สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 220 ฝูงเด็ก (1)
เล่อเหยาเหยาตะลึงเมื่อถูกถาม เหลิ่งอวี้เซวียนเห็นเช่นนั้นพลันถอดกางเกงตนลง ชี้ไปที่นกน้อยของตน ก่อนเอ่ยถามเต็มไปด้วยความสงสารขึ้น
“ที่นี่ของข้ามีสิ่งแปลกประหลาด”
“เอ่อ”
เห็นเหลิ่งอวี้เซวียนชี้ไปที่น้องชายของตน ด้วยท่าทางตะลึงงันน่าสงสาร เล่อเหยาเหยาอยากร้องไห้ออกมา แต่ไร้น้ำตา ก่อนเอ่ยขึ้น
“นี่ไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาด นี่คือสิ่งที่บุรุษทุกคนต่างมี และสิ่งนี้เซวียนเอ๋อร์จะให้ผู้อื่นเห็นไม่ได้ นี่ แค่กๆ ต่อไปมีเพียงภรรยาของตนที่จะเห็นได้เท่านั้น”
“หืม ไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาด บุรุษทุกคนต่างมีหรือ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้เล่อเหยาเหยา เหลิ่งอวี้เซวียนพลันโล่งอก
โชคดียิ่ง เช่นนี้เขาก็ไม่เป็นเด็กประหลาดแล้ว
ทว่า…
“เหตุใดสิ่งนี้จึงให้ผู้อื่นเห็นมิได้ เสด็จแม่และพวกน้าเซี่ยผิงต่างเห็นมันแล้ว และพวกท่านยังลูบคลำมันด้วยนะ!”
“เอ่อ”
เมื่อถูกเหลิ่งอวี้เซวียนถามอย่างตรงไปตรงมา เล่อเหยาเหยาพลันไม่รู้ควรอธิบายเช่นไรดี
สุดท้ายเล่อเหยาเหยาจึงขบคิด และใช้คำพูดที่เหลิ่งอวี้เซวียนสามารถเข้าใจเอ่ยขึ้น
“สิ่งนี้ นอกจากแม่และพวกน้าเซี่ยผิงดูได้แล้ว สตรีอื่นห้ามเห็นเด็ดขาด เพราะสิ่งนี้หลังจากเซวียนเอ๋อร์เติบใหญ่ขึ้น และมีภรรยาแล้วจึงจะให้ภรรยาเห็นได้”
เล่อเหยาเหยาเอ่ยถึงตรงนี้ ลิ้นคล้ายใกล้จะพันกัน จึงหยุดชะงักคล้ายฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนเอ่ยขึ้น
“ดังนั้น ต่อไปเซวียนเอ๋อร์ห้ามให้ผู้อื่นนอกจากแม่และพวกน้าเซี่ยผิงถอดกางเกง และถูกคนเห็นนกน้อยเด็ดขาด!”
“หา นั่น เช่นนั้นหากถูกหญิงอื่นนอกจากเสด็จแม่และพวกน้าเซี่ยผิงเห็นล่ะ และยังลูบคลำด้วย เช่นนั้นเซวียนเอ๋อร์ควรรับเธอเป็นภรรยาหรือไม่”
“ถูกต้อง”
เมื่อได้ยิน เล่อเหยาเหยาพยักหน้าอย่างหนักแน่น โดยไม่คิดสิ่งอื่น
กลับเป็นเหลิ่งอวี้เซวียนหลังได้ยิน อดนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ซินเอ๋อร์มองและลูบคลำนกน้อยของเขาอย่างแปลกใจ เช่นนั้นต่อไปเขาควรแต่งซินเอ๋อร์เป็นภรรยาหรือ!
แม้เขาจะไม่เข้าใจสิ่งใดคือแต่งงาน สิ่งใดคือภรรยา แต่คิดดูแล้วน่าจะคล้ายกับบิดาและมารดาที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
เมื่อนึกถึงต่อไปจะสามารถใช้ชีวิตร่วมกับซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนดีใจ
เพราะเขาชอบซินเอ๋อร์ และซินเอ๋อร์สามารถเล่นสนุกได้มากมาย
หากต่อไปหลังจากเขาเขาแต่งซินเอ๋อร์เป็นภรรยา เช่นนั้นพวกเขาจะสามารถเล่นสนุกดังเช่นสองวันที่ผ่านมาได้ทุกวัน
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนตั้งปณิธานในใจ เมื่อโตขึ้นต้องแต่งกับซินเอ๋อร์!
และพรุ่งนี้เขาต้องมาเล่นสนุกกับซินเอ๋อร์แน่นอน!
