สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 228 เศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งเทียนหยวน (2)
ตอนนี้เห็นเสี่ยวหวนพาเธอมายังห้องสวยงามแห่งนี้ ซินเอ๋อร์จึงรู้สึกเหลือเชื่อ
เห็นเพียงห้องนี้ ตกแต่งอย่างสวยงาม แต่ยังคงงามสง่า
บนพื้นหินปูด้วยพรมลายบุปผาสีแดง รอบด้านม่านลูกปัดไหวเอน ม่านโปร่งบางเบา
โต๊ะเก้าอี้ไม้จื่อถานวางอยู่ด้านข้าง บนผนังแขวนภาพหญิงสาวโบราณไว้ภาพหนึ่ง
แสงเทียนสลัวในโคมไฟไหมพรมแขวนไว้สูงบนผนังนั้น ทำให้ภายในห้องดูอบอุ่นงดงามมากขึ้น
นี่สวยงามยิ่งกว่าห้องของคุณหนูสูงศักดิ์เสียอีก
ก่อนหน้านี้ขณะเธอทำงานใช้แรงงาน เคยปัดกวาดห้องคุณหนูสูงศักดิ์ผู้หนึ่งมาก่อน ตอนนั้นเธอมองห้องสวยงามนั้นอย่างอิจฉา
คิดไม่ถึงวันนี้เธอก็สามารถพักอยู่ในห้องที่สวยงามเช่นนี้ได้ นี่เหลือเชื่อจริงๆ
เมื่อเห็นซินเอ๋อร์มองรอบๆ ไม่หยุด ดวงตาคู่งามเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา เสี่ยวหวนพลันเอ่ยขึ้น
“ข้าไม่ได้พามาผิดห้อง ข้าทำงานอยู่ที่นี่มาห้าปีแล้ว ข้าจะไม่คุ้นเคยกับที่นี่ได้อย่างไร!”
“เช่นนั้น เหตุใดเซวียนจึงให้ข้าพักห้องที่ดีเช่นนี้ เขาเพียงให้ข้ามาเป็นสาวใช้คอยปรนนิบัติเขา มิใช่หรือ!”
เมื่อเห็นเสี่ยวหวนเอ่ยอย่างมั่นใจ ซินเอ๋อร์อดขมวดคิ้วเอ่ยอย่างสงสัยไม่ได้
คิดไม่ถึง หลังได้ยินคำพูดของเธอ เสี่ยวหวนร้องอย่างตกใจ ก่อนสูดลมหายใจ เอ่ยถามอย่างไม่เชื่อสายตาว่า
“ซินเอ๋อร์ เจ้าพูดว่าเช่นไรนะ เจ้าเรียกชื่อของนายท่านตรงๆ หรือ และยัง ยัง…” สองคำที่คลุมเคลือเช่นนี้เอ่ยออกมาไม่ได้ เสี่ยวหวนคล้ายคิดขึ้นได้ จึงเอ่ยปากต่อว่า
“เมื่อครู่ เจ้าว่านายท่านให้เจ้ามาเป็นสาวใช้ปรนนิบัติเขาหรือ!”
“เอ่อ”
สำหรับท่าทางราวเห็นผีของเสี่ยวหวน ซินเอ๋อร์ไม่รู้เหตุใดเสี่ยวหวนจึงตกใจเช่นนี้ แต่ยังเอ่ยถึงสิ่งที่เสี่ยวหวนสงสัยออกมา
“ใช่ เซวียนให้ข้ามาเป็นสาวใช้ปรนนิบัติเขาอยู่ที่นี่ และที่ข้าเรียกชื่อเขา เพราะเซวียนให้ข้าเรียกเขาเช่นนี้”
เพราะรับรู้ว่าเสี่ยวหวนตกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
ไม่มีสาวใช้ผู้ใดเอ่ยเรียกชื่อเจ้านายตรงๆ และยังสนิทสนมเช่นนี้
แต่นี่คือคำขอร้องของเขา ดังนั้นซินเอ๋อร์จึงเอ่ยเรียกเช่นนี้
ซินเอ๋อร์รู้ว่าเหลิ่งอวี้เซวียนดีกับเธอจริงๆ แต่คิดไม่ถึงกระทั่งที่พักยังดีขนาดนี้ จนทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจ
แต่ซินเอ๋อร์คิดไม่ออกว่าเหตุใดชายหนุ่มจึงดีกับเธอขนาดนี้ เมื่อคิดไม่ออก หยุดคิดคงดีกว่า อาจเพราะต่อไปเธอจะรู้เอง
ตอนนี้เห็นเสี่ยวหวนตกใจอย่างหนัก ซินเอ๋อร์อดขมวดคิ้ว ก่อนเอ่ยถามเสี่ยวหวนไม่ได้
“เสี่ยวหวน เจ้าป็นอันใดหรือ”
หลังได้ยิน เสี่ยวหวนพึมพำขึ้น
“นายท่านให้เจ้าปรนนิบัติเขาหรือ เช่นนั้น…”
“ถูกต้อง นี่มีสิ่งใดไม่ถูกต้องหรือ!”
