สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 149 ข้าจะรับผิดชอบเจ้าเอง (รีไรท์)
ผลจากเรื่องเมื่อคืน เล่อเหยาเหยาจึงนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ตอนนี้เมื่อเห็นผู้ร้ายที่ทำให้เธอนอนไม่หลับ เธอยังไม่รู้ว่าจะทำหน้าดีเช่นไรมองเขา
ดังนั้น หลังจากเห็นหนานกงจวิ้นซีปรากฏตัวขึ้น สีหน้าของเล่อเหยาเหยาพลันอึมครึ้ม ดูไม่พอใจจนสุดที่จะบรรยายได้
ตรงข้ามกับเล่อเหยาเหยาที่ไม่พอใจ หนานกงจวิ้นซีที่อยู่ตรงข้าม ใบหน้ากลับดูไม่สบายใจและอึดอัด
วันนี้หลังตื่นขึ้นมา หนานกงจวิ้นซีรู้สึกเพียงตนดื่มสุรามากเกินไป จนศีรษะปวดคล้ายจะระเบิดออกมา
หลังดื่มชาสร่างเมาลงไปอย่างไม่ง่ายดาย และอาบน้ำเรียกสติ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนค่อยๆ พรั่งพรูขึ้นมาในใจ
เมื่อคืนช่วงคลุมเครือ เขาคล้ายอยู่ในห้องของเจ้าหมูน้อย จากนั้นเรื่องหลังจากกระโจนเข้าหา ‘เขา’เขาไม่แน่ชัด เพียงจำได้ว่า‘เขา’คล้ายกำลังดิ้นรน พร้อมเสียงร้องไห้ที่แผ่วเบาอย่างหวาดกลัวของ ‘เขา’
หลังเขานึกย้อนถึงเรื่องเมื่อคืน ร่างกายพลันแข็งทื่อ
สวรรค์! เมื่อคืน เขาคล้ายทำสิ่งนั้นกับ‘เขา’!
แต่คล้ายทำแล้ว หรือไม่ได้ทำ อาจเพราะเขาดื่มมากเกินไป สำหรับเรื่องหลังจากนั้น เขาจำไม่ได้แม้แต่นิดเดียว รู้เพียงหลังตื่นขึ้นมา เขานอนอยู่บนเตียงในห้องของตน
แม้เสื้อผ้าจะครบสมบูรณ์ แต่ไม่มีความทรงจำภายในสมอง มันเกิดสิ่งใดกันขึ้นแน่!
หลังจากหนานกงจวิ้นซีนึกถึงสิ่งเหล่านี้ รู้สึกกังวลไม่สบายใจอย่างมากตลอดเวลา หลังสงบสติอารมณ์ตนลงอย่างไม่ง่ายดาย เขาจึงมาดูคนตัวเล็ก
เพราะเขาอยากถามให้ชัดเจน สุดท้ายแล้วเมื่อคืนเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ หากเมื่อคืนพวกเขามีเรื่องความสัมพันธ์กันพวกนั้นขึ้นจริง เขาเป็นชายอกสามศอก ต้องรับผิดชอบ ‘เขา’อย่างแน่นอน
หลังคิดถึงตรงนี้ หนานกงจวิ้นซีจึงมาที่นี่
ทว่าเขายังไม่เอ่ยถามสิ่งที่สงสัยในใจ ก็เห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเล่อเหยาเหยา ในใจเขาสะดุดกึกทันที
สวรรค์ สีหน้าของ ‘เขา’มืดครึ้มเสียจริง
และสายตาที่มองมายังเขา คล้ายต้องการกินคน หรือเมื่อคืนพวกเขาทำเรื่องนั้นจริง! ดังนั้น‘เขา’จึงโมโหขนาดนี้!
หลังจากหนานกงจวิ้นซีนึกถึงตรงนี้ ในใจพลันตื่นตระหนก กระทั่งสายตาที่มองเล่อเหยาเหยา ก็กังวลไม่หยุด
“นี่ เจ้าหมูน้อย เมื่อคืนพวกเรา…”
แม้ในใจจะวิตกกังวล แต่หนานกงจวิ้นซียังอดเอ่ยปากขึ้นไม่ได้
เล่อเหยาเหยาไม่แน่ใจถึงความวิตกกังวลในใจของหนานกงจวิ้นซี หลังจากได้ยินเขาเอ่ยถึงเรื่องเมื่อคืน ดวงตาคู่งามพลันถลึง เบิกกว้างขึ้น น้ำเสียงก็ดูเกลียดชัง
“ท่านยังมีหน้าเอ่ยถามถึงเรื่องเมื่อคืนอีกหรือ! ท่านหน้าด้านเสียจริง!”
