สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 299 ซินเอ๋อร์ตกน้ำ (รีไรท์)
สวรรค์ ทำให้คนคาดไม่ถึงเสียจริง
เพราะความจริงเธอไม่รู้ว่าชายตรงหน้า จะคิดเช่นนี้กับเธอ
ซินเอ๋อร์คิดในใจ ก่อนล้วงหยกชิ้นนั้นออกมาจากอกเสื้อ จากนั้นส่งให้แก่ชายหนุ่ม
แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยื่นมือออกมารับหยกที่เธอส่งไป เพียงจ้องมองเธอ
สายตานั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เสียใจ และผิดหวัง
มองจนซินเอ๋อร์หนังศีรษะชาวาบ
“เอ่อ ขออภัย องค์ชายสาม ข้า ข้าขออภัยที่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง ข้าและท่านไม่มีทางเป็นไปได้ และตอนนี้ข้ามีเซวียนแล้ว”
ซินเอ๋อร์เอ่ยพูดความจริง แต่คำพูดของเธอ ในใจของอ้าวเทียนฉี คล้ายถูกลูกธนูแหลมคมพุ่งเข้าใส่หัวใจเขาอย่างแม่นยำ รุนแรง
หลังได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ ดวงตาหงส์ของอ้าวเทียนฉีเบิกกว้าง ก่อนรู้สึกหัวใจตนเจ็บปวดจนชา อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
แม้เขาจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะเป็นเช่นนี้
แต่คำพูดเหล่านี้ เมื่อดังออกมาจากปากของเธอ ยังคงทำให้เขาเจ็บปวดจนถึงกระดูก
“ฮ่า ๆ เจ้าเอ่ยว่าเจ้ารักเขา แต่นี่ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด ไม่ยุติธรรม เจ้าไม่เคยใกล้ชิดกับข้า หากเจ้าได้ใกล้ชิดกับข้านานกว่านี้ เจ้าต้องรู้สึกว่าความจริงข้าเหมาะสมกับเจ้าย ยิ่งกว่าเขา ข้ารักเจ้า”
อ้าวเทียนฉีใจพลุ่งพล่าน อาจเพราะดื่มสุราจนเมามาย และอาจเพราะโมโหเกินไป ยากที่จะยอมรับความจริงเรื่องนี้ได้ ดังนั้น เขาเวลานี้จึงมีอารมณ์แปรปรวน กุมไหล่ของซินเอ๋อร์อย่าง สูญเสียการควบคุมและน้ำหนัก
ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงไหล่ของตนแทบจะหักลงมา เจ็บปวดจนทำให้เธออดร้องตกใจไม่ได้
“องค์ชายสาม ท่านทำข้าเจ็บ ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด ปล่อยข้า!”
“ไม่ ข้าไม่ปล่อย ข้าไม่ยอมปล่อยเจ้า และไม่ต้องการปล่อย ชั่วชีวิตนี้ ข้าจะไม่ทอดทิ้งเจ้า เหตุใด เจ้าจึงรักเขา เจ้าควรลองรักข้าดูบ้าง!”
หลังได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ ขอร้องให้ปล่อยเธอไป
อ้าวเทียนฉีเจ็บปวดในใจ ก่อนรู้สึกถึงความรุนแรงประเภทหนึ่ง หากตอนนี้เขาปล่อยเธอไป เช่นนั้นชั่วชีวิตนี้ เขาจะสูญเสียเธอไป
หลังคิดถึงตรงนี้ อ้าวเทียนฉีไม่ยอมปล่อยคนตัวเล็กตรงหน้านี้แน่
และยิ่งเห็นคนตัวเล็กตรงหน้าต่อต้านเขาเช่นนี้ เขายิ่งปวดใจและโมโห
เหตุใด เขาสู้ชายผู้นั้นไม่ได้ที่ใด!
อำนาจ ความมั่งคั่ง ฐานะ รูปโฉม ทุกสิ่งเขาล้วนมีครบมิใช่หรือ!
เหตุใดเธอจึงไม่สามารถรักเขา!