เมื่อเห็นเธอเอ่ยประโยคนี้ไม่หยุด และเห็นชัดว่าตกใจและแปลกใจอย่างหนัก ซินเอ๋อร์อดกระพริบตาก่อนเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจไม่ได้
เมื่อเห็นท่าทางสงสัยของซินเอ๋อร์ เสี่ยวหวนค่อยๆ ได้สติ ทันใดนั้นดวงตาเรียวยาวดุจสายฟ้า กวาดมองทั่วกายซินเอ๋อร์รอบหนึ่ง จนซินเอ๋อร์รู้สึกอึดอัด
และเสี่ยวหวนที่มองสำรวจซินเอ๋อร์รอบหนึ่ง กลับพลันพึมพำกับตนเองขึ้น
“มิน่า มิน่า…”
ผู้คนทั่ววังต่างรู้ว่าเจ้านายตนไม่ใช่คนเจ้าชู้
ขณะเจ้านายอายุสิบห้าปี หลังถูกสาวใช้กล้าหาญมากมายปีนขึ้นเตียง โมโหแผดเสียงไปครั้งหนึ่ง จากนั้นปลดสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายทั้งหมดไป เปลี่ยนมาเป็นบุรุษแทน
ส่วนสาวใช้อื่น ปกติไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในตำหนักหยกขาว
ช่วงส่วนตัว บางคนสำหรับเรื่องนี้ยังแอบกระซิบกระซาบว่าเจ้านายไม่ชื่นชอบสตรี ตอนนี้จากที่เสี่ยวหวนเห็น เจ้านายไม่ใช่ไม่ชอบสตรี แต่เจ้านายรสนิยมสูง จึงไม่สนใจสตรีท่าทางธรรมดา
แต่หญิงสาวตรงหน้านี้กลับแตกต่างออกไป!
แม้พวกเธอจะเป็นสตรีเช่นกัน อายุไล่เลี่ยกัน แต่รูปโฉมนั้นกลับแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
เสี่ยวหวนยอมรับว่าตนไม่ใช่หญิงที่งดงามอันใด แต่ถือว่ารูปโฉมหมดจด ผิวขาวใช้ได้เท่านั้น
แต่เมื่อตนเทียบกับสาวน้อยตรงหน้านี้ กลับพลันถูกลดระดับลง
เห็นเพียงสาวน้อยตรงหน้า คิ้วคมเข้ม โดยไม่ต้องแต่งเติม ดวงตาแวววาว กระจ่างใส
จมูกเล็กงอน หมดจดดุจหยก ริมฝีปากคู่นั้น เห็นชัดว่าไม่มีสิ่งใด แต่กลับชุ่มฉ่ำแวววาว ดุจลูกพลับสุกงอมในเดือนสิบสอง สะดุดตาอย่างยิ่ง!
ผมยาวดำขลับนั้น ดังเส้นไหมสีเข้มนุ่มลื่น ยาวสลวย สวยงามอย่างที่สุด!
กลางคืนที่มืดมิดนั้น ทำให้ผิวของสาวน้อยขาวผ่องดุจหิมะ เนียนนุ่ม ทำให้คนเห็นอดอยากเข้าไปลูบไล้ไม่ได้
เมื่อมองจากใบหน้าโดดเด่นของสาวน้อยลงไป
เห็นว่าสาวน้อยรูปร่างบอบบาง กระโปรงหลัวฉวินสีชมพูขับเน้นให้เธออ้อนแอ้นมากขึ้น
สาวน้อยผู้นี้ไม่ได้ประทินโฉม แต่กลับมีกลิ่นอายบริสุทธิ์ ทำให้คนมองรู้สึกชื่นชอบ
แม้ความงามของสาวน้อย จะทำให้คนตกตะลึง แต่เสี่ยวหวนกลับไม่อิจฉา
และในใจยังเข้าใจทันที
มิน่าเจ้านายจึงพลันให้เธอปรนนิบัติเขา สาวงามอรชรเช่นนี้ ชายใดได้เห็น แล้วใจไม่เต้นได้อย่างไร!
