สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 321 ชายชุดดำ
ซินเอ๋อร์ตกใจ และเห็นเวลานี้เสี่ยวหวนยังไม่กลับมา
เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในอากาศนั้น ซินเอ๋อร์มีสีหน้าหนักใจ และมองไปที่บริเวณมีดที่ปักอยู่บนกายชายหนุ่ม
เพราะชายหนุ่มสวมชุดสีดำ เวลานี้ฟ้ามืดแล้ว ดังนั้นเธอจึงมองไม่ออกว่าบาดแผลบนกายเขายังคงเลือดไหลหรือไม่
หากเป็นเช่นนี้ เธอต้องหาวิธีห้ามเลือด มิฉะนั้นหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ชายหนุ่มต้องเสียเลือดมากจนตายแน่นอน
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์พลันคล้ายฉุกคิดขึ้นมาได้ ดวงตาจึงเป็นประกาย
เพราะจู่ๆ เธอพลันนึกได้ว่าวันนี้ตอนกลางวัน เธอและเสี่ยวหวนเข้าไปในร้านยา เสี่ยวหวนช่วยซื้อยาห้ามเลือดให้กับบ่าวในเรือนผู้หนึ่ง!
หลังคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์หมุนกายอย่างรวดเร็ว เพราะตรงนั้นมีของที่พวกเธอซื้อในวันนี้วางกองอยู่
เพราะเมื่อครู่เธอเร่งเสี่ยวหวนกลับไป เพราะการช่วยคนต้องเร่งรีบ เสี่ยวหวนย่อมวางของในมือลง เช่นนี้จึงจะวิ่งได้รวดเร็วขึ้น
เวลานี้ซินเอ๋อร์พลิกกองสิ่งของตรงนั้นอยู่นาน ในที่สุดหยิบขวดยาจากด้านล่างขึ้นมา
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์พลันดีใจ
“ฮ่า ๆ ในที่สุดหาเจอแล้ว!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยจบ พลันหมุนกายกลับยังข้างกายชายหนุ่ม
เมื่อเห็นชายหนุ่มตายังคงปิดสนิท ไม่ได้ตื่นขึ้นมา สายตาของซินเอ๋อร์พลันมองที่บาดแผลบนหน้าอกของชายหนุ่ม
เพราะเวลานี้ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ ซินเอ๋อร์ไม่ทำให้ตนหวาดกลัวและกังวล และสลัดความคิดชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดทิ้งไป ตอนนี้ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า
ขณะคิดในใจ ซินเอ๋อร์ยื่นมือไปที่หน้าอกของชายหนุ่ม คิดเลิกเสื้อผ้าบริเวณบาดแผลของชายหนุ่มออก เช่นนี้เธอจึงจะสามารถใส่ยาห้ามเลือดได้
แต่สวรรค์รู้ว่าซินเอ๋อร์เวลานี้กังวลมากเพียงใด
เพราะเผชิญหน้ากับชายแปลกหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ เธอจึงหวาดกลัว จนกระทั่งมือที่ยืนออกไปยังสั่นเทิ้ม
ทว่าซินเอ๋อร์ให้กำลังใจตนเองในใจตลอดเวลา
“ไม่ต้องกลัว นิ่งไว้ นิ่งไว้!”
หลังพยายามสงบใจ ซินเอ๋อร์รวบรวมกำลังใจ ยื่นมือไปที่บริเวณบาดแผลของชายหนุ่ม
เมื่อรู้สึกปลายนิ้วอุ่นและชื้นแฉะ รู้ทันทีว่านี่คือเลือด!
หลังรับรู้เรื่องนี้ ทำให้ซินเอ๋อร์อดหนาวสั่น จนแทบท้อแท้ขึ้นมาไม่ได้
เพราะสองมือเธอไม่เคยเปื้อนเลือดมากมายเช่นนี้มาก่อน!
