สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 298 อ้าวเทียนฉีสารภาพรัก (รีไรท์)
“หลงเอ๋อร์ เจ้าเป็นเช่นไร หลงเอ๋อร์!”
เมื่ออ้าวเทียนฉีอุ้มเหลิ่งอวี้หลงที่หมดสติขึ้นมา ซินเอ๋อร์พลันโผเข้าไป ก่อนคุกเข่าลงบนพื้น เห็นเหลิ่งอวี้ หลงดวงตาปิดสนิท นอนอยู่บนพื้นโดยไร้สัญญานชีพ หัวใจขมวดแน่นอย่างเจ็บปวด
ดวงตาคู่งามวาววับนั้น เต็มไปด้วยน้ำตา และร้องไห้ออกมา
อ้าวเทียนฉีด้านข้าง หลังวางน้องสามลงบนพื้น รีบให้คนไปตามหมอหลวง แต่ตนกลับกดหน้าอกของน้องสามไม่หยุด เพื่ อช่วยชีวิต
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น แม้สงสัยในใจ แต่ยังยืนอยู่ด้านข้าง มองอ้าวเทียนฉีช่วยชีวิตน้องสาม
จนกระทั่งผ่านไปนาน น้องสามบนพื้นยังไร้ปฏิกิริยา ซินเอ๋อร์เห็นเข้าจึงหัวใจเย็นเฉียบ
หรือว่าหลงเอ๋อร์เขาจะตายไปแล้วจริงๆ!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์แทบร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา
แต่ทันใดนั้น เหลิ่งอวี้หลงที่ไร้ปฏิกิริยา พลันไอออกมาอย่างหนัก สำลักน้ำออกมา
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ดีใจ โผเข้าไป
ประจวบกับหลังจากน้องสามได้สติ ก็ร้องไห้ลั่นออกมา
“ฮือๆ พี่ซินเอ๋อร์ ฮือๆ ข้ากลัว…”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร หลงเอ๋อร์เด็กดี”
หลังได้ยินคำพูดของน้องสาม ในใจซินเอ๋อร์เจ็บปวดขึ้นมา
แม้เธอจะรู้จักกับเด็กเหล่านี้ได้ไม่นาน แต่เธอเห็นพวกเขาเป็นเสมือนน้องสาวน้องชายของตน
ตอนนี้เมื่อเห็นน้องสามร้องไห้อย่างน่าสงสาร ใจเธอแทบแตกสลาย
น้ำตานั้น ดุจไข่มุกร่วงหล่นจากสร้อย ไหลรินลงมาไม่หยุด
เวลานี้น้องสอง น้องสี่ และน้องห้า เมื่อเห็นน้องสามฟื้นขึ้นมา มีทั้งร้องไห้และหัวเราะ ทันใดนั้น ริมฝั่งดีใจขึ นมา
สุดท้ายเมื่อหมอหลวงมาถึง ซินเอ๋อร์ถึงมอบน้องสามให้แก่หมอหลวง
เพราะแม้น้องสามจะฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ยังต้องให้หมอหลวงตรวจดูอาการ เธอจึงจะวางใจ!
