สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 291 อ้าวเทียนฉีตายไปแล้ว (รีไรท์)
ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่โมโหอย่างหนัก ชายหนุ่มกลับยื่นมือแสร้งทำเป็นปิดปากหาว ก่อนคล้ายจะง่วงงุน
ดวงตาหงส์กวาดมองไปชั่วขณะ เพื่อประเมินสภาพแวดล้อมรอบๆ
เมื่อรู้สึกถึงผืนหญ้านุ่มใต้ฝ่าเท้าตน ก็ไม่รีรอรวบชายเสื้อขึ้น ก่อนนอนลงบนผืนหญ้า
และสายตาของเขา กลับมองที่ซินเอ๋อร์บนต้นไม้อย่างไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว
คล้ายมองว่าซินเอ๋อร์จะลงมาเช่นไร
ตรงข้ามกับอ้าวเทียนฉีที่ผ่อนคลายสบายใจ ท่าทางเกียจคร้าน ซินเอ๋อร์บนต้นไม้กลับทั้งโมโหและร้อนใจ
เพราะเธอปีนต้นไม้ไม่ได้ ความสูงขนาดนี้เธอไม่รู้ควรลงไปอย่างไร
และเพียงนึกถึงว่าตนออกมานานเช่นนี้ ไม่รู้เซวียนจะตามหาเธออย่างร้อนใจหรือไม่
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์อดรอชายหนุ่มที่นอนแผ่หลาอยู่บนผืนหญ้าอย่างโมโหไม่ได้
เห็นเพียงเวลานี้เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว
แสงอาทิตย์สดใสสาดส่องประกายสวยงามแสบตาลงมาบนพื้นดินตลอดเวลา
สายลมพัดโชยมาจนหมู่บุปผานานาพันธุ์โอนเอนไม่หยุด คล้ายเซียนที่แต่งกายสวยงามกำลังร่ายรำ
ทิวทัศน์รอบด้าน สวยงามดังในภาพวาดบทกวี แต่ชายหนุ่มที่นอนปิดตาลงพักผ่อนอย่างเกียจคร้านอยู่ตรงนั้น พลันทำให้ ทิวทัศน์รอบด้านมืดมนลง
หลังนึกถึงคำแทนตนของชายหนุ่มเมื่อครู่ ซินเอ๋อร์อดแปลกใจกับสถานะของเขา ดังนั้น จึงอดมองชายหนุ่มมากกว่าปกติ ไม่ได้
เมื่อเห็นเวลานี้ชายหนุ่มปิดตาลง คล้ายกำลังหลับสนิท ซินเอ๋อร์มองอย่างร้อนใจ
สายตาแฝงความร้อนใจนั้น มองไปยังชายหนุ่มด้านล่างอย่างไม่ละสายตา
แต่ทันใดนั้นไม่รู้ผีเสื้อสวยงามตัวหนึ่งบินมาจากที่ใด กำลังกระพือปีกบินอย่างช้าๆ สุดท้ายกลับเกาะลงบนหน้าผาก ของชายหนุ่ม
ผีเสื้อตัวนั้นมีสีขาวแกมน้ำเงิน สวยงามอย่างยิ่ง
เวลานี้ผีเสื้อเกาะอยู่บนระหว่างคิ้วของชายหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มที่หล่อเหลา ดูสูงส่งและน่าเกรงขามขึ้นหลายส่วน
ซินเอ๋อร์มองอย่างตกตะลึง รู้สึกเพียงชายหนุ่มผู้นี้รูปโฉมหล่อเหลายิ่งนัก!
