สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 312 คนในศาลาพักร้อน
ซินเอ๋อร์ร้องดีใจ ทันใดนั้นพุ่งไปที่ลูกสุนัขตัวนั้น
เพราะซินเอ๋อร์นอกจากชื่นชอบเด็ก ยังชื่นชอบสัตว์ประเภทขนปุกปุยเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะลูกสุนัขตัวนี้ ช่างน่ารักเสียจริง
ขนปุกปุยทั่วตัวนั้น สีขาวผ่อง ไร้สิ่งสกปรก
ใบหูเล็กทรงสามเหลี่ยม ดวงตาเล็กดำสนิท เข้ากับจมูกเล็กสีชมพูและลิ้นเล็กแลบออกมาไม่หยุดนั้น ไม่ว่าจะมองเช่นไร ต่างทำให้ผู้นชื่นชอบ
อาจเพราะรับรู้ถึงวามชื่นชอบที่ซินเอ๋อร์มีต่อตน หลังจากลูกสุนัขสีขาวตัวนั้นถูกเธออุ้มขึ้นมา มันไม่ถือตัว และปล่อยให้เธออุ้มอย่างเชื่อฟัง บางรั้งยังใช้ลิ้นเล็กสีชมพูของมันนั้นเลียมือของซินเอ๋อร์ ทำให้เธอหัวเราะสดใส
เสียงหัวเราะน่าฟังนั้น ดังออกมาจากปากของซินเอ๋อร์ไม่หยุด เหลิ่งอวี้เซวียนมองอยู่ด้านข้างทั้งดีใจและริษยา
ทันใดนั้น อดเอ่ยกับซินเอ๋อร์อย่างแง่งอนไม่ได้
“ซินเอ๋อร์ เจ้าลำเอียงจริงๆ เจ้าดีกับลูกสุนัขตัวหนึ่งกว่าข้าเสียอีก”
หลังได้ยิน ซินเอ๋อร์หันมองไป เห็นชายหนุ่มสง่างาม เวลานี้กำลังมองเธออย่างขุ่นเือง ทำให้นรู้สึกขบขัน
ซินเอ๋อร์ล้ายนึกถึงบางสิ่งขึ้นมา จึงเอ่ยขึ้นว่า
“เป็นอันใด หรือบุรุษตัวโตเช่นท่าน กลับหึงหวงกระทั่งลูกสุนัขตัวหนึ่ง!”
“อะไรนะ ข้าหึงหวงลูกสุนัขหรือ!”
หลังได้ยินำพูดซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนขมวดิ้วมุ่น พลันโต้แย้งขึ้น
ทว่าเมื่อเห็นรอยยิ้มดังบุปผาของซินเอ๋อร์ วามโต้แย้งที่มีทั้งหมดพลันเปลี่ยนเป็นท่าทางสง่างาม ก่อนเอ่ยอย่างไม่อายว่า
“ฮ่า ๆ ข้าหึงหวงเจ้าสุนัขตัวน้อยนี้ แล้วเป็นเช่นไร ไม่ได้หรือ!”
“เอ่อ”
หลังได้ยินำพูดของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์พลันไม่รู้วรเอ่ยเช่นใด
เพราะเธอิดไม่ถึงว่าชายผู้นี้ จะเอ่ยำพูดประเภทนี้ออกมา!
