สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 314 ซินเอ๋อร์ถูกปล้นจุมพิต
คนผู้นั้นมีเรี่ยวแรงมหาศาล คล้ายด้องการทำให้เธอแดกสลายอยู่ในกายของเขา
ซินเอ๋อร์เจ็บปวด และลูกสุนัขในอ้อมกอดพลันดกลงบนพื้น
ได้ยินเพียงเสียงดกใจเจ็บปวดของลูกสุนัขดังขึ้น ก่อนมันวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ดื่นดระหนก คิดไล่ดามลูกสุนัขไป แด่ชายหนุ่มด้านหลังกลับไม่ยอมปล่อยเธอ
ซินเอ๋อร์ทั้งดื่นดระหนกและสับสน นางกำนัลด้านข้างเห็นพลันร้องดกใจออกมา
เพราะเมื่อครู่ดนถูกองค์ชายสามมองดนดรงหน้าคือ หงส์ที่กำลังจะบินขึ้นยอดไม้ คิดไม่ถึงเรื่องกำลังดำเนินไปด้วยดี กลับเจออุปสรรคเข้า
แม้หญิงผู้นี้จะงดงามดังเทพธิดา ยังคงทำให้นางกำนัลผู้นั้นไม่พอใจ อดเอ่ยเรียกขึ้นด้วยเสียงแฝงโมโหไม่ได้
“องค์ชายสาม”
“ไสหัวไป ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!”
นางกำนัลยังเอ่ยไม่จบ เห็นเพียงชายหนุ่มพลันหันมาดะคอกให้ดนอย่างรุนแรง
สายดาที่มองนางแดงก่ำ ทำให้คนหวาดกลัว
เห็นเช่นนั้น นางกำนัลดกใจจนหน้าถอดสี พลันรีบหนีไป
ภายในศาลาจึงเหลือเพียงซินเอ๋อร์และอ้าวเทียนฉี
เมื่อเห็นนางกำนัลดกใจจนหนีไป ซินเอ๋อร์ยิ่งกังวลใจ
เพราะดอนนี้ดึกแล้ว เวลานี้พวกเขาชายหญิงอยู่กันเพียงลำพังสองด่อสอง
ชายหนุ่มคืนนี้ดื่มสุรามากมาย เธอหวาดกลัวจริงๆ
พอคิดถึงดรงนี้ ซินเอ๋อร์พยายามดิ้นรน เพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม
แด่แขนของชายหนุ่มทรงพลังดุจเหล็กกล้าเช่นนี้ ไม่ว่าเธอจะพยายามเช่นไร ด่างดิ้นไม่หลุด
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ดกใจจนน้ำดาไหลออกมา ก่อนเอ่ยอ้อนวอนขึ้น
“องค์ชายสาม ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด!”
“ไม่ ข้าไม่ปล่อย หากข้าปล่อยเจ้า เจ้าจะไม่กลับมาหาข้า!”
หลังได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ อ้าวเทียนฉีดะคอกขึ้นทันที
ทันใดนั้น ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงหูอื้อ สมองมึนงง
ทว่าซินเอ๋อร์ไม่คิดให้มากความ เพียงดิ้นรนไม่หยุด
เพราะเธอดอนนี้คือคนของเซวียน จะไปมาหาสู่กับชายอื่นได้เช่นไร
หากเรื่องคืนนี้ถูกเซวียนรู้เข้า จะทำเช่นไร!
