สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 305 ต้องการซินเอ๋อร์ (รีไรท์)
หลังได้ยินคำพูดของอ้าวเทียนเสวี่ย และสีหน้าไม่เชื่อสายตาของเธอ เหลิ่งอวี้เซวียนพลันเข้าใจขึ้นมา ว่าเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่
ที่ผ่านมา เขารู้ว่าหญิงตรงหน้านี้มีอุบายมากมาย ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้ซินเอ๋อร์ใกล้ชิดกับหญิงสาวผู้นี้
วันนี้ ความจริงเขาไม่ยินยอมมาที่นี่ แต่กลับปฏิเสธซินเอ๋อร์ไม่ได้ หลังเขามาถึงที่นี่ ล้วนระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา คิดไม่ถึงยังหลงกลของหญิงสาวผู้นี้
โชคดีช่วงสุดท้าย จิตใจเขาควบคุมฤทธิ์ยานี้ไว้ได้ จึงได้สติขึ้นมา
พอคิดถึงตรงนี้ ดวงตาของเหลิ่งอวี้เซวียนเบิกกว้าง สายตาที่มองอ้าวเทียนเสวี่ย แฝงด้วยความโมโหคุกกรุ่น ก่อนกัดฟันกรอดเอ่ยขึ้น
“เจ้ากล้าวางยาข้า!”
“ข้า ข้า ข้าไม่ได้ทำ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งอวี้เซวียน อ้าวเทียนเสวี่ยตกใจ ทว่าเธอยังกัดฟันไม่ยอมรับ
แต่เธอกลับไม่รู้ว่าสีหน้าหวาดหวั่นของตน ได้เผยความในใจของเธอออกมาจนหมด
เหลิ่งอวี้เซวียนเห็น เหลือบมองไปยังกระถางกำยานด้านข้างที่ยังมีควันลอยอยู่ด้านบนนั้น
เมื่อสูดกลิ่นกุหลาบหอมกรุ่นนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนรู้สึกส่วนลึกบนกายตน กำลังมีสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง บ้าคลั่งอาละวาดโดยไม่สามารถควบคุมได้
หลังรับรู้ถึงเรื่องนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนพลันพุ่งเข้าไป ก่อนสะบัดมือใหญ่
ได้ยินเพียงเสียง ‘เคร้ง’ ดังขึ้น พร้อมกำยานสีทองนั้นพลันถูกเขากวาดลงบนพื้น
เมื่อได้ยินเสียงรุนแรงนั้น อ้าวเทียนเสวี่ยตกใจอย่างหนัก
เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้า ดวงตาแดงก่ำ ริมฝีปากแดง หน้าอกแกร่งนั้น กระเพื่อมขึ้นลงอย่างน่ากลัว
เห็นเช่นนั้น อ้าวเทียนเสวี่ยหวาดกลัวในใจอย่างยิ่ง และหดตัวไปอยู่ที่มุม
“เจ้า เจ้าคิดทำอันใด เจ้า เจ้าอย่าเข้ามาเด็ดขาด”
อ้าวเทียนเสวี่ยเอ่ยอย่างตื่นตระหนก
เมื่อครู่เธอเต็มใจรอคอยการเข้ามาของชายหนุ่ม แต่นั่นอยู่ในสถานการณ์ที่เขายังไม่ได้สติ
แต่เวลานี้ เห็นชายหนุ่มดวงตาแดงก่ำ ร่างกายเต็มไปด้วยไอโหดเหี้ยม เดินตรงเข้ามาหาเธอทีละก้าว
ท่าทางนั้น คล้ายพญายมเดินขึ้นมาจากนรกขุมที่สิบแปด น่าสยดสยอง
เวลานี้ อ้าวเทียนเสวี่ยหวาดกลัวจริงๆ
แต่เหลิ่งอวี้เซวียนขณะเดินถึงด้านหน้าอ้าวเทียนเสวี่ย กลับหยุดลง ทันใดนั้นโน้มกายลง ยื่นมือใช้ปลายนิ้วบีบคางอ้าวเทียนเสวี่ยแน่น ก่อนยิ้มเอ่ยอย่างดูถูก
“เจ้าคิดว่าข้าจะทำอันใดเจ้า เจ้าคู่ควรหรือ ฮึ!”
