สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 104.3 ใช้ปากเล็กของเจ้ามอบความสุขแก่มัน (3) (รีไรท์)
- Home
- สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!
- ตอนที่ 104.3 ใช้ปากเล็กของเจ้ามอบความสุขแก่มัน (3) (รีไรท์)
ทว่า ‘เขา’ ยังมีท่าทีเงอะงะ หลังได้ยินคำพูดของเขา เพียงตกตะลึงอย่างโง่งม ต่อมาเขาจึงเอ่ยเตือนขึ้นอีกครั้ง คิดไม่ถึง ‘เขา’ จะตกใจ ไม่ระวังจนศีรษะกระแทก
เวลานั้นเขารู้สึกทั้งน่าขันและปวดใจ
แต่เขากลับรักที่ ‘เขา’ โง่งม และบางเวลาก็ดูมีนิสัยเฉลียวฉลาดเช่นนี้
เมื่อได้ยินเสียงเจ็บปวดจนกัดฟันกรอดของ ‘เขา’ ทำให้เขาอดกังวลไม่ได้ จึงนวดท้ายทอยที่กระแทกจนเจ็บให้กับ ‘เขา’
นวดท้ายทอยกลมมนมีขนเล็กๆ ของ ‘เขา’ และ ‘เขา’ ก็ซบอยู่บนอ้อมอกของตน จมูกได้กลิ่นหอมของบุปผาจางๆ ออกมาจากตัว ‘เขา’ ทำให้รู้สึกว่าตนกำลังตามหาของรักของหวงที่สุดขึ้นมาในหัว และทำให้อดสงสาร ‘เขา’ ไปพร้อมกันไม่ได้ ไฟปรารถนาในใจไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มขึ้น
แต่เขากลับข่มกลั้นมันเอาไว้ตลอด
เพราะหลังจากเรื่องครั้งก่อนที่หออวี๋หง เขากลัวว่าตนจะทำเรื่องเหลวไหล จนทำให้ ‘เขา’ ตกใจ
แต่ตอนที่ ‘เขา’ คิดจะออกจากอ้อมกอดของตน ในใจเขาพลันเกิดความรู้สึกว่างเปล่าและอาวรณ์ขึ้นมา
ดังนั้น ขณะที่เขายังไม่ได้สติ มือของตนก็ยื่นออกไปรวบเอวบางของ‘เขา’เอาไว้โดยไม่รู้ตัว ก่อนดึง ‘เขา’กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของตนเช่นเดิม
กลิ่นดอกกุหลาบนั้นหอมกรุ่นมากขึ้น ทำให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋อดสูดดมไม่ได้ ทว่ากลับพบว่ากลิ่นหอมน่าดมนี้ บางครั้งสะกดจิตใจ บางครั้งกลับปลุกอารมณ์
เหลิ่งจวิ้นอวี๋รู้สึกเพียงท่อนล่างเต็มไปด้วยไฟปรารถนา มันขยายตัวขึ้นไม่หยุด เรียกร้อง อยากระบายออกมา…
สายตาที่มองเล่อเหยาเหยานั้นจึงร้อนแรงและคบกริบขึ้น คล้ายสัตว์ร้ายที่หลบซ่อนตัวในความมืดยามค่ำคืน รอโอกาสตะครุบเหยื่อที่เล็งไว้กลืนเข้าท้อง
กลางคืน แม้จะมืดมิด แต่เล่อเหยาเหยาไม่ได้ไม่รู้สึก
โดยเฉพาะสายตาดุดัน ร้อนแรงของอีกฝ่าย ที่ทำให้เธอหนังศีรษะชาวาบ ความคิดไม่ดีปรากฎขึ้นมาในหัว
ไม่ดีแน่! คืนพระจันทร์เต็มดวง หมาป่าจะกลายร่าง!
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาตกใจอย่างหนัก จนใบหน้าซีดขาว
“ท่า…ท่านอ๋อง ไม่…”
ยังไม่ทันได้เอ่ยคำว่า ‘ไม่ต้องการ’ ออกมาคำพูดต่อมาของเล่อเหยาเหยาทั้งหมดถูกกลืนเข้าไปในริมฝีปากรูปกระจับเย็นเฉียบ
พญายมแม้จะเป็นคนเย็นชา แต่ริมฝีปากเขา กลับแตกต่างอย่างมาก
มันทั้งร้อนแรง บ้าคลั่ง และรุนแรง!
คล้ายพายุทอร์นาโดที่รุนแรง ทำให้คนต้านทานไม่ไหว
และคล้ายสัตว์ร้ายที่เต็มไปด้วยสัญชาตญานดิบเถื่อน ทำให้คนไร้แรงต้านทาน!
