทั้งจักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์กำลังส่งเสียงเตือน!
มนุษย์ธรรมดากำลังมองดูท้องฟ้าอย่างตื่นตระหนก ขณะที่รายการโทรทัศน์เริ่มออกอากาศข้อมูลเร่งด่วน!
“ทุกคนเข้าไปซ่อนตัวในชั้นใต้ดินโดยด่วน! ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าออกมา!”
“ใครก็ตามที่มีพลังดวงดาวเก้าดาวขึ้นไป ให้มารวมตัวกันในเมืองหลวง พวกเราต้องสู้!”
“ยอมตายในสนามรบดีกว่าไปเป็นสัตว์เลี้ยงของสิ่งมีชีวิตอื่น!”
รายการโทรทัศน์ออกอากาศซ้ำไปซ้ำมา ใบหน้าของพิธีกรดูจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เจ้าหน้าที่ราชการทั้งหลายมองดูสถานการณ์อันวุ่นวาย ลานกว้างที่เคยมีชีวิตชีวาเหลือเพียงแต่ความโกลาหล เด็กจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังร้องไห้ ทำไมจู่ ๆ จักรวรรดิต่างดาวถึงบุกเข้ามาโจมตีพวกเขา?!
สายลับสารเลวนั่นคือใคร ทำไมถึงคิดฆ่าล้างเผ่ามนุษย์?! เป็นไปได้หรือไม่ว่าสิ่งมีชีวิตต่างดาวจะปลอมตัวเข้ามาเป็นสายลับ?
ไม่น่าเป็นไปได้? มนุษย์ทุกคนบนที่แห่งนี้ล้วนเป็นชาวพื้นเมือง หากจะพูดให้ร้าย แม้แต่ยุงที่บินว่อนอยู่ที่นี่ยังเป็นชาวพื้นเมืองเลยด้วยซ้ำ! มันไม่ได้มาจากต่างดาวแต่อย่างใด?!
และเมื่อนึกถึงสายลับเฉียนเฉียน ดูเหมือนว่าคนที่ทำชั่วจะเป็นพวกรุ่นใหม่ที่ยากเกินจะยอมรับได้
“สายลับสารเลว! ไอ้สายลับมันทำบ้าอะไร!?”
เจ้าหน้าที่ทั้งหลายรู้สึกโกรธแค้นในใจ ทว่าใบหน้ากลับเจือแววเศร้าหมอง
พวกเขากำลังหมดหวัง! ต่อให้อวี้ซินพาอสุรกายที่น่ากลัวอย่างบอนาร์มาที่นี่ พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าไม่มีหวังอยู่ดี
นี่คือการโจมตีจากจักรวรรดิจำนวนนับไม่ถ้วน! บอนาร์จะมาจัดการกับยานรบมากมายได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ยังมียอดฝีมือที่เหนือกว่าระดับสิบห้าดาวอยู่ในยานรบพวกนั้นด้วยไม่ใช่เหรอ?!
“กลับไปเถอะ!”
ชายในชุดเกราะมองดูกลุ่มเจ้าหน้าที่ และพูดว่า “พวกคุณอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไปรวมตัวกับครอบครัวของพวกคุณน่าจะดีกว่า ผมจะพาพรรคพวกไปต่อสู้เอง!”
“ถ้าสู้ได้เราก็จะสู้ แต่ผมคงจะรับปากไม่ได้ เอาเป็นว่าผมจะทำให้ดีที่สุด!”
ขณะนี้จักรวรรดินับไม่ถ้วนเริ่มโจมตีอสุรกายร้ายทั้งหลาย!
ความแข็งแกร่งของอสุรกายร้ายพวกนี้มีมากกว่าระดับสิบห้าดาว ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือระดับสูงในกลุ่มอสุรกาย ทว่ายอดฝีมือที่กำลังเผชิญหน้ากับพวกมันอยู่ในระดับสิบห้าดาวและยังมีลูกกระสุนปืนใหญ่
หลังจากต่อสู้กันมาได้ครึ่งชั่วโมง อสุรกายพวกนี้ก็พ่ายแพ้ไปทีละตัว และจากไปด้วยความขุ่นเคือง
ถ้าเกิดลูกพี่บอนาร์กลับมา พวกมันก็มีคำอธิบายที่ดีพอให้กับลูกพี่ ว่าพวกมันทำดีที่สุดแล้ว!
อวี้ซินจิกเล็บลงไปในฝ่ามือ!
ยานอวกาศของเขาปรากฏขึ้นข้างหน้าจักรวรรดิดวงดาว! และข้างหลังของเขาคือจักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์!
หลังจากตกอยู่ในเส้นทางที่ยากลำบากมาหลายพันปี ในที่สุดเผ่ามนุษย์ก็มีชีวิตที่ดีสักที
แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับต้องหวนคืนสู่อดีตอีกครั้ง และอาจจะไม่ได้ดีเท่าในอดีตด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้เขาจะเต็มใจยอมรับมันได้อย่างไร?!
“โย่! ใครอยู่ในยานอวกาศลำนั้น?” ผู้บัญชาการแห่งจักรวรรดิวิหคทมิฬเป็นเผ่าพันธุ์ชาญฉลาดที่มีรูปร่างเหมือนนก เขามองดูยานอวกาศที่ลอยอยู่ตรงหน้า ออกคำสั่งให้ผู้ใต้บัญชาการที่มากความสามารถระเบิดยานอวกาศลำดังกล่าวโดยตรง ไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก
ต้องไม่ให้จักรวรรดิอื่นได้ชื่นชมความงามนี้ไปก่อน
ดูเหมือนว่าผู้ใต้บัญชาการเหล่านี้จะได้เห็นภาพที่มนุษย์ถูกกุมขังมานับไม่ถ้วน ยิ่งสร้างเงินได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกร้อนใจมากเท่านั้น