เหลิ่งอวี้เซวียนแค่นเสียงอย่างเย็นชา ทันใดนั้นลุกขึ้น ก่อนหมุนกายจากไปอย่างไม่ลังเล
เมื่อเห็นร่างเหลิ่งอวี้เซวียนหมุนจากไป อ้าวเทียนเสวี่ยที่ใจหวาดหวั่น พลันสงบลง
แต่ทันใดนั้น ความรู้สึกอัปยศดุจน้ำไหลทะลักถาโถมเข้าหาเธอ
คิดแล้ว ชีวิตนี้ของเธอ ไม่เคยไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมเช่นนี้มาก่อน!
และความอัปยศนี้ เป็นเพราะหญิงชั้นต่ำผู้นั้น ดังนั้น…
“หญิงชั้นต่ำ ข้าต้องสังหารเจ้า!”
…
เหลิ่งอวี้เซวียนใช้วิชาตัวเบา กลับมายังตำหนักทอแสงอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า
พุ่งตรงไปที่ห้องของซินเอ๋อร์
เพราะเมื่อครู่เขาเพิ่งรู้ว่าหลังได้สติ ไม่เห็นซินเอ๋อร์
เขากังวล หวาดกลัวว่าซินเอ๋อร์จะได้รับอันตราย
ดังนั้นใจจึงอยู่ที่ซินเอ๋อร์ หลังออกจากตำหนักหลิงซิน พุ่งตรงมาที่ห้องพักของซินเอ๋อร์
จนกระทั่ง ในที่สุดเห็นร่างเล็กของซินเอ๋อร์นอนฝันหวานอย่างปลอดภัยอยู่บนเตียง เหลิ่งอวี้เซวียนที่ว้าวุ่นใจ พลันสงบใจลง
แต่หัวใจสงบลงไม่นาน เมื่อครู่เพราะเขาออกแรง จึงทำให้เลือดเดือดพล่าน จนฤทธิ์ยาที่เขาข่มลงอย่างไม่ง่ายดายเมื่อครู่กำเริบขึ้นมาอีกครั้ง
โดยเฉพาะเมื่อตรงหน้าเขาคือ คนที่งดงามนอนอยู่ตรงนั้น
แสงจันทร์กระจ่างใส สาดเข้ามาทางหน้าต่างลายสลักที่เปิดอ้าไว้นั้น ทำให้ห้องสว่างชัดกว่าเจ็ดแปดส่วน ทำให้คืนนี้ แฝงไปด้วยความละมุนละไมหลายส่วน
แสงจันทร์นั้นอาบไล้ลงบนกายของคนตัวเล็ก ทำให้คนตัวเล็กที่ถูกห่อหุ้มด้วยแสงกระจ่างใสอ่อนโยนนั้น ดูน่าหลงใหล ดุจเทพธิดา สวยงามดังบทกวีและความฝัน
เมื่อเห็นคนตัวเล็กบนเตียงหลับฝันหวาน เธอหอมหวานขนาดนี้ คล้ายลูกท้อเพิ่งสุกงอม กำลังส่งสิ่งกลิ่นหอมหวานออกมา กำลังดึงดูดเขาไว้ ทำให้เขาอดเข้าใกล้เธอเรื่อยๆ ไม่ได้
และเขาก็ทำเช่นนั้น
เหลิ่งอวี้เซวียนค่อยๆ เคลื่อนกาย เข้ามา แม้จะข่มความปรารถนาไว้ในใจตลอดเวลา แต่เขายังอดเข้าใกล้คนตัวเล็กนี้ไม่ได้
เมื่อเห็นปากเล็กน่ารักของคนตัวเล็กนั้น ทำให้เขาอดเคลื่อนกายเข้าไปอยู่ระดับเดียวกับปากเล็กหอมหวานนั้นไม่ได้
และเขาก็ทำเช่นนั้นจริง
เมื่อรู้สึกความอ่อนนุ่มหอมหวานนั้นบนริมฝีปากตน ทำให้เหลิ่งอวี้เซวียนอดอุทานอย่างสบายใจไม่ได้
ริมฝีปากเล็กนี้ หอมหวานอย่างยิ่งจริงดังที่คิด ดุจลูกท้อหอมหวาน ทำให้คนที่ได้ลิ้มลอง ไม่อาจลืมเลือน
ก่อนจุมพิตแผ่วเบา ไม่อาจควบคุมได้
เหลิ่งอี้เซวียนรู้สึกเพียงภายในร่างกายตนกำลังมีกลุ่มไฟลุกโชนไม่หยุด และยิ่งโหมกระหน่ำรุนแรงมากขึ้น
ดังนั้น จุมพิตจึงค่อยๆ เปลี่ยนไปร้อนแรง ดุดันยิ่งขึ้น
