สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 232 บ่อน้ำกระเพื่อม
เมื่อรู้สึกแรงบนไหล่บางเบา อ่อนโยน ฝ่ามือของอีกฝ่ายหยาบกร้าน เพียงมองก็รู้ว่าปกติทำงานหนักหยาบกระด้าง
แต่ไม่รู้เหตุใด เหลิ่งอวี้เซวียนรู้สึกหลี่ฝูวันนี้แปลกไป
หากเอ่ยว่าที่ใดแปลก เวลานี้เขาก็พูดไม่ออกเช่นกัน
เพียงรู้สึกว่า ความรู้สึกบนไหล่สบายยิ่งนัก
น้ำหนักแรงในการนวดนั้นก็ทำให้เขาพอใจอย่างยิ่ง
พอเอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนอดปิดตาเอ่ยขึ้นไม่ได้
“อาฝู ฝีมือการนวดของเจ้านับวันยิ่งพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ”
เหลิ่งอวี้เซวียนถอนหายใจเบาๆ ทว่าเสียงตอบเขากลับมามีเพียงคำว่า ‘อืม’ เบาๆ คำเดียว
เมื่อได้ยินเหลิ่งอวี้เซวียนอดขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้
เพราะหลี่ฝูปรนนิบัติรับใช้เขามานาน นิสัยของหลี่ฝูเขาจึงรู้ดี
หากเป็นยามปกติ เมื่อเขาชื่นชมหลี่ฝูเช่นนี้ หลี่ฝูต้องดีใจประจบสอพลอเอ่ยสิ่งที่เขาชอบฟังขึ้นมาแน่นอน แต่เหตุใดวันนี้ หลี่ฝูจึงเงียบงันเช่นนี้!
ยิ่งคิด เหลิ่งอวี้เซวียนยิ่งแปลกใจ
ทันใดนั้น ดวงตาที่ปิดสนิทพลันลืมขึ้น
เมื่อเห็นใบหน้าเล็กประณีตอยู่ชิดใบหน้าของตนนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนสั่นไหวในใจ ดวงตาดำขลับพลันเบิกกว้าง
“เหตุใดจึงเป็นเจ้า!”
“เอ่อ”
เมื่อไม่คาดคิดว่าเหลิ่งอวี้เซวียนจะลืมตาขึ้นกะทันหัน ซินเอ๋อร์ที่กำลังนวดให้แก่ชายหนุ่มตกใจอย่างหนัก ก่อนล้มก้นกระแทกพื้นลงไป
ทว่าเธอไม่สนความเจ็บปวดบนก้น เพราะกลัวเหลิ่งอวี้เซวียนจะเข้าใจผิด จึงรีบเอ่ยอธิบายออกมา
“ภรรยาของพี่หลี่ฝูใกล้คลอด เขาจึงกลับไปที่บ้านแล้ว แต่เขากังวลว่าไม่มีผู้ใดปรนนิบัติท่านตอนอาบน้ำ ดังนั้นจึง จึงให้ข้ามาแทน”
เอ่ยถึงประโยคสุดท้าย เสียงของซินเอ๋อร์ยิ่งแผ่วเบาลง และสายตาเมื่อได้ใกล้ชิดกับแผ่นอกกว้างโผล่ขึ้นมาจากน้ำของเหลิ่งอวี้เซวียน หลุบตาลงอย่างรวดเร็ว และไม่กล้ามองไปอีกครั้ง
สวรรค์ น่าอับอายยิ่งนัก เธอเป็นผู้หญิง ทว่ากลับมาปรนิบัติชายหนุ่มอาบน้ำ
พอนึกถึงเรื่องเหล่านี้ ซินเอ๋อร์หน้าร้อนผ่าวอย่างเขินอาย สับสนวุ่นวายในใจ
เมื่อครู่เหลิ่งอวี้เซวียนปิดตาลง จึงไม่รับรู้ว่าคือเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าแม้หายใจ
ตอนนี้เห็นชายหนุ่มกำลังมองตรงมาที่เธอ ทำให้ซินเอ๋อร์สับสนวุ่นวาย ดังนั้นหลังอธิบายเรื่องทั้งหมดจบ พลันลุกขึ้นยืนจากพื้น และเอ่ยออกมาประโยคหนึ่งว่า ‘ข้าขอตัวก่อน’ ก่อนคิดหมุนกายจากไป
แต่อาจเพราะเธอกังวลเกินไป จึงสะดุดเข้ากับชายกระโปรงยาวของตนเข้า ดังนั้นเรื่องน่าเศร้าจึงเกิดขึ้น