ส่วนพวกน้องสอง หลังผ่านเรื่องนี้ไปพากันตกใจเสียขวัญ
ดังนั้น ซินเอ๋อร์จึงให้นางกำนัลพาพวกเขากลับไป
ริมน้ำจึงเงียบสงบลง
เห็นริมฝั่งเงียบสงบลง แสงอาทิตย์เรืองรอง ต้นหลิวพริ้วไหว ดอกบัวชูช่อ สายลมเย็นพัดเอื่อย ยังคงสวยงามเกินบรรยา าย สดชื่นสบายตา
แต่เวลานี้ซินเอ๋อร์ไม่มีจิตใจชื่นชมทิวทัศน์ ในใจยังคงหวาดกลัวเล็กน้อย
หากเมื่อครู่น้องสามเสียชีวิตไปจริง เธอไม่รู้ควรทำเช่นไร
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์อดหันมองชายหนุ่มด้านข้างไม่ได้
เห็นเพียงชายหนุ่มเปียกชุ่มไปทั่วร่าง เสื้อผ้าไหมห่อหุ้มกายเขาเปียกจนแนบชิดลำตัว ก่อนเผยรูปร่างงดงามของเขาอ ออกมา
เส้มผมดำขลับ ยังคงมีหยดน้ำ ไหลรินจากหน้าผากมนสู่สองแก้มและคางเด็ดเดี่ยวนั้นไม่หยุด
ชายหนุ่มเวลานี้ แม้จะตื่นตระหนกหลายส่วน แต่กลับน่ามองจนทำให้คนสบายตา
เวลานี้ชายหนุ่มจ้องมองเธออยู่เงียบๆ
ดวงตาหงส์คู่งามนั้น ภายในแฝงด้วยอารมณ์สับสนมากมาย
ทั้งเศร้าโศก เสียใจ ขอร้อง
เมื่อเผชิญกับสายตาเช่นนี้ของชายหนุ่ม กลับทำให้ซินเอ๋อร์ตะลึงงัน
เธอไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดชายหนุ่มจึงใช้สายตาเช่นนี้มองเธอ
เพราะคิดไม่ออก ดังนั้นซินเอ๋อร์จึงไม่คิด
เพียงเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า
“องค์ชายสาม เรื่องเมื่อครู่ขอบพระทัยท่านจริงๆ หากเมื่อครู่ท่านมาไม่ทันเวลา หลงเอ๋อร์คง…”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ไม่พูดต่ออีก รู้สึกเพียงลำคอตีบตัน ยังคงหวาดกลัวในใจ
อ้าวเทียนฉีได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ เพียงนิ่งเงียบไม่พูดจา แต่กลับเดินเข้ามาที่ซินเอ๋อร์
เห็นเพียงพระอาทิตย์ลอยเด่น สาดแสงลงมาบนพื้นจนร้อนระอุ
ชายหนุ่มด้านหน้า รูปร่างสูงใหญ่ เมื่อยืนอยู่ด้านหน้าซินเอ๋อร์ ทำให้เธอรู้สึกเพียงภาพด้านหน้ามืดมนลง
ก่อนสบเข้ากับดวงตาหงส์เลือนลางของชายหนุ่มคู่นั้น
เมื่อเห็นชายหนุ่มไม่พูดจา มองตนด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาเช่นนี้ ซินเอ๋อร์สงสัยในใจ จนอดกระพริบตาอย่างไม่เข้าใจ จไม่ได้ ก่อนมองชายหนุ่มเงียบๆ
เพราะเธอคล้ายเดาได้ว่า ชายหนุ่มต้องการเอ่ยสิ่งใดกับเธอ
จริงอย่างที่คิด ชายหนุ่มจับจ้องเธออยู่นาน พลันเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เจ้ารักเขาจริงหรือ!”
“หา!”
รออยู่นาน คิดไม่ถึงชายหนุ่มจู่ๆ จะเอ่ยประโยคเช่นนี้ออกมา จนซินเอ๋อร์ตะลึงงัน จึงขบคิดจนเข้าใจขึ้นมาว่าชายหนุ่ มหมายถึงเซวียน
หลังคิดถึงเรื่องนี้ ซินเอ๋อร์แม้จะไม่เข้าใจเหตุใดชายหนุ่มจึงเอ่ยเช่นนี้ แต่ยังพยักหน้า พร้อมเอ่ยความจริงขึ้น
“อืม ข้ารักเซวียนอย่างยิ่ง!”
คำพูดของซินเอ๋อร์หนักแน่นอย่างมาก
ชายหนุ่มได้ยิน อดยิ้มมุมปากไม่ได้ แต่รอยยิ้มนั้นแฝงด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
ทำให้คนมองปวดใจ
ซินเอ๋อร์เพียงเห็น กลับสงสัยในใจอย่างยิ่ง คิ้วเข้มคู่งามนั้นอดขมวดไม่ได้
เพราะเธอไม่รู้เหตุใดชายหนุ่มหลังได้ยินคำนี้ จึงเผยสีหน้าแปลกประหลาดเช่นนี้ออกมา
ขณะสงสัย ได้ยินชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า
“ฮ่า ๆ ซินเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ คำพูดนี้ของเจ้า ทำให้คนเสียใจมากเพียงใด หลังได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า หัวใจของข้า า คล้ายถูกคนฉีกทำลาย เจ็บปวดยิ่งนัก เจ็บปวดยิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่!”
