สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 104.2 ใช้ปากเล็กของเจ้ามอบความสุขแก่มัน (2) (รีไรท์)
- Home
- สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!
- ตอนที่ 104.2 ใช้ปากเล็กของเจ้ามอบความสุขแก่มัน (2) (รีไรท์)
ไม่รู้เพราะศีรษะถูกกระแทก หรือเพราะเหตุใด เล่อเหยาเหยาพลันรู้สึกว่าพญายมเวลานี้ พูดจาอ่อนโยนยิ่งนัก
เสียงทุ้มต่ำนั้น แฝงไปด้วยความมีเสน่ห์เจ็ดส่วน อ่อนโยนสามส่วน
ในคืนอันมืดมิด ดุจสุราชั้นดีที่หมักมานานปีถูกเปิดขึ้น ช่างชวนหลงใหล และน่าลุ่มหลง
มือของเขา ค่อยๆ ดึงมือที่กุมบนท้ายทอยของเธอออก จากนั้นก็นวดให้อย่างอ่อนโยน
การกระทำของพญายม นุ่มนวลอย่างไม่คาดคิด
เบาบาง นุ่มนวล อ่อนโยน
มือใหญ่ของเขา ยังทั้งหนาและร้อนผ่าว ราวกับแฝงไปด้วยเวทมนตร์ เมื่อถูกเขานวดอย่างเบามือเช่นนี้ เล่อเหยาเหยาพบว่า ท้ายทอยของเธอคล้ายไม่ได้เจ็บปวดมากมาย
ความเจ็บที่ท้ายทอยค่อยๆ เบาลง เวลานี้เล่อเหยาเหยาจึงพบว่าการกระโจนเมื่อครู่ของตน คือการกระโจนเข้าสู่อ้อมกอดของพญายม
สวรรค์รู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจโผเข้ามาในอ้อมกอดเขา
เตียงนี้ปกติเวลาเธอนอน จะกว้างขวางอย่างมาก แต่พลันมีคนที่รูปร่างใหญ่โตเช่นนี้เพิ่มเข้ามา เล่อเหยาเหยาจึงพบว่าเตียงนี้ของตน ความจริงมีขนาดเล็กอย่างน่าสงสาร
และเวลานี้ร่างกายท่อนบนของเธอคว่ำอยู่บนหน้าอกพญายม แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น แต่เธอยังรู้สึกถึงอุณหภูมิบนตัวของพญายมเช่นเดิม
หน้าอกราบเรียบที่กระเพื่อมขึ้นลงของเขา ยังสามารถได้ยินเสียงหัวใจที่เต้น ‘ตึกตัก’ที่ไม่รู้ว่าเป็นของเขาหรือว่าของเธอ
จมูกได้กลิ่นอบอวลของอำพันทะเลที่กระจายออกมาจากร่างของเขา ทำให้เล่อเหยาเหยาอดใจเต้นแรง ใบหน้าแดงก่ำไม่ได้
ความจริง เธอควรลุกออกมาจากอ้อมกอดของเขาถึงจะถูก
แต่หน้าอกอันอบอุ่นแน่นหนาของเขา เหมือนเป็นที่พักพิงอันปลอดภัย เพียงอยู่ในอ้อมกอดของเขา ไม่ว่าฟ้าจะถล่มลงมา เธอไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว
ความรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้ในเวลานี้ ทำให้เล่อเหยาเหยาอดอาลัยอาวรณ์ขึ้นมาในใจไม่ได้
และยังรู้สึกว่าบนท้ายทอยตอนนี้มีมือใหญ่หนาอุ่นกำลังนวดให้เธออย่างอ่อนโยน
ทันใดนั้น เล่อเหยาเหยารู้สึกว่าตนคล้ายเปลี่ยนเป็นตัวเล็กขึ้นมา
เล็กกระจิดริดคล้ายสัตว์เลี้ยง ที่เวลานี้กำลังถูกเจ้าของลูบขนอย่างอ่อนโยน
แค่กๆ
สวรรค์!
เธอคิดฟุ้งซ่านอันใดอยู่กันแน่
เธอไม่ใช่สัตว์เสี้ยงเข้าใจหรือไม่!
