สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ - ตอนที่ 483 เผ่ามนุษย์แล้วยังไง
ตอนที่ 483 เผ่ามนุษย์แล้วยังไง?
ตอนที่ 483 เผ่ามนุษย์แล้วยังไง?
ทั่วทั้งเคทเลอร์ถาโถมไปด้วยอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ!
ความโกลาหลบังเกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต ผู้คนทั้งหลายต่างออกมาพูดคุยกัน ทั้งกระทู้เริ่มคึกคักอีกครั้ง
[นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเอลฟ์จะเป็นมนุษย์ที่ปลอมตัวมา ถ้าเป็นแบบนี้ เผ่ามนุษย์ก็คงจะฉลาดจริง ๆ แหละมั้ง!]
[กรุณาลบคำว่า ‘มั้ง’ ออกด้วย พวกมันฉลาดกันจริง ๆ ไม่อย่างนั้นพวกมันจะหลอกเราได้ถึงครึ่งปีเชียวเหรอ?]
[ควรจะเรียกพวกคุณว่าอะไรดี คนโง่ เพิ่งรู้ว่าพวกคุณตลกกันเป็นบ้า!]
[ไม่เอาน่า หยุดเถียงกันเถอะ พวกเราทุกคนก็โง่กันหมด แต่ตอนนี้เรามาคุยกันก่อนว่าเอลฟ์ตัวอื่นเป็นมนุษย์ปลอมตัวมาด้วยหรือเปล่า?]
[ใช่ ๆๆ! พวกคุณคิดว่าเอลฟ์ตัวอื่นเป็นมนุษย์หรือว่าเป็นเอลฟ์?]
[ผมคิดว่าน่าจะเป็นมนุษย์หมด! พวกคุณลองคำนวณเวลาดูสิ เจ้าหน้าที่เอลฟ์พวกนี้เข้ามารับตำแหน่งเวลาไล่เลี่ยกัน นั่นหมายความว่าพวกมนุษย์ปลอมตัวเข้ามาไม่ใช่เหรอ?]
[ผมคิดว่ามันเป็นคนละกรณีกันนะ จะเป็นแบบนั้นหมดได้ยังไง? คุณไม่เห็นเหรอว่าเพื่อนฝูงของเจ้าหน้าที่เอลฟ์พวกนั้นก็เอลฟ์กันหมด? คุณบอกได้ไหมล่ะว่าเอลฟ์พวกนั้นคือพวกมนุษย์ที่ปลอมตัวเข้ามา? หรือว่าเอลฟ์ในจักรวรรดิเอลฟ์คือมนุษย์?]
[พอคุณพูดแบบนี้แล้ว ผมก็รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นไปได้ พวกคุณลองคิดดูสิว่าไม่มีใครแสร้งทำเป็นมนุษย์เลย แต่กลับสวมบทบาทเอลฟ์แทนเนี่ยนะ? แล้วพวกคุณก็ไม่ได้สังเกตกันเลยใช่ไหมล่ะ? ครั้งนี้พวกมนุษย์ไม่ได้โจมตีจักรวรรดิเอลฟ์ด้วยซ้ำ!]
[ถ้าเป็นอย่างที่คอมเมนต์บนพูด จู่ ๆ ผมก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาเลยนะเนี่ย หรือว่านี่จะเป็นการแสดงละครครั้งใหญ่ของพวกมนุษย์? เกินไปแล้ว!]
[ยิ่งคิดก็ยิ่งน่ากลัว!]
[เหมือนคอมเมนต์บน!]
[เหมือนคอมเมนต์บน!]
…
[เดี๋ยวก่อน พวกคุณไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดแปลกบ้างเหรอ? รู้สึกว่าฝ่าบาทจะเป็นคนจัดแจงเรื่องทั้งหมด จักรพรรดิของเราคอยสนับสนุนการยกระดับเผ่ามนุษย์ให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญามาตลอด ร่างกฎหมายก็ผ่านแล้วด้วย พอฝ่าบาทได้ครองราชย์ พวกมนุษย์ก็ปลอมตัวเป็นเอลฟ์และเข้ามารับตำแหน่งทางราชการ]
[พวกคุณไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลบ้างเหรอ?]
