สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 297 ตกน้ำ (รีไรท์)
“ฮ่าๆ ดียิ่งนัก เซวียนเอ๋อร์สายตาไม่เลว”
เมื่อเห็นซินเอ๋อร์พบฮ่องเต้ครั้งแรก ยังคงสุภาพเรียบร้อย
ฮ่องเต้ทรงมีความสุข
ทันใดนั้น ทรงตรัสชื่นชมซินเอ๋อร์ไม่น้อย
เห็นเช่นนั้น ใจที่หวาดหวั่นของซินเอ๋อร์ สงบลงในที่สุด และรู้สึกสบายใจ
เดิมทีคิดว่าการเข้าวังครั้งนี้ จะยากลำบากอย่างหนัก สถานะของเธอ ต้องไม่ได้การต้อนรับแน่ เธอและเซวียนไม่สามารถ ถแต่งงานกันตามที่ปรารถนาได้
คิดไม่ถึงเรื่องราวกับราบรื่น
ไม่เพียงบิดามารดาของเซวียนจะดีต่อเธอ กระทั่งฮ่องเต้ยังทรงยอมรับเธอ
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ตื่นเต้นดีใจจนแทบร้องไห้ออกมา
ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่ดีใจอย่างหนัก เหลิ่งอวี้เซวียนจะไม่เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร
หลังซินเอ๋อร์นั่งลง มือใหญ่พลันกุมมือเล็กของเธออย่างแนบแน่น
หลังรับรู้ถึงร่างกายสั่นเทิ้มของซินเอ๋อร์ อดกุมมือเธอแน่นขึ้นอีกไม่ได้
“ยังกลัวอยู่หรือ!”
“อืม ตอนนี้ยังกังวลเล็กน้อย”
หลังได้ยิน ซินเอ๋อร์จึงพยักหน้าตอบรับ
ทันใดนั้น คล้ายฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“เซวียน ท่านว่าตอนนี้ข้าฝันอยู่หรือไม่ มิฉะนั้น เหตุใดทั้งหมดนี้จึงราบรื่นเกินไป ทำให้ข้ารู้สึกคล้ายภาพลวงตา ราวกับทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความจริง”
เหลิ่งอวี้เซวียนได้ยิน อดยื่นมือเขี่ยจมูกเล็กของซินเอ๋อร์ไม่ได้ ก่อนกล่าวอย่างขบขันว่า
“ทั้งหมดราบรื่นดี ก็ดีแล้วมิใช่หรือ หรือเจ้าต้องการความรักอันร้อนแรงเช่นนั้น!”
“ไม่ ข้าไม่ต้องการความรักที่เร่าร้อน ข้าเพียงสามารถอยู่กับท่าน ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเพียงพอแล้ว”
ซินเอ๋อร์เอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงแฝงความเขินอาย แต่กลับจริงจังหนักแน่น
เหลิ่งอวี้เซวียนได้ยิน อดมองซินเอ๋อร์อย่างลึกซึ้งไม่ได้ สุดท้ายเอ่ยขึ้นว่า
“แน่นอน พวกเราจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข มีความสุขไปด้วยกัน”
ชีวิตนี้ ได้ภรรยาเช่นนี้ เขายังมีสิ่งใดที่ไม่พอใจอีกหรือ!
เหลิ่งอวี้เซวียนคิดในใจ ก่อนสบตากับซินเอ๋อร์ อย่างอ่อนโยนดุจสายน้ำ คล้ายต้องการให้ซินเอ๋อร์จมดิ่งอยู่ในนั้น
ทันใดนั้น ทั้งสองมองตากันอย่างลึกซึ้ง จนรอบข้างอิจฉา
แต่ตรงข้ามกับทางด้านซินเอ๋อร์และเหลิ่งอวี้เซวียน เปี่ยมด้วยความรักอันหวานชื่น
อ้าวเทียนฉีที่นั่งตรงข้ามพวกเขา ใบหน้าหล่อเหลานั้นกลับเคร่งขรึมอย่างที่สุด
สายตาที่มองเหลิ่งอวี้เซวียนมืดดำอย่างยิ่ง
ทว่าเขาไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงจิบสุราไม่หยุดอย่างผิดหวัง
เห็นเพียงเขารินจิบสุราในมือไม่หยุด ไม่นานกาสุราในมือว่างเปล่า
ดังนั้น เขาจึงรับสั่งให้คนนำสุรามาอีกกา
จนกระทั่งดื่มสุราราวสี่ห้ากา ล้มลงบนโต๊ะด้วยใบหน้าและหูแดงก่ำ
ฮ่องเต้นั่งอยู่บนบัลลังก์สูง ดังนั้นสำหรับทุกท่วงท่าและอารมณ์ของทุกคนที่นั่งอยู่ด้านล่าง ย่อมตกอยู่ในสายตา ของพระองค์
แต่เขาไม่พูดสิ่งใด ตั้งใจแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เมื่อเห็นอ้าวเทียนฉีเมามาย ให้คนประคองเขากลับไป
อ้าวเทียนเสวี่ยด้านข้างเห็นพี่สามของตนดื่มจนเมามาย กลับไม่เข้าใจ
เพราะหลังเธอมาถึงที่นี่ เอาแต่สนใจชายหนุ่มหล่อเหลาไม่ธรรมดา โดดเด่นเหนือผู้ใดตรงหน้า
เมื่อเห็นชายผู้นี้ ป่าวประกาศสถานะของหญิงสาวข้างกายของเขาต่อหน้าทุกคน อ้าวเทียนเสวี่ยโมโหจนแทบคลั่ง
เพราะชายผู้นี้ เธอต้องตา เหตุใดเขาจึงไม่ชื่นชอบตน แต่ชื่นชอบหญิงชั้นต่ำที่ไม่มีสิ่งใดผู้นั้น!