ลิ้นยาวเปิดริมฝีปากที่ปิดอยู่ออกอย่างชำนาญ ก่อนแงะฟันน่ารักนั้นออกอย่างง่ายดาย แล้วสอดลิ้นเข้าไป กวาดกลืนน้ำหวานภายในปากนั้นไม่หยุด และพัวพันกับลิ้นเล็กอ่อนนุ่มหอม หวานแน่น
จุมพิตของเหลิ่งอวี้เซวียนร้อนแรง ราวกับนักท่องเที่ยวขาดน้ำกลางทะเลทราย หลังพบแหล่งน้ำ ดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง
คนที่กำลังหลับฝันหวานค่อยๆ ได้สติ เพราะการกระทำนี้
“อือ”
ซินเอ๋อร์ที่หลับสนิท รู้สึกเพียงภายในปากมีบางสิ่งชุ่มชื้นพัวพันไม่หยุด
เดิมทีคิดว่า เธอกำลังอยู่ในความฝัน
เพราะสมองเธอเวลานี้ยังมึนงง คล้ายหลับไปนานราวศตวรรษ และยังไม่ได้สติเต็มที่
แต่เวลาผ่านไป เธอกลับรู้สึกมีบางสิ่งผิดปกติ
ดังนั้น อดกระพริบตาชั่วขณะ ก่อนลืมตาขึ้นอย่างสะลืมสะลือไม่ได้
สิ่งที่เข้ามาสู่สายตาคือความมืดมิด
ทำให้ซินเอ๋อร์มองไม่ชัดว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่
แต่เมื่อเธอคุ้นชินกับความมืดมิดนั้น และเพราะแสงสว่างจากดวงจันทร์ จึงมองเห็นรอบด้านได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาในระยะประชิด ซินเอ๋อร์ตกใจราวกับถูกฟ้าผ่าลงม มา ภายในสมองระเบิด ‘ตูม’ พลันขาวโพลน
ดวงตาสะลืมสะลือคู่นั้น เวลานี้เบิกกว้างดุจระฆัง
ในใจตกตะลึง
สวรรค์ เธอกำลังฝันหรือ!
เหตุใดเซวียนจึงอยู่บนตัวเธอ!
และยังจุมพิตเธอ!
ซินเอ๋อร์ตกตะลึงในใจ ก่อนรู้สึกว่าลิ้นของอีกฝ่ายยังสอดเคลื่อนไหวอยู่ภายในปากของตนไม่หยุด ดังนั้นจึงอดบิดศีรษะ เพื่อหนีจากจุมพิตชายหนุ่มไม่ได้
“อือ เซวียน ท่านเป็นอันใด ”
“ซินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์ของข้า”
หลังได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนรู้ว่าซินเอ๋อร์ตื่นขึ้นมาแล้ว
เขารู้ถึงการดิ้นรนของซินเอ๋อร์ และเขารู้ว่าเวลานี้ เขาควรหยุดลงชัดๆ แต่ไม่รู้ว่าไฟปรารถนาดุเดือดภายในร่างกายนั้นกำลังควบคุมเขา หรือเขาต้องการสาวน้อยงดงามหอมหวานตรงหน น้านี้จริงๆ ดังนั้น จึงทำให้เขายิ่งไม่อาจควบคุมตนเองได้
“ซินเอ๋อร์ ข้าต้องการเจ้า”
เสียงแหบพร่าที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมา ในคืนมืดมิดเช่นนี้จึงน่าสัมผัสและเต็มไปด้วยความต้องการครอบครอง
คล้ายสัตว์ร้ายออกหากินยามกลางคืน เวลานี้จับเหยื่อของตนได้ กำลังคิดเสพสุข และซินเอ๋อร์เวลานี้ คืออาหารเย็นในปากของเขา
ส่วนซินเอ๋อร์ หลังรับรู้ถึงเรื่องนี้ ในใจหวาดกลัวและตื่นตระหนกที่สุด
เพราะคืนนี้ เธอรู้สึกว่าเซวียนประหลาดไป แต่เมื่อครู่เธอบอกไม่ถูกว่าเขาประหลาดที่ใด
และเมื่อครู่เธอจำได้ชัดว่าตนอยู่กับองค์หญิงอ้าวเทียนเสวี่ยกำลังชื่นมดอกไม้ในสวนมิใช่หรือ!
