สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 318 ความโกรธแค้นของอ้าวเทียนเสวี่ย
หรือมีคนปองร้ายพี่สาม!
หลังนึกถึงความเป็นไปได้นี้ อ้าวเทียนเสวี่ยอดตกใจไม่ได้
เพราะบิดาของเธอร่างกายทรุดโทรมลงทุกวัน แม้องค์ชายใหญ่และผู้อื่นที่สามารถขัดขวางพี่สามของเธอจะถูกกำจัดไปแล้ว
แต่ต้องไม่ประมาท
หรือเหล่าองค์ชายที่เหลือต้องการปองร้ายพี่สามของเธอ!
หากเป็นเช่นนี้ ความกล้าของพวกเขามีมากมายเสียจริง ถึงกลับกล้าปองร้ายพี่สามในแคว้นเทียนหยวน
ขณะอ้าวเทียนเสวี่ยคาดเดาในใจ เสี่ยวเต๋อจื่อด้านข้างก้มหน้าขบคิด ก่อนเอ่ยตามความจริง
วันนั้น มีนางกำนัลผู้หนึ่งปรนนิบัติองค์ชายสามดื่มสุราอยู่ในศาลาพักร้อน!
“นางกำนัลหรือ!”
“พ่ะย่ะค่ะ เวลานั้น ข้าเห็นองค์ชายสามกำลังหยอกล้ออยู่กับนางกำนัลผู้นั้น จึงถอยออกไปอยู่ห่างๆ ไม่กล้ารบกวน”
บ่าวในวังผู้นั้นเอ่ยความจริง
ทว่าเพียงอ้าวเทียนเสวี่ยได้ฟัง พลันตำหนิขึ้น
“น่ารังเกียจ เจ้าคิดว่าข้าไม่จักนิสัยใจคอของพี่สามหรือ เหตุใดพี่สามจึงเล่นสนุกกับหญิงชั้นต่ำพวกนี้!”
อ้าวเทียนเสวี่ยเอ่ยตำหนิ และไม่แปลกที่เธอจะเอ่ยเช่นนี้
เพราะเธอและพี่สามเกิดจากมารดาคนเดียวกัน นิสัยของเขาเธอจะไม่รู้ได้เช่นไร!
ไม่เคยเข้าใกล้สตรี เหตุใดจึงใกล้ชิดกับนางกำนัลผู้นั้น!
ขณะอ้าวเทียนเสวี่ยคิดในใจ เสี่ยวเต๋อจื่อหลังได้ยินคำด่าทอของอ้าวเทียนเสวี่ย พลันตกใจคุกเข่าลงทันที ก่อนเอ่ยด้วยสีหน้าขมขื่นว่า
“ทูลองค์หญิงสี่ บ่าวไม่กล้าโกหก นางกำนัลผู้นั้นมีนามว่าเถาหง จะให้บ่าวไปตามตัวเธอมาหรือไม่”
เมื่อเห็นสีหน้าไม่โกหกของเสี่ยวเต๋อจื่อ อ้าวเทียนเสวี่ยหลังขมวดคิ้ว จึงเอ่ยขึ้น
“ดี ตามนางมาพบข้า!”
“พ่ะย่ะค่ะ”
หลังเสี่ยวเต๋อจื่อจากไป ไม่นานก็พาตัวนางกำนัลผู้หนึ่งกลับมา
เวลานี้อ้าวเทียนเสวี่ยกำลังนั่งอยู่กลางตำหนักหรูหราโอ่อ่านั้น
ยามนี้เป็นยามบ่าย แสงอาทิตย์ด้านนอกจึงเจิดจรัส แสงสีทองสาดส่องเข้ามานั้น ขับเน้นให้ตำหนักโอ่อ่าตระการตา ยิ่งหรูหรามากขึ้น!