จุมพิตของพญายม ไม่ได้แปลกใหม่สำหรับเล่อเหยาเหยา แต่กลับน่าหวาดกลัวและหวาดหวั่นใจ
เพราะตอนนี้เธอเป็นผู้ชาย พญายมคิดว่าเธอคือผู้ชายแล้วจุมพิตหรือ หรือเช่นไรกันแน่
เธอไม่รู้ ทว่ากลับหวาดกลัว หากพญายมกล้าทำมิดีมิร้าย สถานะผู้หญิงของเธอต้องถูกเขารู้แน่ เขาต้องโมโหจนสังหารตนแน่!
ยิ่งคิดเล่อเหยาเหยายิ่งวิตกกังวล ดังนั้น จึงพยายามใช้แรงที่มีผลักพญายมที่อยู่ด้านบนเธอออกไปไม่หยุด
“ไม่ ท่านอ๋อง อย่า”
“เด็กน้อย ไฟปรารถนาบนตัวข้าถูกเจ้าปลุกมันขึ้นมาด้วยตนเอง ตอนนี้เอ่ยว่าไม่ต้องการ มันสายไปแล้วหรือไม่! หืม!”
สำหรับการพยายามดิ้นรนของเล่อเหยาเหยา สำหรับเหลิ่งจวิ้นอวี๋ดุจลูกแมวข่วนที่กระตุ้นไฟปรารถนาของเขา
เขายื่นแขนออกไป กางมือใหญ่ของเขาจับมือเล็กที่ผลักดันหน้าอกเขาไม่หยุดนั้นแน่น พลันก้มหน้าลงชิดศีรษะของเธอ
ริมฝีปากร้อนนั้น ค่อยเคลื่อนจากริมฝีปากเล็กแสนหอมหวานของเล่อเหยาเหยา ไปที่คออ่อนนุ่มหมดจดของเธอ จากนั้นก็กัดแน่นลงไปที่คอนั้น
พญายมลงน้ำหนักไม่หนักเกินไป แต่เล่อเหยาเหยาตกใจร้องออกมาเช่นเดิม และอยากร้องไห้ออกมา แต่ไร้น้ำตา
สวรรค์!
เขาเป็นผีดูดเลือด ต้องการดูดเลือดเธอหรือ!
และเมื่อได้ยินคำพูดของพญายม เล่อเหยาเหยารู้ว่าเขาเอ่ยถึงเรื่องที่เธอจับนกใหญ่ของเขา
สวรรค์รู้ว่า เธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ดังนั้น เล่อเหยาเหยาจึงทำอะไรไม่ถูก อยากร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตา
“ท่านอ๋อง เมื่อครู่บ่าวไม่ได้ตั้งใจ เมื่อครู่บ่าวนอนจนเลอะเลือน ท้องหิว จึงไม่ระวังจับสิ่งนั้นของท่าน คิดเพียงว่าคือขนมที่เสี่ยวมู่จื่อมอบให้ข้า ท่านอ๋องที่บ่าวพูดไปล้วนคือความจริง ท่านปล่อยบ่าวไปเถอะ”
เล่อเหยาเหยาอ้อนวอนอย่างหนัก คิดว่าตนพูดเช่นนี้ พญายมต้องปล่อยเธอไปแน่ คิดไม่ถึง เมื่อพญายมได้ยินคำพูดนี้ของเธอ คล้ายรู้สึกถึงบางอย่างขึ้นมา ก่อนเอ่ยพึมพำว่า
“เสี่ยวมู่จื่อ! เจ้ากับเขาสนิทสนมกันมากทีเดียว”
น้ำเสียงของพญายม แม้จะเย็นชา แต่ภายในกลับแฝงไปด้วยอารมณ์หึง
เพราะเขารู้ว่าขันทีน้อยผู้นั้น หน้าตาหมดจด ปกติคล้ายสนิทสนมกับคนตัวเล็กนี้อย่างมาก
แม้เขาจะเป็นเพียงขันทีผู้หนึ่ง แต่พอนึกถึงว่าคนตัวเล็กเห็นคนอื่นดีกว่าตน ในใจเหลิ่งจวิ้นอวี๋รู้สึกไม่พอใจ
เพราะคนที่พญายมชื่นชอบ ผู้ใดห้ามคิดแย่งชิง แม้จะเป็นขันทีก็เช่นกัน!
น่าเสียดายที่เล่อเหยาเหยา กลับไม่รับรู้ถึงความไม่พอใจภายในน้ำเสียงของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ คิดว่าเพียงตนอธิบายเช่นนี้พญายมได้ยินแล้ว ดังนั้นจึงดีใจ พลันเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า
“ใช่ เสี่ยวมู่จื่อเป็นสหายที่ดีที่สุดของบ่าว และเสี่ยวมู่จื่อก็ดีกับบ่าวอย่างมาก ดังนั้นบ่าวจึงคิดว่าเสี่ยวมู่จื่อรู้ว่าบ่าวไม่ได้ทานข้าว จึงนำของกินมาให้บ่าว ดังนั้นเรื่องเมื่อครู่ จึงเป็นการเข้าใจผิด ท่านอ๋องโปรดใจกว้าง เว้นชีวิตบ่าวด้วย”
สองมือของเล่อเหยาเหยาถูกพญายมจับกุมไว้แน่น ดังนั้น ตอนนี้จึงทำได้เพียงอ้อนวอนกับพญายม หวังให้เขาให้อภัยตน
เพียงแต่เธอกลับไม่รู้ว่า หลังจากพญายมได้ยินจากปากของเธอว่าเสี่ยวมู่จื่อดีเช่นนั้นเช่นนี้ ในใจเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
‘เขา’ เอ่ยว่าเสี่ยวมู่จื่อดีต่อ ‘เขา’ อย่างมากดังนั้น ‘เขา’จึงชื่นชอบเสี่ยวมู่จื่อผู้นั้น แต่หรือเขาทำดีต่อ ‘เขา’ไม่มากพอ!