แต่เมื่อเหลิ่งอวี้เซวียนกลับมาถึงวังอ๋อง ตกกลางคืนกลับพลันเป็นไข้ขึ้นมา ทำให้เล่อเหยาเหยาตกใจอย่างหนัก
โชคดีตงฟางไป๋ฝีมือแพทย์สูงส่ง และอธิบายว่าเด็กบางครั้งป่วยไข้จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี
แต่เล่อเหยาเหยายังคงกังวล
ส่วนเหลิ่งอวี้เซวียนเป็นไข้หวัดครั้งนี้ แม้วันที่สี่จะหายดี แต่เล่อเหยาเหยายังให้เขาพักฟื้นร่างกายอยู่ในวังอ๋อง ห้ามออกไปที่ใด
ความจริงเหลิ่งอวี้เซวียนต้องการไปเล่นสนุกกับซินเอ๋อร์ แต่ทราบดีว่าการเป็นไข้ของตนครั้งนี้ มารดาตนกังวลเพียงใด ดังนั้นเขาจึงเป็นเด็กดีเชื่อฟังอยู่ในวังอ๋อง รอให้ถึงวันพรุ่งนี้จึงไปหาซินเอ๋อร์
แต่เหลิ่งอวี้เซวียนไม่รู้ว่า เมื่อเขาไปหาซินเอ๋อร์ ครอบครัวของซินเอ๋อร์ย้ายที่อยู่ไปแล้ว
ว่ากันว่าบิดาของซินเอ๋อร์มารับพวกเธอสองแม่ลูกไป แต่รับไปที่ใดไม่มีผู้ใดทราบ
สำหรับเรื่องนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนพลันเสียใจอย่างนัก
ไม่ง่ายกว่าจะมีสหายรู้ใจเล่นสนุกด้วยกัน ทว่าจู่ๆ ไม่ทันได้ล่ำลาก็จากไป จะไม่ให้เหลิ่งอวี้เซวียนเสียใจได้เช่นไร
ดังนั้นเหลิ่งอวี้เซวียนจึงเศร้าซึมลงไปหลายวัน
สำหรับเรื่องนี้ พวกเล่อเหยาเหยาจนใจยิ่งนัก
ดังนั้นจึงคิดหาวิธีการทำให้เขาดีใจ
หลังจากผ่านไปนาน เหลิ่งอวี้เซวียนจึงกลับมาสดใสอีกครั้ง แต่ภายในใจยังคงผิดหวังและสงสัย
ซินเอ๋อร์ไปอยู่ที่ใดกันแน่ ต่อไปพวกเขาจะได้พบหน้ากันอีกหรือไม่!
เขาต้องตามหาเธอ เพราะเขาต้องแต่งเธอเป็นภรรยา!
…
ห้าปีต่อมา
เป็นฤดูร้อนอีกปี
แสงอาทิตย์ด้านนอกเจิดจรัส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง จั๊กจั่นบนยอดไม้ส่งเสียงร้องดังอย่างไม่รู้จบ ทำให้วังอ๋องคึกคักวุ่นวายเพิ่มขึ้น
และเวลานี้ภายในวังอ๋องดุจหม้อระเบิด ทุกคนต่างเปลี่ยนไปกังวลวุ่นวายอย่างยิ่ง
เหตุผลไม่ใช่ใดอื่น แต่เพราะพระชายาของพวกเขาจะคลอดอีกครั้งแล้ว!
เมื่อเอ่ยถึง ‘การคลอดอีกครั้ง’ ถือว่าไม่เลวแม้แต่นิดเดียว
ทั่วเมืองหลวงมีผู้ใดไม่รู้ว่าพระชายาของพวกเขาวาสนาดีอย่างยิ่ง
ผู้อื่นสามปีคลอดบุตรสองคน ส่วนพระชายาของพวกเขาห้าปีคลอดบุตรสามครั้ง เวลานี้เมื่อรวมกับบุตรในวันนี้ พระชายาของพวกเขาคลอดบุตรเป็นคนที่ห้าแล้ว
เรื่องนี้สั่นสะเทือนไปทั่วเมืองหลวง และทุกคนต่างพนันว่าครังนี้พระชายาของพวกเขาจะคลอดบุตรสาวหรือบุตรชายกันแน่
เอ่ยแล้วน่าเหลือเชื่อ พระชายาของพวกเขาคลอดบุตรมาแล้วสี่คน วันนี้กำลังคลอดบุตรคนที่ห้า แต่สี่คนก่อนหน้านี้ต่างเป็นบุตรชาย
สำหรับเรื่องนี้ พระชายาของพวกเขาไม่เคยลืมเลือนดังนั้นทุกครั้งที่เธอคลอดเสร็จ หลังเห็นเป็นบุตรชาย ล้วนกัดฟันกรอดเอ่ยว่าต้องคลอดบุตรสาว หากครรภ์ต่อไปคือบุตรชาย เธอจะตั้งครรภ์ต่อไป หากเป็นบุตรชายอีกครั้ง เธอจะตั้งครรภ์ต่อไปเรื่อยๆ!