เหตุใดตอนนี้ เธอกลับมาอยู่ที่นี่!
และเซวียน เหตุใดจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้!
จากจุมพิตดุดันของเขา ลมหายใจติดขัด ความต้องการที่กระจายออกมาจากกาย ต่างประกาศชัดเจนว่า
เขาต้องการเธอ!
หลังรู้สึกถึงเรื่องนี้ ซินเอ๋อร์ตกใจ พลันดิ้นอย่างสุดกำลังไม่หยุด
แต่เมื่อมือสัมผัสถูกร่างกายร้อนผ่าวเช่นนี้ คล้ายมีไฟกำลังลุกโชนขึ้นมา แม้จะมีเนื้อผ้ากั้นหลายชั้น แต่สามารถเผาทำลายมือได้
หลังรับรู้เรื่องนี้ ซินเอ๋อร์สงสัยและกังวลในใจ
เหตุใดร่างกายเซวียนจึงร้อนเช่นนี้ และคืนนี้เซวียนผิดปกติ
หากเป็นปกติ เซวียนจะไม่เข้าห้องของเธอ และไม่ทำกับเธออย่างไร้สาเหตุเช่นนี้
นอกจาก...
“เซวียน ท่าน ท่านถูกคนวางยาหรือ!”
ซินเอ๋อร์เพียงลองเอ่ยถาม กลับคิดไม่ถึง ชายหนุ่มกลับพยักหน้าตามจริง
“อืม ซินเอ๋อร์ ตอนนี้ข้าทรมานยิ่งนัก ข้าต้องการ คล้ายต้องการ…”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างแหบพร่า สติคล้ายไม่แจ่มชัดหลายส่วน
เหลิ่งอวี้เซวียนเวลานี้ รู้สึกเพียงตนใกล้จะระเบิด
ทั่วร่างกาย คล้ายนั่งอยู่บนเตาไฟขนาดใหญ่แผดเผาไม่หยุด จนทำเขาให้เสียสติ
และกลุ่มไฟในส่วนลึกของร่างกายเขานั้น เดือดดาลลุกโชนขึ้นมาไม่หยุด
เวลานี้สิ่งเดียวที่เขาจะทำคือระบายมันออกมา
และสาวน้อยหอมหวานตรงหน้านี้ คล้ายลำธารเล็กเย็นสดชื่น สามารถมอดดับไฟทั่วร่างกายเขาได้
กอดเธอ จุมพิตเธอเช่นนี้ ล้วนทำให้เขาพลันรู้สึกดีไม่น้อย
แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงพอ เขาต้องการมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ
เหลิ่งอวี้เซวียนคิดในใจ ก่อนจุมพิตร้อนแรงดุจเม็ดฝน พรมไปทั่วใบหน้าและร่างกายของซินเอ๋อร์ไม่หยุด
สำหรับจุมพิตร้อนแรงของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์อดหลบหลีกไม่ได้
“เซวียน ไม่ ไม่…”
“ซินเอ๋อร์ ข้าทรมานยิ่งนัก ทรมาน…”
สำหรับการดิ้นรนของซินเอ๋อร์ ทำให้เหลิ่งอวี้เซวียนรู้สึกเพียงตื่นเต้นมากขึ้น
เขารู้ชัดเจนว่าตนควรหยุด แต่เมื่อเขาเห็นสาวน้อยหอมหวานใต้ร่าง ได้กลิ่นหอมหวานกระจายออกมาจากตัวเธอที่เป็นเอกลักษณ์ คล้ายเขาอดกลั้นไม่ได้
“ซินเอ๋อร์ ข้ารักเจ้า”
เหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยขึ้น ทันใดนั้นยื่นมือใหญ่ออกไป เมื่อเสียง ‘แคว่ก’ ดังขึ้น ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงเย็นเฉียบที่หน้าอก และเสื้อผ้าบนกายเธอขาดวิ่น