สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 259 ซินเอ๋อร์ล้มป่วย (รีไรท์)
“ซินเอ๋อร์ เจ้าเป็นอันใด ซินเอ๋อร์!”
ขณะเหลิ่งอวี้เซวียนคร่อมร่างของสาวน้อย ท่อนล่างจดจ่อส่วนล่างของสาวน้อย วางแผนจะสอดใส่เข้าไป จู่ๆ พลันรู้สึกร่างใต้ล่างอ่อนยวบไป จึงมองให้ชัดก่อนพบว่าหญิงสาวหมดสติไปแล้ว
เหลิ่งอวี้เซวียนเห็นเช่นนั้นพลันตื่นตกใจ
“ซินเอ๋อร์ เจ้าเป็นอันใด ซินเอ๋อร์!”
เหลิ่งอวี้เซวียนยื่นแขนกอดสาวน้อยที่หมดสติไป ก่อนเขย่าเรียกไม่หยุด แต่คนในอ้อมกอดเวลานี้กลับคล้ายหลับสนิท ดวงตาปิดแน่น ไม่ว่าเขาเขย่าเช่นไรล้วนไม่ตื่นขึ้นมา
เหลิ่งอวี้เซวียนเห็นเช่นนั้น หัวใจจึงเต้นระรัว
จึงพุ่งออกไปนอกรถม้าก่อนตะโกนเสียงดังขึ้น
“เด็กๆ รีบไปเชิญท่านหมอมา เร็ว!”
“ขอรับ”
แม้ไม่รู้สถานการณ์ภายในรถม้า แต่คนด้านนอกหลังได้ยิน ฟังออกถึงความวิตกกังวลภายในน้ำเสียงของเจ้านายของตน จึงรีบร้อนไปตามหมอทันที
ส่วนเหลิ่งอวี้เซวียนภายในรถม้า กำลังกอดซินเอ๋อร์ที่หมดสติ พึมพำอย่างร้อนรนและกังวล
“ซินเอ๋อร์ เจ้าห้ามเป็นอันใดเด็ดขาด ห้ามเด็ดขาด”
…
เมื่อหมอมาถึง เหลิ่งอวี้เซวียนก็แต่งกายให้ตนและซินเอ๋อร์เรียบร้อยแล้ว
เพราะเสื้อผ้าบนกายซินเอ๋อร์ขาดรุ่งริ่ง ไม่ปกปิดร่างกาย จึงไม่สามารถสวมใส่ได้แล้ว ดังนั้นเหลิ่งอวี้เซวียนจึงใช้เสื้อกันลมสีดำของตน ห่อหุ้มกายเล็กของซินเอ๋อร์เอาไว้ ไม่ให้เผยเนื้อกายออกมา
หลังหมอเข้ามา หมอก็รีบจับชีพจรให้แก่ซินเอ๋อร์ หลังผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยปากขึ้น ท่ามกลางสายตาร้อนรนกังวลของเหลิ่งอวี้เซวียนว่า
“ก่อนหน้านี้นางได้สูดดมดอกไม้ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าไป๋เหยียนฮัวเข้าไป ดอกไม้ชนิดนี้หากสูดดมเป็นเวลานานจะสามารถเพิ่มความต้องการทางเพศให้สูงขึ้นได้ แต่หากสูดดมมากเกินไปจึงกลายเป็นยาปลุกกำหนัด และดอกไป๋เหยียนฮัวนี้ สำหรับร่างกายมนุษย์ไม่ว่ามากน้อยเพียงใดล้วนทำร้ายสุขภาพ รวมทั้งก่อนหน้านี้นางวิตกกังวลเกินไป และยังต้องลมเย็น รวมทั้งสูดดมไป๋เหยียนฮัวเข้าไป จึงทำให้ไข้ขึ้นสูง”
หมอชรานั้นกำลังอธิบายรายละเอียดของการเจ็บป่วย เหลิ่งอวี้เซวียนที่ฟังอยู่ด้านข้างจึงอดขมวดคิ้วเป็นปมไม่ได้
โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าวิตกกังวลมากเกินไป ในใจจึงบีบรัดอย่างรุนแรง
สองวันมานี้ ซินเอ๋อร์ของเขาต้องลำบากมามากมายแน่ กังวลหวาดกลัวตลอดทั้งวัน ยิ่งคิดเหลิ่งอวี้เซวียนยิ่งเสียใจในใจ
“ท่านหมอ เช่นนั้นรีบรักษานางเถิด ไม่ว่าเสียเงินมากเท่าใด เพียงรักษานางให้หาย ข้าล้วนยินยอม!”
เหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยด้วยสีหน้าร้อนใจ
หมอผู้นั้นได้ยิน เพียงโบกมือ บอกให้เหลิ่งอวี้เซวียนทำใจให้เย็นลง
“คุณชายอย่ากังวลเกินไป นางเพียงไข้ขึ้นเท่านั้น ดื่มยาเพียงไม่กี่เทียบ และพักผ่อนให้ดี ไม่กี่วันจะหายเป็นปกติ”
เมื่อได้ยิน เหลิ่งอวี้เซวียนที่ใจหวาดหวั่น โล่งอกลงมาในที่สุด
“เช่นนั้นก็ดี ขอบคุณท่านหมอ”
เหลิ่งอวี้เซวียนได้ยิน ให้บ่าวรับใช้ไปเตรียมยากับหมอ ส่วนตนเฝ้าอยู่ข้างกายซินเอ๋อร์ตลอดเวลา
มองใบหน้าเล็กแดงก่ำของซินเอ๋อร์ ด้วยความปวดใจ
…
ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียง ร่างกายตนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น ทรมานอย่างที่สุด
ภาพตรงหน้ามืดมิด คล้ายอยู่ในถ้ำที่ไร้ก้นบึ้ง ยื่นมือออกไปมองไม่เห็นนิ้วมือทั้งห้า
ความมืดเช่นนี้ ทำให้คนหวาดกลัว อึดอัด ผวา และจนปัญญา
ซินเอ๋อร์คิดกรีดร้อง ตะโกน แต่เธอกลับพบว่าลำคอของตนคล้ายมีสำลีอุดอยู่ ไม่ว่าเธอจะส่งเสียงเช่นไร กลับไร้เสียงดังออกมา
ความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้คนหมดแรงและหวาดกลัว
หรือเธอตายแล้ว!
มิฉะนั้น เหตุใดเธอจึงทรมานเช่นนี้!
ที่แท้หลังตายแล้วเป็นเช่นนี้เอง มืดมนและโดดเดี่ยว
ยิ่งคิด ซินเอ๋อร์ยิ่งเสียใจ น้ำตาไหลรินลงมาไม่หยุด
และลำคอของเธอ เวลานี้เจ็บปวดราวไฟแผดเผา คล้ายอยากดื่มน้ำ
“น้ำ น้า…”
ซินเอ๋อร์ไม่รู้ คำพูดนี้ของตนจะมีคนได้ยินหรือว่าเป็นเช่นไร
เธอรู้เพียง ขณะที่เธออยากดื่มน้ำ สายน้ำอันอบอุ่นถูกป้อนเข้ามาในปากของเธอ
ทำให้คอที่แห้งจนแสบร้อนของเธอชุ่มชื้น ไม่นานสบายขึ้นอย่างมาก
และในความมืด ซินเอ๋อร์คล้ายรู้สึกว่ามีมือใหญ่อันอบอุ่น กำลังแตะลงบนหน้าผากตนอย่างช้าๆ จากนั้นกุมมือเธอไว้แน่น คล้ายมอบพลังให้แก่เธอ
เธอไม่รู้ว่าคนผู้นี้คือผู้ใด แต่ความรู้สึกที่มอบให้แก่เธอ กลับสบาย อบอุ่นเช่นนี้ ทำให้เธอไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
เรื่องหลังจากนั้น ซินเอ๋อร์ไม่รับรู้อีก เธอรู้เพียงตนง่วงอย่างมาก และตกอยู่ในความมืดอีกครั้ง
…
เมื่อซินเอ๋อร์ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา รู้สึกเพียงตนหลับยาวนานราวศตวรรษ
ศีรษะมึนงง อ่อนเพลียทั่วร่าง และไร้เรี่ยวแรง
เมื่อลืมตาตั้งสติอยู่นาน หลังเห็นบรรยากาศรอบด้านที่คุ้นตาอย่างชัดเจน ซินเอ๋อร์อดตกตะลึงไม่ได้!
ที่นี่ไม่ใช่ห้องพักของเธอหรือ!
เธอกลับมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด!
ซินเอ๋อร์เอะใจขึ้น ดวงตาแฝงความงัวเงียเบิกกว้างขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ภายในสมองนึกย้อนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนตนหมดสติไปไม่หยุด
เธอจำได้ว่าตนไปเดินเล่นกับเสี่ยวหวนจนมืดค่ำ เสี่ยวหวนไปเข้าห้องน้ำ เธอยืนรอเสี่ยวหวนอยู่บนถนนใหญ่
ผู้ใดจะรู้ เธอรออยู่นาน เสี่ยวหวนก็ไม่กลับมา ทว่ากลับถูกคนใช้ผ้าที่มียาสลบประกบเข้าที่ปาก สุดท้ายหมดสติไป
หลังจากนั้น เธอถูกคนขังไว้ในคุกใต้ดินแห่งหนึ่ง และถูกคนซื้อมาที่หอราตรีวสันต์
สุดท้ายขณะเธอนอนหลับอยู่ภายในห้อง สะลืมสะลือพบว่าเซวียนปรากฎตัวขึ้น ต่อมาพบว่าเขาไม่ใช่เซวียน และสุดท้าย
เซวียน!
หลังคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์กังวลในใจ ทันใดนั้นพลันลุกขึ้นนั่ง
คิดไม่ถึง แขนกลับสัมผัสโดนของแข็งที่อบอุ่นบางอย่าง คล้ายเป็น…
ซินเอ๋อร์ตกใจในใจ จึงรีบหันศีรษะมอง จึงพบสิ่งที่ประหลาดใจและตกตะลึงว่าบนเตียงของตน ยังมีคนผู้หนึ่งนอนอยู่!
และยังเป็นผู้ชาย!
เห็นเพียงเวลานี้ เป็นเวลาเที่ยงอย่างแน่นอน
แสงแดดอบอุ่นงดงามนั้น สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างที่เปิดอ้าไว้บานนั้น จนทั่วห้องสว่างไสว
ม่านลูกปัดสั่นไหว ม่านโปร่งบางพลิ้วไหว โต๊ะเก้าอี้ทำจากไม้สาลี่ภายในห้องต่างสาดประกายแสงละมุนออกมา ท่ามกลางแสงแดด
เห็นเพียงบนเตียงใหญ่ปูด้วยผ้าสีชมพูของเธอนี้ มีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่ง กำลังหลับสนิทอยู่อย่างเงียบสงบ
แสงแดดอันอบอุ่นที่สาดลงบนกายของเขา ทำให้เขาคล้ายถูกหุ้มด้วยชั้นแสงสีทอง มองแล้วทำให้คนรู้สึกอบอุ่น
เวลานี้ชายหนุ่มกำลังนอนตะแคงหลับสนิท
บนกายชายหนุ่ม สวมเพียงชุดสีขาวตัวหนึ่ง เส้นผมยาวดำนุ่มลื่นดุจสายน้ำตก เพียงรัดเป็นช่อเล็กด้วยสายรัดสีขาวอย่างหลวมๆ ส่วนที่เหลือปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง
การแต่งกายตามสบายนั้น ทำให้เขาดูคล้ายเทพเซียนที่สุขุมงามสง่า
ทว่าบนใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นนั้น หางตากลับมีรอยคล้ำที่เด่นชัด และบนใบหน้าของเขายังเต็มไปด้วยหนวดเครา ทำให้เขาดูซูบผอมหลายส่วน
และทำให้ซินเอ๋อร์มองอย่างปวดใจ
เพียงนึกถึงหลายวันที่เธอหายตัวไป เขาต้องตามหาเธอทั้งวันทั้งคืนแน่ มิฉะนั้นใบหน้าเขาคงไม่ดูซูบผอมไปขนาดนี้
และร่างกายเขาคล้ายผอมลงไปไม่น้อย
ทำให้เขาลำบากจริงๆ!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ทั้งปวดใจและเสียใจ