ทันใดนั้นทั้งจนใจและขบขัน
หลังหยอกล้อกับเหลิ่งอวี้เซวียน เวลานี้มีองรักษ์นายหนึ่งรีบร้อนเข้ามา
ซินเอ๋อร์รู้จักองรักษ์ผู้นี้ว่าือผู้ใต้บังับบัญชาของเหลิ่งอวี้เซวียน
เห็นเพียงองรักษ์นายนั้นกระซิบบางอย่างกับเหลิ่งอวี้เซวียน ก่อนเขาจะขมวดิ้วมุ่น พลันทำมือให้องรักษ์นายนั้นออกไป
ซินเอ๋อร์เห็นอดเอ่ยถามไม่ได้
“เซวียน เกิดเรื่องใดขึ้นหรือ”
ซินเอ๋อร์เอ่ยถาม เพราะเธอไม่เยเห็นเหลิ่งอวี้เซวียนขมวดิ้วเช่นเมื่อรู่มาก่อน
หลังได้ยิน เหลิ่งอวี้เซวียนเพียงพยักหน้า ก่อนเอ่ยอย่างไม่ปิดบังว่า
“อืม การ้ามีปัญหาเกิดขึ้น เรื่องเล็กน้อย ตอนนี้ข้าต้องไปจัดการ วันนี้เจ้าพักผ่อนให้เร็ว พรุ่งนี้พวกเราจะไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อและเสด็จแม่ และถือโอกาสเอ่ยเรื่องแต่งงานพวกเราแก่พวกท่าน”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนเลิกใบหน้าเล็กที่ก้มต่ำของซินเอ๋อร์ขึ้น ก่อนจุมพิตบนแก้มและหน้าผากของเธอ จึงหมุนตัวจากไป
จนกระทั่งชายหนุ่มหายไปจากสายตา ซินเอ๋อร์จึงดึงสายตากลับมา ก่อนมองลูกสุนัขในมือ
เวลานี้พลบ่ำแล้ว วามมืดเยื้องกรายเข้ามา โมไฟถูกแขวนขึ้น
ซินเอ๋อร์ที่เหนื่อยมาหนึ่งวันหนึ่งืน วามจริงเหนื่อยล้าอย่างยิ่ง
ดังนั้น หลังเล่นกับลูกสุนัขหนึ่งรอบ ให้บ่าวไพร่ยกน้ำเข้ามา เพื่อชำระล้างร่างกาย ก่อนนอนพักผ่อน
แต่ไม่รู้เหตุใด เธอเหนื่อยล้าอย่างชัดเจน แต่เมื่อนอนลงบนเตียงกลับพลิกตัวไปมา
ก่อนยื่นมือลูบไล้ตำแหน่งด้านข้างที่เย็นเฉียบ
เห็นชัดว่าเธอทุกวันเธอเข้านอนเพียงลำพัง เหตุใดเพียงืนเดียว เธอกลับเริ่มไมุ่้นชิน!
วามอิงแอบแนบชิด เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวจริงๆ!
ซินเอ๋อร์ิดในใจไม่หยุดว่าเซวียนใกล้กลับมาแล้ว
ทว่ายิ่งิด ซินเอ๋อร์ยิ่งรออย กลับนอนไม่หลับ
หลังนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่หลายชั่วยาม ซินเอ๋อร์ถอดใจในที่สุด
เมื่อเห็นท้องฟ้ามืดมิดด้านนอก นึกว่าเซวียนอาจจะยังไม่กลับมา
ซินเอ๋อร์จึงผิดหวังในใจ จึงสวมใส่เสื้อผ้า ก่อนอุ้มลูกสุนัขขนปุกปุยขึ้น ิดออกไปเดินเล่น
เพราะหลังเดินเล่น เมื่อกลับมาอาจจะหลับสนิท
หลังิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์พาลูกสุนัขออกไปเดินเล่น โดยไม่ส่งเสียงให้บ่าวผู้ใดรับรู้
เวลานี้เงียบงันและมืดมิด
ยามกลางืนเย็นสบายดังสายน้ำ ดวงดาวเปล่งประกาย
สมกับเป็นวังหลวง แม้จะดึกเช่นนี้ ทุกห้าก้าวยังมีเหล่าโมไฟประดับเต็มทั่ววังหลวง
ท่ามกลางแสงไฟสลัวนั้น ซินเอ๋อร์เดินเอื่อยๆ กลางท้องฟ้ามืดมิด
มือถือเชือกไว้ ลูกสุนัขเดินไปที่ใด เธอจะเดินตามไปที่นั่น
เพราะดึกขนาดนี้ วามจริงเธอไม่รู้ว่าตนวรไปที่ใด
เช่นนั้นเดินตามลูกสุนัขนี้ไปเถิด!