ไม่รอให้หนานกงจวิ้นซีเอ่ยประโยคนั้นจบ เล่อเหยาเหยาเอ่ยปากด่าทอทันที
เพราะเมื่อคืน เธอเกือบจะถูกชายน่าตายผู้นี้ข่มเหง
โชคดีที่พญายมปรากฏตัวขึ้นทันเวลา มิฉะนั้นจะเป็นเช่นไรเธอไม่กล้าคิดจริงๆ
ดังนั้น เมื่อเล่อเหยาเหยาได้ยินหนานกงจวิ้นซียังมีหน้าเอ่ยถึงเรื่องเมื่อคืน จึงโมโหขึ้นทันที
ส่วนหนานกงจวิ้นซีเมื่อได้ยินเล่อเหยาเหยาเอ่ยเช่นนี้ คิดว่าเมื่อคืนพวกเขามีความสัมพันธ์กันจริง เป็นเขาที่ข่มเหง ‘เขา’ดังนั้น ‘เขา’จึงโมโหเช่นนี้
ทันใดนั้น เขาจึงหวาดกลัวในใจ ก่อนพลันเอ่ยปากขอโทษ
“ข้าขออภัย เรื่องเมื่อคืนนั้นข้า…ข้า…ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ข้าดื่มสุรามากเกินไป จึงเมามายเลอะเลือน สุดท้าย สุดท้ายจึงทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยกับเจ้า”
หลังเอ่ยจบ หนานกงจวิ้นซียิ่งพูดยิ่งขาดความมั่นใจ
เล่อเหยาเหยาได้ยิน กลับส่งเสียงฮึอย่างเย็นชาออกมา ก่อนเอ่ยอย่างโมโหว่า
“ท่านคิดว่า ไม่ตั้งใจเพียงประโยคเดียวของท่านจะสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างนั้นหรือ! เรื่องงามหน้าที่ท่านทำเมื่อคืน ยังจำได้อยู่หรือไม่! หรือท่านคิดว่าเป็นเช่นนี้แล้วก็แล้วกันไปได้หรือ!”
“เอ้อ เรื่องนี้ ข้าขอโทษ ข้ารู้ว่ามิอาจปล่อยให้มันผ่านไปได้ ทว่าเจ้าวางใจ เมื่อ…เมื่อข้าทำเรื่องที่ไม่ควรทำกับเจ้า ข้าจะรับผิดชอบเจ้า!”
หนานกงจวิ้นซีเห็นเล่อเหยาเหยาโมโหเช่นนี้ และรู้ว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นความผิดของตน ดังนั้นจึงรีบเอ่ยปากขึ้นโดยไม่คิด
ถูกต้อง! ไม่ว่าเช่นไร เขาต้องรับผิดชอบ ‘เขา’เพราะเมื่อคืนพวกเขาได้ทำเรื่องพรรค์นั้นกันแล้ว แม้เขาจะจำไม่ได้เลย แต่เพียงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเมื่อคืน ‘เขา’เป็นคนของเขาไปแล้ว นี่มิใช่หมายความว่าวันหน้าศิษย์พี่ใหญ่และไป๋ได้เพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้างหรือ!
พอนึกถึงตรงนี้ หนานกงจวิ้นซีนอกจากตื่นตะหนก ยังดีใจอย่างมากอีกด้วย
ขณะที่หนานกงจวิ้นซีแอบดีใจในใจ เล่อเหยาเหยาที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขา หลังได้ยินเขาพูดเช่นนี้ กลับอดขมวดคิ้วแน่น ก่อนเอ่ยอย่างสงสัยไม่ได้
“รับผิดชอบสิ่งใดกัน เรื่องที่ไม่ควรทำ หรือท่านคิดว่า ท่านกับข้า!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหนานกงจวิ้นซี เล่อเหยาเหยาสงสัยในใจ อีกทั้งเธอรู้สึกได้ว่าหนานกงจวิ้นซีคล้ายเข้าใจผิดบางอย่าง
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาขมวดคิ้วครู่หนึ่ง
หนานกงจวิ้นซีเห็นเช่นนั้น คล้ายฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงเอ่ยอย่างสงสัยขึ้น
“หรือพวกเราเมื่อคืนไม่ได้เกิดเรื่องใดขึ้นหรือ!”
