สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 254 อวี้เซวียนออกตาม
“ได้เบาะแสเช่นไรบ้าง!”
เสียงแฝงความแหบพร่าดังขึ้น ในคืนที่เงียบสงัดจึงดังกังวานเป็นพิเศษ
เห็นเพียงเวลานี้กลางดึกที่เงียบสงัด บนถนนในเมืองฮว่าโจวที่ไร้ผู้คนกลับปรากฎคนและม้ากลุ่มใหญ่ขึ้นมา ผู้นำคือชายหนุ่มรูปงามดุจเทพเซียน
แสงจันทร์กระจ่างใสดังหมอกสาดส่องลงมาบนพื้น
เห็นเพียงชายหนุ่มรูปงามนี้ สวมเสื้อคลุมหมางผาวสีดำบนกาย คาดสายรัดเอวสีเดียวกัน มีเสื้อกันลมสีดำคลุมทับอยู่ด้านนอก ร่างกายกระจายความดุดันออกมา ทำให้คนมิอาจดูแคลน!
เส้นผมสีดำนุ่มลื่น เวลานี้รวบไว้ด้วยกวนหยกสีม่วงสวยงาม ทำให้เคร้าโครงใบหน้าเด่นชัด อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าดังเทพเซียนรังสรรค์ขึ้นมาอย่างประณีตงดงาม หน่วยก้านโดดเด่น ยอดเยี่ยมเหนือคนทั่วไป!
แต่ชายหนุ่มรูปงามดุจเทพเซียนนี้ เวลานี้กลับมีสีหน้าจริงจังเย็นชา ดวงตาลึกล้ำนั้นหนาวเหน็บดังภูเขาน้ำแข็งหมื่นปี ทำให้คนไม่กล้าสบตาตรงๆ
คิ้วกระบี่โค้งงอนนั้น กลับไม่เคยคลายลงจนถึงตอนนี้ แสดงถึงความกังวลใจของเจ้าของออกมา
และคนผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใด คือเหลิ่งอวี้เซวียนที่ตามหาซินเอ๋อร์มาสองวันสองคืนโดยไม่หยุดพัก!
ผ่านมาสองวันสองคืนแล้ว ซินเอ๋อร์เจ้าอยู่ที่ใดกันแน่!
เหลิ่งอวี้เซวียนกังวลในใจ และรู้สึกเสียใจกับความไร้ความสามารถของตน!
สองวันนี้ เขาไม่เพียงส่งคนและม้าทั้งหมดในวังออกไปค้นหา กระทั่งองครักษ์ลับที่ใช้งานบางโอกาสพวกนั้นต่างถูกส่งออกไป แต่ตอนนี้ยังตามหาซินเอ๋อร์ไม่พบ
เพียงนึกถึงเวลานี้ซินเอ๋อร์กำลังตกอยู่ในความลำบาก แต่เขากลับไม่สามารถช่วยเธอได้อย่างทันท่วงที เหลิ่งอวี้เซวียนปวดใจดุจไฟแผดเผา ดุจมีดทิ่มแทงหัวใจ!
ทันใดนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาด้านหน้าคล้ายฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงยกมือคำนับเอ่ยกับเหลิงอวี้เซวียนว่า
“นายท่าน ข้าตรวจสอบพบว่าด้านหน้ามีหอราตรีวสันต์แห่งหนึ่ง ลือกันว่าเบื้องหลังหอราตรีวสันต์นั้นคือนายอำเภอฮว่าโจว หญิงสาวมากมายในนั้นต่างถูกจับตัวมาขายให้กับหอราตรีวสันต์ สองวันก่อนมีกลุ่มสาวน้อยถูกจับตัวมาขายที่นี่”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ องครักษ์ผู้นั้นหยุดพูดลง
ทว่าคำพูดถัดมาทุกคนต่างทราบดีในใจ
เหลิ่งอวี้เซวียนได้ยิน ร่างกายหวาดหวั่น ดวงตาดำขลับเคร่งเครียด ประกายโหดเหี้ยมพุ่งออกมาจากดวงตาของเขา
“หอราตรีวสันต์หรือ!”
ริมฝีปากเผยอขึ้น ก่อนเห็นชายหนุ่มพลิกกายขึ้นหลังม้า ทันใดนั้นโบกมือใหญ่
คนและม้าที่อยู่ด้านหลังพลันติดตามชายหนุ่ม ก่อนพุ่งทะยานไปสู่หอราตรีวสันต์!
…
กลางดึก!