เสียงร้องตกใจ ‘อา’ ดังขึ้นพร้อมร่างกายของซินเอ๋อร์สูญเสียการทรงตัว พุ่งกระโจนตรงไปทางด้านหน้า
และด้านหน้าของเธอ คือบ่อน้ำพุร้อนเป็นประกายแวววาวนั้น
จากนั้นหลังเสียง ‘ตูม’ ดังขึ้นน้ำแตกกระจายไปรอบทิศ
ซินเอ๋อร์ว่ายน้ำไม่เป็น ดังนั้นเมื่อตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อน สองมือจึงตะเกียกตะกายอยู่บนผิวน้ำไม่หยุด
น้ำลึกอย่างมาก เท้าของเธอจึงเหยียบไม่ถึงพื้น
ทันใดนั้นซินเอ๋อร์ตื่นตกใจ
เพราะตั้งแต่เด็กมีครั้งหนึ่งเธอออกไปเดินเล่น ไม่ระวังจึงตกลงไปในแม่น้ำ จนเกือบจมน้ำตาย ความรู้สึกหายใจไม่ออกนั้นเธอยังคงจดจำได้จนถึงทุกวันนี้
ดังนั้นซินเอ๋อร์เวลานี้จึงหวาดกลัวสุดชีวิต สองมือสองขาตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำไม่หยุด ขณะเธอคิดว่าตนต้องจมน้ำ พลันมีพลังมหาศาลดึงตัวเธอขึ้นมา
หลังหายใจเอาอากาศเข้าไป เพราะในใจสับสนซินเอ๋อร์จึงไม่สนใจว่าเวลานี้กอดสิ่งใดอยู่กันแน่ จึงรู้สึกเพียงด้านหน้ามี ‘สิ่งของ’ สูงใหญ่อย่างหนึ่ง ดังนั้นสองมือสองเท้าดุจลิงเกาะต้นไม้ กอดรัดร่างตรงหน้าตนไว้แน่นทันที
“เป็นเช่นไร ไม่เป็นไรใช่หรือไม่!”
หูได้ยินเสียงแหบพร่าแฝงความอดกลั้นทว่ากังวลใจดังขึ้น เมื่อได้ยินซินเอ๋อร์เอ่ยปากขึ้นทันที
“มะ…ไม่เป็นไร เอ่อ…”
หลังเอ่ยจบ ซินเอ๋อร์คล้ายฉุกคิดขึ้นมาได้ ใบหน้าเล็กที่ก้มต่ำลงเงยขึ้นมา ดวงตากลมโตกระจ่างใสคู่นั้น เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าพลันเบิกกว้างดุจระฆังขึ้นมา
เพราะในที่สุดเธอรับรู้ว่า ‘สิ่งของ’ ที่ตนกอดอยู่คือสิ่งใด นั่นก็คือ…
เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้น ก่อนซินเอ๋อร์พลันรู้สึกเพียงสมองตนคล้ายฟ้าผ่าลงมาจนขาวโพลน คิดสิ่งใดไม่ออก
แขนและขาในเวลานี้ พลันคลายออกจากร่างกายตรงหน้าทันที
แต่เมื่อเธอปล่อยแขนและขาจากร่างนั้น ความรู้สึกหวาดกลัวไร้หลักยึดกลับทำให้เธอตกใจจนได้สติกลับมา ทันใดนั้นจึงกอดร่างกายชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง
ท่าทางการกอดนั้น ราวกับตัวสลอธเกาะกุมต้นไม้ใหญ่ น่าขบขันยิ่งนัก
เดิมทีสถานการณ์เช่นนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนต้องฝืนทน แต่เมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกและเขินอายของซินเอ๋อร์ อันน่ารักและน่าขันเช่นนี้ กลับทำให้เขาฝืนทนไม่ไหว
เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้นเหนือศีรษะนั้น ทำให้ซินเอ๋อร์ที่เขินอายอยู่ ยิ่งหน้าแดงก่ำมากขึ้น แต่เธอไม่กล้าปล่อยมือจากร่างตรงหน้า เพราะน้ำลึกมากเกินไป เธอที่ว่ายน้ำไม่ได้ หากปล่อยมือต้องจมน้ำอย่างแน่นอน!