อ้าวเทียนเสวี่ยวันนี้ ยังคงแต่งกายอย่างสง่าเลิศล้ำ
สวมกระโปรงร้อยจีบสีแดงที่นิยมกันในเวลานี้ คาดด้วยสายรัดเอวสีทองขนาดใหญ่ ผมยาวดำสนิทดุจหมึกเกล้าขึ้นสูงทรงพระจันทร์เสี้ยว
ตรงกลางประดับด้วยเครื่องประดับประณีตมากมาย ทำให้หญิงสาวยิ่งสูงส่งงดงาม
บนใบหน้างามนั้น ประทินโฉมอย่างประณีต ทำให้เธอสูงส่งและสวยงาม
สีหน้าเป็นเอกลักษณ์ของชนชั้นสูงนั้น ทำให้คนรู้ว่าคนผู้นี้ไม่ควรเข้าใกล้
หลังเห็นเสี่ยวเต๋อจื่อนำคนเข้ามา อ้าวเทียนเสวี่ยกำลังยกชาขึ้นจิบอย่างได้อรรถรส
หลังเสี่ยวเต๋อจื่อและนางกำนัลผู้นั้นเข้ามา ต่างคุกเข่าลง ถวายความเคารพแก่อ้าวเทียนเสวี่ย
“องค์หญิง คนที่พระองค์ต้องการพบมาถึงแล้ว”
“เถาหง คารวะองค์หญิง”
หลังเสี่ยวเต๋อจื่อและนางกำนัลเถาหงคารวะจบ อ้าวเทียนเสวี่ยเพียงส่งเสียงรับ
ทันใดนั้น ดวงตาคู่งามเหลือบมองนางกำนัลที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น
เห็นเพียงนางกำนัลผู้นี้ กำลังคุกเข่าก้มหน้าหลุบตาอยู่บนพื้น ทำให้มองไม่เห็นรูปโฉมของเธอชัดเจน ทว่าเมื่อมองรูปร่างได้สัดส่วนของนางกำนัลนั้น ถือว่าไม่เลวทีเดียว
เห็นเช่นนั้น อ้าวเทียนเสวี่ยอดเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ ไม่ได้
“เจ้าเงยหน้าขึ้นให้ข้าดูสิ”
“เพคะ”
หลังได้ยิน เถาหงที่หมอบอยู่บนพื้น อดเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ ไม่ได้
แววตาแฝงไปด้วยความกังวลและหวาดกลัวหลายส่วน มองหญิงสาวสูงส่งที่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงสัย
เพราะเถาหงไม่รู้เหตุใดอยู่ดีๆ องค์หญิงผู้นี้จึงเรียกตัวเธอมา
ทว่าแม้เธอจะไม่ได้พบหน้าองค์หญิงผู้นี้มาก่อน แต่กลับได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับองค์หญิงผู้นี้มาไม่น้อย
ลือกันว่าองค์หญิงผู้นี้ ยโสโอหัง โหดเหี้ยม ดังนั้นเถาหงเวลานี้จึงกังวลและหวาดกลัวในใจ
ตรงข้ามกับเถาหงที่ขลาดกลัวอย่างหนัก อ้าวเทียนเสวี่ยที่นั่งสบายอารมณ์บนที่นั่ง เมื่อเห็นใบหน้าของนางกำนัลด้านล่างดูคุ้นตา มือที่ยกฝาครอบชาพลันค้างเติ่ง
ทันใดนั้น ดวงตาที่แต่งแต้มอย่างงดงามนั้น เบิกกว้างขึ้น
ก่อนมองตรงไปที่ใบหน้าของหญิงสาวด้านล่าง
แววตาปรากฎความแปลกใจ ตกตะลึง โกรธแค้นและมั่นใจขึ้นมา
เพราะอ้าวเทียนเสวี่ยมีแววตาที่สับสน จึงทำให้คนคาดเดาความในใจเธอไม่ได้
เห็นเพียงอ้าวเทียนเสวี่ยพลันลุกยืนขึ้นจากที่นั่ง กระทั่งถ้วยชาในมือก็กระแทกลงบนบริเวณศีรษะของเถาหง
หลังเสียงกรีดร้อง เถาหงที่คุกเข่าอยู่ๆ ดี ถูกถ้วยชาในมืออ้าวเทียนเสวี่ยกระแทกเข้าที่ศีรษะจนเลือดไหล
เถาหงแม้ไม่เข้าใจ แต่หลังถูกกระแทกที่ศีรษะ พลันหมอบลงกับพื้น เอ่ยร้องขอชีวิตขึ้น
“องค์หญิงโปรดไว้ชีวิต องค์หญิงโปรดไว้ชีวิตด้วย”
แม้ไม่รู้ตนทำผิดสิ่งใด แต่ภายในวังหลวงกว้างใหญ่นี้ ทุกคนต่างมีเจ้านาย
อำนาจของทุกคนต่างยิ่งใหญ่กว่าพวกเขา ดังนั้นแม้ไม่รู้ว่าตนล่วงเกินองค์หญิงผู้นี้ที่ใด แต่สิ่งแรกที่ควรทำคือร้องขอชีวิต
ตรงข้ามกับเถาหงที่หมอบร้องขอชีวิตอย่างหวาดกลัว อ้าวเทียนเสวี่ยกลับมีสีหน้าโมโห
เพราะเมื่อเธอเห็นหญิงสาวตรงหน้า เห็นรูปโฉมของหญิงสาวผู้นี้ ไฟโทสะของเธอพลันลุกโชนขึ้น
ขณะคิดอย่างโมโหในใจ ทันใดนั้นอ้าวเทียนเสวี่ยคล้ายฉุกคิดบางสิ่งขึ้นมาได้ ก่อนสูดหายใจอยู่ชั่วขณะ ก่อนข่มขู่ว่า
“พูด คืนนั้นที่องค์ชายสามตกน้ำ เจ้าอยู่ข้างกายเขา เจ้าผลักเขาตกน้ำใช่หรือไม่ พูดความจริงออกมา มิฉะนั้นข้าจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า!”
