สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 165 ข้าตั้งครรภ์ (2)
เมื่อได้ยินคำพูดเล่อเหยาเหยา ตงฟางไป๋ที่มีสีหน้าเรียบเฉยพลันเปลี่ยนไป จากนั้นให้เล่อเหยาเหยานั่งลง พลันจับชีพจรให้เธอ
เล่อเหยาเหยาเห็นประโยคเดียวของตนกลับทำให้สีหน้าเรียบเฉยมาตลอดของตงฟางไป๋เปลี่ยนไปอย่างหนัก ก็รู้ว่าเขาห่วงใยตนจากใจจริง ในใจอดอบอุ่นไม่ได้
ก่อนแอบถอนหายใจ
โชคชะตาของตน ความจริงไม่ได้เลวร้าย
แม้จะไม่ได้เจอบิดามารดาที่รักทะนุถนอมตนอีกแล้ว แต่สวรรค์กลับส่งตงฟางไป๋พี่ชายที่อ่อนโยนงามสง่า และห่วงใยตนนี้มา เธอยังมีสิ่งใดที่ไม่พอใจอีกหรือ!
เล่อเหยาเหยารู้สึกหวานชื่นในใจ ดวงตาคู่งามไม่ละไปจากใบหน้าหล่อเหลาที่ขมวดคิ้วกังวลของตงฟางไป๋
เห็นเพียงหลังจากตงฟางไป๋จับชีพจรให้ตน คิ้วกระบี่ที่ขมวดแน่นค่อยๆ คลายลง เห็นชัดว่าร่างกายเธอไม่ได้ป่วยหนักหนาอันใด เล่อเหยาเหยาจึงโล่งอกขึ้นมา
ความจริงเธอทราบดีว่าตนคงไม่ได้ป่วยหนัก แต่อาเจียนทุกวันเช่นนี้ ถือว่าไม่ดีเลย
“เสี่ยวเหยาจื่อ พักนี้เจ้ารู้สึกไม่สบายที่ใดหรือ”
“อืม คือพักนี้ข้าไม่รู้เป็นอันใด จึงมักอาเจียน หลายวันก่อนอาเจียนไปครั้งหนึ่ง วันนี้ก็อาเจียนอีกครั้ง ข้าคิดว่าท้องไส้ข้าอาจมีปัญหา หากเป็นเช่นนั้น ท่านรีบสั่งยาให้ข้าดื่มเถิด”
เล่อเหยาเหยาเอ่ยพูด พลางรู้สึกคอแห้ง
ประจวบกับบนโต๊ะหินที่พวกเธอนั่งอยู่มีชาและผลไม้วางอยู่ เล่อเหยาเหยาจึงไม่เกรงใจ รินน้ำชาสองถ้วยให้แก่ตนเองและตงฟางไป๋ หลังวางกาน้ำชาลง พลันหยิบถ้วยชาของตนนั้นขึ้นดื่ม
“อืม รสชาติดียิ่ง”
นี่คือชาดอกกุ้ยฮวา!
ความชอบของตงฟางไป๋ ความจริงคล้ายคลึงกับเธอ และยังชอบดื่มชาดอกกุ้ยฮวาอีกด้วย!
และภายในยังใส่น้ำผึ้งอย่างใส่ใจด้วย ดังนั้นเมื่อดื่มจะได้กลิ่นหอมเข้มข้น แฝงด้วยรสชาติหอมหวาน อร่อยยิ่งนัก!
เล่อเหยาเหยาคิดในใจ พลางอดดื่มเพิ่มอีกหลายถ้วยไม่ได้
เวลานี้ ตงฟางไป๋ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอ หลังได้ยินคำพูดของเธอ จึงถอนหายใจออกมา ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
“เพียงอาเจียนเท่านั้นหรือ ความจริงนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ทว่าเจ้าอาจอาเจียนเป็นบางครั้งไปอีกซักระยะ หญิงตั้งครรภ์อื่น อาเจียนแทบทุกวัน ทำให้ร่างกายตนอ่อนแอกระทั่งลุกจากเตียงไม่ได้!”
ตงฟางไป๋อธิบายอย่างละเอียด ทว่าเล่อเหยาเหยาที่ได้ยินกลับตะลึงงัน รู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูก
“พี่ไป๋ เหตุใดจึงนำข้าไปรวมกับหญิงตั้งครรภ์ล่ะ ข้าไม่ได้ตั้งครรภ์เสียหน่อย”
เล่อเหยาเหยาขมวดคิ้ว เอ่ยถามด้วยแววตาสงสัย
แต่ขณะเล่อเหยาเหยาที่ไม่เข้าใจเพิ่งเอ่ยประโยคนี้จบ ใบหน้าหล่อเหลาของตงฟางไป๋ที่นั่งตรงข้ามเธอกลับตะลึงงันชั่วขณะ พลันฉุกคิดขึ้นได้ ดวงตาดำขลับเบิกกว้าง ริมฝีปากแดงเผยอขึ้น เอ่ยอยากไม่เชื่อสายตาว่า
“เสี่ยวเหยาจื่อ เจ้า เจ้าพูดเช่นนี้หมายความเช่นไร เจ้าตั้งครรภ์แล้ว หรือเจ้าไม่รู้ตัว!”