เมื่อถูกความคิดแปลกประหลาดของตนทำให้ตกตะลึง เล่อเหยาเหยาจึงได้สติอย่างครบถ้วนทันที
และศีรษะก็ไม่เจ็บปวดแล้ว ดังนั้นจึงคิดออกจากอ้อมกอดของพญายม
แต่มือใหญ่ของพญายม ยังอยู่บนท้ายทอยเธอ ดังนั้นเล่อเหยาเหยาจึงเลียริมฝีปากที่แห้งผาก คิดเอ่ยพูดบางอย่างขึ้นมา ทว่าบางคนกลับเอ่ยขึ้นเร็วกว่าเธอก้าวหนึ่ง
“ยังเจ็บอยู่หรือไม่”
แม้จะสั้นๆ เพียงไม่กี่คำ แต่กลับไม่ปิดบังน้ำเสียงห่วงใยแม้แต่นิดเดียว
แม้เวลานี้ เล่อเหยาเหยาจะเห็นหน้าพญายมไม่ชัดเจนเช่นเดิม แต่เธอยังสามารถรับรู้ได้ถึงสายตาของพญายมที่มองบนใบหน้าเธอ
มันร้อนผ่าวและจดจ้อง
ทำให้เธอใจเต้นเร็วขึ้น ‘ตึกตัก ตึกตัก’คล้ายมีกวางน้อยกระโดดโลดเต้นอยู่ด้านในอย่างรุนแรง ราวกับต้องการกระโดดออกมาจากหน้าอก
และใบหน้าที่ถูกพญายมจับจ้อง ราวกับถูกไฟอันร้อนแรงเผาไหม้
หากนำไข่ไก่วางลงไป เดาว่าสามารถต้มให้สุกได้
สำหรับความอ่อนโยนผิดปกติของพญายมในคืนนี้ ทำให้เล่อเหยาเหยารู้สึกไม่คุ้นชิน กังวลและขวยเขิน
หลังจากกัดริมฝีปากเบาๆ เล่อเหยาเหยาจึงสงบใจลง ก่อนส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้นว่า
“ขอบพระทัย ไม่เจ็บแล้ว”
เอ่ยจบ เล่อเหยาเหยาใช้สองมือยันบนเตียง คิดลุกจากอ้อมกอดของพญายม
คิดไม่ถึง เธอเพิ่งลุกขึ้นจากพญายม เอวกลับถูกรัดแน่น
น้ำหนักบนเอว ไม่หนักไม่เบา ทว่ากลับเพียงพอให้ร่างของเธอแนบชิดกับหน้าอกของพญายมอีกครั้ง
“เอ่อ”
การกระทำนี้ของพญายม ทำให้เล่อเหยาเหยาไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงอดกระพริบตาชั่วขณะไม่ได้ ก่อนจ้องนัยน์ตาดำขลับของพญายม
เวลานี้น่าจะเป็นช่วงเช้าตรู่ รอบด้านมืดมิด แสงจันทร์ที่ขาวใสนั้นสาดลอดเข้ามาทางหน้าต่างบานสลักที่เปิดอ้าไว้ ทำให้เล่อเหยาเหยาค่อยๆ ชินกับความมืด และสามารถเห็นบรรยากาศรอบด้านชัดเจนมากขึ้นสามสี่ส่วน
เห็นเพียงพญายมนอนอยู่บนเตียงของเธอ มือข้างหนึ่งรัดแน่นอยู่บนเอวบางของเธอไว้
แสงจันทร์ขาวใส ดุจน้ำปรอททำให้เงาร่างสูงใหญ่ของเขาปรากฏเป็นเส้นอันงดงาม และใบหน้าหล่อเหลาดุจประติมากรรมอันประณีตละเอียดอ่อน
พญายมในค่ำคืนมืดมิด ขณะนี้กลิ่นอายเย็นชาที่ปกคลุมอยู่บนตัวเขาก่อนหน้านี้ได้สลายไปทั้งหมด ทว่ากลับเพิ่มความลึกลับขึ้นมาหลายส่วนอย่างไม่สิ้นสุด
ใบหน้าโอหังเย็นชานั้น เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ ยิ่งดูตราตรึงยิ่งขึ้น
คิ้วกระบี่โก่งงอไปจนถึงจอนผม สีหน้าเย่อหยิ่งไม่เห็นสิ่งใดอยู่ในสายตา
นัยน์ตาดำขลับล้ำลึก ดุจบ่อน้ำพันปีที่มองแล้วสงบนิ่ง แต่ภายในกลับซ่อนคลื่นที่ทรงพลังเอาไว้
และดวงตาคมกริบของเขา เต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้คนไม่กล้าสบตา เพราะกลัวว่าจะถูกเขามองอย่างทะลุปรุโปร่ง
ขณะที่เล่อเหยาเหยากำลังสำรวจความแตกต่างในคืนนี้ของพญายมอย่างเงียบๆ กลับไม่รู้เลยว่าสายตาเวลานี้ของตน ในสายตาของคนบางคน กลับน่าดึงดูดเปิดเปลือยออกมา!