ทว่าซินเอ๋อร์เพียงตกใจความหล่อเหลาของชายหนุ่ม ไม่ได้ลุ่มหลงแม้แต่นิดเดียว
เพราะในใจของเธอ เซวียนคือคนที่หล่อเหลาที่สุดบนโลกใบนี้
แต่ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ ทันใดนั้นชายหนุ่มที่เห็นหลับสนิท ดวงตาปิดแน่น กลับพลันลืมตาขึ้นมา
สายตานั้น เพียงลืมขึ้นมาก็สบเข้ากับดวงตาของซินเอ๋อร์พอดี
ทั้งสองจึงสบตากัน ก่อนดวงตาหงส์ของชายหนุ่มจะเปล่งประกายชั่วขณะ พร้อมยิ้มมุมปาก
ภายในดวงตาหงส์แคบยาวสวยงามนั้น เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความเอ็นดูโดยที่กระทั่งเขาไม่รู้ตัว
ก่อนจะเผยอริมฝีปากขึ้นเอ่ยกับสาวน้อยว่า
“ข้าหล่อเหลาใช่หรือไม่!”
แม้จะเป็นประโยคคำถาม แต่ชายหนุ่มกลับเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ
หากคำพูดนี้ออกมาจากปากของผู้อื่น ต้องทำให้คนรังเกียจและจนใจแน่นอน จนกระทั่งเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่าคนผู้นี น่าไม่อาย หลงตนเองเกินไป
แต่ชายหนุ่มผู้นี้ มีความหลงตัวเองและฐานะร่ำรวยอย่างชัดเจน
สวมชุดหรูหรา สูงส่งน่าเกรงขาม เส้นผมดำลื่นดุจม่านน้ำตก บุคลิกงามสง่า ใบหน้าหล่อเหลา ระหว่างคิ้วแฝงไปด้วยความ ดื้อรั้น ทำให้เขาคล้ายม้าชั้นดีจอมพยศตัวหนึ่ง
หลังได้ยินคำของชายหนุ่ม ใบหน้าจิ้มลิ้มของซินเอ๋อร์เพียงตะลึงงันเล็กน้อย ทันใดนั้นพยักหน้าเอ่ยขึ้นทันทีว่า
“อืม หล่อเหลาทีเดียว!”
“เอ่อ” หลังได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ ครั้งนี้กลับเป็นอ้าวเทียนฉีที่ตกตะลึง
ความจริงเขาย่อมรู้จักรูปร่างของตนเป็นอย่างดี
รวมทั้งสถานะของเขา ปกติส่วนใหญ่คือคนที่คิดประจบเขา จะสรรเสิญเยินยอ เอาใจเขาไม่หยุด
คำชมเขาฟังมามากมาย จนรู้สึกเบื่อหน่าย
แต่เวลานี้หลังได้ยินคำพูดของสาวน้อย ใจของอ้าวเทียนฉียังอดภูมิใจและดีใจไม่ได้
ร่างกายคล้ายลอยละล่องอยู่บนเมฆอย่างเบาหวิว
และเห็นสายตาดำขลับแวววาวของสาวน้อย ภายในตรงไปตรงมา ใสซื่อบริสุทธิ์ ไร้การเสแสร้ง ทำให้คนมองเกิดความชื่นชอบ
และนี่คือความคิดในใจของเขา!
เขารู้ดีว่าตนหล่อเหลา ฮา…
อ้าวเทียนฉีมีความสุขในใจ กระทั่งสีหน้าปรากฎความสุขขึ้นมาหลายส่วน
จู่ๆ อ้าวเทียนฉีก็ลุกยืนขึ้นจากผืนหญ้า ก่อนยื่นมือตบเศษหญ้าบนกายตน จากนั้นเขย่งปลายเท้าขึ้น ก่อนร่างกายเ เขาพลันเหมือนนกนางแอ่นบินทะยานขึ้นสู่บนต้นไม้
“ฮ่า…”
เมื่อรับรู้ว่าข้างกายมีคนเพิ่มขึ้นมา กิ่งไม้นี้แม้จะไม่เปราะบาง แต่หลังรับน้ำหนักของคนสองคน ยังอดสั่นไหว ชั่วขณะไม่ได้