ทว่าซินเอ๋อร์แม้จะกังวลหวาดกลัว สุดท้ายยังกัดฟันทำต่อไป
หลังพยายามสุดกำลังฉีกเสื้อผ้าบริเวณบาดแผลของชายหนุ่มออก และเห็นบาดแผลของเขา ซินเอ๋อร์อดใจหายวาบอีกครั้งไม่ได้
แม้เมื่อครู่จะรู้ว่าชายหนุ่มบาดเจ็บสาหัส แต่ตอนนี้หลังฉีกเสื้อบนหน้าออกของเขาออก และมองในระยะใกล้ ซินเอ๋อร์รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน และท้องไส้ปั่นป่วน
เห็นเพียงมีดเล่มนี้ได้ปักลึกเข้าไปในเหนือหน้าอกชายหนุ่ม แต่รอบแผลมีเลือดสีแดงไหลซึมออกมาไม่น้อย จนรอบหน้าอกชายหนุ่มแดงฉาน
คล้ายสามารถมองเห็นว่าผิวหนังบริเวณบาดแผลถลกออกมา
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ท้องไส้ปั่นป่วน จนแทบอาเจียนออกมา ทว่าเธอยังคงกัดฟันข่มกลั้นเอาไว้
ก่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อข่มความปั่นป่วนในท้อง หยิบยาห้ามเลือดด้านข้างขึ้นมา หมายเทลงบนบาดแผลของชายหนุ่ม
แต่ทันใดนั้น ซินเอ๋อร์กลับรู้สึกแน่นที่ข้อมือของตน พลันปวดร้าวถึงกระดูก ก่อนกระจายจากข้อมือไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว คล้ายข้อมือเธอจะหักลง
เมื่อรู้สึกถึงความปวดร้าวนี้ ซินเอ๋อร์อดร้องอย่างเจ็บปวดตกใจไม่ได้
“โอ๊ย เจ็บยิ่งนัก!”
หลังเสียงร้องเจ็บปวดของซินเอ๋อร์ เสียงแหบพร่าทุ้มต่ำแฝงไอสังหารกลับดังขึ้น
“เจ้าคือผู้ใด!”
หลังได้ยินคำพูดเรียบเฉยนี้ ซินเอ๋อร์ข่มความปวดร้าวที่มือ เงยหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดมองไป
เมื่อเห็นชายหนุ่มที่หมดสติไปเวลานี้กลับลืมตาขึ้นจ้องมองเธอ จึงมีสีหน้าตะลึงงัน พลันเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ท่านฟื้นแล้ว!”
“เจ้าคือผู้ใด!”
สำหรับคำพูดของซินเอ๋อร์ ชายหนุ่มเพียงเอ่ยกลับมาอย่างเย็นชาเมื่อครู่
และสายตาที่มองซินเอ๋อร์เผยความหวาดระแวงและมีไอสังหารแผ่ออกมา
เมื่อรับรู้ถึงสายตาไร้เมตตาและเยือกเย็นของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์อดสั่นเทิ้มไม่ได้
ทราบดีว่าชายหนุ่มระแวงตน ดังนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้น
“คุณชายท่านนี้ ท่าน ท่านไม่ต้องกังวล ข้าไม่ใช่คนเลว เมื่อครู่ข้าและสาวใช้เดินผ่านมาทางนี้ ได้ยินเสียงแปลกประหลาดจึงเข้ามาดู เห็นท่านนอนอยู่บนพื้น ร่างกายบาดเจ็บสาหัส ข้าจึ งให้สาวใช้ไปตามคนมาช่วย ตอนนี้ข้าเพียงคิดใส่ยาห้ามเลือดให้แก่ท่าน เพราะบาดแผลท่านยังมีเลือดไหล หากไม่ห้ามเลือด ท่านอาจจะเสียเลือดมากจนเกินไป”
ซินเอ๋อร์ข่มความปวดร้าวที่ข้อมือ ก่อนเอ่ยความจริงออกมา
แต่เพราะปวดร้าวข้อมือ บนหน้าผากอิ่มของซินเอ๋อร์นั้น จึงเต็มไปด้วยเหงื่อ
หลังชายหนุ่มได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ ดวงตาคมคู่นั้นจ้องมองประเมินซินเอ๋อร์ คล้ายสืบหาความจริงจากซินเอ๋อร์
ระดับการป้องกันรุนแรงยิ่งนัก!
ขณะชายหนุ่มประเมินซินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์สบตาค้นหาความจริงนั้นของชายหนุ่มเช่นกัน
และทันใดนั้น เธอค่อยเห็นรูปโฉมชายหนุ่มชัดเจน
คิ้วดังคมมีด ดวงตาคมเย็นชา จมูกเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบ!