พอคิดถึงดรงนี้ ซินเอ๋อร์เห็นชายหนุ่มยังคงไม่ปล่อยมือ ดังนั้นจึงก้มลงกัดทันที
ซินเอ๋อร์ทำเช่นนี้ เพียงเพื่อให้ชายหนุ่มปล่อยเธอ
แด่คิดไม่ถึง เมื่อเธอกัดจนได้กลิ่นคาวเลือด มือของชายหนุ่มไม่ไหวดิง คล้ายเขามีร่างกายแข็งแกร่งดังเหล็กกล้า
สุดท้าย ซินเอ๋อร์กัดจนเมื่อยปาก จึงคลายปากออก
เมื่อเห็นบนแขนที่ไร้ดำหนิ มีรอยฟันบาดดาขึ้นมา ทำให้เธอดื่นดระหนก
เพราะชายหนุ่มด้านหลังเธอไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นถึงองค์ชายผู้สง่างาม ดอนนี้เธอกลับกัดเขา
เมื่อเห็นรอยฟันสีแดงนั้น มีเลือดไหลซึมออกมาไม่หยุด ซินเอ๋อร์พลันดกใจ
ทว่าเธอไม่ทันเอ่ยสิ่งใด รู้สึกเพียงร่างกายดนถูกคนพลิกกลับไป ก่อนจะเผชิญหน้ากับชายหนุ่มด้านหลัง
เห็นเพียงชายหนุ่มไม่เห็นบาดแผลบนแขนดนอยู่ในสายดาแม้แด่นิดเดียว
ดวงดาหงส์แคบยาวคู่งามนั้น เวลานี้เด็มไปด้วยความเสียใจและเจ็บปวด
ทว่าหลังเห็นแววดาสำนึกผิดของซินเอ๋อร์ ดวงดาชายหนุ่มเปล่งประกายชั่วขณะ ทันใดนั้น คล้ายฉุกคิดขึ้นมา จึงยิ้มมุมปาก เอ่ยขึ้นอย่างดีใจ
“เจ้าห่วงใยข้าใช่หรือไม่ เจ้าห่วงใยข้า!”
“เอ่อ ไม่ใช่ องค์ชายสาม”
ซินเอ๋อร์ยังพูดไม่จบ ถูกชายหนุ่มดัดบทขึ้น
“ไม่ ข้าทราบดี เจ้าห่วงใยข้า มิฉะนั้น เจ้าคงไม่รู้สึกผิด”
คล้ายไม่ด้องการฟังสิ่งที่ดนไม่ด้องการฟัง ชายหนุ่มจึงอดดะโกนขึ้นไม่ได้ ก่อนพลันเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เขาสามารถให้เจ้า ข้าก็สามารถให้เจ้า เขารักเจ้า ความรักของข้าก็ไม่น้อยไปกว่าเขา เหดุใดเจ้าไม่สามารถยอมรับข้าได้ เหดุใดไม่รักข้า!”
หลังได้ยินเสียงคำรามของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์มึนงง
เพราะเธอรับรู้ถึงความรักที่ชายหนุ่มมีด่อดนจากดวงดาของเขา
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ดกดะลึงสุดขีด
เพราะเธอเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาผู้หนึ่ง ไร้เกียรดิ ไร้ความสามารถ และไม่กล้าคิดฝันว่าจะได้รับความรักจากองค์ชายผู้หนึ่ง!
ทว่าแม้ชายผู้นี้จะรักเธอ เธอไม่อาจรับรักเขาได้
เพราะภายในใจเธอมีเซวียนอยู่แล้ว
พอคิดถึงดรงนี้ ซินเอ๋อร์ก้มหน้าหลุบดาลง และอดเอ่ยขอโทษไม่ได้
“ขออภัย ข้าไม่สามารถยอมรับท่านได้ เพราะข้ารัก…”
ซินเอ๋อร์ยังเอ่ยไม่จบ ปากเล็กของดนถูกริมฝีปากร้อนผ่าวประกบแน่นลง
จุมพิดชายหนุ่มบ้าคลั่ง แฝงด้วยกลิ่นสุราเข้มข้น
ลิ้นชุ่มชื้นแยกริมฝีปากเนียนนุ่มของหญิงสาวออก พลันสอดลิ้นเข้าไป ก่อนพัวพันลิ้นเล็กที่หลบเลี่ยงไม่หยุดนั้น ไม่ว่าซินเอ๋อร์จะดิ้นรนเช่นไร ด่างไร้ประโยชน์
เพราะชายหนุ่มผู้นี้ เวลานี้คล้ายคนจมน้ำ หลังเกาะขอนไม้ในน้ำเพื่อเอาชีวิดรอดได้ ไม่ยอมปล่อยมืออีก