แม้จะเข้าใจบางส่วน แต่หลังเห็นสีหน้าไม่เข้าใจของซินเอ๋อร์ เสี่ยวหวนกลับไม่เอ่ยเรื่องที่เจ้านายไม่ให้สาวใช้ปรนนิบัติออกมา เอ่ยเพียง
“ไม่มีสิ่งใดไม่ถูกต้อง ต่อไปเจ้าปรนนิบัตินายท่านให้ดี หากมีเรื่องใดไม่เข้าใจ สามารถไปหาข้าได้”
“ฮ่า ๆ เสี่ยวหวนเจ้าช่างดีจริงๆ!”
แม้รู้ว่าเสี่ยวหวนคล้ายรู้เรื่องบางอย่างแล้วไม่บอกกล่าวเธอ แต่เมื่อเธอไม่ยอมพูด ซินเอ๋อร์ก็ไม่เอ่ยถาม
กลับเป็นเสี่ยวหวนที่อยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นซินเอ๋อร์หัวเราะขอบคุณ ใบหน้าเล็กกลับร้อนผ่าว
ทันใดนั้น รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา จึงเอ่ยถามซินเอ๋อร์ขึ้น
“จริงสิ ซินเอ๋อร์ เจ้ารู้จักกับนายท่านได้เช่นไร”
จะโทษเธอไม่ได้ เพราะความอยากรู้อยากเห็นคือนิสัยธรรมชาติของสตรี!
ยิ่งไปกว่านั้น เหลิ่งอวี้เซวียนสำหรับเสี่ยวหวน โอ ไม่ สำหรับสตรีทั่ววัง คือมนุษย์ที่ดังเทพเซวียน
ก่อนหน้านี้ พวกเสี่ยวหวนเห็นเจ้านายตนเพียงไกลๆ รู้สึกว่าเจ้านายตนเฉลียดฉลาดมีความสามารถ อายุน้อยแต่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ผู้ใดล้วนไม่อาจดูแคลน พูดน้อย บุคลิกที่ออกมาจากกาย สูงส่ง ดุดัน
หน้าตามักสง่าผ่าเผยราวกับราชา!
ชายหนุ่มสูงส่งดังเทพเซียนเช่นนี้ ทำให้คนกล้าเพียงมองในระยะไกล แต่ไม่กล้าล่วงเกินลบหลู่
ดังนั้น เวลานั้นทุกคนจึงแอบซุบซิบกันว่า เจ้านายของตนคล้ายไร้หัวใจ
แต่ตอนนี้ดูแล้ว เจ้านายคงเข้าใจเรื่องความรักแล้ว
เสี่ยวหวนจึงอดถามอย่างอยากรู้ไม่ได้
เมื่อเห็นเสี่ยวหวนคล้ายสนใจเรื่องตนและเหลิ่งอวี้เซวียนอย่างมาก ซินเอ๋อร์อดตะลึงงันไม่ได้ ทันใดนั้นนึกถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก่อนรู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อ
ต่อมา เธอยังเอ่ยเล่าเรื่องของตนให้แก่เสี่ยวหวนฟัง
“ที่แท้เป็นเช่นนี้”
ดูท่าเป็นเจ้านายตนที่ตกหลุมรักซินเอ๋อร์ตั้งแต่แรกพบ!
แม้เทพบุตรในใจจะรักสตรีอื่น เสี่ยวหวนเพียงเศร้าเล็กน้อย
ทว่าเมื่อใกล้ชิดกับซินเอ๋อร์ รู้สึกว่าซินเอ๋อร์มีนิสัยใสซื่อ ยากที่จะทำให้คนเกลียดชังได้
ดังนั้น เวลานี้เสี่ยวหวนมีเพียงอวยพรให้เจ้านายตนเอาชนะใจสาวงามได้สำเร็จ!
ขณะเสี่ยวหวนคิดในใจ ซินเอ๋อร์เห็นเสี่ยวหวนพึมพำกับตนเอง รู้สึกสงสัยในใจ ทว่าต่อมาจู่ๆ นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“จริงสิ เสี่ยวหวน ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากถามเจ้า เจ้าบอกข้าได้หรือไม่”
“อืม เจ้าเอ่ยถามมาเถิด เพียงข้ารู้ ข้าจะบอกกับเจ้า”
หลังได้ยินซินเอ๋อร์เอ่ยถาม เสี่ยวหวนพลันเอ่ยตอบกลับไปทันที
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์ไม่ลังเล เอ่ยถามสิ่งที่ตนสงสัยตลอดวันออกมา
“เซวียนเขาคือผู้ใดหรือ วันนี้ข้าเจอเขาที่ชั้นห้าของ ‘หอสุราดับทุกข์’ แต่ข้าได้ยินคนพูดกันว่าชั้นห้าของ ‘หอสุราดับทุกข์’ คือสถานที่ที่ผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามขึ้นไป แต่ตอนนั้นเซวียนกลับอยู่ที่นั่น เขามีสถานะเช่นไรกันแน่ และเขายังดูคล้ายร่ำรวยอย่างมาก”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์อดขมวดคิ้วอย่างสงสัย และขบคิดไม่ได้
แต่หลังเสี่ยวหวนได้ยินคำพูดของเธอ จึงเอ่ยอย่างจริงจังขึ้นว่า
“ไม่ใช่คล้ายร่ำรวย นายท่านคือมีเงินทองมหาศาล ซินเอ๋อร์หรือเจ้าอยู่กับนายท่านตลอดทั้งวัน แต่ไม่รู้ว่าเขาคือผู้ใด!”
