สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 233 บ่อน้ำพุร้อนอันดุเดือด (2)
เห็นเพียงเวลานี้สาวน้อยสีหน้าซีดเซียว ภายในดวงตาคู่งามเอ่อล้นด้วยน้ำตา
น้ำตาแวววับนั้น ดุจไข่มุกหล่นจากสร้อย ไหลรินจากดวงตาลงอาบสองแก้ม ทำให้เธอน่าสงสารเช่นนี้!
เห็นเช่นนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนอดปวดใจไม่ได้
ก่อนหน้านี้ ไม่มีสิ่งใดทำให้เขาเจ็บปวดได้ เขาจึงคิดว่าตนไม่มีจุดอ่อน
แต่ตอนนี้ เขาจึงรู้ว่าจุดอ่อนของเขาคือ หวาดกลัวน้ำตาของสาวน้อย!
เมื่อเห็นเธอร้องไห้ ใจเขาดุจถูกกรีด
เรื่องเมื่อครู่คงทำให้เธอตกใจ
พอคิดถึงตรงนี้ แม้ความปรารถนาบนท่อนล่างจะยังไม่ถูกระบาย แต่เหลิ่งอวี้เซวียนสูดหายใจเข้าลึกๆ และข่มกลั้นมันเอาไว้ ทันใดนั้นท่ามกลางความตกตะลึงของสาวน้อย เขาพลิกตัวนอนลงบนพื้นด้านข้าง
เงยหน้ามองท้องฟ้าสวยงามเหนือศีรษะ ก่อนเอ่ยขึ้น
“ขออภัยที่ทำให้เจ้าตกใจ”
เสียงแหบพร่า ทุ้มต่ำของชายหนุ่ม แฝงไปด้วยความปรารถนาและอดกลั้นอย่างปิดไม่มิด
สำหรับเรื่องนี้ ซินเอ๋อร์ล่วงรู้
ดังนั้น เธอตอนนี้แม้จะเป็นอิสระ แต่ยังคงหวาดกลัวอย่างมากเช่นเดิม
เพราะชายหนุ่มเมื่อครู่ สีหน้าคล้ายสัตว์ร้ายหิวโซตัวหนึ่ง หมายจะกลืนกินเธอลงท้อง ความผิดปกตินั้น ทำให้เธอยังหวาดกลัวในใจมาจนถึงตอนนี้
ดังนั้น หลังได้ยินคำขอโทษของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์ไม่พูดจา เพียงขดตัวที่เปลือยเปล่าของตน ก่อนร้องไห้ออกมา
เสียงร้องไห้ของเธอน่าสงสาร ราวกับกระต่ายน้อยไร้ทางสู้ถูกทำให้ตกใจ อ่อนแรงและน่าสงสาร
หลังได้ยิน ความเสียใจในใจของเหลิ่งอวี้เซวียนยิ่งเพิ่มพูนขึ้น
จึงหันมองไปเห็นท่าทางกำลังร้องห่มร้องไห้ของซินเอ๋อร์
ใต้แสงของไข่มุกราตรี ทำให้น้ำตานั้นกลมมนคล้ายเพชรอันสวยงาม
และทำให้สาวน้อย งดงามดุจตุ๊กตากระเบื้องเคลือบแตกสลายได้ง่าย ทำให้คนเกิดความสงสาร
เห็นเช่นนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนใจเต้นอย่างหนัก
แต่รู้ว่าเรื่องเมื่อครู่ เขาวู่วามเกินไป ดังนั้นจึงทำให้เธอตกใจ
ขณะหงุดหงิดในใจ เหลิ่งอวี้เซวียนยังอดยืดกายขึ้น โน้มกายลงจุมพิตบนแก้มของซินเอ๋อร์ที่ขดตัวอย่างหวาดกลัว เพื่อซับน้ำตาบนใบหน้าของเธอทั้งหมดไป
เขาเวลานี้ไม่ได้ดุดัน รุนแรงเช่นเมื่อครู่ แต่อ่อนโยนดุจสายน้ำ แตกต่างกับเมื่อครู่ราวคนละคน!