แต่เสียงหัวเราะสดใสก้องกังวานนั้น กลับทำให้เธออยากมุดลงไปในน้ำ โดยไม่คิดโผล่ขึ้นมาอีกอย่างเขินอายและหงุดหงิด
เหตุใดเธอจึงโชคร้ายเช่นนี้ ปรนนิบัติเขาอาบน้ำ และปรนนิบัติจนตกลงมาในบ่อน้ำ จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เกรงว่าคงมีเธอเพียงผู้เดียว
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์รู้สึกตนซุ่มซ่าม ล้มเหลวยิ่งนัก
แต่ขณะที่เธอยังไม่ได้สติจากความผิดหวัง รู้สึกสองขาตนคล้ายมีของแข็งบางอย่าง กำลังทิ่มแทงส่วนหน้าท้อง จนเธอรู้สึกไม่สบาย
เดิมทีคิดว่าคือมือของชายหนุ่ม แต่คิดไปแล้วคล้ายจะไม่ใช่
ดังนั้นซินเอ๋อร์จึงขยับตัวไม่หยุด เพื่อให้สิ่งนั้นขยับออกไป
แต่เธอกลับไม่รู้ว่าตนเวลานี้ ช่างเล่นกับไฟเสียจริง
“ห้ามขยับ สาวน้อยเจ้ากำลังเล่นอยู่กับไฟรู้หรือไม่!”
“เอ่อ!”
เล่นกับไฟ หมายถึงสิ่งใด!
ซินเอ๋อร์ได้ยินกระพริบตาแวววาวอย่างไม่เข้าใจชั่วขณะ แต่เธอกลับไม่รู้ว่าตนเวลานี้ปลุกไฟให้โหมกระหน่ำมากเพียงใด!
ทั่วร่างเปียกปอน เส้นผมยาวลื่นดุจน้ำตกของซินเอ๋อร์เวลานี้แนบติดบนร่างกายและข้างใบหน้าของเธอ
หยดน้ำกระจ่างใสนั้น ไหลลงมาตามผมหน้าม้าเปียกชื้นของเธอ ก่อนลงสู่สองแก้มอย่างช้าๆ ทำให้เธอดุจดอกบัวงามโผล่พ้นน้ำขึ้นมา
ใบหน้าดุจดอกฝูหรง ผิวขาวดุจหิมะ ดวงตาแวววาวดุจน้ำ จมูกโด่งริมฝีปากชมพู หอมเย้ายวนใจ!
คนงดงามเช่นนี้ มิต้องเอ่ยถึงบุรุษ เกรงว่านักบวชได้เห็นก็คงอดใจเต้นแรงไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นในเวลานี้คือเหลิ่งอวี้เซวียน!
เหลิ่งอวี้เซวียนยอมรับว่าตนไม่คิดล่วงเกินหญิงสาว เขาคือบุรุษเปี่ยมด้วยพลังปกติทั่วไปผู้หนึ่ง เวลานี้หญิงคนรักอยู่ในอ้อมกอดตน หากเขายังไม่สะทกสะท้าน เช่นนั้นเขาถือว่าเป็นบุรุษหรือไม่
ดังนั้นขณะซินเอ๋อร์ไม่เข้าใจ รู้สึกเพียงท้ายทอยถูกชายหนุ่มใช้มือกดไว้
ซินเอ๋อร์จึงตกใจ คล้ายรับรู้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น
แต่กลับสายเกินไป!
จุมพิตแฝงความเปียกชื้น ทว่ากลับร้อนแรงนั้นประกบแน่นลงบนริมฝีปากเธอ
จุมพิตของชายหนุ่ม ร้อนแรง ดุดัน และเผด็จการเช่นนี้
และทำให้ซินเอ๋อร์ตกใจอย่างหนัก
พลันดวงตาเบิกกว้าง ซินเอ๋อร์สะดุ้งในใจ ก่อนหมายเบือนศีรษะออก แต่มือใหญ่ของชายหนุ่มตรึงท้ายทอยตนไว้แน่น ทำให้เธอขยับศีรษะไม่ได้ เพียงรู้สึกถึงจุมพิตดุดันของชายหนุ่มนั้น
ลิ้นสอดเข้าไปกวาดล้างภายในปากเธอไม่หยุด ดูดกลืนลิ้นของเธอดุจลมพายุอันบ้าคลั่งบุกเข้าครอบครอง
ความจริงซินเอ๋อร์รู้ว่าตนเวลานี้ควรดิ้นรนขัดขืนจึงจะถูกต้อง
แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อจุมพิตนั้นยิ่งลึกล้ำมากขึ้น เรี่ยวแรงทั่วกายเธอคล้ายกำลังถูกสูบออกไปอย่างช้าๆ สุดท้ายแทบอ่อนระทวย
โชคดีชายหนุ่มใช้มือโอบเอวเธอเอาไว้ มิฉะนั้นเธอต้องจมลงไปบ่อน้ำพุร้อนนี้แน่นอน
ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่ถูกจุมพิตจนล่องลอย เหลิ่งอวี้เซวียนเวลานี้กลับดีใจอย่างหนัก
สวรรค์!