เมื่อรู้สึกว่ากิ่งไม้โอนเอน ซินเอ๋อร์ตกใจอย่างหนัก เพราะกลัวตนจะตกลงไป
ดังนั้น ซินเอ๋อร์จึงกระโจนกอดสิ่งที่อยู่ด้านข้างทันที
โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ความจริงสิ่งที่เธอกอดอยู่นั้น คือคน
สำหรับการโอบกอดของซินเอ๋อร์ เห็นชัดว่าทำให้อ้าวเทียนฉีพอใจอย่างมาก
หลังเห็นสีหน้าหวาดกลัวและกังวลของซินเอ๋อร์ ปลายเท้าออกแรงโดยทันที เพื่อทำให้กิ่งไม้สั่นไหวไม่หยุด
ดุจเรือเล็กกลางมหาสมุทรที่เจอมรสุม จนถูกพัดโคลงเคลงอย่างอันตราย
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์หวาดหวั่น สองมือกอดสิ่งข้างกายไว้แน่นทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ตนตกลงไป
ดังนั้นจึงไม่รับรู้ถึงรอยยิ้มภูมิใจตรงมุมปากของชายหนุ่ม คล้ายจิ้งจอกเพิ่งแอบกินไก่ของชาวนา
เวลานี้ อารมณ์ของอ้าวเทียนฉีดุจอาบไปด้วยน้ำผึ้งอันหวานชื่น และภาคภูมิใจ
เมื่อรู้สึกถึงหญิงสาวในอ้อมกอด สองมืออ่อนนุ่มราวไร้กระดูก กอดรัดเอวของตนแน่น หน้าอกแนบชิดด้วยใบหน้าเล็กขอ องสาวน้อยที่วิตกกังวลแต่กลับสะดุดตา
จมูกได้กลิ่นหอมของดอกอวี๋หลันขาวจางๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของสาวน้อย
เวลานี้ อ้าวเทียนฉีรู้สึกตนคล้ายครอบครองของล้ำค่าที่สุดในโลกใบนี้
และมีความสุขกับช่วงเวลานี้อย่างมาก
จนกระทั่งคิดว่าหากสามารถหยุดเวลาไว้ตรงนี้ได้ ความจริงไม่เลวนัก
พอคิดถึงตรงนี้ อ้าวเทียนฉีรีบถือโอกาสที่สาวน้อยวิตกกังวลไร้สติ ใช้มือใหญ่โอบเอวเล็กของหญิงสาวเอาไว้
เมื่อรู้สึกถึงเอวเล็กบอบบางในมือนั้น อ้าวเทียนฉีใจเต้นแรง
คล้ายหัวใจสงบสุข ถูกคนขว้างก้อนหินขนาดเล็กเข้าไป จนกระเพื่อมเป็นคลื่นขึ้น
ที่แท้เอวของหญิงสาวเล็กเช่นนี้ คล้ายเพียงหยิบก็จะหักลง
เห็นเช่นนั้น ทำให้อ้าวเทียนฉีอดเห็นใจสาวน้อยในอ้อมกอดขึ้นมาไม่ได้
โดยเฉพาะเมื่อเห็นสาวน้อยเวลานี้เพราะวิตกกังวล ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มพลันซีดขาว
ดวงตาคู่งามปิดแน่น ปากเล็กร้องอย่างตกใจ
ท่าทางน่าสงสารนั้น ทำให้อ้าวเทียนฉีอดเสียใจขึ้นมาไม่ได้
รู้สึกว่าการล้อเล่นครั้งนี้ของตน คล้ายรุนแรงเกินไป
พอคิดถึงตรงนี้ อ้าวเทียนฉีหยุดเท้าลง
กิ่งไม้ที่โอนเอน ก็ค่อยๆ สงบลง
ซินเอ๋อร์ที่หวาดกลัว ค่อยๆ รู้สึกตัว ใจที่หวาดหวั่นค่อยๆ สงบลง
ทันใดนั้น อดลืมตาขึ้นเล็กน้อยไม่ได้
หลังรู้สึกว่ากิ่งไม้ไม่โอนเอนอีก ซินเอ๋อร์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แต่เธอยังไม่ทันโล่งใจ เห็นว่าสิ่งที่ตนโอบกอดอยู่ไม่ใช่กิ่งไม่ แต่เป็น…
อ้าวเทียนฉี!
