สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 289 อ้าวเทียนฉีปรากฎตัว (รีไรท์)
ซินเอ๋อร์สงสัยในใจ ขณะที่ยังคิดไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ใด
หลังได้ยินเสียงลมหายใจแปลกประหลาดนี้ รู้สึกแปลกใจอย่างมาก จึงเกิดความคิดหมุนกายจากไป
แต่ขณะหมุนตัวซินเอ๋อร์ไม่ระวังเหยียบบางสิ่งเข้า และได้ยินเพียงเสียง ‘แกร่ก’ ดังขึ้น
อาจเพราะได้ยินความเคลื่อนไหวจากทางนี้ การเคลื่อนไหวในพุ่มไม้ด้านหน้าจึงสงบลงทันที
ทันใดนั้น เสียงแหบพร่าพลันดังขึ้น
“ผู้ใดอยู่ตรงนั้น”
เมื่อได้ยินเสียงไม่คุ้นหูแฝงความไม่พอใจ ซินเอ๋อร์คล้ายรู้สึกถึงอันตรายกำลังคืบคลานเข้าหาตน
ซินเอ๋อร์ตกใจจนอดถอยหลังไปไม่ได้ ก่อนคิดหมุนตัวจากไป
รอบกายเธอ นอกจากหลังพุ่มไม้สวยงามนี้ ยังมีต้นไม้ใหญ่เขียวขจีโอบล้อมอยู่หลายต้น
เธอจึงไม่รู้เวลานี้ตนควรหลบซ่อนที่ใด
พอคิดถึงตรงนี้ ใจของซินเอ๋อร์เต้นระรัว
ขณะที่เธอสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จู่ๆ มือใหญ่พลันปิดที่ปากเล็กของเธอ เธอยังไม่ทันได้สติ รู้สึกเพียงแน่นที่เอว ทันใดนั้นร่างกายถูกพลังมหาศาลดึงขึ้นไป
“เอ่อ…”
เมื่อปลายเท้าว่างเปล่ายามเหยียบลงบนกิ่งไม้ ซินเอ๋อร์จึงได้สติกลับมา ก่อนพบว่าตนกลับกระโดดจากด้านล่างขึ้นมาอยู่กิ่งไม้ด้านบนแล้ว
นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้นแน่
และคนที่ปิดปากเล็ก โอบรัดเอวเล็กของเธอนั้น คือผู้ใด
ซินเอ๋อร์ทั้งสงสัยและไม่สบายใจ ดังนั้นจึงดิ้นไม่หยุด
เพราะนอกจากเซวียน เธอไม่ชอบให้ชายอื่นสัมผัส
เธอคิดว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่งตัดสินใจปิดปากเธอ และพาเธอกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ นั่นเป็นเพราะซินเอ๋อร์ได้กลิ่นอำพันทะเลที่กระจายออกมาจากบนกายของอีกฝ่าย
เพราะไม่รู้อีกผ่ายคือผู้ใด และไม่รู้เขาคิดทำสิ่งใด ดังนั้นซินเอ๋อร์จึงหวาดหวั่นใจ
แต่ในเวลานี้เสียงไพเราะที่คุ้นเคยพลันดังขึ้นชิดใบหูเธอ
“อย่าขยับส่งเดช ระวังถูกคนด้านล่างพบเข้า”
“เอ่อ”
หลังได้ยินคำพูดของชายหนุ่มด้านหลัง ซินเอ๋อร์เงียบเสียงลงทันที
เพราะกลัวคนใต้ล่างพบเห็นพวกเขา และเสียงด้านหลังนี้ยังคุ้นหูเช่นนี้
แม้จะไม่หันกลับไปมอง ซินเอ๋อร์ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคือผู้ใด
ในใจพลันตกใจ ความจริงเธอคิดว่าเธอและชายหนุ่มผู้นี้คงไม่มีทางได้พบกันอีก คิดไม่ถึงวันนี้จะพบหน้ากันในวังหลวง
ขณะซินเอ๋อร์ตกใจ ดวงตาคู่งามอดเหลือบมองไม่ได้ และเมื่อเห็นภาพด้านล่าง ร่างกายพลันคล้ายถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ตะลึงอยู่ตรงนั้น