เมื่อครู่ตอนอุ้ม ‘เขา’ ที่นอนฝันหวานกลับมา เดิมทีคิดจะวาง‘เขา’ลงบนที่เตียงแล้วจากไป
แต่สุดท้ายเมื่อมองใบหน้าที่กำลังฝันหวานของ ‘เขา’ และรอยยิ้มที่มุมปากที่คล้ายกับกำลังทำบางสิ่งที่งดงามในความฝัน
ใบหน้าตอนหลับนั้น อ่อนหวาน อ่อนเยาว์ งดงามจนคนที่มองไม่อาจละสายตา
ดังนั้น เขาจึงมองคนผู้หนึ่งอยู่อย่างโง่งมเป็นครั้งแรก มองไปหลายชั่วยาม จนกระทั่งเหนื่อย จนอดทนไม่ไหวนอนลงบนเตียง
เดิมทีคิดว่า เพียงหลับตาพักผ่อนครู่เดียวเท่านั้น
เพราะหลายวันมานี้ เพื่อจัดการพวกโจรสลัด เขายุ่งวุ่นวายอย่างมาก
และเพราะไม่อยากหลับตาแล้วปรากฏ ‘เขา’ ขึ้นมา และคิดฟุ้งซ่าน เขาจึงไม่มีเวลาให้ตนเองได้ผ่อนคลาย
ตอนนี้มองใบหน้าตอนหลับฝันดีของ ‘เขา’ ยังมีเสียงกรนเบาๆ อีก
คล้ายแมวน้อยน่ารักขี้เซาตัวหนึ่ง ก่อนมุมปากยกขึ้นยามหลับไหล
เขาจึงหลับค่อยๆ หลับไปโดยไม่รู้ตัว
โดยไร้ความฝัน หลับสนิทสบายอย่างมาก
ต้องรู้ว่า แม้เขาจะเป็นท่านอ๋องที่สูงส่ง สถานะสูงศักดิ์ ในสายตาของคนบนโลกนี้คือมีบุญกุศลจากชาติที่แล้ว จึงมาเกิดในตระกูลมังกร อันรุ่งโรจน์เสพสุขได้อย่างไม่สิ้นสุด
แต่ความจริงคนบนโลกไม่รู้ว่า ภายใต้แสงอันเรืองรองนี้จะแฝงไปด้วยอันตราย
ดังนั้นเขาจึงรักษาระยะห่างกับทุกคนไม่ว่าผู้ใดก็ตาม
ไม่รู้ว่าเหตุใดเมื่อเห็นคนตัวเล็กตรงหน้า กลับรู้สึกแตกต่างออกไป
ไม่รู้ว่าเพราะกลิ่นอายบริสุทธิ์ไร้อันตราย ดุจกระต่ายขาวน้อยแสนน่ารักบนตัว ‘เขา’ หรือไม่ จึงทำให้ความระแวงที่มีต่อ ‘เขา’ ค่อยๆหายไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว
และบนตัว ‘เขา’ ช่างหอมอย่างมาก
ไม่ใช่กลิ่นของน้ำหอม แต่เป็นกลิ่นหอมของบุปผาจางๆ ที่ติดอยู่บนตัว คล้ายดอกกุหลาบ หรือพวกดอกมะลิ ผสมกันเป็นกลิ่นหอมอันสดชื่นประเภทหนึ่ง ทำให้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลาย
มี ‘เขา’ อยู่ข้างกาย เขาคิดว่าหัวใจคล้ายถูกความสุขอัดแน่นเข้ามาจนเต็มแน่น
นอนหลับไปอย่างมีความสุข!
จนกระทั่ง ขณะที่เขาครึ่งหลับครึ่งตื่น รู้สึกว่ามีมือเล็กที่หวั่นวิตก กำลังเคลื่อนอยู่บนหน้าอกของเขา ทำให้เขาเกิดไฟปรารถนาขึ้นมา
แต่เขาไม่ได้ส่งเสียง ไม่ได้ขยับตัว ปล่อยให้มือเล็กอ่อนนุ่มคู่นั้น เคลื่อนอย่างซุกซนบนร่างกายของเขาไป กระทั่งเมื่อมือเล็กของ ‘เขา’ ตกมาอยู่ที่บริเวณที่เขาภาคภูมิใจที่สุดนั้น
เวลานั้น เขาใจเย็นไม่ไหวอีกต่อไป
เพราะทุกที่ที่มือเล็กอันอ่อนนุ่มของ ‘เขา’ เคลื่อนไป คล้ายมีกระแสไฟวาบผ่าน ทำให้กระดูกทั่วร่างเขาอ่อนระทวยลง
และการเคลื่อนไหวของมือเล็กของ ‘เขา’ คล้ายแฝงไปด้วยเปลวเพลิงที่ทิ้งร่องรอยของประกายไฟไว้บนร่างกายเขา
เขารู้สึกเพียงเลือดทั่วร่างค่อยๆ เริ่มเดือดพล่านขึ้นมา
สัตว์ร้ายที่นอนสงบนิ่งมาตลอด ค่อยๆ ฟื้นพละกำลังกลับมา
โดยเฉพาะสิ่งนั้นตรงท่อนล่างของร่างกาย ก็ถูกนวดคลึงด้วยมือเล็กของคนตัวเล็กนี้ ค่อยๆ เริ่มแข็งและร้อนขึ้น พร้อมส่งเสียงเรียกร้อง ให้ระบายออกมา…
น่าตายนัก!
คนตัวเล็กนี้ช่างเล่นกับไฟเสียจริง!
ดังนั้น ในที่สุดเขาอดทนไม่ไหว เอ่ยปากยั้บยั้ง ‘เขา’