ยิ่งคิด ในใจอ้าวเทียนฉีทั้งโมโหและเสียใจ ก่อนค่อยๆ สูญเสียสติ
และก้มหน้าลงจับจ้องสาวน้อยตรงหน้านี้
เห็นเพียงสาวน้อยตรงหน้า โดดเด่นงดงาม แม้จะขมวดคิ้ว แต่ทำให้เธอยิ่งอ่อนช้อยงดงาม ทำให้คนใจเต้นอย่างรุนแรง
ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยนั้น เผยฟันขาวสะอาด ริมฝีปากอวบอิ่มเล็กบาง คล้ายดอกเหมยเพิ่งเบ่งบานในเดือนสิบสอง บริสุทธิ์ เนียนนุ่ม ทำให้คนมองต่างอดคิดจุมพิตไม่ได้
อ้าวเทียนฉีคิดในใจ ก่อนจิตใจฟุ้งซ่าน สายตามองริมฝีปากของซินเอ๋อร์ ยิ่งร้อนแรงยิ่งขึ้น
คล้ายสัตว์ร้ายหิวโซตัวหนึ่ง เมื่อพบเหยื่อ กระจายความบ้าเลือดออกมา
อาจเพราะรู้สึกถึงความผิดปกติของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์จึงยิ่งหวาดหวั่น
ก่อนเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ
“ไม่ องค์ชายสาม ขอร้องท่าน ขอร้องโปรดปล่อยข้าไปเถิด!”
“ไม่ ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไป!”
เสียงแหบพร่าดังขึ้น ทันใดนั้นชายหนุ่มก้มหน้าลง ก่อนจะประกบปากตนลงบนริมฝีปากเล็กคู่นั้น
ริมฝีปากเล็กคู่นั้น เนียนนุ่ม หอมหวานดังที่คาดคิดไว้จริงๆ
คล้ายสาคูมะม่วงส้มโอ ทำให้คนอดลุ่มหลง ไม่อยากตื่นขึ้นมา
ดังนั้น อ้าวเทียนฉีจึงจุมพิตดูดดื่มยิ่งขึ้น และอดมีแววตาเคลิบเคลิ้มไม่ได้
ตรงข้ามกับอ้าวเทียนฉีที่เคลิบเคลิ้มลุ่มหลง ซินเอ๋อร์ตกใจกับการกระทำนี้ของชายหนุ่มอย่างหนัก
เพราะนอกจากเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์ไม่เคยถูกชายใดจุมพิตมาก่อน
ดังนั้นตอนนี้ เมื่อถูกชายหนุ่มจุมพิตอย่างรุนแรง ซินเอ๋อร์ขณะตกใจ รู้สึกหวาดหวั่นใจและต่อต้านขึ้นมา
เพราะตอนนี้เธอคือคู่หมั้นของเหลิ่งอวี้เซวียน จะให้ชายอื่นจุมพิตได้เช่นไร!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์กำหมัดแน่น ก่อนทุบตีชายหนุ่มตรงหน้า แต่หมัดของเธอที่ทุบลงบนหน้าอกชายหนุ่ม กลับน่าสงสารยิ่ง ราวกับแมวน้อยตัวหนึ่งกำลังข่วนให้แสบคัน ทำให้อ้าว วเทียนฉีไม่เห็นอยู่ในสายตา
กลับกันยิ่งจุมพิตลึกซึ้งมากขึ้น
แม้ซินเอ๋อร์จะกัดฟันแน่นเช่นไร แต่ชายหนุ่มเพียงออกแรงเบาๆ สามารถง้างฟันของเธอออกอย่างง่ายดาย ทันใดนั้นสอดลิ้นเข้ามา ก่อนดูดกลืนภายในปากเธอไม่หยุด
คล้ายคนขาดน้ำกลางทะเลทราย เมื่อเจอแหล่งน้ำ ดูดกลืนไม่หยุด อยู่เป็นเวลานาน
สุดท้ายลิ้นชุ่มชื้นของชายหนุ่มนั้น ไล่กวาดลิ้นของซินเอ๋อร์ไม่หยุด พร้อมอุทานในใจ
เพราะปากเล็กนี้หวานหอมเกินไปจริงๆ หวานหอมอย่างไร้ที่เปรียบเทียบ
