สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 279 ร่วมเป็นร่วมตาย (รีไรท์)
ห้องที่เคยเรียบง่าย เวลานี้ถูกเปลวไฟดูดกลืนไปอย่างไร้เยื่อใย และเห็นกองเพลิงขนาดใหญ่นี้ลุกโชนไม่หยุด
อุณหภูมิร้อนระอุนั้น ทำให้ผิวหนังคนถูกลวกจนบาดเจ็บ
แต่สิ่งเหล่านี้สำหรับเหลิ่งอวี้เซวียนไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือเมื่อเขาเข้ามาภายในห้อง สิ่งที่เห็นกลับเป็นคานด้านบนถูกไฟไหม้จนใกล้จะพังถล่มลงมา และด้านล่างคือคนตัวเล็กที่เขานึกถึงอยู่ตลอดเวลา
“ซินเอ๋อร์!”
เสียงร้องนั้น ดังกังวานทะลุไปจนถึงหมู่เมฆ
ความสลดใจภายในน้ำเสียง ทำให้คนที่ได้ฟังรวดร้าวทะลุตรงเข้าไปในหัวใจ
ซินเอ๋อร์ที่กำลังจะหมดสติไป จมดิ่งเข้าสู่ความมืดมิด จู่ๆ มีเสียงตะโกนอย่างเสียใจ ทำให้ตกใจตื่นขึ้นมา
ขนตาที่ปิดแน่นสั่นเทิ้ม ก่อนสะลืมสะลือขึ้นมา
เมื่อเธอลืมตา เห็นเพียงบรรยากาศรอบด้านขมุกขมัว ทำให้การมองเห็นของเธอไม่ชัดเจน
สมองของตนคล้ายมึนงง คิดสิ่งใดไม่ออก
แต่เมื่อเธอลืมตาเห็นร่างสูงใหญ่อยู่ไม่ไกล ในใจมีความคิดหนึ่งฉุดดึงเธอขึ้นมา ทำให้เธอพยายามมองไปยังชายหนุ่มผู้นั้น
เพราะการลืมตาครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย
ดังนั้น ซินเอ๋อร์จึงพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายไม่หยุด เพื่อมองไปยังชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผู้นั้น
จนกระทั่งสายตาที่พร่ามัวเริ่มแจ่มชัดขึ้นอย่างช้าๆ และเงาร่างคุ้นตานั้น ปรากฎออกมาต่อสายตาของเธอ
เมื่อเธอเห็นชายหนุ่มคุ้นตานั้นชัดเจน น้ำตาใสกระจ่างอดไหลทะลักลงมาจากดวงตาไม่ได้ ก่อนอาบไปทั่วสองแก้ม
“ฮือ เซวียน ในที่สุดท่านก็มาแล้ว”
ซินเอ๋อร์เอ่ยเสียงแหบแห้ง แต่กลับยิ้มอย่างสดใสมีความสุขออกมา
รอยยิ้มนั้นดูอ่อนแรง สองแก้มแดงก่ำเพราะเปลวเพลิง แต่ดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำตาคู่นั้น กลับเปล่งประกาย
ทำให้สาวน้อยดูคล้ายดอกไม้เบ่งบานยามต้องแสงอาทิตย์ เปี่ยมด้วยเสน่ห์สุดจะบรรยายได้
ซินเอ๋อร์เวลานี้ อยากกระโจนไปด้านหน้าอย่างไม่สนใจสิ่งใด ก่อนกอดชายหนุ่มตรงหน้านี้ไว้ ระบายความทุกข์ในใจทั้งหมดออกมา
แต่เวลานี้ เรี่ยวแรงทั้งหมดบนกายเธอ คล้ายถูกสูบออกไปจนหมดเกลี้ยง กระทั่งแรงขยับปลายนิ้วยังไม่มีเหลือ
…