[คอมเมนต์บน จู่ ๆ ผมก็รู้สึกว่าสิ่งที่คุณพูดสมเหตุสมผล ไม่ผิดแน่ ดูเหมือนว่าจักรพรรดิกำลังวางหมากรุกอยู่!]
[ไม่ว่าจะวางหมากรุกหรือไม่วาง แต่ครั้งนี้ยานรบของพวกมนุษย์ก็ไม่โจมตีจักรวรรดิเคทเลอร์มากนัก เพราะงั้นก็ไม่เป็นไรหรอก!]
[จิ๊ พอพูดแบบนั้นแล้ว ผมก็รู้สึกโชคดีขึ้นมาทันที ต้องขอบคุณท่านจักรพรรดิของเราที่ยกระดับเผ่ามนุษย์ขึ้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา ไม่อย่างงั้นจุดจบของพวกเราคงน่าอนาถมาก ว่ามะ?]
[ขอบพระคุณท่านจักรพรรดิ!]
[ขอบพระคุณท่านจักรพรรดิ!]
…
ชาวเน็ตทั้งหลายแห่ชื่นชม แต่ชนชั้นสูงกลับสงบนิ่ง
หลักฐานของเหม่ยซินชัดเจนมาก พวกเขายังยืนยันด้วยว่าไม่มีการตัดต่อเพิ่มเติม หลักฐานชิ้นนี้เป็นข้อมูลดิบ
นั่นหมายความว่าจางเล่อเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง
ส่วนคำถามก็เป็นอย่างที่ชาวเน็ตคาดเดากันไว้ ว่าคนที่ออกไปพร้อมกับจางเล่อเป็นมนุษย์หรือเอลฟ์กันแน่?
คงจะมีแต่จักรพรรดิที่รู้คำตอบนี้ดีที่สุด แต่คงไม่มีใครกล้าจะถามออกไป
อย่างที่ชาวเน็ตพูดกัน เป็นเพราะความดีของจักรพรรดิ เคทเลอร์จึงไม่ต้องพบความสูญเสียอย่างรุนแรง ถึงจะต้องสูญเสีย แต่ก็สูญเสียเพียงแค่ดาวเคราะห์ดวงน้อยสองสามดวงเท่านั้น ต่อให้อีกฝ่ายต้องการดาวเคราะห์น้อยพวกนี้ พวกเขาก็จะมอบให้อีกฝ่ายอยู่ดี
ซินหยานั่งอยู่ในพระราชวังขณะมองดูคอมเมนต์บนกระทู้ และรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
ทว่าเขารู้ว่าเรื่องนี้ต้องการคำอธิบายอย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้นชาวเน็ตจะพากันคาดเดาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สำหรับชนชั้นสูงทั้งหลาย แม้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายจะไม่กล้าหักล้างเขา เพราะการสยบยานรบของเผ่ามนุษย์ทำให้คนพวกนี้ไม่กล้าทำอะไรเขา แต่ในอนาคตก็ไม่แน่!
ดังนั้นซินหยาจึงเริ่มการถ่ายทอดสดพิเศษ เพื่ออธิบายเรื่องนี้ให้แก่ประชาชน
จักรพรรดิกำลังจะถ่ายทอดสดจริงเหรอ?! นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชาวเน็ตจำนวนนับไม่ถ้วนรีบเข้ามาในห้องถ่ายทอดสดของซินหยา รอฟังว่าจักรพรรดิมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้!
[ว้าว ท่านจักรพรรดิรูปงามมากเพคะ!]
[ท่านจักรพรรดิยังไม่มีจักรพรรดินีสินะเพคะ! ไม่ทราบว่าท่านมีเงื่อนไขยังไงบ้างเพคะ หม่อมฉันสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร หน้าตาสวยหวาน ท่านพอจะชอบแบบนี้ไหมเพคะ?]
[คอมเมนต์บนอย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย คิดว่าสวยนักเหรอ? ถ้าฝ่าบาทจะมองหาใครสักคน สู้ไปหาพวกชนชั้นสูงดีกว่ามะ หัดสำเหนียกสถานะต่ำต้อยของหล่อนบ้าง หรือกลับบ้านไปอาบน้ำนอนซะไป๊! อย่ามามัวเพ้อฝันอยู่เลย!]
[เฮ้ย แล้วฉันไม่มีสิทธิ์ออกเสียงที่นี่หรือไง?]
