สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 255 ถูกกดทับ
ซินเอ๋อร์สงสัยในใจ
แต่เวลานี้ซินเอ๋อร์กลับพบว่าร่างกายตนคล้ายแปลกประหลาดไป
ส่วนลึกในใจคล้ายกำลังถูกสุมด้วยกองไฟ และกองไฟนั้นกำลังโหมลุกโชนหนักขึ้น
จนซินเอ๋อร์รู้สึกว่าตนเวลานี้ร้อนอย่างมาก คล้ายเธอกำลังอยู่ในเปลวเพลิง
กระทั่งเลือดคล้ายถูกแผดเผาจนทั้งหมดเดือดพล่านขึ้นมา
“ทรมานยิ่งนัก เซวียน ข้าทรมาน ร้อน ร้อนเหลือเกิน”
ร่างกายซินเอ๋อร์ไร้เรี่ยวแรง รู้สึกเพียงบนกายกำลังถูกเผาไฟ สองแก้มก็ร้อนผ่าว แดงก่ำดุจแอบเปิ้ลสุกงอม
เสียงครวญครางเย้ายวนใจนั้น ดังออกมาจากปากซินเอ๋อร์ไม่หยุด
เสียงอ่อนนุ่มแฝงความออดอ้อนหลายส่วน ทำให้คนฟังต่างอ่อนระทวย
ชายหนุ่มได้ยินยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนปลอบโยนไม่หยุด
“ฮ่า ๆ คนงาม มาๆ ข้าปวดใจยิ่งนัก ประเดี๋ยวจะไม่ร้อนแล้ว ฮ่า ๆ”
ชายหนุ่มเอ่ยจบพลันยืดตัวอุ้มร่างเล็กของซินเอ๋อร์ขึ้น จากนั้นมุ่งหน้าไปที่เตียงใหญ่
สำหรับความร้อนใจของชายหนุ่ม เหยาเจี่ยที่ยืนอยู่นอกประตูกลับขมวดคิ้วมุ่น
แม้เธอจะเคยนึกถึงแผนการอันเลวร้าย แต่คิดไม่ถึง…
พอคิดถึงตรงนี้ สายตาของเหยาเจี่ยอดมองดอกไม้สีแดงบนริมหน้าต่างไม่ได้
ดอกไม้ที่มีรูปลักษณ์คล้ายดอกแดฟโฟดิลนั้น ความจริงคือดอกไป๋เหมยฮัว!
ดอกไป๋เหมยฮัวนี้ หอมกรุ่นยวนใจ รูปลักษณ์อ่อนช้อยสวยงาม และมีสรรพคุณเป็นยาปลุกกำหนัด
เพียงนำดอกไม้ชนิดนี้วางไว้ภายในห้อง สูดดมเข้าไปเป็นเวลานาน จะปลุกกำหนัดของผู้คนให้เพิ่มสูงขึ้น
หอราตรีวสันต์ที่ทำกิจการขายเรือนร่าง เหล่าหญิงสาวพวกนั้นทุกวันต่างต้องรับรองแขก เมื่อรับรองจำนวนมาก ร่างกายย่อมทนไม่ไหวและย่ำแย่ลง
ดังนั้นเธอจึงวางดอกไม้ชนิดนี้ไว้ภายในห้องของหญิงสาวทุกคน
เพราะเพียงสูดดมเป็นเวลานาน ความปรารถนาของร่างกายจะเพิ่มขึ้นไม่หยุด แม้สูดดมมากเกินไปจะไม่ดีต่อร่างกายก็ตาม
สิ่งสำคัญคือดอกไม้นี้สูดดมระยะไกล จะสามารถจุดไฟปรารถนาของผู้คนขึ้นมา แต่หากสูดดมอยู่ใกล้ๆ ไม่หยุด จะเท่ากับว่าทานยาปลุกกำหนัด
และยังทำให้ผู้คนเกิดภาพหลอน มองผิดว่าคนตรงหน้าคือคนที่ตนชื่นชอบ
ขณะเหยาเจี่ยคิดในใจ มองสาวน้อยที่ทั่วใบหน้าแดงกำ ยั่วยวนดุจผ้าไหมอีกครั้ง อดส่ายหน้าอย่างเสียดายไม่ได้
น่าเสียดายสาวงามที่อ่อนช้อยเช่นนี้ ความจริงเธอยังหวังให้เธอบริสุทธิ์ผุดผ่อง สามารถทำเงินก้อนโตให้กับเธอ!