แต่น้ำตาของเธอ กลับไหลรินอย่างไม่รู้จบ ราวกับน้ำท่วมพังทลายเขื่อนกั้นไหลบ่าลงมาไม่หยุด
แต่ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่ทั้งร้องไห้และยิ้ม ทางด้านเหลิ่งอวี้เซวียนนั้น บนใบหน้าหล่อเหลากลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ก่อนมองคานไม้ด้านบนที่ใกล้จะถล่มลงมา เหลิ่งอวี้เซวียนไม่คิดให้มากความ เรื่องแรกที่ลงมือทำคือเคลื่อนไหวรวดเร็วดุจสายลมกรดพุ่งไปที่ด้านหน้าซินเอ๋อร์ ก่อนยื่นแขนกอดคนตัวเล็กบนพื้นไว้แน่น
ทันทีที่กอดคนตัวเล็กไว้ได้ เหลิ่งอวี้เซวียนรู้สึกว่าหัวใจที่ว่างเปล่าของตนถูกเติมเต็มอีกครั้ง
ความจริงหัวใจของตนถูกเติมเต็มไปด้วยคนตัวเล็กโดยไม่รู้ตัว
ชีวิตที่น่าเบื่อของเขานั้น เพราะมีคนตัวเล็กในอ้อมกอดนี้ จึงน่าสนใจและมีสีสันเพิ่มขึ้น
หากสูญเสียเธอไป เช่นนั้นเขายินยอมที่จะตายร่วมกับเธอ!
“ซินเอ๋อร์”
เมื่อกอดคนตัวเล็กในอ้อมกอดแน่น เหลิ่งอวี้เซวียนอดถอนหายใจไม่ได้
โชคดีที่เธอปลอดภัย
โชคดีที่เธอยังอยู่ในอ้อมกอดเขา
โชคดีที่เขามาถึงทันเวลา
เพียงมีเธออยู่ แม้ตอนนี้เขาต้องตาย ก็ถือว่าคุ้มค่า!
เหลิ่งอวี้เซวียนอุทานในใจ
ซินเอ๋อร์ที่ถูกเหลิ่งอวี้เซวียนกอดจนแน่น จะไม่ซาบซึ้งชื่นชมในใจได้เช่นไร!
เดิมทีคิดว่าตนใกล้จะตายแล้ว และไม่ได้พบหน้าชายผู้นี้อีกต่อไป คิดไม่ถึงเขายังมาถึง
“เซวียน ฮ่า ๆ”
ดียิ่งนัก
ซินเอ๋อร์คิดในใจ พลันเงยหน้าจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม ใช้ดวงตาเปื้อนด้วยน้ำตาจับจ้องที่ใบหน้าของชายหนุ่ม
มือเล็กไร้เรี่ยวแรงนั้น ก็ค่อยๆ ประกบลงบนใบหน้าชายหนุ่ม
แต่ทันใดนั้น มีเสียง ‘ปัง’ พลันดังขึ้นมาจากเหนือศีรษะของพวกเขา คานไม้ไฟลุกท่วมนั้นในที่สุดต้านทานไม่ไหว หล่นลงมาจากด้านบน
“เซวียน!”
เมื่อเห็นคานไม้หล่นลงมา ซินเอ๋อร์ดวงตาเบิกกว้าง พร้อมตกใจจนหัวใจแทบกระดอนออกมา
แต่อาจเพราะตื่นเต้นเกินไป ต่อมาซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงด้านหน้ามืดมิด ร่างกายพลันดำดิ่งอยู่ในความมืด
…
เมื่อทอดสายตาออกไป รอบด้านมืดมิดอย่างไร้ที่สิ้นสุด ยื่นมืออกไปมองไม่เห็นนิ้วมือ
ความมืดนั้น คล้ายถ้ำไร้ก้นบึ้งแห่งหนึ่ง ทำให้คนหวาดกลัว หายใจไม่ออก
ซินเอ๋อร์เวลานี้อยู่ในสถานที่อันมืดมิดนั้นเพียงคนเดียว เมื่อมองไปด้านหน้าในใจจึงหวาดกลัวอย่างที่สุด
ที่นี่คือที่ใด!