เธอเวลานี้อยากร้องตะโกน ก่อนใช้มีดทิ่มแทงหญิงชั้นต่ำผู้นั้น
แต่เธอยังอดกลั้น
เพราะสถานการณ์ประเภทนี้ เธอจะเสียสติไม่ได้
และหากต้องการกำจัดหญิงชั้นต่ำนี้ เธอมีวิธีการมากมาย
ตอนนี้จึงไม่ต้องร้อนใจ!
ฮึ หญิงชั้นต่ำ ตอนนี้ปล่อยให้เจ้าถือดีไปเถิด!
อ้าวเทียนเสวี่ยคิดอย่างร้ายกาจในใจ ทันใดนั้น ให้คนประคองพี่สามกลับไป
เธอเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไป เพราะเมื่อเห็นความรักของทั้งสองคนตรงหน้า เธอใกล้จะเสียสติ
…
หลังงานเฉลิมฉลองจบลง ฮ่องเต้ทรงรับคำสั่งให้รุ่ยอ๋องและพระชายาประทับอยู่ในวังหลวงต่อ เพื่อรำลึกถึงวันเก่าๆ
เพราะหลายปีนี้ รุ่ยอ๋องและพระชายาต่างออกเดินทางไปทั่วใต้หล้า อยู่ในโลกของทั้งสอง จนทำให้ผู้คนอิจฉา
พวกเขาหลายคนต่างไม่ได้รวมตัวกันอย่างเป็นทางการสักครั้ง
สำหรับคำขอร้องของฮ่องเต้ พวกรุ่ยอ๋องย่อมไม่คัดค้าน
กระทั่งเหลิ่งอวี้เซวียนและซินเอ๋อร์ก็พักอยู่ในวังหลวง
ตำหนักทอแสง เป็นตำหนักที่อยู่ถัดจากตำหนักเฟยหลง
ฮ่องเต้ทรงตั้งใจจัดเตรียมไว้เช่นนี้ ทรงหวังว่าทุกวันหลังประชุมขุนนาง จะมีเวลาว่างมาที่นี่เพื่อพูดคุยกับพระอน นุชาตนได้สะดวก
ส่วนพระชายาของรุ่ยอ๋องก็ดึงตัวซินเอ๋อร์มาพูดคุยคลายเหงา
พระชายารุ่ยอ๋องเป็นคนสดใสมีชีวิตชีวาผู้หนึ่ง และเห็นชัดว่าอายุสามสิบกว่าแล้ว แต่กลับดูแลผิวพรรณได้เป็นอย่า างดี
ผิวเนียนชุ่มฉ่ำ หากยืนอยู่กับซินเอ๋อร์ ยังคิดว่าทั้งสองคนคือพี่สาวน้องสาวสวยงามคู่หนึ่ง!