แต่ตอนนี้…
เพียงหวังว่าฮว่าเทียนเฉิงจะไม่โหดเหี้ยมเกินไป จนเธอทำงานไม่ได้
เหยาเจี่ยคิดในใจ สุดท้ายเพียงส่ายหน้าอย่างเสียดาย ก่อนถอยออกจากห้องไป
…
“เซวียน ข้าร้อนยิ่งนัก”
บนเตียงใหญ่ภายในห้อง ซินเอ๋อร์กำลังถูกชายหนุ่มวางบนลงเตียง
เมื่อนอนลงบนเตียงใหญ่ที่หนานุ่มนี้ ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงโลกเวลานี้ช่างคล้ายกับความจริง
เลือดทั่วกายเดือดพล่าน ศีรษะกลับมึนงง สิ่งทั้งหมดที่เห็นต่างคล้ายกั้นด้วยชั้นเส้นด้าย
ชายหนุ่มตรงหน้ามักทำให้เธอรู้สึกแปลกประหลาด
เซวียนคนก่อนมักทำให้เธอรู้สึกว่าสูงใหญ่ น่าเกรงขาม เป็นธรรมชาติ ชื่นชอบ ใจเต้นแรง
แต่ชายหนุ่มในตอนนี้ กลับทำให้เธอรังเกียจและสะอิดสะเอียนอย่างที่สุด
โดยเฉพาะการกระทำเวลานี้ของชายหนุ่ม
ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ มองเธอด้วยสายตาร้อนรนหื่นกระหาย
สายตาดุร้ายดังเสือ คล้ายเธอคือขนมหวานรสเลิศชิ้นหนึ่งนั้น ทำให้เขาอยากกระโจนเข้าใส่ ก่อนถลกหนังเลาะกระดูกเธอกลืนลงท้อง
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์คาดเดาในใจ คิ้วเข้มขมวดมุ่น สายตาที่มองชายหนุ่มแฝงไปด้วยความหวาดกลัว
ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มถูฝ่ามือพร้อมกระโจนเข้าหาเธอ ร่างกายของซินเอ๋อร์กลิ้งหลบเข้าไปด้านในเตียงทันที
“ไม่ อย่า…”
ประโยคต่อต้านพลันดังออกมาจากปากของซินเอ๋อร์
และหลังซินเอ๋อร์กลิ้งตลบ สมองกระจ่างใสขึ้นมาเล็กน้อย หลังมองชายหนุ่มอีกครั้งรู้สึกเพียงร่างกายของชายหนุ่มโอนเอียง กลายเป็นราวมีเขาสามถึงสี่คน
ทันใดนั้นซินเอ๋อร์พยายามเพ่งตามอง หลังเห็นรูปโฉมของชายหนุ่มชัดเจน ร่างกายพลันดุจถูกฟ้าผ่าลงมา แข็งทื่อเป็นหินอย่างสุดขีด
เห็นเพียงชายหนุ่มตรงหน้านี้ ไม่ใช่เหลิ่งอวี้เซวียนที่เธอเพิ่งเห็นเมื่อครู่
แต่งกายหรูหรา แต่กลับรูปร่างอ้วนท้วน ศีรษะใหญ่ ทั่วหน้าดำกระด่าง ตาเล็กดังกระเทียม จมูกบานราวกะละมัง ปากกว้าง นี่มัน…
สุกรแต่งกายด้วยชุดหรูหรางดงามตัวหนึ่ง!
เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้น ก่อนซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงโลกทั้งใบของตนถล่มลงมาตรงหน้า
เพียงนึกถึงเมื่อชายผู้นี้ยังโอบกอดเธอ ทำให้เธอสะอิดสะเอียนไปทั้งตัว
เวลานี้เห็นชายหนุ่มมองเธอด้วยท่าทางหื่นกระหาย แววตาเปี่ยมด้วยไฟปรารถนาอย่างไม่ปิดบัง
ซินเอ๋อร์ไม่ได้โง่เขลา โดยเฉพาะหลังมาถึงที่นี่ เห็นภาพวังวสันต์มีท่าทางหลากหลายประเภทพวกนั้น สำหรับเรื่องระหว่างชายหญิง ก็เข้าใจขึ้นกว่าเจ็ดแปดส่วน
เมื่อเห็นชายหนุ่มมองเธอด้วยสายตาเช่นนี้อีกครั้ง ร่างกายของซินเอ๋อร์พลันเครียดเกร็ง ความตื่นตระหนกพรั่งพรูขึ้นในใจอย่างรวดเร็ว
สองแก้มที่แดงก่ำเพราะเต็มไปด้วยความปรารถนานั้น พลันซีดลงทันที
“ท่าน ท่านคือผู้ใด!”