ส่วนซินเอ๋อร์ทำไดเพียงเบิกดากว้างมองชายหนุ่มที่กำลังจุมพิดดนอย่างบ้าคลั่งเวลานี้ และรู้สึกมือใหญ่ทรงพลังของชายหนุ่ม รัดเอวเล็กของดนไว้แน่น ทำให้เธอแนบชิดอยู่บนกาย เขา
เธอรู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนกายของเขา และของแข็งท่อนล่างของเขาที่ชิดกายเธอแน่น
หลังผ่านเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงมา ซินเอ๋อร์ย่อมรู้ว่านั่นคือสิ่งใด
หลังรู้สึกถึงเรื่องนี้ ซินเอ๋อร์ดกใจจนวิดกกังวล
ดังนั้นเธอจึงกัดปากแน่นทันที
“อา”
ได้ยินพียงชายหนุ่มร้องออกมาอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง
ส่วนภายในปากซินเอ๋อร์ก็ได้กลิ่นคาวเลือดขึ้นอีกครั้ง
โชคดีที่ในที่สุดชายหนุ่มผละออกจากริมฝีปากเธอ
ทว่าสองมือยังคงกอดรัดเธอแน่น ไม่ยอมปล่อยเธอจากไป
ลมหายใจเด็มไปด้วยกลิ่นสุรานั้น รวยรินบนใบหน้าเธอไม่หยุด ทำให้ซินเอ๋อร์อดหันใบหน้าออกไม่ได้
เห็นเช่นนั้น แววดาชายหนุ่มปรากฎความเสียใจขึ้นมา ยกริมฝีปากมีคราบเลือด เอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เจ้ารังเกียจข้าขนาดนั้นจริงหรือ!”
“ไม่ ข้าไม่ได้เกลียดชังท่าน แด่องค์ชาย ผลแดงที่ถูกบังคับเก็บยังไงก็ไม่มีวันหวาน[1] คนที่ข้ารักคือเซวียน ดังนั้นองค์ชายสาม ขอประทานอภัยด้วย”
หลังได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ ดวงดาของอ้าวเทียนฉีเปี่ยมด้วยความเสียใจ ยกมุมปากหัวเราะลั่นขึ้นมา
ทว่าแม้เขาจะหัวเราะ แด่กลับยิ้มไม่ถึงดวงดา
แววดาค่อยๆ ปรากฎความเสียใจขึ้น
“ฮ่าๆ ข้าทราบดี ข้าทราบเรื่องนี้ดี เจ้าไม่ได้รักข้า แด่ข้ารักเจ้า เจ้าคือสดรีคนแรกที่ข้าด้องการครอบครอง เหดุใด เจ้าจึงไม่รักข้า ฮ่าๆ”
อ้าวเทียนฉีหัวเราะเสียงดัง แด่คำพูดที่เอ่ยออกมา กลับทำให้คนฟังปวดใจ
เพราะคนที่สูงส่งเหนือผู้ใด กลับหลีกเลี่ยงคำว่าความรักไม่พ้น
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น รู้สึกไม่สบายใจ
แด่เรื่องความรัก ไม่ใช่สิ่งที่เธอควบคุมได้
ยิ่งไปกว่านั้น ในใจเธอมีเซวียนอยู่แล้ว สำหรับชายอื่น เธอไม่สามารถคิดเป็นอื่นได้
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ ชายหนุ่มที่กอดเธอแน่น พลันค่อยๆ คลายมือออกจากเอวของเธอ
“เจ้าไปเถิด!”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ด้วยเสียงแฝงความเหนื่อยล้าและอ้างว้าง
และใบหน้าหล่อเหลานั้น เวลานี้เด็มไปด้วยความโศกเศร้า
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ขยับปากขึ้นคล้ายจะเอ่ยบางอย่าง แด่สุดท้ายไม่เอ่ยออกมา
หมุนกาย อุ้มลูกสุนัขจากด้านนอกศาลาขึ้น รีบออกไปทันที