สำหรับความตั้งใจอันมุ่งมั่นของพระชายาตนนั้น เหลิ่งจวิ้นอวี๋จนปัญญาอย่างยิ่ง
เพราะบุตรคนหนึ่งเท่ากับปีศาจน้อยตนหนึ่ง ทุกวันต่างแย่งชิงเธอกับเขา ตอนนี้มีปีศาจน้อยสี่คน แม้คิดสัมผัสปลายนิ้วของเธอ ล้วนต้องนัดแนะ
ดังนั้นหลายครั้งเหลิ่งจวิ้นอวี๋จึงคิดอยากหารือกับตระกูลตงฟาง และไปขอเคล็ดลับการได้บุตรสาวกับตงฟางไป๋ที่แต่งงานกับฉีอิงอิง
ผู้ใดบอกให้บุตรสามคนของตงฟางไป๋ต่างเป็นบุตรสาวกันติดกันเลย ช่างไม่ยุติธรรม เขาต้องการบุตรสาว!
แต่สำหรับเคล็ดลับการตั้งครรภ์บุตรชายของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ ตงฟางไป๋ยังต้องอ้อนวอนขอจากเขาเช่นกัน!
เขาต้องการบุตรชาย!
ดังนั้นชายหนุ่มสองคนจึงต่างตกอยู่ในสถานการณ์แสนลำบากเช่นเดียวกัน
และเวลานี้เหลิ่งจวิ้นอวี๋ยืนอยู่ด้านนอกห้อง เดินไปเดินมาอย่างร้อนใจไม่หยุด จนไม่รู้เดินกี่รอบ
เสียงกรีดร้องภายในห้อง เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้สิบกว่าชั่วยามแล้ว และไม่เคยหยุดลง ทำให้เขากังวลอย่างที่สุด
ก่อนหน้านี้หมอตำแยเอ่ยว่ามีเพียงครรภ์แรกที่คลอดค่อนข้างยาก ต่อไปจะราบรื่นอย่างยิ่งมิใช่หรือ!
และขณะคลอดปีศาจน้อยสามคนนั้น ไม่ถึงสองชั่วยามเหยาเหยาของเขาก็คลอดแล้ว เหตุใดตอนนี้สิบกว่าชั่วยามแล้วยังไม่มีการเคลื่อนไหวอีก!
หรือจะคลอดยาก!
พอนึกถึงตรงนี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลออกมา
ทันใดนั้น ปีศาจน้อยบางคนยังคิดว่าเขายังหนักใจไม่เพียงพอ จึงร้องโวยวายอยู่ที่ประตูไม่หยุด และสิ่งที่พวกเขาร้องตะโกนอยู่ไม่ใช่สิ่งใด แต่คือ
“เสด็จแม่ เฮ่าเอ๋อร์ต้องการน้องสาว!”
“เสด็จแม่ หลงเอ๋อร์ต้องการน้องสาว!”
“เสด็จแม่ เป่ยเอ๋อร์ต้องการน้องสาว!”
นอกจากเหลิ่งอวี้เซวียนบุตรชายคนโตที่นั่งดูสมุดบัญชีของวังอ๋องอย่างตั้งใจอยู่ด้านข้าง บุตรชายคนรอง บุตรชายคนที่สาม และบุตรชายคนที่สี่ต่างร้องตะโกนเรียกร้องอยู่หน้าประตูไม่หยุด!
เห็นเช่นนั้นเหลิ่งอวี้เซวียนพลันรู้สึกจนปัญญาและปวดศีรษะ!
