สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 252 ถูกขาย (1)
“เอ่อ พี่ใหญ่ นังโสเภณีพวกนี้…”
สำหรับคำพูดของชายไว้หนวดเครา ชายหนุ่มอื่นๆต่างพากันตกใจ หนึ่งในนั้นหมายเอ่ยพูดบางอย่าง สุดท้ายเมื่อเห็นสายตาคมกริบของพี่ใหญ่ต่างเงียบกริบ
เพราะคนเหล่านี้ร่วมเป็นร่วมตาย ก่อกรรมทำชั่วกับพี่ใหญ่ของพวกเขามาหลายปี จึงทราบดีว่านิสัยของพี่ใหญ่ตนเป็นเช่นไร หากพี่ใหญ่เอ่ยปาก ไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงออกมา
ดังนั้นรอบด้านจึงตกอยู่ในความเงียบงัน
ซินเอ๋อร์กอดเสี่ยวจื่อไว้แน่น ทั้งสองคนต่างไม่สบายใจ
ซินเอ๋อร์ไม่รู้เหตุใดชายไว้หนวดเครานั้นจึงให้พวกเขาหยุดมือ เธอไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นคนดี!
ขณะซินเอ๋อร์กังวลในใจ ทันใดนั้นชายไว้หนวดเคราเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง
“เจ้า!”
ชายไว้หนวดเคราชี้นิ้วมาที่ซินเอ๋อร์ ก่อนจะชะงักแล้วเอ่ยปากขึ้น
“เงยหน้าขึ้น!”
“เอ่อ”
ทราบดีว่าชายไว้หนวดเคราหมายถึงตน ซินเอ๋อร์ได้ยินจึงหวาดหวั่นใจ กระทั่งร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุดเพราะหวาดกลัว
ทว่าซินเอ๋อร์หวาดกลัวว่าหากตนไม่ทำตาม ไม่นานจะเคราะห์ร้าย เพราะคนพวกนี้ความจริงไม่คิดว่าพวกเธอและสาวน้อยเหล่านี้เป็นมนุษย์ แต่คือสินค้าที่ต่างสามารถขายทำเงินได้!
ดังนั้น ซินเอ๋อร์แม้จะหวาดกลัวในใจอย่างหนัก สุดท้ายยังค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างสั่นเทา
ทันใดนั้นเสียงสูดลมหายใจต่างดังขึ้นไม่ขาดสาย
เวลานี้เป็นช่วงเที่ยงวัน ดวงอาทิตย์อันเจิดจรัสจึงลอยเด่นสูงอยู่กลางอากาศ
แสงแดดอบอุ่นนั้นสาดส่งลงมาบนกายผู้คนอย่างอ่อนโยน
และสายลมพัดยอดไม้จนโอนเอน ดอกหญ้าโยกย้ายไปมาราวกับปีศาจสวมชุดสีเขียวกำลังเต้นรำอย่างอ่อนช้อยงดงาม
เวลานี้บนพื้นหญ้าเชียวชอุ่มนั้น มีสาวน้อยชุดขาวผู้หนึ่งกำลังโอบกอดสาวน้อยบอบบางน่ารักที่ล้มอยู่บนพื้นไว้แน่น
แสงแดดอันอ่อนโยนที่สาดส่องลงมาบนกายของสาวน้อย ทำให้ใบหน้างามโดดเด่นล่มเมืองของเธอถูกเปิดเปลือยออกมาสู่สายตาของทุกคน
สาวน้อยผู้นี้มีเพียงชุดสีขาวห่อหุ้มกาย ผมยาวดูยุ่งเหยิง แต่กลับทำให้เธอดูเกียจคร้านและมีเสน่ห์เย้ายวนใจหลายส่วน
แม้ใบหน้าเล็กโดดเด่นนั้น จะซีดเซียวลงเพราะหวาดหวั่น กลับขับความเปราะบางดุจแก้วของเธอออกมาหลายส่วน งดงามจนผู้คนต่างริษยา!
ใบหน้างามล่มเมืองนี้ สามารถทำให้ชายหญิงทั่วใต้หล้าคลุ้มคลั่งได้!
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่รอบด้าน หลังเห็นรูปโฉมอันโดดเด่นนั้นของซินเอ๋อร์ต่างพากันตกตะลึง
แม้ชายหนุ่มที่จับตัวซินเอ๋อร์มาเมื่อวานก็ไม่ยกเว้นเช่นกัน!
เพราะเมื่อวานพวกเขาเพียงเห็นบนถนนใหญ่มีสาวน้อยรูปร่างอ้อนแอ้นยืนอยู่ และท้องฟ้ามืดแล้ว แสงจันทร์เลือนลางนั้นทำให้มองรูปโฉมของสาวน้อยได้ไม่ชัดเจน แต่แผ่นหลังกลับอ่อนช้อยงดงาม ดังนั้นพวกเขาจึงรีบจับตัวกลับมา
ถึงอย่างไรพวกเขาทำการค้าขายหญิงสาว เพียงเป็นสตรีต่างสามารถทำเงินได้
แต่พวกเขากลับคิดไม่ถึงว่าสาวน้อยผู้นี้จะมีรูปโฉมงดงามที่สุดในแผ่นดินเช่นนี้ นี่คือสาวน้อยที่งดงามที่สุดที่พวกเขาได้เจอในหลายปีมานี้!