ตงฟางไป๋เอ่ยถามเล่อเหยาเหยาอย่างตกใจและสงสัย
ประจวบเหมาะกับเวลานี้ เล่อเหยาเหยากำลังดื่มชาดอกกุ้ยฮวาที่หอมหวานอยู่ คิดไม่ถึงเมื่อได้ยินคำพูดชวนตกตะลึงนี้ของตงฟางไป๋ พลันตื่นตระหนก ก่อนเสียง ‘ปรู๊ด’ ดังขึ้นพร้อมน้ำชาในปากเธอเปลี่ยนเป็นละอองน้ำ พุ่งตรงไปยังใบหน้าของตงฟางไป๋
เมื่อถูกเล่อเหยาเหยาที่ตกใจจนพ่นน้ำออกมา ตงฟางไป๋ที่ตั้งตัวไม่ทัน จึงถูกน้ำชาพ่นใส่เต็มใบหน้า แต่เขาไม่รีบเช็ดทำความสะอาด เพียงจ้องเขม็งที่เล่อเหยาเหยาตรงหน้า ด้วยใบหน้ายังมีหยดน้ำเกาะพราวอย่างไม่กระพริบตา
ส่วนเล่อเหยาเหยาเวลานี้ ได้ถูกคำพูดเมื่อครู่ของตงฟางไป๋ที่ดุจฟ้าผ่าลงมาตอนกลางวันแสกๆ ทำให้ตะลึงแข็งทื่อดุจก้อนหินอยู่ตรงนั้นไปแล้ว
ใบหน้าเล็กขนาดเท่าฝ่ามือนั้น เวลานี้อ้าปากค้าง ดวงตาเบิกถลนมองไปยังตงฟางไป๋ เวลาผ่านไปนาน จึงค่อยๆ ขบคิดคำพูดดุจลูกระเบิดที่พลันถูกโยนเข้ามาของตงฟางไป๋
“ทะ…ท่าน ท่าน เมื่อครู่พูดว่า ผู้ใดตั้งครรภ์นะ”
ริมฝีปากเล่อเหยาเหยาสั่นระริก ไม่ง่ายเลยกว่าจะเอ่ยประโยคออกมา ดวงตาขยับไปมองตงฟางไป๋พร้อมเอ่ยถาม
ตงฟางไป๋เห็นท่าทางไม่เชื่อสายตาของเล่อเหยาเหยา เห็นชัดว่าตกใจอย่างหนัก ใบหน้าหล่อเหลาน่ามองนั้นพลันบิดเบี้ยว ก่อนเอ่ยต่อว่า
“เจ้าตั้งครรภ์”
ทุกอักษรทุกประโยค ชัดเจนว่าเป็นเพียงคำง่ายๆ แต่เมื่อนำมารวมกัน เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงคำนี้ ดุจลูกระเบิดที่หมายคร่าเอาชีวิตเธอไปอย่างแท้จริง!
“สวรรค์ นี่ นี่จะเป็นไปได้อย่างไร ข้า ข้าเวลานี้อายุเพิ่งสิบหกเท่านั้น เหตุใดจึงตั้งครรภ์ และเด็กผู้นี้ คือของผู้ใดกันแน่!”
เล่อเหยาเหยาถูกเรื่องที่ไม่คาดฝันนี้ ทำให้ตกใจจนแทบเสียสติ ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือนั้น พลันไร้สีเลือด ซีดขาวดุจกระดาษ เห็นชัดว่าตกใจไม่น้อย
นั่นย่อมไม่แปลก!
เล่อเหยาเหยาหลังข้ามเวลามาที่นี่ มีอายุน้อยกว่าอายุจริงสองปี แต่ความคิด เธอก็เป็นเพียงเด็กมัธยมปลายปีสามที่อายุสิบแปดคนหนึ่งเท่านั้น!
เด็กมัธยมปลายปีสามที่อายุสิบแปด กระทั่งมือชายหนุ่มไม่เคยสัมผัส ปากเล็กก็ไม่เคยถูกจุมพิต ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องความรักระหว่างชายหญิง
ตอนนี้ให้ผู้หญิงบริสุทธิ์เช่นเธอ พลันถูกบอกว่าตั้งครรภ์! เรื่องนี้จะให้เธอยอมรับได้เช่นไร!