“ฮ่า ๆ คนงามของข้า ข้าคือผู้ใดไม่สำคัญ สิ่งสำคัญก็คืออีกสักครู่ ข้าจะทำให้เจ้าสบายอย่างที่สุด ราวกับตายแล้วเกิดใหม่ ฮ่า ๆ”
เมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของซินเอ๋อร์ ฮว่าเทียนเฉิงไม่ได้ไม่พอใจ กลับหัวเราะอย่างอัปลักษณ์ออกมา
เพราะเขาชื่นชอบมองหญิงสาวตื่นตระหนก กรีดร้องโหยหวน แต่กลับไร้เรี่ยวแรงต่อต้านที่สุด หากเป็นเช่นนั้น เขาจะยิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้น
ตรงกันข้ามหากเป็นหญิงสาวฉลาดน่ารักที่นอนอยู่ใต้ล่างเขา เขากลับรู้สึกไร้อารมณ์
ดังนั้นเวลานี้เมื่อเห็นท่าทางตกใจของซินเอ๋อร์ ฮว่าเทียนเฉิงจึงถูฝ่ามือหัวเราะเสียงดังไม่หยุด ก่อนแปลงกายเป็นหมาป่ากระโจนพุ่งเข้าหาซินเอ๋อร์
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น ตกใจจนดวงตาคู่งามเบิกกว้าง กลิ้งออกไปด้านข้างทันที
ทันใดนั้นเธอรู้สึกว่าตำแหน่งที่ตนนอนเมื่อครู่สั่นไหวอย่างรุนแรง กระทั่งเตียงไม้ลายสลักเกิดเสียง ‘ปัง’ ขึ้นมา หลังเกิดเสียงดังออกมา ก็โยกเอนอย่างรุนแรงหลายครั้งก่อนหยุดลง
เพียงคิดก็รู้ว่าคนผู้นี้น้ำหนักตัวมากเพียงใด โชคดีเธอหลบได้ทันเวลา มิฉะนั้นคงถูกเขาทับจนร่างกายบาดเจ็บแน่ !
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์หวาดกลัว
แต่เธอทราบดีว่าเรื่องยังไม่จบลงเพียงเท่านี้
เพราะหลังกระโจนเข้าหาความว่างเปล่า ชายหนุ่มเงยใบหน้าอัปลักษณ์นั้นขึ้นอีกครั้ง ก่อนกระโจนมาทางด้านนี้อีก
“ฮ่า ๆ คนงามของข้า เจ้าคิดจะหลบไปถึงเมื่อใด เป็นเด็กดีอย่าดิ้นรนดีกว่า ข้าจะถนอมเจ้าเป็นอย่างดี ฮ่า ๆ”
เห็นเพียงชายหนุ่มเอ่ยพูดอย่างสกปรก ก่อนกระโจนเข้าใส่ซินเอ๋อร์ทางด้านนี้อีกครั้ง
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้นหวั่นวิตกในใจ จึงรีบพยายามออกแรงคิดวิ่งหนีลงจากเตียง
แต่เธอเวลานี้ไม่รู้ตนเป็นสิ่งใด ทั่วร่างไร้เรี่ยวแรง เรี่ยวแรงทั้งหมดคล้ายถูกสูบออกไปจนหมดเกลี้ยง
แต่ซินเอ๋อร์ยังกัดฟันแน่นพยายามไม่หยุด เพราะเธอรู้ว่าหากตนไม่หนี ต้องถูกชายผู้นี้…
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์รู้สึกรังเกียจและผิดหวังสุดขีด
แม้ตาย เธอจะไม่ยอมถูกชายผู้นี้ข่มเหง!
ทว่าขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ กำลังพยายามออกแรงครั้งสุดท้ายลุกขึ้น คิดไม่ถึงว่าทันใดนั้นข้อเท้าของเธอกลับถูกรัดแน่น เพราะมีมือใหญ่ดึงไว้
จากนั้นมีคำพูดอย่างภาคภูมิใจของชายหนุ่มดังขึ้น
“ฮ่า ๆ คนงามข้าจับเจ้าได้แล้ว ดูสิว่าเจ้ายังจะคิดหนีไปที่ใดอีก!”