หลังซินเอ๋อร์ทานอาหารเย็นและอาบน้ำเสร็จ อยู่ภายในห้องที่เหยาเจี่ยจัดเตรียมไว้เพียงลำพัง
ความจริงเธอกังวลว่าเสี่ยวจื่อจะหวาดกลัว จึงไม่ยินยอมแยกจากเสี่ยวจื่อ วางแผนนอนร่วมห้องเดียวกัน
แต่หลังเหยาเจี่ยรู้เข้า กลับให้คนแยกพวกเธอสองคนออกจากกัน
คล้ายหวาดกลัวพวกเธอวางแผนบางอย่างขณะอยู่ด้วยกัน
เวลานี้เป็นช่วงกลางดึก!
ด้านนอกมีพระจันทร์ลอยเด่น ดวงดาวเป็นประกายดุจเพชรเม็ดงาม กระจายไปทั่วท้องฟ้าอันมืดมิด ขับเน้นให้คืนนี้สวยงามและลึกลับเช่นนี้!
เมื่อมองยามค่ำคืนอันชวนหลงใหล สิ่งที่ซินเอ๋อร์ต้องการทำที่สุดคือมีปีกงอกออกมาจากกายตน บินออกไปจากที่นี่ หนีไปจากที่นี่
แต่เธอรู้ดีว่านี้คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!
เมื่อครู่เธอรู้จากปากของเสี่ยวจวีและเสี่ยวหลันว่าที่นี่คือฮว่าโจว หอราตรีวสันต์คือหอนางโลมที่ใหญ่ที่สุดแห่งฮว่าโจว
และฮว่าโจวห่างไกลจากเมืองหลวงอย่างมาก
หากให้เซวียนมาช่วยเธอจริง คงเป็นเพียงความคิดเพ้อฝัน
แต่หากอาศัยเพียงแค่หญิงสาวบอบบางเช่นเธอและเด็กสาวเช่นเสี่ยวจื่อ การคิดไปจากที่นี่จะดูง่ายดายได้เช่นไร!
หรือเธอต้องถูกขังอยู่ที่นี่ เป็นหญิงคณิกามีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มมากหน้าหลายตาไปตลอดชีวิต!
หรือเธอและเซวียนจะไม่สามารถพบหน้ากันอีกครั้งจริงๆ!
พอคิดถึงตรงนี้ ใจของซินเอ๋อร์เหมือนถูกบีบรัดอย่างเจ็บปวด
ดวงตาระยับวับวาวคู่นั้น เวลานี้เต็มไปด้วยน้ำตาเอ่อคลออยู่ภายใน สุดท้ายเปลี่ยนเป็นหยดน้ำตาแวววาวไหลรินอาบสองแก้มไม่หยุด ดังไข่มุกที่หลุดจากสร้อยคอ
ซินเอ๋อร์ร้องไห้อย่างจนปัญญาอยู่นาน สุดท้ายจึงดึงสายตากลับมาอย่างช้าๆ ก่อนเคลื่อนไปมองกระถางดอกไม้ที่วางอยู่บนหน้าต่าง
เห็นเพียงบนกระถางดอกไม้นี้ ปลูกดอกไม้ชนิดที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
ดอกไม้นี้ดูคล้ายดอกแดฟโฟดิล ใบยาวเชียวขจี แต่ดอกนั้นกลับแดงสดดุจดอกกุหลาบสีแดง มองแล้วสวยงามหยาดเยิ้มยิ่งนัก!
ซินเอ๋อร์ไม่เคยเห็นดอกไม้เช่นนี้มาก่อน ดังนั้นไม่นานถูกดึงดูดไป
เดินเข้าไปจ้องมองดอกไม้ที่เบ่งบานสวยงามยามกลางคืนอย่างช้าๆ
หลังซินเอ๋อร์เดินเข้าไปยังกระถางดอกไม้นั้นจึงพบว่า ดอกไม้สีแดงนี้ไม่เพียงสวยงาม แต่ยังมีกลิ่นหอม ทำให้คนที่ได้กลิ่นลุ่มหลงจนสูดดมไม่หยุด ก่อนค่อยๆ ตัดใจผละออกห่างไม่ได้
ซินเอ๋อร์ไม่รู้ตนนั่งอยู่ที่หน้าต่างสูดกลิ่นหอมของดอกไม้นั้นนานเพียงใด รู้เพียงดอกไม้นี้ช่างหอมยิ่งนัก
จากนั้นซินเอ๋อร์อาจเพราะง่วงงุน จึงค่อยๆ เข้าสู่ห้วงฝัน
ขณะเดียวกันอีกด้านของหอราตรีวสันต์
“อาเหยา ได้ยินว่าวันนี้เจ้าจ่ายเงินพันตำลึงซื้อหญิงสาวผู้หนึ่งกลับมา เป็นเรื่องจริงหรือ!”
