สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 306 หลังพัวพัน (รีไรท์)
เช้าตรู่วันถัดมา แสงแดดเล็ดรอดเข้ามาทางหน้าต่างลายสลักที่เปิดอ้าไว้ ขนตาของซินเอ๋อร์ค่อยๆ สั่นเทาชั่วขณะ ก่อนลืมตาขึ้นมา
สิ่งแรกที่รู้สึกหลังซินเอ๋อร์ตื่นขึ้นมา คือทั่วร่างกายดุจถูกรถม้าชนจนตัวปลิว กระดูกทั่วร่างกายต่างแตกหัก
ความปวดเมื่อยนั้น ทำให้ซินเอ๋อร์กระทั่งไร้เรี่ยวแรงขยับนิ้ว
สิ่งสำคัญคือท่อนล่างบริเวณนั้น เจ็บปวดสุดชีวิต คล้ายถูกคนฉีกขาดแยกออกจากกัน ซินเอ๋อร์เจ็บจนต้องร้องครางออกมา
แต่เมื่อซินเอ๋อร์รู้สึกปวดเมื่อยร่างกายมากขึ้น เหลือบเห็นชายหนุ่มที่กำลังนอนนิ่งอยู่ด้านข้างตน ร่างกายเธอพลัน ‘ตูม’ ตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก
ดวงตาคู่งามงัวเงียนั้นเบิกกว้างดุจระฆัง ปากเล็กก็อ้าค้าง จนนกกระจอกบินเข้าไปได้
เห็นเพียงเวลานี้ ชายหนุ่มนอนอยู่ข้างเธอยังหลับสนิท
แสงอาทิตย์ด้านนอกเพริศพริ้ง กระจ่างใส ยังไม่ได้ร้อนอบอ้าว สาดลงมาบนกายชายหนุ่มอย่างอบอุ่น
แสงสีทองนั้นสว่างไสวไปทั่วห้อง และโอบล้อมชายหนุ่มข้างกายเธอไว้ ทำให้เขาหล่อเหลาดังเทพเซียน สบายตาจนทำให้คนไม่อาจละสายตาได้เช่นนี้
เวลานี้ชายหนุ่มเปลือยเปล่า ไร้อาภรณ์สวมติดกาย รูปร่างแข็งแกร่ง สูงโปร่งนั้นของเขา เปิดเผยออกมาสู่สายตาหมดทุกส่วน
สีผิวชายหนุ่มเป็นสีน้ำตาลดูเข้มแข็ง ไหล่กว้างเอวคอด สองขาเรียวตรง ไร้ส่วนเกินบนร่างกาย และกล้ามเนื้อแน่นนูนเป็นก้อนนั้น แบ่งแยกกันชัดเจน และจะมีเพียงคนที่ฝึกวรยุทธ์ เท่านั้นที่จะมีได้
เมื่อเห็นกล้ามเนื้อแน่นที่ภายในคล้ายซ่อนพลังไว้มากมายไร้ขีดจำกัดนั้น ก็รู้สึกถึงความปลอดภัย
และหลังจากมองกล้ามเนื้อแข็งแกร่งของชายหนุ่มลงไป
สายตาของซินเอ๋อร์ตกอยู่ที่ระหว่างต้นขาของชายหนุ่ม ก่อนใจหายวาบ
สวรรค์!
ใหญ่ยิ่งนัก!
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์อดกลืนน้ำลายอย่างขลาดกลัวไม่ได้ และเมื่อเห็นสิ่งขนาดมหึมานี้ ภายในสมองของซินเอ๋อร์ พลันพรั่งพรูเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนขึ้นมา
เมื่อคืนชายหนุ่มผลุนผลันเข้ามาในห้องพักเธอ และจุมพิตเธออย่างลึกซึ้ง จากนั้นฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเธอ และ…
ตอนแรกเธอขัดขืนอย่างหนัก แต่สุดท้ายขณะถูกชายหนุ่มกระตุ้น กลับอ่อนระทวยลงอย่างช้าๆ
สุดท้าย หลังผ่านความเจ็บปวดครั้งแรก อดคล้อยตามชายหนุ่มไม่ได้ ก่อนไปถึงจุดสุดยอดอันมีความสุขพร้อมกัน
เวลานี้ภายในสมองซินเอ๋อร์ยังนึกถึงเสียงครวญครางอันน่าอายของตนเมื่อคืนไม่หยุด
สวรรค์ เสียงวาบหวามชวนฟังนั้น คือเสียงเธอจริงหรือ!