จุมพิตแผ่วเบานั้นดุจขนไก่ที่พัดผ่านไปอย่างอ่อนโยน ทำให้ซินเอ๋อร์ที่ยังหวาดกลัวในใจ ผวาไม่สบายใจ ค่อยๆ สงบลง
ซินเอ๋อร์สะอึกสะอื้นชั่วขณะ ทันใดนั้นเงยดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา มองชายหนุ่มที่กำลังจุมพิตหยดน้ำตาบนใบหน้าเธออย่างอ่อนโยน
ความจริงสำหรับชายหนุ่มตรงหน้านี้ เธอไม่ได้เกลียดชังเขาแม้แต่นิดเดียว พูดความจริงคือชื่นชอบด้วยซ้ำไป
เพราะตั้งแต่วันแรกที่พบเขา ขณะเธอตกอยู่ในอันตรายถูกเขาช่วยชีวิตไว้ ภาพลักษณ์ของเขาในสายตาเธอจึงสูงส่งอย่างมาก
ต่อมาเขายังดีกับเธอ ทุกสิ่งทุกอย่างเธอล้วนจดจำ ไว้ในใจ
แต่เขาเมื่อครู่ กลับทำลายความอ่อนโยนที่ผ่านมาของเขาลง ทำให้เธอหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ความดุดัน ความรุนแรงของเขา ทำให้เธอแทบหลบเลี่ยงไม่ได้
อาจเพราะรับรู้ถึงความหวาดกลัวในใจของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนหลังซับน้ำตาทั้งหมดให้แก่ซินเอ๋อร์ จึงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบแห้งว่า
“ขออภัย เมื่อครู่ข้าขาดสติ เพราะเจ้างดงามเกินไป จนข้าใจเต้นแรง”
หลังได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์อดกัดริมฝีปากแน่นไม่ได้ ก่อนหลุบตาลง
และเสียงแหบแห้งของชายหนุ่ม ดังก้องอยู่ในหูของเธอ ทำให้เธออดสองแก้มร้อนผ่าวไม่ได้
เธอไม่รู้เพราะเหตุใด สำหรับคำพูดชื่นชมนี้ของชายหนุ่ม ต้องพูดว่าทำให้เธอใจเต้นแรง
ทว่า เธอไม่รู้ควรเอ่ยสิ่งใด
แต่ทันใดนั้น สายลมพัดโชยมา ซินเอ๋อร์พลันรู้สึกเย็นยะเยือก หลังหนาวสั่น จึงคิดลุกขึ้น แต่เธอเวลานี้กำลังนอนอยู่ตรงนี้โดยไร้เสื้อผ้าติดกาย!
พอคิดถึงตรงนี้ ดวงตาคู่งามของซินเอ๋อร์พลันเบิกกว้าง ใจหายวาบ ก่อนใช้สองมือกอดอกแน่น เพื่อปิดบังหน้าอกเปลือยเปล่าของตน
เห็นเช่นนั้นรู้ว่าซินเอ๋อร์เขินอาย และนึกถึงความป่าเถื่อนเมื่อครู่ของตน แววตาเหลิ่งอวี้เซวียนปรากฎความเสียใจ จึงยื่นมือใหญ่หยิบเสื้อผ้าด้านข้างขึ้นมาคลุมลงบนกายของซินเอ๋อร์ เพื่อปิดบังร่างกายเปล่าเปลือยของเธอเอาไว้ให้มิดชิด
เสื้อตัวนี้ คือชุดที่เขานำมาผลัดเปลี่ยน
ชุดชั้นในผ้าไหมชั้นดีสีขาวนวลนั้น เมื่อคลุมบนกายซินเอ๋อร์ ราวกับผ้าห่มบางเบาผืนหนึ่งที่คลุมอยู่บนกายเธอ
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ร่างกายซินเอ๋อร์เปียกชื้น เมื่อชุดชั้นในผ้าไหมชั้นดีตัวนี้คลุมลงบนกายเธอ ดูดซับหยดน้ำ พลันเปียกขึ้นมา
เนื้อผ้าแนบติดบนกายซินเอ๋อร์ เผยรูปร่างสวยงามทุกส่วนของเธอออกมาจนหมด ทำให้คนเห็นคล้ายถูกล่อตาล่อใจด้วยสิ่งที่ล่อแหลม
เห็นเช่นนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนกลืนน้ำลาย สายตาที่มองซินเอ๋อร์อดดำมืดลงหนึ่งส่วนไม่ได้
แต่เขายังข่มไฟปรารถนาที่คุกกรุ่นของตนไว้ ผละจากกายของซินเอ๋อร์ จากนั้นหันศีรษะกลับไป ไม่มองซินเอ๋อร์อีก
เพราะเธอตอนนี้ เย้ายวนใจเกินไป เขากลัวหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงควบคุมตนเองไม่ได้แน่
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนหันหน้าไป เงยหน้ามองดวงดาวเกลื่อนกลาดเต็มท้องฟ้า พลันเอ่ยเสียงแหบพร่าขึ้น
“เจ้าออกไปเถิด!”
“เอ่อ ตกลง”
หลังได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์ดีใจ จึงลุกจากพื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นสวมชุดบนกายให้เรียบร้อย
แม้เสื้อตัวนี้จะมีขนาดใหญ่อย่างมาก เมื่อสวมลงบนกายเธอ คล้ายกับเด็กน้อยแอบขโมยสวมเสื้อผ้าผู้ใหญ่ แต่หลังผ่านเรื่องเมื่อครู่มา เสื้อผ้าบนกายเธอถูกฉีดขาดวิ่นจนไม่เหลือชิ้นดี เธอจึงไม่สามารถสวมชุดนั้นเดินออกไป!