เมื่อครู่เพราะมีพุ่มไม้เขียวชอุ่มนั้นบดบังไว้ จึงทำให้เธอได้ยินเพียงเสียง แต่ไม่เห็นถึงรูปลักษณ์
ตอนนี้เธอยืนอยู่บนกิ่งไม้สูง เมื่อยืนอยู่ที่สูงจะสามารถมองออกไปได้ไกล ดังนั้นภาพชายหญิงที่พัวพันกันอยู่ด้านล่างนั้น จึงเปิดเผยอยู่ในสายตาของซินเอ๋อร์จนหมด
ความจริงเหตุการณ์ด้านล่างนั้น ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซินเอ๋อร์ได้เห็น
สิ่งที่แตกต่างไปคือ ครั้งแรกที่เธอเห็นภาพเหล่านี้ คือขณะอยู่กับเซวียน
และเป็นตอนกลางคืนที่ท้องฟ้ามืดมิด รอบด้านมืดสนิท มองเห็นไม่แจ่มชัด
แต่ตอนนี้ กลับแตกต่างออกไป
เห็นเพียงเวลานี้เป็นช่วงใกล้เที่ยงวัน
พระอาทิตย์ลอยเด่นกลางท้องท้องฟ้า สาดส่องแสงอาทิตย์ที่เจิดจรัสสวยงามนั้นลงมาทั่วพื้นดิน
บนผืนหญ้าเชียวชอุ่มนั้น มีพุ่มไม้บดบังอยู่รอบด้าน
และกลางพุ่มไม้กลับมีชายหญิงคู่หนึ่งนอนอยู่
เห็นเพียงชายหญิงคู่หนึ่ง เวลานี้ถอดกางเกงออก ท่อนบนยังคงสวมใส่เสื้อผ้า
เมื่อเห็นเครื่องแต่งกายของพวกเขา รู้ว่าคือเขาองครักษ์และนางกำนัลในวังหลวง
กลางวันแสกๆ และในวังหลวงที่มีการคุ้มกันแน่นหนาเช่นนี้ พวกเขาช่างมีความกล้าหาญเกินไปจริงๆ!
ซินเอ๋อร์ตกใจและเขินอายอย่างมากไปพร้อมกัน
แม้เธอยังจะบริสุทธิ์ แต่สำหรับเรื่องระหว่างชายหญิง ก็รู้มาไม่น้อย
ดังนั้น เมื่อเธอเห็นการเคลื่อนไหวของชายหญิงด้านล่าง รู้ทันทีว่าเมื่อครู่พวกเขากำลังทำสิ่งใด
มิน่าเมื่อครู่เธอยังคิดว่าเหตุใดเสียงหายใจติดขัดนั้นคุ้นหูเช่นนี้ ที่แท้คือ…
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ ชายหนุ่มด้านล่างหลังสวมกางเกงเสร็จเดินออกมา ถือดาบขึ้นมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง หลังพบว่าไร้ผู้คน จึงโล่งอก และกลับไปที่ข้างกายหญิงสาว
หญิงสาวเห็นเช่นนั้น เพียงหอบหายใจหัวเราะอยู่บนผืนหญ้า
“พี่จิ้งท่านช่างกล้าหาญนัก วันนี้คือวันประสูติของฮ่องเต้ ทุกคนต่างไปที่ตำหนักหลงเฟย จะมีผู้ใดหลบมาที่นี่”
“ฮ่า ๆ น้องสาว ระวังตัวให้ดีถึงจะกุมเรือหมื่นปีไว้ได้ ข้ามิใช่กังวลในตัวเจ้าหรอกหรือ”
ชายหนุ่มเอ่ยจบ พลันถอดกางเกงที่เพิ่งสวมเมื่อครู่ลงทันที
ทันใดนั้น ชายหนุ่มกระโจนเข้าใส่หญิงสาว
ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเสียงหัวเราะออดอ้อนของหญิงสาว
“พี่จิ้ง ท่านร้ายกาจยิ่งนัก”
“ฮ่า ๆ บุรุษไม่เลวทราม สตรีไม่หลงรัก…”
หลังสิ้นคำพูดของสองคนด้านล่าง ตามมาด้วยเสียงเสื้อผ้าเสียดสีกัน และยังมีเสียงครวญครางของหญิงสาวและเสียงหายใจติดขัดของชายหนุ่ม ที่ทำให้ผู้คนหน้าแดงใจเต้นแรง
เมื่อเห็นภาพนี้ ซินเอ๋อร์ปิดตาแน่น และไม่กล้ามองภาพที่น่าอายด้านล่างนั้นอีก
หากเป็นไปได้ เธออยากหนีจากที่นี่ไปให้ไกลจริงๆ
แต่เธอเวลานี้ถูกมือใหญ่รัดเอวไว้แน่น ปากเล็กก็ถูกมือใหญ่อีกข้างปิดอยู่
