สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 251 ถูกจับตัว (2)
หลังเสียงตะโกนอันกึกก้องของชายหนุ่ม เหล่าสาวน้อยที่กรีดร้องพลันตกใจจนเงียบกริบ และไม่กล้าส่งเสียงออกมาอีก เพียงกัดริมฝีปากแน่นพร้อมเช็ดน้ำตาอยู่เงียบๆ
สำหรับการให้ความร่วมมือของเหล่าสาวน้อย เห็นชัดว่าทำให้ชายหนุ่มรู้สึกพอใจ
ทันใดนั้นปากเต็มไปด้วยฟันสีเหลืองนั้นอ้ากว้างขึ้นอีกครั้ง ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
“หากไม่อยากตาย ก็ตามพวกเราไปอย่างเชื่อฟัง มิฉะนั้นอย่าโทษที่พวกข้าไม่รู้จักอ่อนโยนทะนุถนอมสตรี เข้าใจหรือไม่!”
หลังชายผู้นั้นเอ่ยจบ พลันชูมือใหญ่โบกไปมา เพื่อให้สาวน้อยเหล่านี้เดินตามหลังเขาไป
ชายหนุ่มที่เหลือกลับต่างกอดอกมองเหล่าหญิงสาวเหล่านี้ดังเช่นสินค้า
ส่วนซินเอ๋อร์ก็เดินตามหลังสาวน้อยเหล่านี้ ออกจากคุกใต้ดินที่ถูกคุมขังมากว่าหนึ่งวันหนึ่งคืนไปอย่างช้าๆ
อาจเป็นเพราะคุกใต้ดินนี้มืดอับชื้นแฉะ ซินเอ๋อร์เดิมทีสุขภาพไม่แข็งแรง ตอนนี้จึงรู้สึกเพียงไม่สบายตัว และวิงเวียนศีรษะ
ดังนั้นซินเอ่อร์จึงใช้สองมือกอดหน้าอก กอดแขนสองข้างของตนไว้ หวังว่าเช่นนี้จะทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น เพราะตอนนี้เธอหนาวยิ่งนัก!
เมื่อซินเอ๋อร์เดินตามเหล่าสาวน้อยออกมาจากคุกใต้ดินที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันแห่งนี้ สายตาค่อยๆ สอดส่องประเมินบรรยากาศรอบด้าน
จึงพบว่าที่นี่คือป่าเขารกร้างแถบชานเมือง
ที่นี่ปกติผู้คนสัญจรไปมาน้อย จึงไม่มีผู้ใดมาถึงที่นี่
เมื่อก่อนซินเอ๋อร์มาเก็บฟืน เคยผ่านมาที่นี่หลายครั้ง
ทว่าหลังเหล่าท่านป้าเพื่อนบ้านรู้เข้า จึงเอ่ยว่าสตรีคนเดียวเช่นเธอ มาสถานที่ไร้ผู้คนสัญจนแห่งนี้ หากพบเจออันตรายเข้าไม่ดีแน่ ดังนั้นจึงพาเธอไปเก็บฟืนที่เนินเขาอีกแห่ง
แม้หลายปีแล้วที่ไม่ได้มาที่นี่ แต่ซินเอ๋อร์ยังจำที่นี่ได้
คิดไม่ถึงเธอจะมีวันที่ถูกคนจับมาขังอยู่ในป่าเขารกร้างไร้ผู้คนแห่งนี้
และคิดไม่ถึงว่าที่นี่จะมีคุกใต้ดินที่ลึกลับเช่นนี้
คิดแล้วพวกจับสาวน้อยมาขายเหล่านี้ ต้องมีแผนการ้ายแน่
เพราะที่นี่ตามหาได้ยาก ซ่อนเร้นจริงๆ อย่างนั้นเซวียนเขาจะตามหาเธอเจอหรือไม่!
เพียงนึกถึงเซวียน ซินเอ๋อร์เจ็บปวดในใจ
ไม่ได้ เธอต้องหนี!
ต้องหลบหนี!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์พลันยกเท้าขึ้น คิดใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีวิ่งหนีไป
แต่ทันใดนั้นสาวน้อยที่เดินอยู่ด้านหลังเธอนั้น พลันดุจลูกธนูวิ่งพุ่งทะยานไปด้านหน้า
สาวน้อยวิ่งอย่างรวดเร็ว ร่างกายดุจม้าหลุดจากที่คุมขัง
เพราะการกระทำนี้ของสาวน้อย ทุกคนจึงต่างตกตะลึงและอยากวิ่งหลบหนีเช่นสาวน้อย
แต่วินาทีต่อมา กลับมีเสียงโหยหวนดังขึ้น ทำให้สาวน้อยอื่นต่างพากันตกใจอย่างหนัก
เห็นเพียงสาวน้อยที่วิ่งหนีไปไม่ไกล พลันถูกชายหนุ่มที่ไม่รู้ปรากฎตัวขึ้นเมื่อใดสกัดตัวไว้ และชายผู้นั้นวาดแขนรวบเอวสาวน้อยนั้นก่อนแบกขึ้นไหล่ดุจยกสินค้า
สาวน้อยนั้นตกใจอย่างหนัก หลังได้สติกลับมา กำหมัดทุบไหล่ของชายผู้นั้นไม่หยุด
แต่สำหรับการทุบตีอย่างสุดกำลังของสาวน้อย ชายผู้นั้นทำหูทวนลม คล้ายสาวน้อยนั้นเพียงช่วยบีบนวดหลังให้เขาเท่านั้น ไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว
บนใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครานั้นหัวเราะอย่างหนักออกมา คล้ายสัตว์ร้ายที่จับเหยื่อได้ ทำให้คนอกสั่นขวัญแขวน
การกระทำนั้นของชายหนุ่มผู้นี้ ทำให้เหล่าชายหนุ่มที่เฝ้าพวกซินเอ๋อร์อยู่ต่างพากันตะโกนหัวเราะอย่างตื่นเต้นดีใจ
“ฮ่า ๆ พี่ใหญ่!”