อ้าวเทียนเสวี่ยเอ่ยอย่างโหดเหี้ยม เถาหงได้ยินไม่สนใจเลือดที่ไหลบนศีรษะ เอ่ยสิ่งทั้งหมดที่ตนรู้ออกมาอย่างวิตกกังวลทันที
“องค์หญิง บ่าวถูกปรักปรำ คืนนั้นบ่าวปรนนิบัติองค์ชายสามที่ดื่มสุราในศาลาพักร้อน แต่สุดท้ายจู่ๆ มีหญิงสาวผู้หนึ่งปรากฎตัวขึ้น ต่อมาองค์ชายให้บ่าวออกไป เรื่องหลังจากนั้น นบ่าวไม่รู้จริงๆ เพคะ”
“หญิงสาวผู้หนึ่งปรากฎตัวขึ้น!”
หลังได้ยินคำพูดของเถาหง อ้าวเทียนเสวี่ยขมวดคิ้ว พลันเอ่ยถามขึ้น
“เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ ว่าหญิงผู้นั้นคือผู้ใด!”
“เอ่อ คือว่า…”
เถาหงได้ยิน พลันก้มหน้าขบคิด จากนั้นคล้ายฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงเอ่ยขึ้นว่า
“ขณะนั้นบ่าวไม่แน่ใจว่าหญิงสาวผู้นั้นคือผู้ใด แต่เมื่อบ่าวเดินออกไป ได้ยินองค์ชายเรียกเธอว่าซินเอ๋อร์เพคะ”
“อะไรนะ พี่สามเรียกเธอว่าซินเอ๋อร์!”
หลังได้ยิน ดวงตาอ้าวเทียนเสวี่ยพลันเบิกกว้าง ก่อนปรากฎความตกตะลึงและโมโห
ทว่าอ้าวเทียนเสวี่ยความจริงคาดเดาไว้แล้ว
เพราะจากที่เธอเห็นนางกำนัลตรงหน้าตอนนี้ คนที่เธอนึกถึงคือหญิงสาวที่น่ารังเกียจที่สุดผู้นั้น
และเมื่อได้ยินคำพูดของนางกำนัลผู้นี้ องค์ชายสามคล้ายมีความรู้สึกกับหญิงผู้นั้น…
หรือพี่สามก็ชื่นชอบหญิงสมควรตายผู้นั้นเช่นกัน!
พอคิดถึงตรงนี้ อ้าวเทียนเสวี่ยตะลึงในใจ
ทันใดนั้น ภายในสมองอดนึกถึงวันเฉลิมฉลองวันประสูติของฮ่องเต้เทียนหยวนนั้นขึ้นมาไม่ได้ พี่สามและผู้หญิงคนนั้นกลับมาด้วยกัน
และพี่สามยังบาดเจ็บ เพราะหญิงผู้นั้น
พอคิดถึงตรงนี้ อ้าวเทียนเสวี่ยตกตะลึงในใจ ขณะที่ความเกลียดชังพลันทะลักขึ้นในใจเธอ
เพราะเหตุใด!
หญิงผู้นั้นมีสิ่งใดดีกันแน่!
เพียงมีใบหน้าน่าสงสารเท่านั้น เหตุใดทุกคนจึงชื่นชอบเธอขนาดนี้!