พอเอ่ยจบ ชายหนุ่มดูตื่นตระหนก
ยื่นมือกุมไหล่ของซินเอ๋อร์ไว้แน่น ก่อนก้มหน้าตะโกนใส่ซินเอ๋อร์
สำหรับการกระทำเช่นนี้ของชายหนุ่ม ทำให้ซินเอ๋อร์ขมวดคิ้วมุ่น และได้กลิ่นของสุราอันเข้มข้น
หลังรับรู้ซินเอ๋อร์ขมวดคิ้ว อดตกใจร้องขึ้นมาไม่ได้
“องค์ชายสาม ท่านเมามายแล้ว!”
“ไม่ ข้าไม่ได้เมา ซินเอ๋อร์ ข้าจะบอกเจ้า ข้าชื่นชอบเจ้า ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจ้า ข้าก็ชื่นชอบเจ้า ต่อมาครั้งที่ สองที่พวกเราเจอกัน ขณะที่เจ้าช่วยเหลือข้า ข้าพบว่าหัวใจของข้าเต็มไปด้วยหญิงสาวที่ชื่อซินเอ๋อร์ ดังนั้นข้าจึ งมอบของล้ำค่าของเสด็จแม่ให้แก่เจ้า เจ้ารู้ถึงความหมายของหยกชิ้นที่ข้ามอบให้เจ้านั้นหรือไม่ นี่คือของล้ำค่าขอ องเสด็จแม่ข้า เสด็จแม่เอ่ยว่าหยกชิ้นนี้ให้ข้ามอบให้หญิงที่ตนชื่นชอบ และหยกชิ้นนี้ ข้ามอบให้แก่เจ้า ตอนนี้ เจ้าควรรู้ความหมายของมันแล้วกระมัง!”
อ้าวเทียนฉีเอ่ยความในใจออกมาอยู่นาน พลันรู้สึกสบายใจไม่น้อย
สวรรค์รู้ดีว่า เขามีชีวิตมาสิบเจ็ดปี เติบโตมาพร้อมแผนการตลอดเวลา ไม่ว่าผู้ใดเขาต่างระแวง จากไม่เชื่อมั่นในผ ผู้ใด กลายเป็นไม่เคยชื่นชอบผู้ใดมาก่อน
สำหรับหญิงสาวที่ถูกส่งมาพวกนั้น เขาไม่แยแส
เพราะเขารู้ว่าหญิงสาวที่ถูกส่งมาเหล่านั้น ต่างมีจุดประสงค์แอบแฝงของตน
บางคนเห็นแก่อำนาจของเขา บางคนเห็นแก่รูปโฉมของเขา บางคนผู้อื่นตั้งใจส่งมาอยู่ข้างกายเขา เพื่อเป็นหมากในแผนก การ
ดังนั้นสำหรับหญิงสาวพวกนั้น เขาจึงไม่เคยแยแส
และรู้สึกว่าความจริงตนไม่ได้ชื่นชอบหญิงสาวใดๆ และไม่ชื่นชอบผู้ใดเข้าแน่
เพราะหากตนมีคนที่ใส่ใจ คนผู้นั้นจะกลายเป็นเพียงภาระของเขา เป็นจุดอ่อนของเขาเท่านั้น
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าความจริงตนคาดหวังมาโดยตลอด ว่ายังสามารถชื่นชอบคนผู้หนึ่งได้
ก่อนหน้านี้เขาไม่ชื่นชอบหญิงใดมาก่อน เพราะเขายังไม่พบคนที่ทำให้ใจเต้นแรงผู้นั้น
ตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้พบ แต่กลับพลาดโอกาสไป
ขณะนั้น องค์ชายใหญ่ตั้งใจวางแผนตลบหลังเขา เขาโชคไม่ดีถูกบ่าวรับใช้ข้างกายหักหลัง หลังหนีตายมา ก็ได้พบกับเ เธอ
แม้จะใกล้ชิดกับสาวน้อยตรงหน้านี้ไม่นาน แต่บางคน เพียงมองก็ถูกกำหนดให้เป็นเนื้อคู่ของเขาไปตลอดชีวิต
น่าเสียดาย เขาขณะนั้นมีอันตรายรอบด้าน แม้เขาจะมีใจให้เธอ แต่กลับไม่อาจให้เธอตกอยู่ในอันตรายได้ จึงไม่ไปแอบสืบข่ าวคราวของเธอหรือติดต่อกับเธอ