“พี่ใหญ่!”
“พี่ใหญ!”
“อืม!”
สำหรับคำเรียกขานของชายหนุ่มเหล่านั้น ชายที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราอดส่งเสียง ‘อืม’ เป็นการตอบรับหลังได้ยินไม่ได้
ขณะเดินมาถึงด้านหน้าพวกซินเอ๋อร์ ก็นำตัวสาวน้อยที่แบกอยู่บนไหล่ทิ้งลงบนพื้น
การกระทำของชายหนุ่มคล้ายทิ้งขว้างสิ่งของ โดยปราศจากความสงสาร
หลังสาวน้อยนั้นถูกทิ้งลงบนพื้น พลันกรีดร้องโหยหวนออกมา ชายหนุ่มผู้นั้นพลันเอ่ยปากขึ้น
“เมื่อนังโสเภณีนี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เช่นนั้นพี่น้องทั้งหลาย นังผู้หญิงคนนี้ก็มอบให้พวกเจ้า เพื่อเป็นรางวัลก็แล้วกัน!”
“จุ๊ๆ พี่ใหญ่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”
“พี่ใหญ่ฉลาดล้ำเลิศ!”
หลังคำพูดของชายผู้นั้นจบลง เหล่าชายหนุ่มต่างดุจถูกฉีดเลือดไก่ ร้องตะโกนตื่นเต้นขึ้นมา
ทันใดนั้นชายหนุ่มทุกคนต่างพลันนวดฝ่ามือด้วยใบหน้าโหดเหี้ยม ก่อนเข้าไปล้อมตัวสาวน้อยที่วิ่งหนีไปผู้นั้นไว้
สาวน้อยเห็นเช่นนั้นพลันดิ้นรนลุกขึ้นจากพื้น แต่เท้าของเธอน่าจะบาดเจ็บขณะถูกทิ้งลงบนพื้น หลังดิ้นรนอยู่นานลุกไม่ขึ้น บนใบหน้าหมดจดนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและหวั่นวิตก
ดุจกวางน้อยที่กำลังถูกฝูงหมาป่าล้อมเอาไว้ โดยไร้หนทางหลบหนี
“ไม่ พวกเจ้าอย่าเข้ามา อย่าเข้ามา!”
เสียงกรีดร้องของสาวน้อยไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มเหล่านั้นรู้สึกละอายใจ แต่กลับทำให้พวกเขายิ่งตื่นเต้นมากขึ้น
“ฮ่า ๆ สาวน้อยเมื่อครู่เจ้ายังวิ่งหนีอยู่มิใช่หรือ ตอนนี้เหตุใดไม่วิ่ง!”
“ถูกต้อง เจ้าวิ่งสิ สาวน้อย!”
สิ้นคำพูดที่ไม่หวังดีของเหล่าชายหนุ่ม ฝ่ามือหนึ่งพลันกระแทกเข้าที่ใบหน้าของสาวน้อย
เสียง ‘เพี๊ยะ’ ของฝ่ามือดังขึ้น ใบหน้าของสาวน้อยพลันถูกตบจนหัน เลือดสีแดงสดพลันไหลซึมออกมาที่มุมปาก
ใบหน้าขาวใสของสาวน้อยบวมเป่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
สำหรับเคราะห์ร้ายของสาวน้อยผู้นี้ ทำให้เหล่าสาวน้อยอื่นที่คิดจะวิ่งหลบหนีตกใจ ทุกคนต่างสูดหายใจอย่างไม่เชื่อสายตา
สำหรับสาวน้อยผู้นี้น่าเห็นใจยิ่งนัก แต่ทุกคนต่างยากที่จะปกป้องตนเองได้ ดังนั้นจึงพากันหดตัว เกาะกลุ่มกันไม่กล้าเข้าไป
ส่วนสาวน้อยที่ร้องขอชีวิตนั้น เมื่อเห็นสาวน้อยอื่นล้วนหวาดกลัวเกาะกลุ่มกัน เพียงร้องไห้อย่างไร้ความช่วยเหลือ แม้จะดิ้นรนไม่หยุด แต่หญิงสาวที่อ่อนแอ่เช่นเธอจะประมือกับชายหนุ่มเหล่านั้นได้เช่นไร!