รวมทั้งความเยือกเย็นที่กระจายจากบนกายของชายหนุ่ม ทำให้คนอกสั่นขวัญแขวน ไม่กล้าเข้าใกล้!
โดยเฉพาะเวลานี้สายตาที่ชายหนุ่มมองตนนั้น แฝงไปด้วยการค้นหาความจริงและคมกริบ คล้ายต้องการมองทะลุเธอผ่านทางสายตา
สายตาคมกริบเช่นนี้ ทำให้ซินเอ๋อร์รู้สึกตนถูกสัตว์ร้ายกระหายเลือดตัวหนึ่งจ้องเขม็ง ทันใดนั้นหนังศีรษะชาวาบ หัวใจหยุดเต้น
แต่ขณะซินเอ๋อร์หวาดกลัวในใจ จู่ๆ ชายหนุ่มกลับเอ่ยขึ้น
“เจ้าใส่ยาเถิด!”
เอ่ยจบ ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงมือใหญ่ที่รัดข้อมือตนแน่นคลายลง แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ข้อมือเธอยังคงเจ็บปวดเช่นเดิม
หลังสะบัดมือเบาๆ ความเจ็บปวดคลายลง เธอจึงหยิบขวดยาขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนเทลงบนบาดแผลของชายหนุ่ม
แน่นอนว่ายาเหล่านี้ทำให้เจ็บปวด ดังนั้นเมื่อยาเหล่านี้กระทบลงบนบาดแผลของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์รู้สึกถึงกล้ามหน้าอกของชายหนุ่มยังคงเดิมอย่างชัดเจน แต่มีเสียงครางเจ็บปวดดังออกมา
แม้เสียงครางนั้นจะเบาอย่างมาก แต่เวลานี้เงียบงัน จึงดังกังวานเป็นพิเศษ
เมื่อเห็นชายหนุ่มเจ็บปวด ซินเอ๋อร์ยิ่งลงมืออย่างอ่อนโยนมากขึ้น
หลังช่วยทายาลงบนแผลบริเวณหน้าอกของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์เอ่ยถามขึ้น
“คือว่า คุณชายท่านยังมีบาดแผลบนกายอื่นอีกหรือไม่ ยานี้แม้จะแสบร้อน แต่ห้ามเลือดได้ผลอย่างยิ่ง!”
หลังได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ ชายหนุ่มที่ปิดตาแน่น เม้มปากเพื่อข่มกลั้นความเจ็บปวด เพียงลืมตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนมองมายังซินเอ๋อร์ที่อยู่ข้างกาย
เมื่อเห็นความกังวลในดวงตาของซินเอ๋อร์ ใบหน้าหล่อเหลาตะลึงงัน ดวงตาคมเยือกเย็นคู่นั้น เปล่งประกายอย่างสับสนออกมา
ทว่าประกายความสับสนนี้เพียงแวบเดียวก็สลายไป รวดเร็วจนทำให้คนไม่ทันสังเกต
ดังนั้น ซินเอ๋อร์ย่อมไม่รับรู้
เวลานี้ซินเอ๋อร์กำลังจ้องมองชายหนุ่ม และเอ่ยซักถาม
ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้น เม้มปากแน่นพลันเอ่ยขึ้น
“ไม่มีแล้ว”
สั้นๆ ได้ใจความ แต่น้ำเสียงเห็นชัดว่าอ่อนลงกว่าเมื่อครู่หลายส่วน
ซินเอ๋อร์ได้ยิน จึงเก็บขวดยาในมือให้เรียบร้อย
ระหว่างนั้นเธอไม่เอ่ยถามว่าชายหนุ่มคือผู้ใด เหตุใดจึงบาดเจ็บ
เพราะเธอตอนนี้เพียงต้องการช่วยชีวิตคน คนผู้นี้คือผู้ใด เธอไม่ต้องการรู้ และไม่จำเป็นต้องรู้
และเวลานี้ท้องฟ้ามืดมิดลงแล้ว
บนท้องฟ้ามืดมิดไร้ขอบเขต มีพระจันทร์ลอยเด่น ดวงดาวระยิบระยับ เข้ายึดครองโดยพละการ ขับเน้นให้ค่ำคืนนี้ยิ่งน่าหลงใหลและลึกลับมากขึ้น