เหตุใดมืดมิดเช่นนี้!
หรือเธอตายแล้ว!
ที่แท้เมื่อตายไปแล้วก็เป็นเช่นนี้ โดดเดี่ยว มืดมน และหนาวเหน็บ
แต่เซวียนเล่า!
เขาอยู่ที่ใด!
ซินเอ๋อร์ร้อนใจ สำหรับเซวียนเธอไม่เคยลืมเลือน
เวลานี้เธออยากร้องตะโกนออกไป แต่ลำคอของเธอกลับคล้ายมีบางสิ่งปิดกั้นอยู่ ไม่ว่าเธอจะออกแรงร้องตะโกนเช่นไร กลับไม่มีเสียงดังออกมา
สวรรค์!
เธอกลายเป็นใบ้แล้วหรือ!
เหตุใดเธอจึงพูดออกไปโดยไม่มีเสียง!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์หวาดกลัว วิตกกังวล
แต่ทันใดนั้น ด้านหน้าไม่ไกลจากเธอ กลับค่อยๆ ปรากฎแสงเล็กๆ ขึ้นมา
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้นพลันดีใจ รีบเดินไปข้างหน้าตรงไปยังแสงสว่างนั้น
หลังเธอเข้าใกล้แสงสว่างนั้นเรื่อยๆ เงาร่างผอมเพรียวหนึ่งก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าเธออย่างช้าๆ
เห็นเพียงตรงกลางของแสงสว่างนั้น มีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่
แม้ชายผู้นั้นจะหันด้านหลังให้กับแสงสว่าง ทำให้มองท่าทางของเขาได้ไม่ชัดเจน แต่จากเงาร่างของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์ทราบดีว่าคนผู้นั้นคือเซวียน!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์พลันดีใจ ทันใดนั้นพุ่งไปด้านหน้าอย่างสุดกำลัง
แต่ขณะที่เธออยู่ห่างจากชายหนุ่มเพียงสิบก้าว กลับได้ยินชายหนุ่มตะโกนขึ้นอย่างฉับพลัน
“ซินเอ๋อร์ อย่าเข้ามา!”
คำพูดเย็นชาเช่นนี้ของชายหนุ่ม ทำให้ซินเอ๋อร์ที่ได้ยินหวาดหวั่นใจ
และสงสัยในใจ ความไม่สบายใจกระจายขึ้นในใจอย่างรวดเร็ว
“เซวียน เหตุใดจึงไม่ให้ข้าเข้าไป!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยปากขึ้น ก่อนพบว่าเสียงของตนกลับมาแล้ว
แต่เธอเวลานี้กลับไม่รู้สึกดีใจแม้แต่นิดเดียว
เพราะความไม่สบายใจในใจของเธอ ยิ่งผ่านไปยิ่งรุนแรงมากขึ้น
เธอมักรู้สึกว่าเซวียนตรงหน้าแปลกไป
และเขาเวลานี้มีน้ำเสียงที่เย็นชา แต่กลับไร้ตัวตน ราวกับคือความจริงอย่างเลือนลาง
คล้ายอีกสักครู่ เขาจะเลือนหายไป
เลือนหายไป!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงปวดหนึบในใจ คล้ายมีคนใช้มือบีบหัวใจของเธอไว้แน่นอย่างเจ็บปวด
ความเจ็บปวดนั้น ทำให้เธอแทบหายใจไม่ออก
ซินเอ๋อร์กุมหน้าอก ก่อนสายตาไม่ละไปจากชายหนุ่มแม้แต่วินาทีเดียว
และฝีเท้าก็เดินตรงไปที่ชายหนุ่มโดยสัญชาตญาน
ไม่ว่าชายหนุ่มจะห้ามปรามเช่นไร เธอยังตรงปรี่เข้าหาเขา
จนกระทั่งเธอห่างจากชายหนุ่มเพียงสามเก้า และเธอในที่สุดก็มองเห็นเขาได้อย่างชัดเจน
เมื่อเห็นใบหน้านั้นถูกไฟคลอกจนเห็นเลือดเนื้อเลือนลาง ปรากฎขึ้นต่อสายตาซินเอ๋อร์ เธอรู้สึกเพียงถูกฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ ตกตะลึงอยู่ตรงนั้น
ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง ปากเล็กอ้าค้าง บนใบหน้าตกตะลึงและเหลือเชื่ออย่างหนัก
“สวรรค์ เซวียน!”