เมื่อเห็นเล่อเหยาเหยาหลังได้ยินคำพูดทั้งหมดของตน พลันตาเบิกค้างอ้าปากกว้าง ตกใจอย่างหนัก หนานกงจวิ้นซีขมวดคิ้วชั่วขณะ ก่อนค่อยๆ รู้ว่าตนคล้ายเข้าใจผิดไป
“หรือมันมิใช่!”
“เอ่อ ความจริงข้าคิดมาตลอดว่า เจ้ากับข้า!”
เมื่อเห็นหนานกงจวิ้นซีรีบพยักหน้า เล่อเหยาเหยากุมหน้าผากอย่างหมดคำพูด
“ได้โปรด เมื่อคืนพวกเราไม่มีสิ่งใดสิ่งใดเกิดขึ้น โอ้ ไม่สิ เกือบไปต่างหาก หรือท่านลืมไปแล้วว่าเมื่อคืนท่านทำสิ่งใดลงไป!”
“ข้า…ข้าบอกว่าข้าลืมไปแล้วมิใช่หรือ!”
สำหรับคำพูดของเล่อเหยาเหยา หนานกงจวิ้นซีก็พูดไม่ออก
ทว่าหลังจากได้ยินเล่อเหยาเหยาเอ่ยว่าระหว่างพวกเขาไม่เกิดสิ่งใดขึ้น หนานกงจวิ้นซีจึงหายวิกตกกังวล แต่ว่ามากที่สุดกลับเป็นรู้สึกผิดหวัง
เดิมคิดว่าเมื่อคืนพวกเขามีความสัมพันธ์กัน เช่นนั้น ‘เขา’จะเป็นคนของเขา คิดไม่ถึงเพียงเกือบไป
พอคิดถึงตรงนี้ หนานกงจวิ้นซีเสียดายอย่างยิ่ง
ตรงข้ามกับหนานกงจวิ้นซีที่ผิดหวัง เล่อเหยาเหยากลับเริ่มโมโหขึ้นอีกคั้ง
“ฮึ ท่านลืมหรือ ได้ เช่นนั้นบ่าวจะบอกท่านเอง เมื่อคืนท่านที่เมามายจู่ๆ วิ่งเข้ามาที่ห้องบ่าว คิดข่มเหงบ่าว โชคดีท่านอ๋องปรากฏตัวขึ้นมาทันเวลา มิฉะนั้นบ่าวคงต้องฆ่าท่านจริงๆ แล้ว!”
แม้เล่อเหยาเหยาจะไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้ แต่เมื่อเห็นหนานกงจวิ้นซีเอ่ยขึ้น เธออดพูดออกมาไม่ได้
หนานกงจวิ้นซีหลังได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา ใบหน้าพลันกระดากอาย เม้มริมฝีปากแดง ภายในแววตาปรากฏอาการขอโทษและเสียใจ
ความจริงเมื่อครู่ขณะที่คิดว่าเขาทำเรื่องบางสิ่งกับ ‘เขา’จริง เขาอยากรับผิดชอบ‘เขา’ในใจรู้สึกเบิกบานขึ้นมา
คิดไม่ถึง หลังรู้คำตอบนี้และสายตารังเกียจของเล่อเหยาเหยา หนานกงจวิ้นซีรู้สึกปวดใจอย่างมาก
“หรือว่าเจ้าไม่ชอบข้าขนาดนั้นเลยหรือ”
เมื่อเอ่ยประโยคนี้ หนานกงจวิ้นซีมีใบหน้าโศกเศร้าเสียใจอย่างที่สุดจะบรรยาย
เล่อเหยาเหยาที่เดิมทีเต็มไปด้วยความโมโห หลังเห็นหนานกงจวิ้นซีโศกเศร้าเสียใจเช่นนี้ สุดท้ายพลันเอ่ยว่า
“เรื่องความรักมิอาจบังคับกันได้ พวกเราเป็นไปไม่ได้ ยังมีวันหน้าห้ามดื่มสุราอีก”
เพราะเธอกลัวว่าจะเกิดเรื่องเช่นเมื่อคืนเป็นครั้งที่สอง
เมื่อคืนโชคดีที่พญายมปรากฏตัวขึ้นมาได้ทันเวลา มิฉะนั้นเธอไม่อยากคิดเลย
สำหรับความรู้สึกของหนานกงจวิ้นซี เธอไม่สามารถมอบให้เขาได้แน่นอน เพราะเดิมทีเธอไม่เคยรู้สึกกับเขาแบบคู่รัก
ขณะที่เล่อเหยาเหยาคิดในใจ หนานกงจวิ้นซีหลังได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา เพียงยิ้มอย่างขมขื่น
“เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ได้ ข้าก็…จะไม่บังคับเจ้า”
แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในใจของหนานกงจวิ้นซียังคงอึดอัด
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาชื่นชอบคนผู้หนึ่ง แต่คนผู้นี้กลับไม่ยอมรับเขาเลยสักนิด
ถูกต้อง เรื่องความรักบังคับกันไม่ได้ เขาควรถือโอกาสที่ยังไม่ได้ถลำตัวลงไปทั้งหมด ถอนตัวออกมา
แต่ว่าเหตุใด ใจเขาจึงเจ็บปวดขนาดนี้!