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์อดใจหายไม่ได้
และตกใจอีกครั้ง
สิ่งแรกที่ทำคือคลายมือออกจากเอวของชายหนุ่ม ก่อนถอยหลังออกไป
แต่ซินเอ๋อร์กลับลืมไปว่าเธอเวลานี้อยู่บนต้นไม้ ด้านหลังไร้หนทางให้ถอย
ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงเท้าด้านหลังว่างเปล่า ทันใดนั้นเธอจึงล้มลงไปทางด้านหลัง
“อา…”
เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ซินเอ๋อร์ไร้การเตรียมตัวเตรียมใจ ขณะรู้สึกว่าตนกำลังจะตกจากต้นไม้ หัวใจพลันเ เต้นระรัว
เดิมทีคิดว่าครั้งนี้ ตนต้องตกลงไปแน่นอน
ตกจากต้นไม้ที่สูงขนาดนี้ ไม่ตายคงพิการ
ซินเอ๋อร์หวาดกลัวในใจ แต่กลับหยุดไม่ให้ตนร่วงลงสู่เบื้องล่างไม่ได้
ขณะที่หวาดกลัวในใจ เตรียมใจต้อนรับความตายไปพร้อมกัน
แต่สุดท้าย เธอก็ร่วงหล่นลงไป
ทว่ากลับต้องตกใจ เหตุใดด้านล่างเธอคือผืนหญ้า และอ่อนนุ่มเช่นนี้!
“เอ๊ะ!”
ซินเอ๋อร์ได้สติเล็กน้อย ก่อนพบว่าตนไม่ได้บาดเจ็บอย่างแปลกใจ
สวรรค์!
นี่แปลกประหลาดเกินไปแล้ว!
ตำแหน่งที่เธออยู่เมื่อครู่ สูงจากที่นี่อย่างมาก หากหล่นลงมาไม่ตายก็ต้องพิการ เหตุใดตอนนี้เธอจึงไม่รู้สึกเ เจ็บปวดแม้แต่นิดเดียว!
และยังรู้สึกด้านหลังของเธอ อ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น คล้ายกับเป็น…
เพียงนึกถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์พลันรู้สึกผิดปกติ
ก่อนมองหาอ้าวเทียนฉีที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้เมื่อครู่ แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา
หรือว่า…
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์คล้ายเครื่องจักร ค่อยๆ หันกลับไป เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ถูกตนทับอยู่ด้านล่าง พลันดุจถู กฟ้าผ่า ตกตะลึงอยู่ตรงนั้น
มิน่าเธอจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ ที่แท้มีคนเป็นเบาะรองให้แก่เธอ
ซินเอ่อร์ตะลึงในใจ ก่อนมองชายหนุ่มที่ถูกตนทับด้านล่าง เวลานี้ดวงตาปิดสนิท ริมฝีปากเม้มแน่น คล้ายกับหมดสติไ ไป
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์วิตกกังวลทันที ดังนั้นจึงลุกออกจากกายชายหนุ่ม ก่อนคุกเข่าลงข้างกายเขา พร้อมยื่นมือเขย่ าไหล่ พร้อมเรียกอย่างตกใจ
“ท่าน ท่านฟื้นสิ ท่านเป็นอันใดหรือไม่!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยอย่างวิตกกังวล แต่ไม่ว่าเธอจะเขย่าเช่นไร ชายหนุ่มที่ตาปิดสนิทกลับไม่ลืมตาขึ้นมา
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ตกใจจนแทบร้องไห้ออกมา
สวรรค์ ตอนนี้ควรทำเช่นไร!
เหตุใดชายหนุ่มผู้นี้จึงไม่ฟื้นขึ้นมา!
หรือ…
พอคิดถึงตรงนี้ ใจของซินเอ๋อร์อดเต้นระรัวไม่ได้ ทันใดนั้นยื่นมือที่สั่นเทาออกไปที่จมูกของชายหนุ่ม
หลังรู้ว่าชายหนุ่มไม่หายใจ ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงสมองระเบิด ‘ตูม’ ขึ้น ก่อนพลันขาวโพลน
สวรรค์!
เขา…
ตายแล้ว!