ดังนั้น หลังได้ยินคำนี้ของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์รีบร้อนแต่งกาย ก่อนพุ่งออกไปจากห้องอาบน้ำ
และสาบานในใจว่าต่อไปตีให้ตาย เธอจะไม่ปรนนิบัติเขาอาบน้ำอีก
เพราะเรื่องเมื่อครู่ น่าหวาดกลัวเกินไปจริงๆ
ความจริงคิดว่าเธอต้องถูกกินแน่นอน!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ยังหวาดกลัวในใจ หลังพุ่งกลับมายังห้องพักของตน พลันปิดประตูหน้าต่างพร้อมลงกลอน คล้ายป้องกันหมาป่าที่อาจเข้ามาในห้องเธอตอนเที่ยงคืน
หลังตรวจสอบว่าหน้าต่างประตูทุกบานปิดแน่น ซินเอ๋อร์ที่หวาดหวั่นใจพลันโล่งอกขึ้นมา
หลังจิตใจผ่อนคลายลง เรี่ยวแรงบนกายเธอ ค่อยๆ คล้ายถูกสูบออกไป จึงค่อยๆ ไถลตัวลงกองบนพื้นอยู่ตรงประตูไม้นั้น
สองขาคู้ขึ้น สองมือกอดเข่า มุดศีรษะเล็กเข้าไปในหัวเข่า ก่อนร้องไห้สะอึกสะอื้น
ท่านแม่ ซินเอ๋อร์กลัวยิ่งนัก…
…
ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่หวาดกลัวในใจ ทางด้านห้องอาบน้ำนั้น
เมื่อเห็นซินเอ่อร์พุ่งออกไปราวกับบินทะยาน เหลิ่งอวี้เซวียนอดยิ้มอย่างขมขื่นไม่ได้
สำหรับหญิงอื่น แม้เขาไม่กระดิกนิ้วเรียกหา มีจำนวนมากมายที่พร้อมกระโจนสู่อ้อมกอดเขา เมื่อเห็นเขา ดุจผึ้งเห็นบุปผา บินดอมเขาไม่หยุด
แต่มีเพียงสาวน้อยผู้นี้ เห็นเขาคล้ายกระต่ายน้อยหวาดกลัว ยามเห็นหมาป่า
หรือเขาทำให้เธอหวาดกลัวขนาดนั้นจริง!
เหลิ่งอวี้เซวียนไม่เข้าใจ ทว่าเพียงนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ นึกถึงใบหน้าเล็กสับสนหวาดหวั่นของเธอ อ้อนวอนอย่างน่าสงสาร สะอื้นอย่างอ่อนแรง ต้องพูดว่าเมื่อครู่เขาป่าเถื่อนเล็กน้อย ดึงนั้นเธอจึงตกใจ
แต่นี่จะโทษเขาไม่ได้!
ผู้ใดให้เธอหวานหอมเช่นนี้!
ความจริง เขาเพียงอยากลิ้มลองริมฝีปากเล็กคู่นั้น ว่าจะหอมหวานดังที่คิดไว้หรือไม่ ผู้ใดจะรู้ หลังจุมพิตลงบนริมฝีปากนุ่มของเธอนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนพบว่า เขาหลงรักรสชาตของริมฝีปากเล็กนี้ไปแล้ว
ความรู้สึกดุจสาคูมะม่วงส้มโอนั้น หอมหวานอย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้เขาเพลิดเพลินลืมตัว อยากจุมพิตเธออย่างลึกซึ้งตลอดไป
ต่อมาเขาจึงพบว่า เพียงจุมพิตเดียว เติมเต็มความปรารถนาของเขาไม่ได้
ดังนั้น สุดท้ายจึงทำเรื่องเช่นนั้นออกไป
ความจริง เขาทำให้เธอตกใจ
และนึกถึงขณะซินเอ๋อร์มองท่อนล่างของเขา เห็นสิ่งมหึมาของตน ตกใจจนหน้าถอดสีนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนอดก้มลงมองไม่ได้ ก่อนยิ้มอย่างขมขื่นอีกครั้ง
ฮ่า ๆ คือสรีระที่งดงามจริงๆ เพียงนึกถึง ความปรารถนาที่กำลังมอดดับไปของเขา ถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อเห็นสิ่งมหึมาชูชันนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนยิ้มขมขื่นอีกครั้ง
ดูแล้วคืนนี้ เขาคงต้องใช้มือขจัดความต้องการของตนเสียแล้ว…