สายลมเย็นพัดโชย จนยอดไม้ไหวเอน ส่งเสียง ‘ซ่าซ่าซ่า’ ออกมา กิ่งก้านต้นไม้แพร่ขยาย เวลานี้ความมืดเข้ามาเยือน เมื่อทอดสายตาไปไกล เห็นโคมไฟที่ถูกแขวนขึ้นสูง
แสงจันทร์พร่ามัว สาดส่องอย่างอ่อนโยน ทำให้รอบด้านเงียบงันและอบอุ่น
ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้น แม้จะนอนนิ่งไม่ไหวติง แต่ดวงตาคมแคบยาวนั้น เวลานี้ไม่ละจากใบหน้าคนข้างกายแม้แต่นิดเดียว
เห็นเพียงหญิงสาวข้างกายตัวเล็กบอบบาง
และการแต่งกายของเธอ คล้ายกับคุณหนูในตระกูลสูงศักดิ์
ทว่าการแต่งกายของเธอสง่างามอย่างมาก ผมดำขลับเพียงเกล้าขึ้นอย่างเรียบง่าย ตรงกลางปักด้วยปิ่นหยกลายดอกอวี๋หลันขาวประณีตงดงาม ไร้เครื่องประดับอื่น
กระโปรงหลัวฉวินสีขาวบนกาย ไร้เครื่องประดับเสริมเติมแต่งพวกนั้น แต่ตัดเย็บได้อย่างพอเหมาะ เผยรูปร่างเล็กบอบบางได้สัดส่วนของเธอนั้นออกมา
ใบหน้าเล็กขนาดเท่าฝ่ามือนั้น อวัยวะทั้งห้าประณีต ดุจรังสรรค์ขึ้นมาจากหยกงาม
คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ปากเล็ก ทุกสิ่งต่างสมบูรณ์แบบ
โดยเฉพาะดวงตากลมโตสุกใสคู่นั้น
ตาขาวดำแยกกันชัดเจน กระจ่างใสดังสายน้ำ ภายใต้แสงจันทร์จึงงดงามสดใส น่าประทับใจอย่างยิ่ง!
เห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มอดตาเป็นประกายไม่ได้
สำหรับการเฝ้ามองของชายหนุ่ม ความจริงซินเอ๋อร์รู้ตัวตลอดเวลา
แม้ชายหนุ่มจะนอนบนพื้น ใบหน้าซ่อนอยู่ในความมืด ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับคล้ายดวงตาของหมาป่าที่คมกริบและดุดัน
เมื่อถูกเขามองเช่นนี้ ซินเอ๋อร์อดอึดอัดไม่ได้
รวมทั้งเวลานี้ทั้งสองคนต่างไม่พูดจา รอบด้านจึงเงียบงันผิดปกติ
ยิ่งทำให้บรรยากาศที่เงียบงัน ค่อยๆ แปลกประหลาดขึ้นมา
เพื่อทำลายความเงียบนี้ ซินเอ๋อร์คล้ายฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามขึ้น
“คือว่า ไม่นานสาวใช้ของข้าจะพาคนกลับมา ท่านรอสักครู่”
“อืม”
สำหรับคำพูดของซินเอ๋อร์ ชายหนุ่มเพียงส่งเสียงรับรู้เบาๆ ไม่ได้เอ่ยตอบอีก
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์คล้ายฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้อีกครั้ง จึงเอ่ยถามขึ้น
“ท่านหิวน้ำหรือไม่ ข้าพกน้ำติดตัวมาด้วย!”
เพราะตอนนี้อากาศเริ่มร้อน เมื่อออกไปด้านนอก จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะคอแห้ง
หลังเหลิ่งอวี้เซวียนรู้ สั่งให้คนทำกระบอกน้ำงดงามให้เธอโดยเฉพาะ ขนาดเล็กแต่กลับบรรจุน้ำได้ แปลกตาอย่างยิ่ง
เวลานี้ซินเอ๋อร์เห็นชายหนุ่มเสียเลือดมากเกินไป ไม่รู้จะกระหายน้ำหรือไม่ ดังนั้นจึงเอ่ยถามเช่นนี้
ชายหนุ่มได้ยิน ครั้งนี้ไม่เอ่ยตามอารมณ์อีก แต่เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบาว่า
“ดีเช่นกัน”