เพราะกลัวว่าศัตรูของเขาจะรู้ แล้วทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย
จนกระทั่งตอนนี้ ในที่สุดเขากำจัดศัตรูรอบกายจนสิ้น ตอนนี้ไม่มีผู้ใดรุกรานเขาได้ เขารีบส่งคนมาสืบหาเรื่องราวขอ องเธอ
คิดไม่ถึง คนที่ตนส่งไปยังไม่กลับมา ตนกลับพบเธอเข้าเสียก่อน ภายในอุทยานหลวง เพียงสบตาไม่อาจลืมเลือน
เธอยังคงไร้เดียงสา สวยงามเช่นเคย
ชุดฝ่ายในสีขาวหิมะสวยงาม ทรงผมอันประณีตนั้น ทำให้เธอแฝงความสูงส่งและสง่างามหลายส่วน
เพียงเห็นเธอปรากฎตัวขึ้นอย่างไม่คาดฝัน เขาดีใจอย่างบ้าคลั่ง
และรู้สึกว่านี่คือลิขิตของสวรรค์ พวกเขามีพรหมลิขิตต่อกัน
ดังนั้น ขณะนั้นเขาจึงดีใจอย่างหนัก
ผู้ใดจะรู้สุดท้าย…
พอคิดถึงตรงนี้ อ้าวเทียนฉีปวดใจอย่างยิ่ง
รู้สึกเพียงหน้าอกตนมีหินขนาดใหญ่กดทับอยู่ จนแทบทำให้เขาหายใจไม่ออก
ความจริงหลังงานเฉลิมฉลองวันประสูติของฮ่องเต้เทียนหยวน เขาควรกลับแคว้น แต่หลังเขารู้ว่าเธออยู่ในวังหลวง จึง งตัดใจกลับแคว้นไม่ได้
และหาข้ออ้างเพื่อให้ได้อยู่ที่นี่ต่อ เพียงหวังว่าสามารถเข้าใกล้ชิดเธอ สามารถพบเธออีกสักครั้ง
สามารถเอ่ยสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจเขาออกมาได้
เวลานี้ในที่สุดเขาเอ่ยมันออกมาแล้ว และรู้สึกเพียงความกดดันในใจ เบาบางลงไม่น้อย
แต่ขณะรอคอยคำพูดของสาวน้อย หัวใจพลันเต้นระรัวอีกครั้ง
ในใจกังวล หวาดกลัว แต่กลับคาดหวัง
หวังว่าในใจสาวน้อย ความจริงชื่นชอบตน แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อย เล็กน้อยเท่านั้น
แต่ตรงข้ามกับการรอคอยของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์หลังได้ยินคำพูดนี้ชายหนุ่ม กลับพลันดุจถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เสียง ‘ ‘ตูม’ ดังขึ้น พร้อมร่างกายแข็งทื่อเป็นหิน
เพราะความจริงเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่พบหน้าเพียงไม่กี่ครั้ง จู่ๆ จะเอ่ยเช่นนี้กับเธอ
ดังนั้น ซินเอ๋อร์จึงตกตะลึงอย่างสุดขีด
หลังได้สติ ซินเอ๋อร์เอ่ยตะกุกตะกักขึ้น
“คือว่า ข้า ข้าไม่รู้ว่าหยกชิ้นนั้นมีความหมายเช่นนี้ ข้า ข้าตอนนี้จะคืนหยกให้แก่ท่าน!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยจบ พลันล้วงหยกชิ้นหนึ่งออกมาอย่างรีบร้อน
ครั้งก่อน ขณะรู้ว่าองค์ชายผู้นี้ยังอยู่ในวังหลวง เธอจึงให้คนนำหยกนี้กลับมา
แต่กลับไม่มีโอกาสคืนให้แก่เขา
คิดไม่ถึง ตอนนี้จะได้ยินชายหนุ่มเอ่ยเช่นนี้