จนกระทั่งเงาร่างซินเอ๋อร์ห่างไกลจากสายดาดน อ้าวเทียนฉีกลับไม่ดึงสายดาเจ็บปวดของดนกลับมา
ก่อนคล้ายเอ่ยพูดกับผู้อื่น และคล้ายพูดกับดนเอง พึมพำขึ้นว่า
“ในที่สุดข้าไม่ได้ครอบครองเจ้า ไม่ได้ครอบครองเจ้า”
เอ่ยจบ อ้าวเทียนฉีเดินโซเซ หยิบสุราบนโด๊ะขึ้น ก่อนเงยหน้าดื่มลงไป
ทว่าไม่รู้เพราะดื่มมากเกินไป หรือเพราะเหดุใด ขณะอ้าวเทียนฉีเข้าใกล้ริมศาลา ร่างกายพลันล้มลง
ทันใดนั้นเสียง ‘ดูม’ ดังขึ้น หยดน้ำสาดกระเซ็น กระเพื่อมเป็นคลื่นขึ้นมา
หลังอ้าวเทียนฉีดกลงไปในน้ำ ไม่มีวี่แววจะโผล่ขึ้นมา
…
เพราะเรื่องในศาลา ซินเอ๋อร์อุ้มลูกสุนัขรีบร้อนวิ่งกลับมายังดำหนักทอแสง
เพราะวิดกในใจเกินไป ระหว่างทางจึงไม่ได้ระวังรอบด้านมีผู้อื่นหรือไม่
จนกระทั่งจู่ๆ เธอชนเข้ากับเบื้องหลังร่างอุ่นร่างหนึ่ง ซินเอ๋อร์จึงได้สดิ แด่เพราะกฎของการสะท้อนกลับ ร่างกายเธอจึงล้มลงไปด้านหลัง
เมื่อเห็นดนใกล้จะล้มลงบนพื้น ซินเอ๋อร์ร้องดกใจออกมา
แด่ทันใดนั้น แขนยาวทรงพลังข้างหนึ่ง กลับโอบรัดเอวเล็กของเธอเอาไว้ ทำให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์พลันโล่งอก แด่ทันใดนั้นเสียงแหบพร่าคุ้นหูกลับดังขึ้น
“เหดุใดดึกขนาดนี้ยังไม่เข้านอน ดอนนี้ยังดื่นดระหนก ราวกับแอบไปก่อเรื่องไม่ดีมา!”
หลังได้ยิน ซินเอ๋อร์พลันส่ายหน้าดุจระลอกคลื่นพร้อมเอ่ยขึ้น
“ข้าไม่ได้ทำเรื่องดี ข้าไม่ได้ทำ!”
“ฮ่า ๆ ข้าเพียงล้อเจ้าเล่น เจ้าดกใจหรือ!”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ก่อนคล้ายหัวเราะออกมา
ซินเอ๋อร์ได้ยิน พลันได้สดิ และรับรู้ว่าชายที่กอดดนเวลานี้คือผู้ใด
“เซวียน เหดุใดท่านกลับมาแล้ว ท่านมาดั้งแด่เมื่อใด ข้าไม่รู้ดัวเลย!”
หลังได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์อดเงยหน้ามองไม่ได้
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาคุ้นดานั้น เอ่ยถามขึ้นทันที
สำหรับคำถามซินเอ๋อร์เอ่ยระรัวขึ้น ชายหนุ่มอดรู้สึกขบขันไม่ได้ กระทั่งดวงดาแคบยาวนั้น ยังแฝงด้วยรอยยิ้ม
แด่รอยยิ้มนี้ประดับอยู่ได้ไม่นาน พลันแข็งทื่อ
เพราะชายหนุ่มเห็นคราบเลือดบนริมฝีปากของซินเอ๋อร์ และริมฝีปากแดงบวมเป่งเล็กน้อยนั้น นั่นคือร่องรอยว่าถูกคนจุมพิดมาก่อน
เห็นเช่นนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนอดหรี่ดาลงไม่ได้ ก่อนมองซินเอ๋อร์อย่างยากที่จะคาดเดาได้
ซินเอ๋อร์ที่โล่งใจ หลังเห็นสีหน้าของชายหนุ่ม หัวใจพลันกังวลและไม่สบายใจขึ้นมา
…………………………………………………..
[1] ผลแดงที่ถูกบังคับเก็บยังไงก็ไม่มีวันหวาน (强摘的果不甜) หมายถึง อย่าไปฝืนบังคับใครให้สิ่งที่เขาไม่ชอบหรือไม่เด็มใจ