ปวดศีรษะเพราะเห็นปีศาจน้อยสามคนนี้แล้ว เขาจึงหวาดกลัวว่าจะให้กำเนิดปีศาจน้อยเช่นนี้ออกมาอีกหนึ่งคน
เพราะตอนที่มีเซวียนเอ๋อร์ เซวียนเอ๋อร์ครอบครองภรรยาของเขาตลอดทั้งวัน
หลังเซวียนเอ๋อร์เริ่มรู้เรื่อง พลันสนใจเรื่องบัญชีและการค้าขายอย่างหนัก และไม่รู้ว่าความสนใจนี้ของเขาเกิดขึ้นมาจากที่ใด
แต่ว่าสำหรับการเปลี่ยนแปลงของเซวียนเอ๋อร์ เหลิ่งจวิ้นอวี๋ย่อมชื่นชอบ
ความสนใจในบัญชีและการค้าขายไม่ใช่เรื่องผิด
นอกจากนี้การค้าขายของเซวียนเอ๋อร์ ถือว่ามีพรสวรรค์ล้ำเลิศจริงๆ หรืออาจเรียกว่าอัจฉริยะ
ดังนั้นตอนนี้เซวียนเอ๋อร์อายุสิบขวบ แต่เหลิ่งจวิ้นอวี๋วางใจให้เขาจัดการเรื่องบัญชีภายในวังอ๋อง
เพราะฉะนั้นตลอดทั้งวันเซวียนเอ๋อร์จมอยู่กับสมุดบัญชี ไม่แย่งชิงภรรยากับเขาอีก
แต่ก็มีข้อเสีย
นั่นคือนิสัยของเซวียนเอ๋อร์นับวันยิ่งเงียบขรึม ส่วนใหญ่ล้วนนั่งคิดบัญชีอยู่เงียบๆ เพียงคนเดียว ไม่สนใจแยแสผู้อื่น นิสัยเริ่มคล้ายคลึงกับเขาทีละน้อย แม้เขาจะคิดว่านี้คือสิ่งที่ดี เพราะชายหนุ่มต้องเคร่งขรึมถึงจะดี
แต่พระชายามักบ่นว่าเด็กอายุสิบขวบ ทำตัวโตเกินวัยเช่นนี้ เธอเห็นแล้วปวดใจยิ่งนัก
ทว่าเหลิ่งจวิ้นอวี๋แม้ดีใจที่บุตรชายคนโตไม่เกาะติดภรรยาของตน แต่กลับทำให้เขาปวดศีรษะก็คือ เล่อเหยาเหยาคลอดบุตรชายสามคนติด และทุกครั้งที่ตั้งครรภ์ เขาต้องหยุดมีความสัมพันธ์เช่นสามีภรรยากว่าครึ่งปี!
เรื่องนี้ สำหรับเหลิ่งจวิ้นอวี๋คือการทรมานอย่างหนักหนาสาหัส
หญิงสาวที่ตนรักที่สุดนอนอยู่ข้างกายตน แต่กลับทำได้เพียงมอง ไม่อาจสัมผัส
เมื่อถึงคราฝืนทนไม่ไหว ทั้งสองใช้วิธีการอื่นในการจัดการเรื่องนั้น
เขาหวาดกลัวจริงๆ
ข้างกายเวลานี้มีปีศาจน้อยสามคน เกาะติดภรรยาเขาตลอดทั้งวัน ขยับหรือไม่ขยับต่างร้องไห้ให้เขาเห็น ทำให้เขาส่วนใหญ่โมโหอย่างสุดขีด หากจะให้ตบตีพวกเขาตนตัดใจทำไม่ลง แต่เหยาเหยาไม่ปล่อยเขา และไม่อบรบสั่งสอนพวกเขาแน่ พวกเขาทุกวันต่างแย่งชิงภรรยาของเขาไป กระทั่งยามเข้านอนต่างครอบครองภรรยาของเขา เขาช่างทุกข์ทรมานเสียจริง!
ความจริงเขาไม่อยากเป็นเช่นนี้ต่อไป เพราะมีปีศาจน้อยเหล่านี้ก็หวาดกลัวเพียงพอแล้ว แต่เหยาเหยากลับต้องการบุตรสาวสักคน และยังประกาศว่าหากไม่ได้บุตรสาวจะตั้งครรภ์ต่อไป รู้สึกว่าตนคือแม่สุกรหรือไร!
ดังนั้นเวลานี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋จึงเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจไม่หยุดอยู่นอกประตู เพราะกังวลสภาพร่างกายของเล่อเหยาเหยา ภาวนาในใจว่าครั้งนี้ต้องเป็นบุตรสาวเท่านั้น เขาไม่อยากมีปีศาจน้อยเพิ่มขึ้นมาอีกเพื่อแย่งชิงภรรยาของเขา!
ขณะเหลิ่งจวิ้นอวี๋ร้อนใจลนลานดุจไฟแผดเผา ทันใดนั้นภายในห้องที่มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พลันมีเสียงทารกร้องดังออกมา
เสียงร้องไห้ของทารกนี้ คล้ายเสียงอันไพเราะดังมาจากสวรรค์ ทำให้ห้องโถงที่โกลาหล พลันเงียบงันลงทันที
ปีศาจน้อยเหล่านั้นหยุดตะโกนเรียกร้อง เหลิ่งอวี้เซวียนในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นจากสมุดบัญชี ก่อนมองไปที่ประตูห้อง
ส่วนเหลิ่งจวิ้นอวี๋ในที่สุดก็หยุดฝีเท้าลง ก่อนยืนชิดด้านหน้าประตู รอคอยการเคลื่อนไหวภายในห้องอย่างกังวลใจ