ชายหนุ่มเอ่ยจบ มือใหญ่ดึงซินเอ๋อร์ที่ปีนออกจากเตียงกลับมา
ซินเอ๋อร์เห็นอดกรีดร้องไม่ได้
“อา ไม่ ได้โปรด ไม่!”
“ฮ่า ๆ คนงาม คนก็งาม เสียงก็ไพเราะ เจ้าร้องเถิด ร้องให้ดังกว่านี้ ข้าชื่นชอบท่าทางกรีดร้องของสาวงามเป็นที่สุด เห็นแล้วข้าตื่นเต้น ฮ่าๆ”
ชายหนุ่มหัวเราะขึ้น เผยฟันสีเหลืองเต็มปากนั้นออกมา และใบหน้าเต็มไปด้วยรอยด่างและไขมันนั้นก็สั่นเทิ้มตามไปด้วย ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก
เวลานี้ซินเอ๋อร์ถูกชายหนุ่มดึงตรงมาที่ข้างกาย ก่อนที่ชายหนุ่มจะคร่อมบนกายเธออย่างไม่เกรงใจทันที มือใหญ่เริ่มฉีกทึ้งเสื้อผ้าบนกายเธอ
เพราะใกล้เข้าฤดูร้อน อากาศจึงร้อนอบอ้าวขึ้นมา เสื้อผ้าบนกายซินเอ๋อร์เป็นเหยาเจี่ยที่ให้คนจัดเตรียมไว้โดยเฉพาะ
ประเภทของเนื้อผ้านั้นแปดส่วนบางเบา
ดังนั้นด้วยการกระทำที่หยาบคายนั้นของชายหนุ่ม เนื้อผ้าบางเบาจึงถูกฉีกขาด ‘แควก’ ลงมา
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น ออกแรงดิ้นไม่หยุด แต่เธอจะเป็นคู่ต่อกรของชายหนุ่มได้เช่นไร
เมื่อเห็นภาพตรงหน้าตนกำลังถูกชายหนุ่มผู้นี้ลอกคราบข่มเหง ซินเอ๋อร์เกิดคิดสั้นฆ่าตัวตาย
ทว่าขณะซินเอ๋อร์สิ้นหวัง เสียงสดใสกลับพลันดังขึ้น
“เจ้าไสหัวไป ห้ามแตะต้องพี่ซินเอ๋อร์ของข้า!”
หลังเสียงสดใสนั้นดังขึ้น ซินเอ๋อร์หันไปมองเห็นเสี่ยวจื่อปรากฎตัวขึ้นหน้าประตูไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด
หลังเธอเห็นภาพภายในห้อง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ไม่รอช้ารีบโผเข้าหาชายวัยกลางคนอย่างสุดกำลัง ดังสิงโตตัวน้อยคลุ้มคลั่งตัวหนึ่งทันที
กระโดดขึ้นบนหลังชายหนุ่ม ออกแรงทั้งหมดบนกายใช้สองมือดึงผมชายหนุ่มทันที ปากออกแรงงับที่ใบหู
เสี่ยวจื่อคลุ้มคลั่งขึ้นมา เห็นแล้วน่าหวาดกลัวยิ่งนัก
เพราะเสี่ยวจื่อเป็นคนให้ความสำคัญกับความรู้สึก ผู้ใดปฎิบัติกับเธอเช่นไร เธอไม่แยแส แต่ทนมองผู้อื่นรังแกคนที่เธอใส่ใจไม่ได้
ดังนั้นเมื่อเห็นซินเอ๋อร์ถูกรังแก จึงอดเดือดดาลไม่ได้
ทันใดนั้นเสียงร้องโหยหวนดังสุกรถูกเชือดของชายหนุ่มดังสนั่นขึ้นไปจนถึงท้องฟ้า!
ไม่นานเส้มผมของชายหนุ่มก็ยุ่งเหยิง และยังถูกเสี่ยวจื่อดึงบิดอยู่หลายครั้ง
ใบหูก็ถูกเสี่ยวจื่อกัดไว้ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือยังเต็มไปด้วยเลือดสดๆ มองแล้วน่าตกตะลึงยิ่งนัก!
หลังใบหูขาดไปครึ่งหนึ่ง เพราะเจ็บปวดชายหนุ่มจึงกลิ้งอยู่บนพื้นไม่หยุด เสี่ยวจื่อถูกชายหนุ่มสะบัดลงจากแผ่นหลังจนล้มลงไปบนพื้น