ผู้ใดให้เธออยากร้องก็ร้องไม่ได้ อยากหนีก็หนีไม่ได้กัน
และทำได้พียงปิดตาลงแน่น สองมือพลันยกขึ้นปิดหู เพราะไม่ต้องการฟังเสียงน่าอายนี้
ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่เขินอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี ชายหนุ่มด้านหลังเธอกลับมีสีหน้าเรียบเฉย
ดวงตาหงส์คู่งามนั้นเพียงเหลือบมองชายหญิงคู่หนึ่งที่พัวพันกันอยู่ด้านล่าง ก่อนดึงสายตาตนกลับมาอย่างไร้ความรู้สึก
เพราะเรื่องประเภทนี้ เขาเห็นมามากมาย
ไม่ว่าส่วนใดของวังหลวง ต่างมีชายหญิงแอบพลอดรักกันไม่น้อย
นี่ไม่แปลกแม้แต่นิดเดียว
ตามกฎของวังหลวง เหล่านางกำนัลพวกนั้นเมื่ออายุครบยี่สิบสี่ปี จะถูกปลดออกจากวัง
ไม่ว่าชายหรือหญิงต่างมีความปรารถนาเช่นปุถุชนทั่วไป แม้ในวังหลวงที่มีกฎระเบียบเข้มงวด กลับมีคนหลบเลี่ยงกระทำผิด ลับหลังทุกคน ทำเรื่องผิดประเวณีเช่นนี้
สำหรับเรื่องนี้ ถือว่าพบเห็นได้มากมาย จึงไม่มีความรู้สึก
ตอนนี้สิ่งที่ทำให้เขาสนใจที่สุดคือ สาวหญิงตรงหน้านี้
ได้พบหญิงสาวผู้นี้ในวังหลวงที่กว้างขวางของเทียนหยวน สำหรับอ้าวเทียนฉีเป็นเรื่องเหลือเชื่อ
ครั้งนี้ เขาเป็นตัวแทนของแคว้นฉีมาที่แคว้นเทียนหยวน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเท่านั้น
เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องพวกนี้
โดยเฉพาะเขาเกลียดชังที่จะทักทายกับพวกคนหน้าซื่อใจคดเหล่านั้น ดังนั้นจึงออกมาเดินเล่นในสถานที่ไร้ผู้คนแห่งนี้คนเดียว วางแผนว่าหลังฮ่องเต้เทียนหยวนเสด็จออกมาจะกลับไป
คิดไม่ถึงเมื่อครู่หลังมาถึงที่นี่ จะพบกับหญิงสาวผู้นี้อย่างคิดไม่ถึง
เมื่อเห็นหญิงสาวผู้นี้ อ้าวเทียนฉีตกใจ ตกตะลึง ที่มากที่สุดกลับคือดีใจและแปลกใจ
เห็นเพียงกลางสวนที่มีดอกไม้นานาพันธุ์เบ่งบาน หญิงสาวผู้นี้ราวกับเทพธิดาบุปผาที่หลงทางลงมาบนโลกมนุษย์
บริสุทธิ์ และสวยงามเช่นนี้
ชุดฝ่ายในสีขาวนั้น คล้ายสวรรค์รังสรรค์ออกมาเพื่อเธอ เพราะเผยร่างกายเล็กกะทัดรัดของเธอออกมาจนหมด
เส้นผมดุจเส้นไหมของเธอนั้น ไม่ได้รวบขึ้นถักเปียไว้สองข้างอย่างเรียบง่ายเช่นครั้งก่อน
แต่เป็นผมที่ถูกมวยขึ้นอย่างประณีตงดงาม ทำให้เธอมีเสน่ห์เช่นสตรีเพิ่มขึ้นหลายส่วน
ใบหน้าเล็กดุจหยกขาวขนาดเท่าฝ่ามือนั้น ประทินโฉมลงเพื่อเพิ่มสีสัน
เวลานี้แสงอาทิตย์อบอุ่น และสายลมเย็นสบาย พัดผ่านกายของหญิงสาว ทำให้เสื้อผ้าของเธอพริ้วไหว เส้นผมปลิวไสว
รูปโฉมโดดเด่นไม่ธรรมดา งดงามสะดุดตา ทำให้คนละสายตาไม่ได้
ขณะเขาตกใจ ก็รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของหญิงสาวด้านหน้า
คนมีวรยุทธ์จะหูดีกว่าปกติ ดังนั้นเขาจึงทราบดีว่าด้านหน้าจะเกิดสิ่งใดขึ้น