หลังจากเล่อเหยาเหยาตกตะลึง ยังคงไม่เชื่อสายตา สองมือพลันเกาะกุมตงฟางไป๋ตรงหน้าไว้แน่น คล้ายคนที่ใกล้จะจมน้ำ จับขอนไม้เอาไว้แน่น ก่อนเอ่ยอย่างลนลานขึ้น
“พี่ไป๋ ท่านกำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่ ข้าไม่ได้ตั้งครรภ์ ฮ่าๆ ท่านเล่นเช่นนี้ ไม่น่าขันเลยนะ ท่านอย่าล้อเล่นกับข้าด้วยเรื่องประเภทนี้สิ”
เล่อเหยาเหยายิ้มพลางหัวเราะ แต่รอยยิ้มบนใบหน้า น่าเกลียดกว่าร้องไห้เสียอีก
เพราะเธอรู้ว่าตงฟางไป๋ไม่มีเหตุผลที่จะล้อเล่นกับเธอเช่นนี้
เช่นนั้น นั่นคือเรื่องจริง เธอ ความจริงเธอ..
“ขะ…ข้าตั้งครรภ์จริงๆ สวรรค์!”
เล่อเหยาเหยาตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนแทบหมดสติไป
ตงฟางไป๋เห็นเช่นนั้น แม้จะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เห็นเล่อเหยาเหยาตกใจจนกลายเป็นเช่นนี้ ก็ปวดใจไม่หยุด จึงเอ่ยปลอบใจขึ้นว่า
“เสี่ยวเหยาจื่อ เจ้าอย่าเพิ่งตื่นตระหนก ตั้งครรภ์มิควรตื่นตระหนก!”
“ไม่ ข้าไม่ได้ตั้งครรภ์!”
เล่อเหยาเหยาที่เดิมทีวิตกกังวล หลังได้ยินคำว่าตั้งครรภ์ที่ละเอียดอ่อนนี้ ก็กรีดร้องอย่างเสียสติขึ้น ทันใดนั้น น้ำตาภายในดวงตาก็ไหลรินลงมา
ไม่แปลกที่เล่อเหยาเหยาจะร้องไห้
เพราะตอนนี้ข่าวนี้สำหรับเธอ ถือเป็นการจู่โจมที่หนักหนาจริงๆ
แม้เธอจะพลันมายังยุคสมัยที่แปลกใหม่นี้ เธอก็ไม่เคยร้องไห้
เพราะบิดาเธอพูดไว้ว่า แม้ฟ้าจะถล่มลงมา ก็ไม่มีสิ่งใดที่เกินจะรับไหว เมื่อเรือเทียบท่า หัวเรือจะตรงเสมอ!
แต่ตอนนี้ เธอกลับร้องไห้
เพราะเธอรับไม่ได้กับเรื่องที่ตนตั้งครรภ์ ร่างกายนี้ของเธอเพิ่งอายุสิบหกมิใช่หรือ ร่างกายนี้ยังบริสุทธิ์อยู่มิใช่หรือ!
โอ้ ไม่ หรืออาจจะไม่ใช่
แม้เธอจะไม่เหลือความทรงจำ แต่ต้องเป็นช่วงที่เธอข้ามเวลามาที่นี่แน่นอน ร่างนี้ต้องทำเรื่องพรรค์นั้นกับชายอื่นมาก่อน ดังนั้นเธอจึงตั้งครรภ์
แต่เด็กในท้องเธอเป็นของผู้ใดกันแน่!
สำหรับเรื่องนี้ เธอไม่รู้แม้แต่นิดเดียว เธอรู้เพียงความฝันอันงดงามที่ตนวาดฝันได้ถูกทำลายลงหมดแล้ว
เดิมทีเธอคิดว่า ตอนนี้เธอชอบพญายม พญายมชอบเธอ เพียงเธอสารภาพความจริงทั้งหมดกับเขา เช่นนั้นพวกเธอจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ใช้ชีวิตร่วมกันดุจดั่งในนิยาย
แต่เธอตอนนี้เพิ่งรู้ นิยายที่คิดว่าคือความสวยงาม ความจริงคือความโหดร้าย
ขณะที่เธอกับพญายมก้าวไปอีกขั้น สวรรค์กลับล้อเล่นเช่นนี้กับเธอ!
นั่นคือ…
เธอตั้งครรภ์ แต่กลับไม่รู้ว่าบิดาของเด็กคือผู้ใด!
สวรรค์ นี่ควรทำเช่นไร!