ดังนั้นหลังชายหนุ่มเหล่านี้ตกตะลึงในความงามของสาวน้อยจบ ก็ต่างพากันเข้าใจความหมายของพี่ใหญ่
รูปโฉมงดงามโดดเด่นเช่นนี้ ได้ราคาพันตำลึงแน่!
โชคดีเมื่อครู่พวกเขาไม่ได้ลงมือ เพราะสาวงามอ่อนช้อยเช่นนี้ พวกเขาต่างปวดใจ จะลงมือตบตีเธอได้เช่นไร!
อีกอย่างสาวงามอ่อนช้อยเช่นนี้ หากขายออกไป ต้องได้ราคาสูงเป็นแน่!
พอคิดถึงเรื่องพวกนี้ สายตาของเหล่าชายหนุ่มที่มองซินเอ๋อร์ นอกจากตกตะลึงยังแฝงไปด้วยความละโมบหลายส่วน
เมื่อถูกสายตาดุร้ายดังเสือจ้องมอง ร่างกายของซินเอ๋อร์สั่นเทิ้มดุจใบไม้สีเหลืองกลางลมพายุ
เพราะเธอกำลังหวาดกลัวว่าชายเหล่านี้จะแปลงกายเป็นหมาป่า คล้ายทำกับเธอเช่นเดียวกับเสี่ยวจื่อเมื่อครู่
แต่เรื่องที่เธอหวาดกลัวไม่ได้เกิดขึ้น เห็นเพียงชายมีเคราเมื่อเห็นรูปโฉมของซินเอ๋อร์ แววตาพลันปรากฎความตกตะลึงขึ้นทันที ก่อนพลันอ้าปากหัวเราะขึ้น
“ฮ่าๆ ช่างเป็นสินค้าที่ไม่เลวจริงๆ!”
“ฮ่าๆ พี่ใหญ่ ใช่แล้ว สาวงามที่อ่อนช้อยเช่นนี้ ข้าเห็นแล้วล้วนใจเต้นแรง ต้องขายได้ราคาดีแน่นอน!”
“ฮ่าๆ พี่ใหญ่ ครั้งนี้พวกเรารวยแน่!”
“…”
สำหรับคำพูดตรงไปตรงมาของคนเหล่านั้น ทำให้ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงอัปยศอย่างที่สุด แต่เธอเวลานี้ดุจเนื้อปลาบนเขียงที่ไม่อาจได้รับความเมตตาจากผู้อื่น!
หยดน้ำตาอดทะลักออกมาจากดวงตา ไหลรินอาบแก้มไม่ได้
…
สุดท้ายเพราะการห้ามปรามของซินเอ๋อร์ คนกลุ่มนั้นจึงไม่แตะต้องเสี่ยวจื่ออีก และยังคงเร่งรัดสินค้าต่อไป โดยเร่งให้ซินเอ๋อร์และเสี่ยวจื่อไปเดินด้านหน้า
การที่เมื่อครู่ชายมีเคราผู้เป็นหัวหน้าสั่งให้เหล่าชายหนุ่มกระทำเช่นนั้นต่อเสี่ยวจื่อ ถือเป็นเพียงการเชือดไก่ให้ลิงดูเท่านั้น
ดังนั้นเวลานี้เหล่าสาวน้อยที่คิดหลบหนี จึงรู้ว่าชายเหล่านี้ไม่น่ายั่วโมโห และกลัวตนจะหนีไม่สำเร็จ ผลสุดท้ายจะเป็นดังเสี่ยวจื่อ จึงต่างพากันตกใจอย่างหนักจนไม่กล้าหายใจ และไม่กล้าคิดหลบหนีอีก
สำหรับเรื่องนี้ชายมีเคราพอใจยิ่งนัก จึงเดินไปที่ด้านหน้าพาพวกซินเอ๋อร์และกลุ่มสาวน้อยที่ถูกจับตัวมา เดินผ่านป่าไร้ผู้คนสัญจร ก่อนจะเดินลงจากเขา
หลังเดินไปประมาณหนึ่งชั่วยาม เห็นเพียงตรงแม่น้ำด้านล่างภูเขานั้นมีเรือสินค้าลำหนึ่งจอดเทียบรออยู่
ชายหนุ่มผู้นั้นกระโดดขึ้นไปบนเรือสินค้าลำนั้นก่อน จากนั้นสั่งการให้ลูกน้องรีบพาสาวน้อยเหล่านี้ขึ้นเรือ
เห็นเพียงรอบด้านกลุ่มเขาสลับทับซ้อน นอกจากเรือสินค้าลำนี้และกลุ่มชายหนุ่มเหล่านี้ ไม่มีสิ่งใดอื่นอีก
ความจริงซินเอ๋อร์ขณะที่เห็นแม่น้ำไหลยาวไม่ขาดสายนี้ เกิดความคิดกระโดดลงไป
แต่เสี่ยวจื่อยังอยู่ที่นี่ หากตนจากไป เธอจะทำเช่นไร!