เมื่อเห็นใบหน้าหลับสนิทคุ้นตาของชายหนุ่ม แม้เวลานี้ชายหนุ่มจะดูเหนื่อยล้าและกังวลหลายส่วน ทว่ากลับไม่ลดทอนความหล่อเหลาของเขาแม้แต่น้อย กลับทำให้เขาดูดิบเถื่อนและมีเสน่ห์มากขึ้น
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ใจเต้นแรง ความตกตะลึงค่อยๆ ลุกลามไปทั่วหัวใจ
ทันใดนั้น ซินเอ๋อร์ค่อยๆ ยื่นมือเล็กตรงออกไปไล้หัวคิ้วเข้มโค้งงอนของชายหนุ่ม
ไม่รู้ชายหนุ่มกำลังฝันร้ายอันใด คิ้วงามนั้นกำลังขมวดมุ่นเข้าหากัน ทำให้เธอเห็นแล้วไม่สบายใจ
และทำให้เธออยากรับความทุกข์นั้นมาจากเขา
และเธอก็ทำเช่นนี้จริง
นิ้วเรียวยาวนั้นค่อยๆไล้ลงบนคิ้วที่ขมวดมุ่นอย่างอ่อนโยน หลังเห็นเขาคลายหัวคิ้วลง ซินเอ๋อร์จึงยิ้มที่มุมปาก
และเวลานี้ ชายหนุ่มที่กำลังหลับสนิท กลับเผยอริมฝีปากออก พึมพำบางอย่างไม่หยุด
ตอนแรก ซินเอ๋อร์ไม่รู้ชายหนุ่มกำลังเอ่ยพูดสิ่งใด จึงค่อยๆ โน้มตัวลงไป จนใบหูชิดริมฝีปากของชายหนุ่ม ก่อนแอบฟัง จนกระทั่งได้ยินคำเรียกขานว่า ‘ซินเอ๋อร์’ จากปากชายหนุ่มไม่หยุด ใจของเธออดเต้นแรงไม่ได้
ความอบอุ่นซาบซึ้งทะลึกขึ้นในใจอย่างรวดเร็ว
และรู้สึกแสบจมูก ดวงตาร้อนผ่าว
เพราะหลังมารดาเสียชีวิต เธอที่อายุยังน้อยต้องดูแลน้องชายที่ยังเล็ก ที่ผ่านมาไม่มีผู้ใดใส่ใจเธอเช่นนี้มาก่อน
แต่ชายหนุ่มตรงหน้านี้กลับแตกต่างออกไป
ความจริงพวกเขาแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ไม่มีทางมาบรรจบกันได้
ชายหนุ่มตรงหน้านี้คือบุตรอันเป็นที่รักแห่งสวรรค์ มีเงินมีเกียรติมีอำนาจ เป็นคนที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งแห่งแคว้นเทียนหยวน เพียงเขาขยับเท้าเพียงเล็กน้อย ทั่วแคว้นเทียนหยวนต่างสั่นสะเทือน
และรูปโฉมโดดเด่น ท่าทางสง่างาม เพียงยกนิ้วหญิงงามมากมายพร้อมกระโจนเข้าสู่อ้อมกอด
บุคคลที่โดดเด่นเช่นเขา กลับเอาแต่ดีต่อเธอ จะไม่ทำให้เธอตกใจได้อย่างไร
เพราะเธอเป็นเพียงคนที่ที่สถานะต่ำต้อยคนหนึ่ง
นอกจากรูปโฉมจะพอใช้แล้ว เธอรู้สึกว่าตนไม่มีดีสักอย่าง
มารดาที่รักตนเสียชีวิตไปแล้ว มีบิดาที่เลือดเย็นผู้หนึ่ง มีน้องชายยังเล็ก และเธอที่ธรรมดาเช่นนี้ แต่เหตุใดเขาจึงต้องดีกับเธอขนาดนี้!
จริงๆ แล้วเพราะเหตุใดกันแน่!
ซินเอ๋อร์สงสัยในใจ
สำหรับชายหนุ่มตรงหน้าทั้งซาบซึ้ง ชื่นชอบ แต่ขณะเดียวกันรู้สึกสงสัย ไม่สบายใจ และกังวล
เพราะสองคนสถานะแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ไม่เหมาะสมกันทุกประการ เธอเทียบกับเขาได้เช่นไร เขาจึงดีกับตนขนาดนี้!
เธอไม่คู่ควร
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ คิ้วสวยงามนั้นก็ค่อยๆขมวดเป็นปม
แต่ทันใดนั้น เสียงพึมพำกลับดังขึ้นข้างใบหูของเธอ
………………………………………………………………………………….