ภายในห้องหรูหรากว้างใหญ่ห้องหนึ่ง เวลานี้มีชายวัยกลางคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรา รูปร่างอ้วนท้วนผู้หนึ่ง กำลังนอนอยู่บนเก้าอี้นวมอย่างเกียจคร้าน
ด้านซ้ายและขวาของชายวัยกลางคน มีหญิงสาวรูปร่างอรชร แต่งกายโป๊เปลือยสวยงามนั่งคุกเข่าอยู่สี่คน เพื่อทุบแผ่นหลัง นวดไหล่ ปอกเปลือกองุ่น ป้อนสุราชั้นเลิศ ชีวิตแสนสุขยิ่งนัก!
และชายผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใด คือฮว่าเทียนเฉิง นายอำเภอฮว่าโจว และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหอราตรีวสันต์แห่งนี้!
หอราตรีวสันต์แห่งนี้ ไม่เพียงมีฮว่าเทียนเฉิงปกป้องคุ้มครอง แต่เขายังเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของที่นี่
ดังนั้นหลังจากฮว่าเทียนเฉิงได้ยินรายงานจากลูกน้อง ขณะมาหาความสนุกผ่อนคลายที่นี่ อดเอ่ยถามขึ้นไม่ได้
เพราะคนเช่นอาเหยาเขารู้จักเป็นอย่างดี ฉลาดปราดเปรื่อง ละเอียดรอบคอบ จึงจัดการหอราตรีวสันต์นี้ได้อย่างระเบียบเรียบร้อย
ดังนั้น ฮว่าเทียนเฉิงจึงเชื่อมั่นในตัวหญิงสาวตรงหน้านี้อย่างมาก
และจากสิ่งที่เขารับรู้ อาเหยาไม่ใช่คนทำการค้าแบบขาดทุน เพราะยอดหญิงคณิกาในตอนนี้ อาเหยาซื้อตัวมาด้วยเงินเพียงแปดร้อยตำลึงเท่านั้น
รูปโฉมของหญิงสาวผู้นั้น งดงามดุจเทพธิดา และยังทำให้เขามีค่ำคืนที่มีความสุขหลายคืน
ไม่รู้หญิงสาวที่อาเหยาใช้เงินหนึ่งพันตำลึงซื้อตัวมาในวันนี้ จะงดงามกว่ายอดหญิงคณิกาในตอนนี้หลายส่วนหรือไม่!
ขณะฮว่าเทียนเฉิงคิดในใจ เหยาเจี่ยที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าเขา หลังได้ยินย่อมเข้าใจความหมายของฮว่าเทียนเฉิง
เพราะพวกเขาร่วมงานกันมานาน สำหรับนิสัยของอีกฝ่ายย่อมกระจ่างชัด
ดังนั้นเหยาเจี่ยจึงไม่ปิดบัง เพียงสะบัดผ้าเช็ดหน้าทำจากผ้าไหมในมือ ก่อนกล่าวยิ้มๆ ว่า
“ใต้เท้าช่างหูตาว่องไวเสียจริง ใช่แล้ว วันนี้ข้าจ่ายเงินก้อนใหญ่ซื้อตัวหญิงสาวผู้หนึ่งกลับมา เวลานี้หญิงผู้นั้นพักอยู่ที่เรือนหลังของหอราตรีวสันต์!”
“ฮ่า ๆ ข้าเชื่อมั่นในสายตาของเจ้ายิ่งนัก ถึงกลับจ่ายเงินพันตำลึงซื้อหญิงสาวผู้หนึ่งกลับมา เช่นนั้นเธอต้องงดงามมากแน่ ไป พาข้าไปยลโฉมเถิด!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ ฮว่าเทียนเฉิงเกิดความสนใจ
เพราะบนโลกนี้มีชายใดที่ไม่เจ้าชู้!
ทว่าหลังเหยาเจี่ยได้ยินคำพูดของฮว่าเทียนเฉิง กลับรู้สึกลังเล
เพราะนิสัยของฮว่าเทียนเฉิงเธอทราบดี ร่ำรวย เจ้าชู้ และปฎิบัติกับหญิงสาวอย่างไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผา!
ครั้งก่อนยอดคณิกาที่เธอใส่ใจอบรบสั่งสอนออกมา ถูกเขาเล่นสนุกอยู่หลายคืน จนแทบเอาชีวิตไม่รอด ตอนนี้หญิงสาวที่เธอซื้อมางดงามดั่งดอกโบตั๋น มากกว่าหญิงสาวทั้งหมดที่เธอซื้อตัวกลับมาครั้งก่อนหลายพันเท่า ถือเป็นแหล่งรายได้จำนวนมหาศาล!
หากถูกฮว่าเทียนเฉิงเล่นสนุกอยู่หลายคืน เธอมิต้องขาดทุนหรือ!