เสี่ยวจื่อเพิ่งอายุสิบสอง
แม้เธอเองก็อับจนหนทาง และเป็นเพียงหญิงสาวที่ไร้เรี่ยวแรงแม้แต่เชือดไก่ นอกจากนี้ที่นี่เพียงปลายนิ้วของเหล่าชายหนุ่มก็สามารถปลิดชีวิตเธอได้
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์สิ้นหวังอย่างหนัก
จึงเงยหน้ามองท้องฟ้าอันมืดมน
เห็นเพียงดวงอาทิตย์ที่ยังเจิดจรัสเมื่อครู่ เวลานี้กลับหายเข้าไปในกลีบเมฆ และกลุ่มเมฆดำทะมึนนั้นเคลื่อนต่ำเข้ามาปกคลุมทั่วท้องฟ้าจนอุณหภูมิต่ำลง
คล้ายฝูงนกสีดำบินวน เมื่อมองนานล้วนทำให้คนรู้สึกกดดัน
เช่นเดียวกับความรู้สึกในเวลานี้ของซินเอ๋อร์ที่มืดหม่น
เซวียน ตอนนี้ท่านอยู่ที่ใด รีบมาช่วยข้าเถิด เซวียน!
“รีบเดินเร็วเข้า ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นทำสิ่งใด!”
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ หูได้ยินเสียงร้องตะโกนอย่างหมดความอดทนของเหล่าชายหนุ่มนั้นดังขึ้น
เมื่อได้ยินซินเอ๋อร์พลันตกใจจนได้สติกลับมา
เสี่ยวจื่อที่อยู่ด้านข้างเพราะเมื่อครู่หลบหนีไปจึงถูกจับตัวกลับมา และเกือบจะถูกคนข่มเหงนั้น ตอนนี้ในใจยังคงหวาดกลัว จึงไม่กล้าทำเรื่องส่งเดชอีก
โชคดีเมื่อครู่ซินเอ๋อร์หยุดยั้งได้ทัน ดังนั้นเสื้อผ้าบนกายเสี่ยวจื่อจึงเพียงขาดวิ่นบางส่วน แต่ยังสามารถปกปิดร่างกายได้
เวลานี้เห็นซินเอ๋อร์ใจลอย เสี่ยวจื่อยังร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด
“พี่ซินเอ๋อร์ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไรกันดี ครั้งก่อนข้าได้ยินท่านแม่เล่าว่าข้างนอกมีสาวน้อยจำนวนไม่น้อยหายตัวไป ซึ่งล้วนถูกคนจับตัวไปขายให้กับหอนางโลมเพื่อเป็นหญิงคณิกา ฮือๆ ข้าไม่อยากเป็นหญิงคณิกา หากเป็นเช่นนั้นข้าขอตายเสียดีกว่า!”
แม้ปีนี้เสี่ยวจื่อจะเพิ่งอายุสิบสองปี แต่ยุคนี้เด็กสาวที่อายุสิบสองปีถือว่าสามารถแต่งงานได้แล้ว
และระยะนี้มารดาก็เสาะหาครอบครัวแม่สามีที่ดีให้แก่เธอไม่หยุด กระทั่งเล่าเรื่องระหว่างชายหญิงให้แก่เสี่ยวจื่อฟัง
ดังนั้นเสี่ยวจื่อจึงเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง รู้ว่าต่อไปจะเกิดเรื่องใดขึ้นกับตน จนกระทั่งเกิดความคิดอยากตายในใจขึ้นมา
เพราะหากให้เธอเป็นหญิงคณิกามีชีวิตที่น่าอัปยศเช่นนั้น เธอขอตายเสียดีกว่า อย่างน้อยร่างกายยังบริสุทธิ์ ใสสะอาด
เสี่ยวจื่อคิดในใจ พร้อมหมายกระโดดลงไปในแม่น้ำ ซินเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้นตกใจสุดขีด จึงรีบดึงตัวเสี่ยวจื่อไว้ ขณะเดียวกันน้ำตาไหลรินลงมา
“เสี่ยวจื่อ เจ้าอย่าทำเรื่องโง่เขลา หากเจ้าตายไป ท่านแม่และพี่ชายของเจ้าจะทำเช่นไร พวกเขาต้องเสียใจอย่างมากแน่!”
“แต่พี่ซินเอ๋อร์ หากให้ข้าใช้ชีวิตเช่นนี้ ข้อขอยอมตายเสียดีกว่า!”
เพียงนึกถึงจุดจบของตนว่าจะถูกขายไปในสถานที่เช่นหอนางโลม เสี่ยวจื่อไม่ต้องการมีชีวิตอยู่