ซินเอ๋อร์ใจหายวาบ น้ำตานั้นพลันไหลรินลงมา
เพราะชายหนุ่มตรงหน้านี้ ไม่เหลือเค้าเซวียนที่หล่อเหลาโดดเด่นของเธอผู้นั้น
ชายผู้นี้ บนร่างกายหลายแห่งถูกไฟคลอก และใบหน้านั้นเน่าเปื่อยน่าสยดสยองยิ่งนัก!
ทำให้ซินเอ๋อร์ตกใจสุดขีด
อาจเพราะมองออกถึงความหวาดกลัวของซินเอ๋อร์ ชายหนุ่มจึงอดฉีกยิ้มอย่างขมขื่นขึ้นมาไม่ได้
“ซินเอ๋อร์ ข้าน่าหวาดกลัวใช่หรือไม่ เจ้าจึงตกใจเข่นนี้!”
“ไม่ เซวียน ไม่ใช่”
ซินเอ๋อร์แม้จะตกใจในใจ แต่ไม่นานเธอได้สติกลับมา
เพราะไม่ว่าเซวียนของเธอจะเปลี่ยนไปอย่างไร เธอจะไม่ทอดทิ้งเขา
เพียงพวกเธอสามารถอยู่ด้วยกันเพียงพอแล้ว
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ เอ่ยคำพูดในใจส่วนลึกของตนออกมา
“เซวียน ไม่ว่าท่านจะเป็นเช่นไร ท่านคือเซวียนของข้า เพียงพวกเราอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต ข้าไม่สนใจสิ่งใด”
ซินเอ๋อร์เอ่ยปากขึ้น ทันใดนั้นยิ้มมุมปาก ยื่นมือออกพร้อมโผเข้าไปหาชายหนุ่ม คิดกอดเขาไว้แน่น เพื่อให้รับรู้ถึงลมหายใจที่อบอุ่นของชายหนุ่ม
แต่สิ่งใดล้วนไม่มี
เธอโผเข้าหาความว่างเปล่า!
สวรรค์!
ซินเอ๋อร์อดหายใจวาบอีกครั้งไม่ได้
ตกตะลึงในใจอย่างหนัก
เพราะเมื่อครู่เซวียนอยู่ตรงหน้าเธอชัดๆ มิใช่หรือ!
เหตุใด เหตุใดเธอถึงกอดความว่างเปล่า!
และเมื่อครู่เธอคล้ายทะลุผ่านร่างกายของเซวียนไป
พอคิดถึงตรงนี้ ความเย็นเฉียบทะลักจากปลายเท้าของซินเอ๋อร์ขึ้นสู่เหนือศีรษะ
ความหวาดกลัวไม่สบายใจ กระจายไปทั่วหัวใจของเธออย่างรวดเร็ว
หรือเซวียนเขา…
ไม่ เป็นไปไม่ได้!