ริมฝีปากคู่นี้กลับหอมหวานกว่าที่ตนคาดคิดไว้นัก!
รสชาติหอมหวานนี้ดุจของหวานรสหวานอมเปรี้ยว ทำให้ผู้คนเพลิดเพลินกับจุมพิตยากลืมเลือนนี้!
และทำให้เขาต้องการมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ
เหลิ่งอวี้เซวียนคิดในใจ และเพิ่มความลึกล้ำของจุมพิตนี้มากขึ้นไม่หยุด
ทันใดนั้น ขณะสาวน้อยถูกจุมพิตจนไร้แรงขัดขืน ค่อยๆ ถูกอุ้มขึ้นมาจากน้ำ จากนั้นถูกวางลงบนขอบบ่อ
ภายในน้ำพุร้อนนั้น มีควันล่องลอย ผิวน้ำแวววาว ทำให้รอบด้านมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นหลายส่วน
เห็นเพียงสาวน้อยบนพื้น ผิวขาวหมดจด กระโปรงหลัวฉวินตัวบางเปียกชื้น เพราะโดนน้ำจึงแนบชิดกับร่างกายของเธอ ทำให้เผยรูปร่างเอวบางร่างน้อยของเธอออกมาจนหมด
แม้สาวน้อยจะไม่ได้มีรูปร่างอันน่าประทับใจ กลับดูผอมบาง แต่เสื้อถูกน้ำจนเปียกชื้น ยังทำให้หน้าอกงดงามของเธอนูนออกมา
จากหน้าอกกลมกลึงนูนขึ้นมานั้น คือเอวบางดุจกิ่งหลิว สุดท้ายคือสองขาเรียวยาวคู่นั้น
ยิ่งมอง เหลิ่งอวี้เซวียนรู้สึกเพียงเลือดทั่วร่างกายตนกำลังเริ่มเดือดพล่านขึ้นมา
ดูเหมือนเพียงจุมพิตเดียวนี้ จะไม่สามารถทำให้พออกพอใจได้
เขาคือบุรุษเปี่ยมด้วยกำลังวังชา เขามีความปรารถนาของเขา และตอนนี้ความร้อนระอุบนร่างกายเขาและจิตใจอันฮึกเหิมบอกกับเขาว่า ตอนนี้เขาต้องการเธอ!
พอคิดถึงตรงนี้ สายตาที่เหลิ่งอวี้เซวียนมองหญิงสาวบนพื้นยิ่งมืดมนขึ้น ภายในดวงตาดำขลับเปี่ยมด้วยความปรารถนาอย่างไม่ปิดบัง!
ส่วนซินเอ๋อร์ถูกชายหนุ่มจุมพิตจนเคลิบเคลิ้ม รู้สึกเพียงร่างกายคล้ายล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ ทั่วร่างเบาหวิว กลับไม่รู้เลยว่า เธอเวลานี้ คล้ายกระต่ายน้อยถูกหมาป่าหิวโซจับจ้องอยู่โดยไม่รู้ตัว
เธอรับรู้เพียงมีมือใหญ่เรียวยาวคู่หนึ่งเคลื่อนไหวอยู่บนกายเธอไม่หยุด ปลายนิ้วที่เคลื่อนไปทุกส่วน พลันทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมาพร้อมกัน
คือความหวาบหวาม คล้ายถูกไฟดูดนี้
สุดท้ายเธอรู้สึกเพียงร่างกายท่อนล่างคล้ายมีกลุ่มไฟถูกจุดขึ้นมา ทำให้เธอหวาดกลัว กังวล ทว่ากลับว่างเปล่า และต้องการมากขึ้น
ซินเอ๋อร์ไม่รู้ว่าตนเวลานี้เป็นสิ่งใดกันแน่ เธอเวลานี้เปลี่ยนไปราวกับไม่ใช่ตนเอง เพียงคล้อยตามการชักนำของชายหนุ่ม ค่อยๆ เดินเข้าสู่เรื่องอันแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นมา
จนกระทั่งเกิดเสียงผ้าขาดวิ่น ‘แคว่ก’ ดังขึ้น ทันใดนั้นซินเอ๋อร์รู้สึกเย็นเฉียบที่หน้าอก
…………………………………………………………………………………..