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะอันโหดเหี้ยมและเสียงฉีกทึ้ง ดึงเสื้อผ้าก็ดังขึ้นพร้อมกันไม่หยุด
เหตุการณ์ตรงหน้านี้ ทำให้ทุกคนต่างเดาได้ไม่ยากว่าสาวน้อยผู้นี้จะมีจุดจบเช่นไร
คิดไปแล้ว ชายหนุ่มที่มีหนวดเครานั้นคงต้องการเชือดไก่ให้ลิงดูแน่!
เมื่อเห็นจุดจบของสาวน้อยที่วิ่งหนีตรงหน้านี้ ต่อไปผู้ใดจะกล้าวิ่งหนี!
ส่วนสาวน้อยผู้นั้นก็สิ้นหวัง กรีดร้อง ดิ้นรนไม่หยุด ก่อนจะได้รับฝ่ามือที่ตบลงมาอย่างไร้ความปราณี และเสื้อผ้าบนกายถูกคนปลดออก
สาวน้อยผู้นั้นค่อยๆ สิ้นหวังลง คิดว่าตนต้องถูกคนขืนใจแน่ ผู้ใดจะรู้ทันใดนั้นกลับมีเสียงอันไพเราะดังขึ้น
“อย่า ขอร้องพวกท่าน อย่าทำเช่นนี้กับเธอเลย!”
หลังเสียงอันไพเราะนั้นดังขึ้น ร่างเล็กบอบบางสีขาวพุ่งออกมาจากกลุ่มคน จากนั้นตรงไปยังสาวน้อยผู้นั้น
สาวน้อยชุดขาวรวดเร็วยิ่งนัก ไม่นานกระโจนเข้าหาสาวน้อยผู้นั้น ก่อนกอดปกป้องเธอที่อยู่บนพื้นไว้แน่น
และคนผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใด แต่เป็นซินเอ๋อร์!
ความจริงซินเอ๋อร์เห็นสาวน้อยผู้นั้นถูกกลุ่มชายเหล่านั้นล้อมรอบ จนตกใจขดตัวอย่างหวาดกลัวอยู่
แต่หลังจากเธอได้ยินเสียงกรีดร้องของสาวน้อยที่วิ่งหนีไปผู้นั้น ร่างกายพลันตะลึงงัน
เมื่อเห็นรูปร่างของสาวน้อยผู้นั้นชัดเจน ซินเอ๋อร์ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง
เพราะสาวน้อยผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใด แต่คือเพื่อนบ้านของเธอเสี่ยวจื่อ น้องสาวของพี่อาหนิว!
เสี่ยวจื่อปีนี้เพิ่งอายุสิบสองปี หน้าตาจึงสดใสหมดจด ไม่คล้ายกับอาหนิวที่หยาบกระด้างใสซื่อ
ปกติเพราะอาหนิวห่วงใยดูแลเธอและน้องชาย จนกระทั่งความสัมพันธ์ของเธอและเสี่ยวจื่อจึงดีตามไปด้วย ซินเอ๋อร์จึงเห็นเสี่ยวจื่อเป็นดังน้องสาวของตนคนหนึ่ง
ดังนั้นตอนนี้เห็นเสี่ยวจื่อถูกผู้คนล้อมรอบ หมายจะข่มเหงขืนใจ ซินเอ๋อร์จึงทนเฉยไม่ได้ แม้ในใจจะหวาดกลัว แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้เสี่ยวจื่อถูกคนรังแกโดยไม่สนใจได้!
ดังนั้นซินเอ๋อร์จึงพุ่งออกไปจากกลุ่มคนโผเข้าใส่เสี่ยวจื่อ ก่อนกอดเธอไว้แน่น
สำหรับการกระทำของซินเอ๋อร์ เสี่ยวจื่อที่กำลังกรีดร้องดิ้นรน หลังเห็นคนที่ปกป้องเธออยู่เวลานี้คือซินเอ๋อร์ที่ผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก จึงร้องไห้อย่างหนักขึ้นมาอย่างฝืนทนต่อความหวาดกลัวในใจไม่ไหวอีกต่อไป
“พี่ซินเอ๋อร์ ช่วยข้าด้วย ฮือๆ”
“เสี่ยวจื่ออย่างร้องไห้ อย่าร้องไห้!”
แม้ซินเอ๋อร์เวลานี้จะหวาดกลัวสุดขีด แต่เมื่อเห็นเสี่ยวจื่อร้องไห้ไม่หยุดเช่นนี้ รู้สึกกังวลและปวดใจอย่างยิ่ง จนรีบยื่นมือตบหลังปลอบโยนเสี่ยวจื่อทันที
เวลานี้พวกชายหนุ่มได้สติกลับมา และเห็นมีคนออกมารบกวนความสนุกของพวกเขาต่างพากันกำหมัดอย่างโมโห หมายลงไม้ลงมือกับพวกซินเอ๋อร์
แต่ทันใดนั้นเสียงหยาบกระด้างอันดุดันกลับดังขึ้น
“หยุดมือ!”