ขณะซินเอ๋อร์หวาดหวั่นในใจ ทันใดนั้นหันกลับไปราวกับเครื่องจักร ก่อนใช้สายตาแฝงความเหลือเชื่อจ้องมองไปยังชายหนุ่มทางด้านหลัง
เห็นเพียงชายหนุ่มที่ร่างกายเน่าเปื่อย ก็ค่อยๆ หันกลับมา
ครั้งนี้แสงสว่างสีขาวนั้น สาดลงบนร่างกายและใบหน้าของชายหนุ่ม
ชายหนุ่มที่ร่างกายเน่าเปื่อย จึงกลับมาหล่อเหลาทรงเสน่ห์ดังเดิม
แต่กลับทำให้ซินเอ๋อร์ยิ่งหวาดกลัว
เพราะร่างกายของชายหนุ่ม ค่อยๆ เลือนหาย โปร่งแสงไปท่ามกลางสายตาของเธอ
“ไม่ เซวียน เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ไม่!”
ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่ร้องไห้อย่างหนัก ชายหนุ่มเพียงยิ้มมุมปาก สายตาที่มองซินเอ๋อร์เต็มไปด้วยความรักและอาลัยอาวรณ์
ก่อนเผยอริมฝีปากแดงเอ่ยปากขึ้น
“ซินเอ๋อร์ ข้าต้องไปแล้ว เจ้าต้องดูแลตนเองให้ดี”
ชายหนุ่มเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงอาลัยอาวรณ์และรักอย่างสุดที่จะบรรยายได้
และเสียงของเขายิ่งเลือนหายไปเรื่อยๆ
เมื่อได้ยินใจของซินเอ๋อร์ถูกแทนที่ไปด้วยความหวาดกลัว
สองมือยื่นออกไปด้านหน้าอย่างไม่ยอมแพ้ เพื่อจับมือชายหนุ่ม ไม่ให้เขาจากไป
แต่ไร้ประโยชน์ ทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์
เพราะเธอไม่อาจสัมผัสถึงเขา เพียงมองชายหนุ่มตรงหน้านี้ ค่อยๆ เลือนลาง สุดท้ายหายวับไปจากสายตา
“ไม่!”
ซินเอ๋อร์กรีดร้องอย่างน่าสงสารออกมา ทำให้คนที่ได้ยินปวดใจ
และทันใดนั้น ซินเอ๋อร์ก็ตื่นจากความมืดมิดนั้นขึ้นมา
ด้านข้างพลันมีเสียงคุ้นหูแฝงไปด้วยความดีใจดังขึ้น
“ซินเอ๋อร์ ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นแล้ว ขอบคุณสวรรค์ อมิตาพุทธ!”
เสี่ยวหวนที่เฝ้าอยู่ข้างเตียงตลอดเวลา หลังเห็นคนที่หมดสติอยู่บนเตียงพลันตื่นขึ้นมา ดีใจอย่างบ้าคลั่งทันที
ใจที่หวาดหวั่นก็สงบลงในที่สุด
แต่ซินเอ๋อร์คล้ายไม่ได้ยินคำพูดของเสี่ยวหวน
ขณะร้องไห้ตกใจจนฟื้นขึ้นมา เธอพลันลุกขึ้นนั่ง
ก่อนรู้สึกเพียงภาพด้านหน้าพร่ามัว จึงยื่นมืออกไปสัมผัส แต่กลับสัมผัสถูกน้ำตา
ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองไปรอบด้าน จึงพบว่าห้องนี้เป็นห้องที่แปลกตาและไม่คุ้นเคย น่าจะเป็นห้องพักห้องอื่นในวังเหลิ่ง
แต่เหตุใดเธอจึงมาอยู่ที่นี่!
เธอไม่ได้ตาย!
ซินเอ๋อร์ตกใจในใจ ทันใดนั้นหันไปมองทิวทัศน์ด้านนอกหน้าต่างอีกครั้ง
เห็นเพียงเวลานี้ด้านนอกดวงอาทิตย์เจิดจรัส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง และสายลมพัดเอื่อย
ข้างกายมีเสี่ยวหวนที่คุ้นเคย
แต่นอกจากเสี่ยวหวน กลับไม่มีผู้ใดอีก
เซวียนเล่า!