และหลังใกล้ชิดกับพระชายารุ่ยอ๋องมาหลายวัน ซินเอ๋อร์จึงค่อยๆ รู้สึกว่าพระชายารุ่ยอ๋องชื่นชอบเธอ และเห็นเธอเ เป็นลูกสะใภ้จากใจจริง
เพราะหลายวันนี้ พระชายารุ่ยอ๋องเอ่ยถามเรื่องครอบครัวเธอ ซินเอ๋อร์ไม่กล้าปิดบัง เอ่ยเล่าทั้งหมดตามความจริงออกม มา
ในใจกังวลกลัวว่าพระชายาได้ยินแล้ว จะคิดว่าสถานะของเธอไม่ดี ไม่คู่ควรกับเซวียน
แต่คิดไม่ถึง พระชายารุ่ยอ๋องนอกจากเอ็นดูเธอ ไม่สนใจเรื่องอื่น
สำหรับเรื่องนี้ ซินเอ๋อร์จึงซาบซึ้งอย่างมาก
เพราะพระชายารุ่ยอ๋องคือคนที่แต่งงานกับผู้อื่นเช่นกัน
ดังนั้นจึงทำให้เธอรู้สึกคล้ายมารดาที่เสียชีวิตไปของตน
ดังนั้นเมื่อใกล้ชิดกับพระชายารุ่ยอ๋อง ซินเอ๋อร์จึงไม่ได้เก้กังดังตอนแรกอีก
และน้องชายน้องสาวของเซวียน ก็คือคนตัวเล็กน่ารักหลายคน
ทุกวันเซวียนต่างไม่มีเวลาว่าง ขณะที่พระชายารุ่ยอ๋องเองก็ต้องดื่มชา สนทนากับนางสนมในวังหลวงพวกนั้น ซินเอ๋อร์ จะเล่นกับเหล่าเด็กน้อยหลายคนนี้
เพราะซินเอ๋อร์นิสัยไร้เดียงสา ดังนั้นเหล่าเด็กน้อยนี้ จึงสนิทสนมกับซินเอ๋อร์เป็นพิเศษ
วันนี้เหลิ่งอวี้เซวียนมีธุระต้องออกจากวังหลวง รุ่ยอ๋องรำลึกความหลังอยู่กับฮ่องเต้ ส่วนพระชายารุ่ยอ๋องสนทนากั บเหล่านางสนม
ซินเอ๋อร์เบื่อหน่ายจึงออกไปเล่นสนุกที่อุทยานหลวงกับพี่ชายน้องสาวทั้งสี่ของเหลิ่งอวี้เซวียน
แม้จะเป็นฤดูร้อน แต่ภายในอุทยานหลวง ยังคงมีบุปผานาพันธุ์เบ่งบาน
ตรงกลางปลูกดอกโบตั๋นสูงส่ง ดอกอวี๋หลันขาวบางเบา ดอกกุหลาบอ่อนช้อย
บุปผานานาพันธุ์บานสะพรั่ง ชูช่ออวดโฉม
ด้านในมีนางสนมไม่น้อยออกมาเดินเล่น ภาพนี้สวยงามดังภาพวาดจริงๆ
หลังเล่นกับเด็กน้อยทั้งสี่ตลอดเช้า ซินเอ๋อร์เห็นใกล้เที่ยงวัน เพราะพระอาทิตย์เวลานี้ร้อนแรงอย่างยิ่ง ดังนั้นจึง งพาเหล่าเด็กน้อยไปนั่งที่ศาลารับลมด้านหน้า
ตอนนี้คือฤดูร้อน แต่บ่อน้ำด้านนอกศาลารับลม กลับเต็มไปด้วยดอกบัว
เห็นเพียงใบบัวเขียวชอุ่มนั้น ทั้งใหญ่และกลม เขียวสด ราวกับหมวก
และดอกบัวอวดโฉมอยู่ตรงกลางนั้น บางดอกกำลังจะเบ่งบาน บางดอกเบ่งบานจนครบถ้วน
สายลมเย็นพัดเอื่อย พัดพากลิ่นหอมสดชื่นของดอกบัวมา จนทำให้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลาย
หลังนั่งลงในศาลารับลม ซินเอ๋อร์ให้บ่าวไพร่ไปจัดเตรียมของว่างและน้ำชาเข้ามา
เพราะตนมีน้องชาย ดังนั้นสำหรับการดูแลเด็กน้อย ซินเอ๋อร์ถือว่าคล่องแคล่ว
และเด็กน้อยซุกซนเหล่านี้ สำหรับผู้อื่นต่างวิ่งจับจนเหนื่อยล้าทั้งวัน
แต่สำหรับซินเอ๋อร์ ทุกคนกลับสงบเสงี่ยมเชื่อฟัง
ผู้ใดให้เธอไม่เพียงคือว่าที่ภรรยาของพี่ใหญ่พวกเขา และนิสัยอ่อนโยนนั้น ไม่ว่าผู้ใดทำสิ่งใดกับเธอ ต่างไม่คิด ดเล็กคิดน้อย เก็บเป็นอารมณ์
ความจริงเด็กน้อยที่ดูไม่เข้าใจสิ่งใด แต่กลับรู้ดีว่าผู้ใดดีกับพวกเขา ผู้ใดทำไม่ดีกับพวกเขา
เวลานี้ ซินเอ๋อร์สั่งให้บ่าวไพร่ไปจัดเตรียมของว่างและน้ำชา ส่วนตนนั่งอยู่ในศาลารับลมดูแลเหล่าเด็กน้อย