ความรัก ทำให้คนเสียใจจริงๆ !
ขณะคิดในใจ หนานกงจวิ้นซีก็ไม่เอ่ยสิ่งใดกับเล่อเหยาเหยาอีก เพียงพลันหมุนตัวก้าวเดินจากไป
เพราะเขาตอนนี้ ในใจยากที่รับไหว เขาต้องการสถานที่ที่ไร้ผู้คน ในการรักษาบาดแผลให้หายดี
ส่วนเล่อเหยาเหยาหลังเห็นหนานกงจวิ้นซีหมุนตัวจากไป ก็รู้ว่าเวลานี้หนานกงจวิ้นซีคงเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง
แม้เธอจะไม่เคยอกหัก แต่จากที่เห็นเพื่อนผู้หญิงร่วมห้องพักอกหัก ทุกคนต่างสูญเสียความสุขในชีวิต เธอจึงรู้ว่าหนานกงจวิ้นซีเวลานี้อารมณ์คงไม่ดีแน่
เฮ้อ แต่นี้ก็ไร้หนทางจริงๆ
สำหรับเขา เธอคงทำได้เพียงพูดว่าขอโทษ
เพราะเมื่อเธอหมดหนทางที่จะรักเขา จึงต้องคุยกับเขาให้ชัดเจน เพื่อเลี่ยงความเข้าใจผิดในวันหน้า และไม่เป็นผลดีกับผู้ใดทั้งนั้นมิใช่หรือ!
…
หลังคุยกับหนานกงจวิ้นซีอย่างชัดเจนในวันนั้น หนานกงจวิ้นซีก็หายตัวไปหลายวัน
เล่อเหยาเหยาไม่รู้ว่าเขาไปที่ใด และก็ไม่เอ่ยถามถึง มีเพียงครั้งหนึ่งพญายมไม่รู้ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เอ่ยกับเธอว่าไม่ต้องกังวล
ดังนั้นเธอจึงไม่ถามให้มากความ
วันเวลาผ่านไปเช่นนี้ดังเดิม ปกติและเงียบสงบ
และหลายวันนี้ ที่ทำให้เล่อเหยาเหยามีความสุขที่สุดคือ พญายมมักมอบของเล่นที่น่าสนใจให้กับเธอ
เธอรู้ว่าเขากำลังทำให้เธอสบายใจ คล้ายชายหนุ่มที่ชื่นชอบผู้หญิงคนหนึ่ง หาวิธีสร้างความสุขให้แก่ผู้หญิงไม่หยุด
สำหรับความคิดของพญายม เล่อเหยาเหยาเข้าใจอย่างช้าๆ ดังนั้น เธอจึงสนุกกับของเล่นของเขา ในใจก็หวานชื่น
อาจเพราะเธอตอนนี้ ก็รู้สึกชื่นชอบเขา!
อีกทั้งเล่อเหยาเหยาพบว่าพญายมเปลี่ยนแปลงไป
เขาตอนนี้ เริ่มชอบยิ้มมากขึ้น
เมื่อเขายิ้มจะน่าหลงใหลอย่างยิ่ง
ทุกวันขณะที่เขาไม่อยู่ เล่อเหยาเหยาจะคิดถึงรอยยิ้มของเขา ยิ้มอย่างโง่งมตลอดทั้งวัน มีครั้งหนึ่งยังถูกเสี่ยวมู่จื่อเห็นเข้า จนอดเยาะเย้ยไม่ได้
“เสี่ยวเหยาจื่อ เจ้าเก็บของมีค่าอันใดได้หรือ ถึงดูยิ้มมีความสุขขนาดนี้!”
“เอ้อ จริงหรือ ข้ายิ้มอยู่หรือ”
สำหรับคำพูดของเสี่ยวมู่จื่อ เล่อเหยาเหยาตะลึงทันที ก่อนยื่นมือกุมใบหน้าของตน
อาจไม่รู้ตัวว่าเธอดีใจจากทุกการกระทำของพญายม!