สวรรค์ น่าอับอายยิ่งนัก!
ซินเอ๋อร์ยิ่งคิดในใจ รู้สึกเพียงความร้อนระอุ พุ่งจากในใจขึ้นสู่เหนือศีรษะออกไป
สองแก้มร้อนผ่าว ดุจน้ำต้มเดือด แม้ซินเอ๋อร์จะไม่ส่องกระจก ทราบดีว่าตนเวลานี้ต้องหน้าแดงแน่นอน
สวรรค์ เธอไม่ควรคิดต่อไป ยิ่งคิดเธอไม่รู้ควรเอาหน้าไปวางไว้ที่ใด
ซินเอ๋อร์คิดในใจ ก่อนเห็นชายหนุ่มไม่ได้ตื่นขึ้นมา จึงคิดแอบหนีไป
เพราะเธอไม่รู้ว่าควรเผชิญหน้ากับชายหนุ่มเช่นไร
ดังนั้น เธอต้องรีบหนี!
ซินเอ๋อร์คิดในใจ และเริ่มขยับตัว
แต่ทันใดนั้น เธอจึงรู้สึกตัวว่าเอวเล็กของตน กำลังถูกแขนทรงพลังของชายหนุ่มโอบรัดไว้อย่างแน่นหนา!
ชายหนุ่มนอนตะแคง และเธอขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างแนบแน่น
ท่าทางนี้ อบอุ่นแต่แฝงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ทั้งเขินอายและแฝงความหวานชื่นในใจ
มุมปากปรากฎรอยยิ้มแห่งความสุขออกมาอย่างช้าๆ โดยที่กระทั่งเธอไม่รู้ตัว
ทันใดนั้น ยื่นมือเรียวดึงแขนชายหนุ่มขึ้น เพียงเล็กน้อยเพื่อขยับตัวออก
ซินเอ๋อร์เวลานี้ไม่กล้าแม้แต่หายใจ เพราะกลัวจะทำให้ชายหนุ่มข้างกายตื่นขึ้นมา
ทว่าไม่รู้ชายหนุ่มหลับสนิทเกินไปหรือไม่ เพราะเมื่อเธอย้ายมือเขาออก เขาไม่ตื่นขึ้นมา
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ที่หวาดหวั่นพลันสงบใจลง ค่อยๆ ลุกขึ้น หมายลงจากเตียงไป
แต่เมื่อเธอลุกขึ้น ผ้าห่มคลุมบนกายเธอหลุดลงอย่างรวดเร็ว
ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงร่างกายเย็นเฉียบ จึงก้มลงมองอย่างรวดเร็ว ไม่มองยังดี เพราะเพียงมองซินเอ๋อร์อดตกตะลึงอีกครั้งไม่ได้
เห็นเพียงบนร่างกายขาวผ่องเกลี้งเกลาของตน เต็มไปด้วยรอยแดงใหญ่น้อยสีเข้มและจางมากมาย
นั่นคือรอยที่ชายหนุ่มทิ้งไว้เมื่อคืน
เพียงนึกถึงชายหนุ่มใช้ริมฝีปากร้อนผ่าวนั้นของเขา จุมพิตทั่วร่างกายเธอ กระทั่งหัวแม่เท้าก็ไม่ว่างเว้น ทำให้ซินเอ๋อร์เขินอายสุดชีวิต
แม้เธอจะเขินอาย แต่กลับยากที่จะลืมเลือนคืนอันดุเดือดของทั้งสองคนเมื่อคืน
ทุกบริเวณที่ถูกจุมพิตร้อนแรง คล้ายแฝงด้วยมนตร์เสน่ห์ของชายหนุ่มเคลื่อนไป เต็มไปด้วยประกายไฟ ทำให้เธอร้อนรุ่มขึ้นมา
เพียงนึกถึง ซินเอ๋อร์รู้สึกเขินอาย และรักใคร่อย่างแปลกประหลาดในใจ
เฮ้อ คิดต่อไปไม่ได้ เธออับอายยิ่งนัก ตอนนี้เวลาใดแล้ว ยังจะคิดถึงเรื่องพวกนี้อีก
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ทั้งเขินอายและหงุดหงิด
ทันใดนั้น สะบัดศีรษะตนอย่างแรง คล้ายทำเช่นนี้ จะสามารถสลัดความคิดที่ไม่ควรคิดออกไปได้
แต่ซินเอ๋อร์เพิ่งแตะเท้าลงบนข้างเตียง วางแผนสวมใส่เสื้อผ้า ก่อนจากไป