แต่เด็กน้อยมีนิสัยรักสนุก นอกจากเหวินเหวินที่นั่งมองเหลิ่งอวี้เป่ยดูปลาในบ่อตรงนั้นเงียบๆ เหลิ่งอวี้ห้าว และเหลิ่งอวี้หลง และเหลิ่งอ้าวเสวี่ย ทุกคนต่างคล้ายม้าป่าหลุดจากเชือก วิ่งไปมาไม่หยุด และยังเอ่ยว่าต้องการ รเด็ดดอกบัว
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ย่อมไม่ยินยอม เพราะพวกเขาเป็นเพียงเด็กน้อย หากตกลงไปจะทำเช่นไร
จึงเอ่ยว่ารอให้บ่าวไพร่กลับมา ค่อยเด็ดดอกบัวให้พวกเขา
ซินเอ๋อร์เดิมทีคิดว่าเธอเอ่ยเช่นนี้ พวกเขาจะเชื่อฟัง
แต่ขณะเธอพูดกับน้องสี่อยู่ในศาลา จู่ๆ เสียง ‘ตูม’ ก็ดังขึ้น จากนั้นมีเสียงเด็กร้องตกใจขึ้นมา
ซินเอ๋อร์ได้ยิน ในใจกังวล ร่างกายร้อนรุ่มคล้ายตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง
ทันใดนั้น พลันยืนขึ้น ก่อนรีบร้อนตรงไปที่มาของเสียงโวยวายนั้น
เห็นเพียงบนฝั่ง น้องสองและน้องห้ายืนอยู่ตรงนั้น มีเพียงน้องสามที่หายไป
น้องสองและน้องห้ามีสีหน้าผิดปกติ ร้องตะโกนไปที่บ่อน้ำไม่หยุด
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น กวาดดวงตาคู่งามไป เห็นเพียงในบ่อน้ำ มีน้ำกระเพื่อมเป็นวงไม่หยุด
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์รู้ว่าคือสิ่งใด
พอคิดถึงตรงนี้ หัวใจพลันเต้นระรัว
เพราะเธอว่ายน้ำไม่เป็น แม้คิดจะลงไปช่วยเหลือ แต่ไร้ความสามารถและจนปัญญา
คิดเรียกคน ข้างกายกลับไร้นางกำนัล
สวรรค์ ตอนนี้ควรทำเช่นไร!
ขณะซินเอ๋อร์สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว วิตกกังวล จู่ๆ ก็มีร่างในชุดขาวพุ่งตรงมาทางด้านนี้อย่างรวดเร็วดังสายฟ ฟ้า ซินเอ๋อร์ยังไม่ได้สติ ได้ยินเพียงมีบางสิ่งตกลงไปในน้ำ เห็นร่างในชุดขาวสูงใหญ่นั้นกระโดดลงไปในน้ำ จากนั้ นน้ำก็กระเซ็นไปรอบด้าน
ซินเอ๋อร์เห็นหน้าตาคนที่มาไม่ชัดเจน ทว่าเมื่อเห็นเหตุการณ์ ก็รู้ว่ามีคนมาช่วยเหลือพวกตน ดังนั้นจึงภาวนาในใจ จไม่หยุด น้องสามต้องปลอดภัย มิฉะนั้นเธอไม่รู้จะชดใช้ให้กับพวกเซวียนเช่นไร
ซินเอ๋อร์ร้อนรน จนร้องไห้ออกมา
เหล่าเด็กน้อยด้านข้าง จะเคยเจอสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร ดังนั้นทุกคนจึงต่างร้องไห้ดังลั่นขึ้นมา
อาจเพราะสถานการณ์ทางด้านนี้ของพวกเขาดังเกินไป จึงดึงดูดนางกำนัลจำนวนไม่น้อยเข้ามา
หลังรู้ว่าองค์ชายน้อยตกน้ำ ขันที นางกำนัลทุกคนที่ว่ายน้ำได้ ต่างกระโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วยเหลือ
ทันใดนั้น ในบ่อบัวคึกคักวุ่นวายอย่างหนัก
ส่วนซินเอ๋อร์ เวลานี้จดจ้องมองการเคลื่อนไหวภายในน้ำอยู่ ในใจภาวนาต่อสวรรค์ไม่หยุด ให้น้องสามขึ้นมาอย่างปลอดภั ย มิฉะนั้น มิฉะนั้น…
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ มีร่างหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากน้ำ
ซินเอ๋อร์เพียงเห็น รู้ว่าคนที่เข้ามาช่วยเหลือ ที่แท้คืออ้าวเทียนฉี!
เห็นเพียงอ้าวเทียนฉีเวลานี้เปียกชุ่มไปทั่วร่าง ในมืออุ้มน้องสามที่ตกน้ำลงไป
น้องสามเวลานี้ดวงตาปิดสนิท และไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่…