เขาอยู่ที่ใด!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ตกใจ ก่อนพลันกระโดดลงจากเตียงทันที
แต่เมื่อสองเท้าสัมผัสพื้น กลับรู้สึกเพียงกระแสความเย็นคืบคลานจากปลายเท้าขึ้นสู่เหนือศีรษะ
และเรี่ยวแรงของเธอก็คล้ายพลันหมดลง
ดังนั้น เมื่อซินเอ๋อร์เหยียบลงบนพื้น ร่างกายอ่อนระทวยลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
โชคดีเสี่ยวหวนด้านข้างมือไม้ว่องไว ขณะที่ซินเอ๋อร์ล้มลงบนพื้นจึงยื่นมือประคองเธอเอาไว้
“ซินเอ๋อร์ เจ้าเพิ่งฟื้นขึ้นมา จะไปที่ใดกัน!”
เมื่อเห็นท่าทางร้อนใจของซินเอ๋อร์ เสี่ยวหวนขมวดคิ้วเอ่ยถามอย่างกังวล
เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวหวน ซินเอ๋อร์พลันยื่นมือออกไป ราวกับไขว่คว้าขอนไม้ในน้ำ กุมมือเสี่ยวหวนไว้แน่น ก่อนเอ่ยถามอย่างร้อนใจ
“เซวียนเล่า เขาอยู่ที่ใด ตอนนี้เขาเป็นเช่นไร เขาบาดเจ็บหรือไม่ หรือว่า…!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยถามไม่หยุด ด้วยสีหน้าร้อนใจและกังวล
หลังเสี่ยวหวนได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ ใบหน้าเล็กที่กังวลพลันเปลี่ยนไปเสียใจขึ้นมา พูดจาอ้ำอึ้ง
“คือว่า นายท่าน เขา…”
เมื่อเห็นท่าทางหมายจะพูดบางอย่างของเสี่ยวหวน ใจของซินเอ๋อร์ยิ่งร้อนรน
ก่อนนึกถึงความฝันเมื่อครู่นั้นอีกครั้ง หรือ…
เพียงนึกถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์อยากร้องไห้ ปวดใจ ก่อนรู้สึกเพียงร่างกายคล้ายหมดแรง
ทว่าเธอยังจับมือเสี่ยวหวนไว้แน่น ก่อนร้องไห้อย่างหนัก
“พาข้าไป พาข้าไปหาเซวียน ได้โปรดเสี่ยวหวน ขอร้องเจ้าละ”
ซินเอ๋อร์ก้มหน้าร้องไห้ น้ำตาไหลบ่ามองเสี่ยวหวน พร้อมอ้อนวอน
ท่าทางร้องห่มร้องไห้เสียใจนั้น ทำให้คนที่เห็นน้ำตาตก
เสี่ยวหวนเห็นเข้าจึงอดร้องไห้ตามไม่ได้
เพราะเธอทนเห็นซินเอ๋อร์ร้องไห้ไม่ได้ และนึกถึงสถานการณ์ในตอนนี้ สวรรค์ นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้น เหตุใดสวรรค์จึงทรมานซินเอ๋อร์และนายท่านเช่นนี้!
เสี่ยวหวนคิดเสียใจในใจ ทว่าเธอยังประคองซินเอ๋อร์ขึ้นจากพื้นอย่างระมัดระวัง ก่อนเอ่ยขึ้น
“ได้ ตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปหานายท่าน”
“ขอบคุณ เสี่ยวหวน”
ซินเอ๋อร์ร้องไห้มองเสี่ยวหวน ก่อนเอ่ยอย่างจริงใจ
และแน่วแน่ในใจว่าแม้เซวียนจะตายไปแล้วจริงๆ เธอจะร่วมตายไปกับเขา
เซวียน ข้ามาแล้ว
…………………………………………………………………………………..