ต้องบอกว่ารูปลักษณ์ของโมยาตค่อนข้างหล่อเหลา ไม่เหมือนกับองค์ชายอีกสองคน รูปลักษณ์ของโมยาตหล่อเหลาและสูงส่งมากกว่า
ซินหยายิ้มให้กล้องเล็กน้อย ก่อนจะเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่อีกครั้ง! หญิงสาวทั้งหลายต่างพากันกรีดร้องใส่ซินหยา หากนี่ไม่ใช่การถ่ายทอดสด แต่เป็นตัวตนจริง ๆ ที่ยืนอยู่ตรงหน้า พวกเธอคงอยากจะปีนป่ายขึ้นไปเลียเขา!
โมยาตปิดกล่องแสดงความคิดเห็น เพื่อไม่ให้คำพูดของเสือสิงห์กระทิงแรดโผล่ขึ้นมาบนหน้าจอ
“สวัสดีทุกคน เราคือโมยาต จักรพรรดิแห่งเคทเลอร์ ดีใจที่ได้พบทุกคน”
น้ำเสียงของโมยาตไพเราะน่าฟัง สุขุม และแน่วแน่ เสียงทุ้มต่ำราวกับเครื่องดนตรีเชลโล่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
หญิงสาวทั้งหลายปิดหูของตัวเอง พวกเธอรู้สึกว่าน้ำเสียงของเขาไพเราะมากจนหูสามารถตั้งครรภ์ได้ และไม่กล้าขยับตัวแรงแพราะเกรงว่าจะแท้งลูก
“เรารู้ว่าตอนนี้ทุกคนกำลังให้ความสนใจกับเรื่องของจางเล่อว่าเขาเป็นมนุษย์หรือเอลฟ์? เราอยากจะบอกว่าเราเองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นมนุษย์หรือเป็นเอลฟ์กันแน่ แต่ตอนนั้นเราได้เจอเขาในร่างเอลฟ์”
“บางคนอาจจะสงสัยว่าเอลฟ์ตัวอื่นที่เข้ามาพร้อมกับจางเล่อเป็นมนุษย์หรือเอลฟ์ ตรงนี้เราก็ไม่รู้เหมือนกัน”
โมยาตพูด “อันที่จริงไม่ว่าพวกเขาจะเป็นมนุษย์หรือเป็นเอลฟ์ แต่ตราบใดที่พวกเขามีสติปัญญา ปราดเปรียวและรู้จักเรียนรู้ ต่อให้จะมาจากเผ่าพันธุ์ไหนก็สามารถเข้าร่วมกับเคทเลอร์ของเราได้ สามารถเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ของเคทเลอร์ได้”
“แล้วทำไมจะต้องไปสนใจว่าพวกเขาเป็นมนุษย์หรือเอลฟ์ด้วย?”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกคนก็ได้เห็นความชั่วร้ายจากยานรบของเผ่ามนุษย์แล้ว พวกเขาไม่ได้เกิดมาโง่เขลา แค่วิวัฒนาการช้าไปหลายปีเท่านั้น!”
โมยาตตัวปลอมพูดต่อ “เราไม่รู้ว่าพวกท่านรู้จักจางเล่อมากน้อยแค่ไหน แต่เราอยู่กับจางเล่อมาระยะหนึ่งแล้ว และสาเหตุที่เราเต็มใจให้เขาเข้ามารับราชการในเมืองหลวงเคทเลอร์ เป็นเพราะว่าเราเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของเขา”
“เขาเป็นชายหนุ่มที่มากความสามารถ แต่กลับถูกจำกัดด้วยเชื้อชาติ”
“ในขณะที่เคทเลอร์ของเราเป็นจักรวรรดิที่เปิดกว้าง ทุกเชื้อชาติสามารถเข้ามาทำงานและเข้ามามีส่วนร่วมในดินแดนของเราได้ ทำไมเราจะต้องจำกัดความสามารถของเขาเพียงเพราะเขาเป็นมนุษย์ด้วย?”
“พวกท่านคิดว่ายังไงล่ะ?”
ชาวเน็ตทั้งหลายเงียบสนิท และตระหนักอย่างรอบคอบ จางเล่อและเอลฟ์ตัวอื่นต่างรับใช้งานราชการตลอดช่วงวันเวลาที่ผ่านมา พวกเขาล้วนฉลาดหลักแหลมและมีวินัย