ตรงข้ามกับอ้าวเทียนฉีที่อุทานในใจ ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงจุมพิตของเขา ทำให้เธอต้องต่อต้านให้ถึงที่สุด
สุดท้าย เมื่อเห็นว่าหมัดของตนไม่สามารถต้านทานชายหนุ่มผู้นี้ได้ ซินเอ๋อร์โมโห ดังนั้นจึงกัดฟันลงไปบนลิ้นชายหนุ่มอย่างแรงทันที
“อ๊า”
หลังชายหนุ่มคำรามออกมา ซินเอ๋อร์รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดในปาก ทว่าลิ้นของชายหนุ่มพลันผละออกไป
หลังชายหนุ่มคลายรัด ซินเอ๋อร์ดุจร่างกายบรรจุด้วยสปริง ผละออกห่างหลายก้าวทันที มองชายหนุ่มตรงหน้าราวเจอสัตว์มีพิษหลังน้ำท่วม
สำหรับการตอบสนองของซินเอ๋อร์ อ้าวเทียนฉีเสียใจอย่างหนัก
รู้สึกเพียงเวลานี้ ลิ้นของเขาปวดแสบอย่างยิ่ง และกลิ่นเลือดกระจายไปทั่วปาก ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วงามแน่นเป็นปม
สายตาที่มองซินเอ๋อร์เจ็บปวดอย่างที่สุด
“เจ้ารังเกียจข้าขนาดนั้นเชียวหรือ”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ด้วยเสียงแฝงความเจ็บปวดและแหบพร่า
ซินเอ๋อร์ได้ยิน กลับเพียงน้ำตาไหลไม่หยุด และไม่เอ่ยแม้แต่คำเดียว
น้ำตาแวววาวนั้น ไหลอาบเต็มสองแก้ม ทำให้สีหน้าของเธอซีดขาว
เมื่อเห็นซินเอ๋อร์ร้องห่มร้องไห้ อ้าวเทียนฉีแม้จะเสียใจกับการต่อต้านของเธอเมื่อครู่ แต่เมื่อเห็นท่าทางนี้ของเธอ เขาปวดใจอย่างยิ่ง
เพราะเขาไม่อยากเห็นที่สุดคือ เธอเสียใจ
เวลานี้เห็นน้ำตาของเธอ เจ็บปวดยิ่งกว่ามีดทิ่มแทงลงไปในใจเขา
ดังนั้น อ้าวเทียนฉีที่เดิมทีเศร้าโศก อารมณ์คุกกรุ่น ค่อยๆ สงบลง ทันใดนั้นขยับริมฝีปากเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ ขออภัย เมื่อครู่ข้าเดือดดาลเกินไป ข้าไม่ควร ไม่ควรทำกับเจ้าเช่นนี้”
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงการขออภัย
แต่หลังได้ยินคำพูดเขา ซินเอ๋อร์เพียงร้องไห้ไม่หยุด
เพราะเธอตกใจมากจริงๆ
เห็นซินเอ๋อร์เป็นเช่นนี้ อ้าวเทียนฉีอดยื่นมือลูบใบหน้าไม่ได้ ทันใดนั้นรู้สึกเพียงจมูกตนแสบร้อน และดวงตาร้อนผ่าว
สุดท้าย เขาเพียงเงยหน้าขึ้นมองพระอาทิตย์บนฟ้านั้น ก่อนยิ้มขมขื่น และเอ่ยขึ้น
“ตอนนี้เจ้าคงไม่อยากเห็นข้า เช่นนั้นข้าขอตัว”
อ้าวเทียนฉีเอ่ยจบ จึงหมุนกายจากไป
เห็นชัดว่าคือชายหนุ่มหล่อเหลางามสง่าดังหยก แต่เวลานี้แผ่นหลังของเขา ดูโดดเดี่ยว และโศกเศร้า
ส่วนซินเอ๋อร์ตกใจเพราะเรื่องเมื่อครู่ ดังนั้นหลังชายหนุ่มจากไป ร่างกายคล้ายอ่อนยวบลง นั่งลงบนพื้นอย่างช้าๆ สองมือกอดเข่า ก้มศีรษะลงพร้อมร้องไห้ออกมา
ซินเอ๋อร์ไม่รู้ตนร้องไห้นานเพียงใด หลังร้องไห้เสร็จ เงยหน้าขึ้นมา จึงพบว่าแสงอาทิตย์ร้อนแรงยามบ่าย เปลี่ยนไปใกล้ลับขอบฟ้าแล้ว