หรือเธอและพญายมไร้วาสนาต่อกันจริง!
แม้เธอจะรู้ว่าพญายมชอบตน และล่วงรู้สถานะผู้หญิงของตน แต่เธอก็รู้ว่า ในยุคโบราณที่มีความคิดประเพณีนิยมเช่นนี้ ชายหนุ่มไม่สามารถยอมรับหญิงสาวที่ไม่บริสุทธิ์ได้แน่ ยิ่งไปกว่านั้น เธอตอนนี้ยังตั้งครรภ์!
จากนิสัยเคร่งครัดองอาจของพญายม กระทั่งข้างกายเธอมีชายอื่นก็ทนไม่ได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ร่างกายไม่บริสุทธิ์ของเธอ และตอนนี้ยังตั้งครรภ์กับชายอื่นเลย
ยิ่งคิด เล่อเหยาเหยายิ่งเศร้าโศก
ความรู้สึกนั้น คล้ายกับเวลานี้ล่องลอยขึ้นไปบนเมฆสูง ทันใดนั้นก็ถูกผลักเข้าไปใบบ่อน้ำที่ลึกจนไม่อาจปีนป่ายขึ้นมาได้
ความรู้สึกดิ่งลงเหวนี้คือความจริง ทำให้เธอเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก
ยิ่งคิด ในใจเล่อเหยาเหยายิ่งยากจะรับไหว น้ำตานั้น ดุจไข่มุกที่หลุดลงจากสร้อย ไหลอาบสองแก้มลงมาไม่หยุด
เมื่อเห็นเล่อเหยาเหยาร้องไห้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตา ดูแล้วน่าสงสารเช่นนี้ ทำให้ตงฟางไป๋ที่เห็นเจ็บปวดใจ ราวกับถูกมีดเชือดเฉือน
ตอนนี้เขามีคำถามที่จะถามมากมาย แต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เล่อเหยาเหยาอารมณ์ไม่มั่นคง ตื่นตระหนก ทำให้เขามองอย่างปวดใจ
แต่เขากลับไม่สามารถทำสิ่งใดเพื่อเธอได้ เพียงยื่นผ้าเช็ดหน้าออกไปเช็ดน้ำตาที่ไหลไม่หยุดให้แก่เล่อเหยาเหยา
ตรงข้ามกับตงฟางไป๋ที่กังวลและปวดใจ เล่อเหยาเหยาเวลานี้ ร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้ง ภาพตรงหน้าพร่ามัว เลือนลางไม่ชัดเจน แล้วก็พลันชัดเจนขึ้นหลายส่วน จากนั้นก็พร่าเลือนขึ้นมาอีก
เธอไม่รู้ว่าตนเองร้องไห้ไปนานเพียงใด รู้สึกเพียงตนเองร้องไห้จนแทบหมดสติ
และภายในสมองก็นึกถึงใบหน้าของพญายมไม่หยุด
หากเขารู้ว่าเธอตั้งครรภ์ มีบุตรกับชายอื่น จะไม่สนใจเธอ ไม่เจอหน้าเธออีกต่อไปหรือไม่!
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาสับสนวุ่นวายใจ
เดิมทีความจริงตนชอบชายหนุ่มเช่นนี้ ชอบจนไม่อยากสูญเสียเขาไป
แต่ตอนนี้เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพียงเขารู้เรื่องนี้ คงไม่อาจให้อภัยเธอได้แน่!
แม้นี่ความจริงไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เธอตอนนี้อยู่ในร่างนี้ เด็กภายในท้องก็เป็นของเธอ
เด็ก เด็กผู้นี้…
หากเป็นไปได้ เธอสามารถกำจัดเด็กผู้นี้ได้หรือไม่!
ขณะคิดในใจ สองมือของเล่อเหยาเหยาค่อยๆ ลูบไล้ที่บริเวณหน้าท้องของตน
ความจริง เธอชื่นชอบเด็กอย่างมาก
เพราะเธอเป็นลูกคนเดียว ก่อนหน้านี้อยากให้มารดามีน้องชายหรือน้องสาวให้กับเธอ แต่สุดท้ายก็ไม่มี ดังนั้นเธอจึงชื่นชอบเด็กเล็กเป็นพิเศษ
แต่ตอนนี้ เธอกลับพบว่าตนเคียดแค้นเด็กในท้องที่โผล่มาอย่างไม่มีสาเหตุนี้
เพราะเด็กคนนี้ ดุจกำแพงสูงตระหง่านที่แยกเธอและพญายมออกจากกัน
เด็กคนนี้จะเก็บไว้ไม่ได้ เพราะหากเก็บเขาไว้ เธอจะสูญเสียคนที่ชอบไป