เหลิ่งอวี้เซวียน และกระทั่งพี่สาม
พอคิดถึงตรงนี้ ไฟโทสะในใจของอ้าวเทียนเสวี่ย ดุจงูพิษตัวหนึ่งพันรัดหัวใจของเธอไว้ไม่หยุด
กระทั่งใบหน้าประทินโฉมอย่างประณีตงดงามนั้น เวลานี้เพราะโมโหเดือดดาลจึงร้ายกาจมากขึ้นหลายส่วน
ทำให้เธอคล้ายปีศาจ น่าสยดสยอง
เวลานี้ มีไออำมหิตกระจายออกมาจากตัวเธอ พร้อมกับสีหน้าอันร้ายกาจ
เสี่ยวเต๋อจื่อและเถาหงในตำหนักต่างแทบหยุดหายใจ
เพราะทุกคนทราบดีถึงความโหดเหี้ยมขององค์หญิงสี่ ว่าน่าหวาดกลัวกว่าคนจะคาดคิดนัก
ทว่าเถาหงกลัวองค์หญิงสี่จะโกรธแค้นตนเพราะองค์ชายสามตกน้ำ และนึกถึงวันนั้นเธอไม่ง่ายกว่าจะทำให้องค์ชายสามต้องตา จะได้กลายเป็นสตรีขององค์ชายสาม
เธอแม้จะรู้ว่าตนต่ำต้อย แต่แม้เป็นเพียงนางบำเรอขององค์ชายสาม ดีกว่าเป็นนางกำนัลชั้นต่ำอยู่ในวังหลวง ปล่อยให้คนเหยียบย่ำได้ตามใจ
ผู้ใดจะรู้ต่อมา กลับถูกหญิงสาวผู้หนึ่งทำร้ายเรื่องดีของเธอ
ตอนนี้ยังถูกองค์หญิงสี่ปฏิบัติเช่นนี้
พอคิดถึงตรงนี้ เถาหงโกรธแค้นในใจ ก่อนโยนเรื่องในตอนทั้งหมดไปที่ซินเอ๋อร์
ดังนั้น เถาหงจึงเงยหน้าขึ้น และเอ่ยต่อว่า
“ตอนสุดท้ายมีเพียงหญิงที่มีนามว่าซินเอ๋อร์ผู้นั้นอยู่ข้างกายองค์ชาย บ่าวคิดว่าเรื่ององค์ชายตกน้ำ ต้องเกี่ยวข้องกับนางแน่นอน องค์หญิงทรงตรวจสอบด้วย!”
เถาหงเอ่ยด้วยสีหน้ามั่นใจ
อ้าวเทียนเสวี่ยได้ยิน ยิ่งโมโหหนักขึ้น
จึงเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เป็นเจ้า!”
เพียงนึกถึงพี่สามที่ตนเคารพรักตกน้ำเพราะเธอ และชายที่ตนชื่นชอบเดือนหน้าจะอภิเษกกับหญิงผู้นั้น
อ้าวเทียนเสวี่ยจึงโมโหเดือดดาลในใจ
ชีวิตนี้ เรื่องที่เธอต้องการ ไม่เคยไม่เกิดขึ้น
ตั้งแต่เด็กทุกคนต่างรักใคร่ โปรดปรานเธอ แม้เธอต้องการพระจันทร์บนท้องฟ้า ทุกคนต้องพลันดึงมันลงมาให้เธอ
แต่ชายหนุ่มคนแรกที่เธอชื่นชอบ กลับไม่ชื่นชอบเธอ
เพราะในใจชายผู้นั้น มีหญิงอื่นอยู่แล้ว
เพราะเหตุใด!
หญิงผู้นั้นดีงามขนาดนั้นจริงหรือ!
คู่ควรให้เธอได้รับความรักจากชายทุกคนหรือ!
เธอไม่ยินยอม และไม่ยอมแพ้!
พอคิดถึงตรงนี้ ดวงตาแต่งแต้มอย่างงดงามของอ้าวเทียนเสวี่ยหรี่ลง ก่อนพลันปรากฎไอสังหารขึ้น
เพราะหญิงผู้นี้ ทำให้เธอเกลียดชัง ต้องให้นางตาย นางต้องตาย!
พอคิดถึงตรงนี้ ดวงตาของอ้าวเทียนเสวี่ยกวาดมองไปยังเถาหงที่อยู่ด้านล่าง