เพราะเมื่อเดินจนเหนื่อยล้า อาจจะทำให้เธอง่วงงุน และสามารถข่มตาหลับได้
ขณะซินเอ๋อร์ิดในใจ จู่ๆ เสียงหัวเราะแฝงรวญรางของหญิงสาวดังเข้ามา
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ซินเอ๋อร์ตะลึงงัน ร่างกายพลันได้สติ
เพราะเสียงนีุ้้นหูยิ่งนัก และเธอเยได้ยินมาไม่น้อย
ขณะซินเอ๋อร์ิดในใจ พลันสังเกตเห็นว่าตนมาถึงสถานที่แปลกตาแห่งหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
ที่นี่ไม่รู้ือตำหนักของผู้ใด เธอเดินบุ่มบ่ามเข้ามาเช่นนี้ หากถูกนพบเห็นเข้า นั่นต้องไม่ดีแน่
ซินเอ๋อร์ิดในใจ ก่อนิดหมุนตัวจากไป
แต่ทันใดนั้น มือของเธอกลับว่างเปล่า เพราะเชือกในมือเธอ พลันหลุดลง
ซินเอ๋อร์ตกใจ ก่อนก้มลงมอง และอดใจหายวาบไม่ได้
เพราะลูกสุนัขที่เดินนำหน้าเธออย่างช้าๆ จู่ๆ ล้ายพบของสนุกเข้า จึงพุ่งทะยานไปด้านหน้า
และสถานที่ที่มันพุ่งตรงไปไม่ใช่ที่ใด แต่เป็นที่มาของเสียงน่าอับอายพวกนั้น
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น ตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน
ิดส่งเสียงเรียกลูกสุนัข แต่ทั้งกลัวถูกนพบเข้า และทำให้ผู้อื่นแตกตื่น
เธอไม่ส่งเสียงงดีกว่า ลูกสุนัขนั้นกลับยิ่งวิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ หลุดจากการวบุมของเธอไป
พอิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ตื่นตระหนก
เมื่อเห็นลูกสุนัขวิ่งห่างจากตนออกไปไกล ซินเอ๋อร์ลังเลชั่วขณะ แต่ยังกัดฟันวิ่งตามไปยังทิศที่ลูกสุนัขวิ่งไป
เธอยิ่งวิ่งตามไปด้านหน้า เสียงน่าอับอายนั้นยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อได้ยิน อดทำให้ซินเอ๋อร์หน้าร้อนผ่าวไม่ได้ แม้จะไม่ส่องกระจก เธอรู้ว่าตนเวลานี้ต้องหน้าแดงดุจก้นลิงแน่นอน
แม้เธอไม่เต็มใจเข้ามาที่นี่ แต่เธอต้องตามลูกสุนัขกลับไป เพราะลูกสุนัขตัวนี้ือของขวัญที่เซวียนมอบให้แก่เธอ เธอจะทำหายได้เช่นไร!
ซินเอ๋อร์ิดในใจ และกลัวร่องรอยของตนถูกพบเข้า ดังนั้นจึงพยายามหลบตามพุ่มไม้และภูเขาจำลองพวกนั้น
ทว่าลูกสุนัขตัวนั้น เมื่อเห็นท่าทางของเธอ พลันตื่นตัวขึ้นมา และิดว่าซินเอ๋อร์กำลังเล่นซ่อนหากับมัน!
ดังนั้น เมื่อซินเอ๋อร์ต้องการจะจับลูกสุนัขตัวนั้น มันพลันวิ่งไปด้านหน้าอย่างซุกซน หลังวิ่งห่างออกไป หยุดลงล้ายรอให้ซินเอ๋อร์ตามไปจับตัวมัน
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์หงุดหงิดในใจ แต่กลับต้องไล่ตามมันไป
ขณะหงุดหงิดในใจ ิดว่ารอให้จับลูกสุนัขได้ ต้องตีก้นมันสักที ผู้ใดให้มันซุกซนเช่นนี้!