ซินเอ๋อร์รู้สึกพลันแน่นที่เอว ก่อนแขนทรงพลังจะโอบรัดเอวเล็กของเธอไว้
จากนั้นถูกดึงไป ก่อนซินเอ๋อร์พลันล้มลงบนเตียง
ทันใดนั้น เสียงแฝงความแหบพร่าเจ็ดส่วน ทรงเสน่ห์สามส่วน ดังขึ้นอย่างช้าๆ เหนือศีรษะ
“คนงามของข้า จะไปที่ใดหรือ!”
“เอ่อ”
เมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูชวนหลงใหลนี้ ซินเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น ก่อนอดมองชายหนุ่มที่กำลังคร่อมทับเธออยู่ไม่ได้
เห็นเพียงเวลานี้ชายหนุ่มกำลังคร่อมทับเธอไว้แน่น
ชายหนุ่มรูปร่างกำยำล่ำสัน ราวกับเสือชีต้าร์ผึ่งผายตัวหนึ่ง เวลานี้ร่างกายเขาทับอยู่บนกายเธอ ทำให้ซินเอ๋อร์รู้สึกคล้าบภูเขาสูงใหญ่กำลังกักขังเธอไว้
และใบหน้าหล่อเหลานั้น อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม
แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นใบหน้าหล่อเหลานี้ แต่ไม่รู้เพราะผ่านเรื่องเมื่อคืนมา หรือเพราะเหตุใด ซินเอ๋อร์รู้สึกใบหน้านี้น่ามองอย่างเหลือเชื่อ
คิ้วกระบี่โก่งยาวไปถึงจอนผม เปี่ยมด้วยความเด็ดเดี่ยว ปราดเปรียว
ดวงตาแคบยาวดำขลับคู่นั้น ดุจบ่อน้ำลึก มองเห็นเงียบสงบ แต่ภายในเต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาด คาดเดาไม่ได้
จมูกโด่งงามสง่า ริมฝีปากดุจประติมากรรม เวลานี้กำลังยกขึ้นเล็กน้อย
รอยยิ้มนั้นแฝงด้วยความร้ายกาจเจ็ดส่วน เกียจคร้านสามส่วน เข้ากับรอยยิ้มในดวงตาของเขาที่ร้อนแรงแต่ไม่แปลกตานั้น ทำให้ซินเอ๋อร์มองอย่างลุ่มหลง ขณะเดียวกันหนังศีรษะชาวาบ
เพราะชายผู้นี้ ใช้สายตาร้อนแรงมองเธอเช่นนี้ จับเธอกินจนไม่เหลือซาก จากนั้นพลิกตัวเธอไปมาตลอดคืน
เธอไม่รู้ว่าตนหมดสติไปกี่รอบ
จำได้เพียงทุกครั้งที่ความหฤหรรษ์ถาโถมเข้าหาเธอ เธอทนไม่ไหวและกรีดร้อง พลันหมดสติไป
เพียงลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าชายหนุ่มยังคงเคลื่อนไหวอยู่บนกายเธอไม่หยุดอย่างป่าเถื่อน ดุดันเช่นนี้
เพียงนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ซินเอ๋อร์อดหวาดหวั่นในใจ และมองชายหนุ่มอย่างขลาดกลัวไม่ได้
สองแก้มแดงระเรื่ออย่างเขินอาย ทำให้เธองดงามยิ่งกว่าบุปผา
เห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มพลันมองอย่างเลื่อนลอย
เห็นเพียงสาวน้อยตรงหน้า ใบหน้างดงาม สองแก้มแดงระรื่อ สดใสมีชีวิตชีวา
เธอเวลานี้ อาจเพราะผ่านเรื่องเมื่อคืนมา จึงเปลี่ยนจากสาวน้อยบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เป็นสาวน้อยดังเช่นในตอนนี้
ใบหน้างามพริ้ง แววตาเขินอาย ทำให้เธองดงามเย้ายวนใจ
สมกับเป็นหญิงงามเสียจริง!