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์พลันตกใจที่ตนกลับร้องไห้ตลอดทั้งบ่าย
ก่อนมองพระอาทิตย์ตก ดังไข่เค็มลูกหนึ่ง ค่อยๆ ลับขอบฟ้าไปอย่างเงียบเชียบ
แสงสีส้มนั้น สาดส่องลงมาทำให้พื้นดินงดงามน่าหลงใหล
ภายในนั้นราวกับบทกวีภาพวาด สวยงามเกินบรรยาย
ซินเอ๋อร์จ้องมองพระอาทิตย์อยู่นาน หลังอารมณ์กลับมาสงบเช่นปกติ พลันได้สติ
เมื่อนึกถึงว่าตนร้องไห้อยู่นาน ดวงตาต้องบวมเป่งแน่นอน และเซวียนเฉลียวฉลาด หากเธอกลับไปตอนนี้ ต้องสังเกตเห็นถึงบางสิ่งแน่
เธอไม่ต้องการให้เซวียนเห็น
หากเซวียนรู้เรื่องเมื่อครู่
คิดแล้ว ซินเอ๋อร์หวาดกลัว
ดังนั้น ซินเอ๋อร์อดยืนขึ้น เดินไปที่ริมน้ำไม่ได้ ก่อนล้างหน้า เพื่อให้น้ำในทะเลสาบลดความบวมเป่งของดวงตาลง
แต่ขณะซินเอ๋อร์กำลังล้างหน้า กลับไม่รู้ตัวว่าร่างสูงโปร่งสวยงามร่างหนึ่ง กำลังเดินมาทางด้านหลังของเธออย่างเงียบเชียบ
ขณะซินเอ๋อร์ล้างหน้าเสร็จ กำลังจะยืนขึ้น อดก้มลงมองบนน้ำกระจ่างใสแวววาวด้านหน้าและส่องสำรวจตนเองไม่ได้
เพื่อดูว่าบนใบหน้ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่
ทันใดนั้น ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียง ด้านหลังตนพลันมีร่างสูงโปร่งสวยงามหนึ่งโผล่ขึ้นมา
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์อดตะลึงงันและสงสัยในใจไม่ได้ ก่อนคิดหมุนตัวกลับไปดูว่าผู้ใดอยู่ด้านหลังตน
แต่เธอยังไม่ทันหมุนตัว จู่ๆ ก็มีแรงผลักมาจากด้านหลังของเธออย่างรุนแรง
ซินเอ๋อร์ยังไม่ได้สติ ร่างกายตนถูกผลักลงไปในทะเลสาบ
“แค่กๆ ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
รู้สึกเพียงร่างกายตนถูกล้อมรอบด้วยน้ำเย็นเฉียบ ร่างกายดำดิ่งลงไปใต้น้ำไม่หยุด
ซินเอ๋อร์ตกใจ เพราะเธอว่ายน้ำไม่เป็น
ดังนั้น ซินเอ๋อร์จึงยื่นมือขึ้น ตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ
แต่ไม่ว่าเธอจะตะเกียกตะกายเช่นไร ร่างกายเธอยังคงจมดิ่งลงไปไม่หยุด
สุดท้าย ซินเอ๋อร์จึงเพียงเห็นร่างสูงโปร่งสวยงามร่างหนึ่ง จากนั้นร่างกายเธอก็จมดิ่งลงไปในทะเลสาบที่เย็นเฉียบ
จนกระทั่งน้ำที่เคยหมุนวน เหลือเพียงแรงกระเพื่อมเบาบาง ร่างสวยงามยืนอยู่ริมฝั่ง จึงหมุนกายจากไป
…
“ซินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่ใด!”
หลังร่างสวยงามจากไป ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เข้ามาที่ริมทะเลสาบ
ดวงตาดำขลับคู่นั้น กวาดสอดส่องไม่หยุดอย่างสงสัยและกังวล
และคนผู้นี้ คือเหลิ่งอวี้เซวียน หลังได้รับข่าวจากนางกำนัลก็รีบมาทีนี่