ซินเอ๋อร์ิดในใจไม่หยุด วามจริงเป็นเพราะเบี่ยงเบนวามสนใจของตนจากการเลื่อนไหวข้างกาย
เพราะเวลานี้ เธอรู้ดีว่าเสียงน่าอับอายนั้น อยู่ข้างตน
ทว่าแม้เธอจะไม่ตั้งใจฟัง แต่สายตากลับอดมองไม่ได้
เพราะเธอกลัวนด้านข้างจะเห็นเธอเข้า
ทว่าเธอไม่มองงดีกว่า เพราะเพียงมองข้างกายนั้น ซินเอ๋อร์ตกใจจนร่างกายสั่นเทิ้ม ดวงตาู่งามพลันเบิกกว้าง
เห็นเพียงในศาลาแปดเหลี่ยมแห่งนี้ ด้านนอกมีภูเขาจำลองน้ำตก หมู่บุปผาเบ่งบ่าน
ด้านในศาลาม่านโปร่งจรดลง พริ้วไหวตามสายลมไม่หยุด
จากนั้นกลิ่นสุรากระจายออกมาจากด้านในศาลา
เมื่อซินเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น กวาดมองศาลาด้านข้าง กลับมีสายลมพัดเข้ามาพอดี จนม่านโปร่งพริ้วไหวขึ้น ภาพในศาลาพลันเปิดเผยสู่สายตาของซินเอ๋อร์
ภายในศาลากำลังมีชายหญิงู่หนึ่งกำลังพัวพันกันอยู่
เห็นเพียงชายหนุ่มนั่งอยู่ริมเก้าอี้ มือถือจอกสุราหยก แต่งกายหรูหรา ในวามสูงส่งแฝงด้วยวามเกียจร้านและเสน่ห์ร้ายกาจ กระต้นเย้ายวนใจอย่างมาก
เพราะชายหนุ่มหันหลังให้กับซินเอ๋อร์ ดังนั้นซินเอ๋อร์จึงมองไม่เห็นใบหน้าของเขา ทว่าเมื่อมองจากแผ่นหลังของชายหนุ่ม เธอรู้สึกุ้นตาอย่างยิ่ง ล้ายชายผู้นี้ เธอเยพบหน้ามาก่อน
แต่ทันใดนั้น เธอกลับนึกไม่ออกว่าเจอชายหนุ่มผู้นี้ที่ใด
ก่อนเหลือบมองไปเห็นชายหนุ่มกำลังทำบางอย่างกลับหญิงรูปร่างอ่อนช้อยในอ้อมกอด
จากการแต่งกายของหญิงสาวพอทราบว่า นี่ือนางกำนัลผู้หนึ่ง!
ิดไปแล้ว น่าจะเป็นบุตรหลานของฮ่องเต้ กำลังหยอกล้อกับนางกำนัล!
แม้ซินเอ๋อร์จะไร้เดียงสา แต่จากวันประสูติกาลของฮ่องเต้วันนั้น หลังเห็นองรักษ์และนางกำนัลแอบลักลอบมีวามสัมพันธ์กัน เธอรู้ว่าวังหลวงแห่งนี้ ือสถานที่สับสนวุ่นวายอย่างยิ่ง
เมื่อเห็นซินเอ๋อร์จึงไม่แปลกใจ ิดเพียงรีบจับตัวลูกสุนัขและออกไปให้เร็วที่สุดเท่านั้น
แต่ไม่รู้สวรร์เล่นตลกกับเธอ หรือลูกสุนัขซุกซนน่าตีเกินไป กลับปีนขึ้นบันได เดินเข้าไปในศาลานั้น
และยังไม่หยุดเท่านี้ ลูกสุนัขกลับยังวิ่งเข้าไปด้านในศาลา และเลียเท้าหญิงสาวผู้นั้น!
เห็นถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ตกใจจนแทบหมดสติ
ทันใดนั้น เสียงตกใจพลันดังออกมาจากด้านในศาลา
“อา ผู้ใดเลียเท้าข้า!”
หลังเสียงตกใจของหญิงสาว เธอกระโดดผละจากอ้อมกอดของชายหนุ่มทันที
เมื่อเห็นที่แท้ือลูกสุนัขตัวหนึ่ง เธอจึงโล่งอก
ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวตกใจ อดหัวเราะลั่นไม่ได้
“เพียงลูกสุนัขตัวหนึ่ง ดูเจ้าตกใจสิ!”
เสียงชายหนุ่มแฝงวามเมามายเจ็ดส่วน แหบพร่าสามส่วน หลังได้ยินเสียงนี้ ซินเอ๋อร์กลับพลันตกตะลึง
เพราะในที่สุดเธอทราบว่าชายหนุ่มที่หันหลังให้เธอือผู้ใด!
นผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใด แต่เป็น…
…………………………………………………………………