เพียงมองเธอเช่นนี้ ทำให้เขาจิตใจฟุ้งซ่าน ในใจสั่นไหวไม่หยุด
ความร้อนรุ่มทะลักขึ้นในใจเขาอย่างรวดเร็ว
ความร้อนรุ่มคุ้นเคยเช่นนี้ อาจเทียบไม่ได้กับการถูกยาปลุกกำหนัดเมื่อคืน แต่เขาเวลานี้ลุ่มหลงในตัวสาวน้อยตรงหน้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
จากใบหน้างดงามนั้นของสาวน้อย คือคอเรียว ไหล่มนน่าสัมผัส และกระต่ายหยกเล็กพอเหมาะคู่นั้น
เห็นเช่นนั้น ดวงตาของเหลิ่งอวี้เซวียนมืดมน ก่อนปรากฎความมัวเมาและร้อนรุ่มขึ้น
ภายในหัวพรั่งพรูเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาไม่หยุด
นึกถึงสาวน้อยนี้ถูกจับพลิกครอบครองอยู่ใต้ร่างเขา เสียงครวญครางไพเราะ และแววตาเต็มไปด้วยไฟปรารถนาเย้ายวน และอ่อนหวานนั้น ทำให้ไฟราคะลุกโชน!
เวลานี้บนกายสาวน้อย ผิวที่เคยขาวผ่องดังหิมะ เต็มไปด้วยรอยตีตราของเขา แสดงชัดว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนคือความจริง
สาวน้อยผู้นี้ เวลานี้กลายเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์!
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนปลื้มใจอย่างหนัก
เพราะตั้งแต่เด็ก เขาตั้งปณิธานว่า เมื่อเติบใหญ่จะแต่งเธอเป็นภรรยา
ทั้งสองแยกจากกันหลายปี เดิมทีคิดว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่ได้พบเธออีก คิดไม่ถึงว่าเธอจะปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าเขาอีกครั้ง และล้มเข้าสู่อ้อมกอดเขาเช่นนี้ นี่คือความจริง
ทำให้เขารู้ว่านี่คือพรหมลิขิต เธอเป็นของเขา!
เวลานี้ในที่สุดเป็นของเขาแล้ว!
ฮ่า ๆ…
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนตื่นเต้นดีใจ และสายตาที่มองซินเอ๋อร์แฝงไปด้วยความร้อนแรงอย่างไม่ปิดบัง
ก่อนกล่าวยิ้มๆ ขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ ตอนนี้ข้าดีใจจริงๆ เพราะในที่สุดเจ้ากลายเป็นผู้หญิงของข้า เวลานี้ข้ารอมาเนิ่นนานยิ่งนัก”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงแฝงความสุข ตื่นเต้น และความรักอย่างไม่ปิดบัง
อาจเพราะรับรู้ถึงความรักภายในน้ำเสียงของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์จึงมีสีหน้าเขินอาย แม้จะดีใจในใจ แต่กลับเขินอาย
ก่อนอดเรียกเบาๆ ไม่ได้ว่า
“เซวียน”
ซินเอ๋อร์เอ่ยขึ้น แต่เธอยังเอ่ยไม่จบ ถูกจุมพิตร้อนแรงของชายหนุ่มประกบลงมา