เมื่อเห็นท่าทางวิตกกังวลของหญิงสาว และการเคลื่อนไหวที่พุ่มไม้ด้านหน้า ชายหนุ่มจึงโอบเอวเล็กของหญิงสาวขึ้น และยังใช้มือปิดปากของเธอไว้ กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้
ต้นไม้ใหญ่นี้ ใบไม้เขียวชอุ่ม สามารถใช้เป็นที่ซ่อนตัวได้เป็นอย่างดี
ความจริงด้วยสถานะเขา ควรหลบซ่อน ไม่ควรปรากฎตัวขึ้น
แต่เขาทราบดีว่านี้คือโอกาสที่หาได้ยาก สามารถหาเหตุผลที่เหมาะสมโอบกอดเธอได้
ในที่สุดเขาได้กอดเธออีกครั้ง
สวรรค์รู้ดีว่านี่คือหญิงคนแรกที่เขาปรารถนา หลังใช้ชีวิตมากว่าสิบเจ็ดปี
ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเธอ ขณะเธอกำลังร่ายรำอย่างอ่อนช้อยบนเวที เย้ายวนดุจปีศาจน้อยกำลังล่อลวงผู้คน
ขณะนั้นเงาร่างของเธอ ซึมลึกลงไปในหัวใจของเขา
เวลานั้น แม้เขาจะตกใจ แต่กลับเพียงสนใจเท่านั้น
และด้านล่างเวที เขาประคองเธอไว้อย่างไม่คาดคิด เวลานั้นดวงตากระจ่างใสคู่นั้น กลับดึงดูดสายตาเขาเอาไว้
เพราะวังหลวงเต็มไปด้วยอุบาย ส่วนใหญ่ต้องต่อสู้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เรื่องราวต่อหน้าลับหลังไม่เหมือนกัน
ใบหน้าจอมปลอมของคนพวกนั้น แม้จะปกปิดเป็นอย่างดี แต่กลับดูได้จากแววตา ทำให้คนเห็นหงุดหงิดใจ
แต่ดวงตาของหญิงสาวนี้กระจ่างใส บริสุทธิ์ ดุจธารน้ำใสสะอาด งดงามอ่อนละมุนอย่างไม่น่าเชื่อ
นี่คือสิ่งที่เขาเห็นถึงความสวยงามบริสุทธิ์ที่สุด ตั้งแต่เกิดมาครบสิบเจ็ดปี
และดวงตาคู่นี้ ทุกครั้งดึกสงัด มักจะพลันปรากฎขึ้นในสมองของเขา
ไม่ว่าขณะนั้น เขาจะสับสนวุ่นวาย หรือกังวลจนลืมตัว ดวงตางดงามกระจ่างใสคู่นั้น มักทำให้เขาไม่ลืมเลือน
จากนั้นเขาถูกองค์ชายใหญ่ลอบทำร้าย ต้องหลบหนีมือสังหาร เดิมทีคิดว่าตนต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
คิดไม่ถึง จะพบเธออีกครั้ง
เมื่อเพียงนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเจอเธอมาครั้งที่แล้ว
ภายในห้องมีควันลอยกรุ่น ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ทำให้ทั่วห้องละมุนขึ้นหลายส่วน
หญิงสาวงดงาม สวมเสื้อผ้าขนาดพอดีตัว เปิดเผยรูปร่างเล็กสมส่วน และผิวขาวผ่องดุจหิมะของเธอออกมา
จนกระทั่งวันนี้ เพียงเขานึกถึงภาพนั้นขึ้นมา มักทำให้จิตใจฟุ้งซ่าน
และนี่คือครั้งแรกที่เขาต้องการหญิงสาวคนหนึ่ง หลังใช้ชีวิตมากว่าสิบเจ็ดปี
น่าเสียดาย เวลานั้นเขามีอันตรายรอบด้าน เพื่อตั้งใจจัดการคนที่ข่มขู่รังแกตนพวกนั้น จึงเพียงกดความหวั่นไหวลงไปในส่วนลึกของหัวใจ
คิดไม่ถึง ครั้งนี้หญิงสาวผู้นี้ จู่ๆ ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าเขา ดังเช่นที่พวกเขาพบกันครั้งแรก
…………………………………………………………………………………..