พอคิดถึงตรงนี้ เหยาเจี่ยลังเลในใจ ทว่าบนใบหน้ากลับยิ้มแย้มดุจบุปผาพร้อมเอ่ยว่า
“ใต้เท้า ท่านอย่าใจร้อนเลย หญิงสาวผู้นั้นต้องลมเย็น เวลานี้เกรงว่าคงหลับไปแล้ว เช่นนั้นรอให้ข้าดูแลร่างกายของนางให้ดีก่อน ค่อยพามาให้ใต้เท้าดู ดีหรือไม่!”
“โอ ป่วยหรือ!”
ฮว่าเทียนเฉิงได้ยิน อดเอ่ยถามอย่างสงสัยไม่ได้
“ใช่ นางล้มป่วย”
เมื่อได้ยิน เหยาเจี่ยพลันเอ่ยยืนยัน
ถึงอย่างไรตอนนี้เธอยังไม่ยินยอมให้ฮว่าเทียนเฉิงพบหน้าซินเอ๋อร์ เพราะสินค้าคุณภาพดีเช่นนั้น ถือว่าหาได้ยากยิ่งนัก
เธอมั่นใจอย่างมากว่าจะสามารถสั่งสอนให้ซินเอ๋อร์กลายเป็นยอดคณิกาคนใหม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้นหอราตรีวสันต์ของเธอจะรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา!
พอคิดถึงตรงนี้ เหยาเจี่ยมีความสุขในใจ
เธอตอนนี้คล้ายมองเห็นเงินทองของมีค่าที่นับไม่ถ้วนตกลงมาจากสวรรค์
แต่คำพูดถัดมาของฮว่าเทียนเฉิง กลับทำให้เหยาเจี่ยสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร ข้าเพียงไปยลโฉมเท่านั้น พวกเราไป!”
จริงอย่างที่คิด ฮว่าเทียนเฉิงไม่คิดพลาดหญิงสาวผู้นี้ และไม่สนใจว่าเหยาเจี่ยจะยินยอมหรือไม่ จึงตวัดกายขึ้นเดินมุ่งไปทางเรือนด้านหลัง
เหยาเจี่ยเห็นเช่นนั้น แม้ในใจจะไม่ยินยอม แต่กลับจำต้องเดินตามไป
ผู้ใดให้หอราตรีวสันต์ของเธอ ไม่สามารถล่วงเกินคนผู้นี้ได้!
…
ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงตนหลับไปชั่วขณะ ก่อนรู้สึกมีคนเข้ามาใกล้ จึงอดได้สติกลับมาพร้อมลืมตาขึ้น
เมื่อเธอลืมตาขึ้นเห็นชายหนุ่มที่จู่ๆ ปรากฎตัวขึ้นมาตรงหน้าตน ร่างกายพลันตกใจ ความดีใจทะลักขึ้นมาในใจอย่างรวดเร็ว
เห็นเพียงชายตรงหน้าแต่งกายหรูหรา ให้ความรู้สึกสูงส่ง
ใบหน้าหล่อเหลาเด็ดเดี่ยวนั้น กลับยิ้มอย่างชวนหลงใหล จ้องมองเธออยู่เงียบๆ
เมื่อเห็นใบหน้าอันคุ้นตานี้ ใจของซินเอ๋อร์อดดีใจและน้อยใจไม่ได้
ก่อนรู้สึกแสบจมูก ดวงตาร้อนผ่าว น้ำตากระจ่างใสอดไหลรินออกมาอีกครั้งไม่ได้
แต่เธอไม่สนใจน้ำตาของตน ลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว โผเข้าหาชายหนุ่มที่คุ้นตาผู้นั้น
แต่เมื่อสองเท้าเพิ่งแตะพื้น กลับรู้สึกเรี่ยวแรงทั่วกายคล้ายถูกสูบออกไปหมดเกลี้ยง จนลุกไม่ขึ้น
ร่างกายของเธออ่อนยวบล้มลงบนพื้น
ทว่าโชคดีที่ชายหนุ่มตรงหน้ามือตาว่องไว จึงอุ้มเธอเอาไว้ได้
เห็นเช่นนั้นซินเอ๋อร์พลันรู้สึกสบายใจ จึงปิดตาลงอย่างช้าๆ ก่อนสูดดมกลิ่นกายของชายหนุ่ม
แต่ทันใดนั้นซินเอ๋อร์กลับพบว่าคล้ายมีบางอย่างผิดปกติ
เพราะบนกายของเซวียนจะแฝงไปด้วยกลิ่นของดอกอวี๋หลันขาวอันหอมสดชื่นตลอดเวลา
แต่ชายตรงหน้านี้ กลิ่นกายกลับเต็มไปด้วยสุราและกลิ่นเหม็นอับ ทำให้คนสะอิดสะเอียนอย่างที่สุด!
นี่เกิดอันใดขึ้นกันแน่!