เมื่อรู้ว่า ‘เขา’ หิวก็เรียกองครักษ์ลับของตนไปนำของมาให้กิน เห็น ‘เขา’ ป่วยก็ไปเชิญหมอหลวงที่ฝีมือดีที่สุดมาดูอาการ ‘เขา’
ให้ ‘เขา’ เข้ามาพักในตำหนักหย่าเฟิง ให้ ‘เขา’ อยู่ดีกินดี
กระทั่งเมื่อครู่ ‘เขา’เกือบจะตกลงไปในทะเลสาบ เขาก็ช่วยเหลือ
แต่บ่าวน่าตายนี้กลับไม่คิดสิ่งใดเลย
ปากยังเอ่ยชื่อผู้อื่นออกมาไม่หยุด ช่างน่าโมโหเสียจริง!
ยิ่งคิด เหลิ่งจวิ้นอวี๋รู้สึกเพียงไฟลุกโชนในใจ ดุจคลื่นทะเลที่ซัดเข้ามาไม่หยุด และสูงขึ้นเรื่อยๆ!
สุดท้าย เขาจึงไม่อยากฟังเขาเอ่ยชื่อผู้อื่นออกมาอีก ดังนั้น จึงใช้วิธีที่ได้ผลที่สุด คือ ใช้ริมฝีปากประกบปากเล็กของ‘เขา’ที่ทำให้คนทั้งรักและเกลียดนั้น
ต้องพูดว่าปากเล็กของ ‘เขา’ หวานเสียจริง!
หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง ทำให้คนอยากลิ้มลองอีกครั้ง!และทำให้เขาอาลัยอาวรณ์ จนถลำลึกเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
และแม้ ‘เขา’ จะรูปร่างเล็กบอบบาง แต่กลับคล้ายเกิดมาเพื่อเขา เมื่อกอดจะรู้ว่าผ่อนคลาย อ่อนนุ่ม หอมกรุ่น
ตัวเล็กบอบบาง น่ารักสดใสเช่นนี้ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะใช้กำลังเคล้นตัว‘เขา’ให้เข้ามาในร่างกายตน
เพราะมีเพียงเช่นนี้ ‘เขา’จะเป็นของเขาทั้งหมด และไม่สามารถถูกผู้อื่นแย่งชิงไปได้!
สำหรับการจุมพิตอย่างรุนแรงอีกครั้งของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ พลันทำให้เล่อเหยาเหยาโมโหจนแทบหมดสติ
น่าตายนัก เธอพูดอยู่ตั้งนาน หรือทั้งหมดต่างสูญเปล่า!
เมื่อครู่เธออธิบายไปหมดแล้ว เหตุใดพญายมยังต้องจุมพิตเธออีก!
หรือวันนี้เขาทนไม่ไหว คิดจัดการเธอ!
สวรรค์!
เช่นนั้นควรทำเช่นไรดี!
หนี!
นั่นเป็นไปไม่ได้!ตอนนี้เธอถูกเขารัดไว้ใต้ร่าง ขยับไม่ได้
ตีเขาให้สลบ!
นี่คือความคิดที่เพ้อฝัน อาศัยตัวเธอหรือ!
ไม่ใช่เธอดูถูกความสามารถของตนเอง นั่นเพราะสองคนพลังแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แม้ตอนนี้พญายม
จะบาดเจ็บ เขาใช้เพียงมือเดียวก็สังหารเธอได้ คิดตีเขา เป็นเพียงการไม่รู้จักประมาณตน
อาจยิ่งทำให้เขาโมโห แล้วทารุณเธอขึ้นมาจะทำเช่นไร!
เล่อเหยาเหยาคิดหาวิธีหลุดพ้นให้ได้เร็วที่สุดในใจ
แต่จุมพิตของพญายม ทำให้เธอแทบทนไม่ไหว และมือใหญ่ของเขา ยังเลื่อนไปตามการจุมพิตของเขา ลูบไล้ร่างกายเธอไม่หยุด จนทำให้เธอสั่นเทิ้ม
สมองของเล่อเหยาเหยา ค่อยๆ ถูกพญายมจุมพิตจนสติหลุดลอย
มือใหญ่ของพญายม เวลานี้ค่อยๆ ดึงสายคาดเอวของเธอลง
“ไม่…”