แม้จะรู้คำตอบจากสีหน้าของซินเอ๋อร์ แต่เสี่ยวหวนยังเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อ
หลังได้ยิน ซินเอ๋อร์ส่ายหน้า ก่อนเอ่ยตามความจริงว่า
“ไม่รู้จริงๆ!”
“เอ่อ”
สำหรับคำพูดของซินเอ๋อร์ เสี่ยวหวนถึงกับหมดคำพูด ดวงตาเรียวยาวนั้นเบิกกว้างเพราะตกใจ
“ซินเอ๋อร์ ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเจ้ามาจากที่ใด”
เสี่ยวหวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา ทันใดนั้นเอ่ยขึ้น
“เจ้ารู้จักนามของเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งเทียนหยวนหรือไม่”
“ข้ารู้ คล้ายจะชื่อว่าท่านผู้อาวุโสเหลิ่งอวี้เซวียน”
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์พลันเอ่ยขึ้น เสี่ยวหวนได้ยินกลับเหงื่อไหล
ก่อนเอ่ยขึ้น
“ผู้อาวุโสหรือ!”
“ถูกต้อง ได้ยินว่า ‘หอสุราดับทุกข์’ คือผู้อาวุโสที่ชื่อเหลิ่งอวี้เซวียนเป็นเจ้าของ และเขายังอายุหกสิบกว่าปีแล้ว รูปโฉมยังไม่น่ามอง”
ซินเอ๋อร์เอ่ยสิ่งที่ตนรู้ทั้งหมดออกมา เมื่อเห็นท่าทางหมดคำพูดของเสี่ยวหวน อดกระพริบตาคู่งามไม่ได้ ก่อนเอ่ยถาม
“เสี่ยวหวน ข้าพูดอะไรผิดไปหรือ”
“ถูกต้อง เจ้าพูดผิดแล้ว และยังผิดอย่างมากอีกด้วย ข่าวลือด้านนอก จะเชื่อถือได้เช่นไร ผู้อาวุโสอายุหกสิบอันใด รูปโฉมอัปลักษณ์ ทั้งหมดคือคำให้ร้าย!”
เพียงนึกถึงด้านนอกเล่าลือเจ้านายตนอย่างเสียหายขนาดนี้ เสี่ยวหวนโมโหขึ้นมา
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น หดคอลงอย่างหวาดกลัว ก่อนไม่เข้าใจว่าเหตุใดเสี่ยวหวนจึงโมโห
ตอนนี้ พวกเธอคล้ายเอ่ยถึงเศรษฐีอันดับหนึ่งของเทียนหยวนมิใช่หรือ!
อาจเพราะรู้ถึงความในใจของซินเอ๋อร์ เสี่ยวหวนจึงถลึงตามองซินเอ๋อร์อย่างจนใจแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เจ้าโง่ยิ่งนัก นายท่านเหตุใดปรากฎตัวขึ้นที่ ‘หอสุราดับทุกข์’ อย่างไร้สาเหตุ และภายในชื่อของนายท่าน ไม่ใช่มีคำว่าเซวียนหรือ พูดชัดเจนขนาดนี้ เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ!”
หลังได้ยินคำพูดของเสี่ยวหวน ซินเอ๋อร์อดครุนคิดอยู่รอบหนึ่งไม่ได้ ทันใดนั้นคล้ายฉุกคิดขึ้นมาได้ ดวงตาคู่งามเปล่งประกายพลันเบิกกว้าง
“เซวียน เหลิ่งอวี้เซวียน ความจริงเขาคือ…”
เศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งเทียนหยวน!
ครั้งนี้ ซินเอ๋อร์ถูกข้อมูลที่ได้รับรู้นี้ ทำให้ตกตะลึงอย่างที่สุด
…………………………………………………………………………………..