สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 323 ชายหนุ่มแปลกประหลาด
“มะ…ไม่เคย”
คำพูดของชายหนุ่ม คล้ายไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้ชื่อของตน
หลังได้ยิน ซินเอ๋อร์จึงรีบเอ่ยขึ้น
และเธอยังพูดตามความจริง
เพราะก่อนหน้านี้ทุกวันต่างวิ่งวุ่น เพียงเพื่อหาเงินเลี้ยงดูตนและน้องชาย และไม่ชื่นชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน
ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะได้ยินเรื่องในโรงเตี๊ยมต่างไม่สนใจ ดังนั้นจึงไม่เคยได้ยินชื่อเหลิ่งเม่ยเฉินนี้มาก่อน
หลังได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ และเห็นดวงตากระจ่างใสของเธอ ชายหนุ่มที่มีสีหน้าเย็นชา จึงมีสีหน้าอ่อนโยนลง
จากนั้นกลับไม่พูดจา
หลังผ่านเรื่องเมื่อครู่ไป ซินเอ๋อร์รู้สึกชายผู้นี้แปลกประหลาด มีคนไล่สังหารเขา และเขาไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้สถานะของตน
ดังนั้นซินเอ๋อร์เพียงเม้มปาก ไม่พูดจา เพราะกลัวว่าหากตนเอ่ยขึ้นอีก จะทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจ
ดังนั้น ภายในพุ่มไม้จึงเงียบงัน มีเพียงเสียงลมพัดกิ่งไม้และใบไม้ และเสียงตั๊กแตน แต่ยังถือว่าเงียบงัน!
ผ่านไปนานมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาอีกครั้งจากที่ไม่ไกล และยังมีแสงคบไฟ
เพราะผ่านเรื่องเมื่อครู่มา ซินเอ๋อร์เพียงมองที่มาของแสงไฟอย่างเงียบๆ ไม่ส่งเสียงออกมาทันที และเมื่อเห็นคนที่นำหน้ามาชัดเจนว่าคือเสี่ยวหวน อดมีสีหน้าดีใจไม่ได้ จึงพลันหันไปคิดเอ่ยบางสิ่งกับชายหนุ่มด้านหลัง
แต่เพียงเธอหันกลับไป ด้านหลังเธอกลับว่างเปล่า
ชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างตนเมื่อครู่ คล้ายหายไปอย่างไร้ร่องรอย ซินเอ๋อร์จึงตะลึงงันชั่วขณะ จึงได้สติกลับมา ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง ด้วยแววตาแปลกใจ
“เอ๊ะ คนเล่า!”
ซินเอ๋อร์สงสัยในใจ และยังไม่ทันคิดให้มากความ เสียงเสี่ยวหวนพลันดังขึ้นมาจากไม่ไกล
“เร็ว คนอยู่ในพุ่มไม้ทางนั้น!”
“นายหญิง ท่านอยู่ที่ใด!”
หลังได้ยินเสียงเรียกเสี่ยวหวน ซินเอ๋อร์พลันได้สติกลับมา ทันใดนั้นเอ่ยขึ้นว่า
“อืม เสี่ยวหวน ข้าอยู่ตรงนี้!”
แม้ซินเอ๋อร์จะยังไม่ได้เข้าอภิเษกสมรสกับเหลิ่งอวี้เซวียน แต่บ่าวไพร่ทั่ววังต่างเห็นซินเอ๋อร์เป็นนายหญิง ดังนั้นจึงเปลี่ยนไปเรียกขานซินเอ๋อร์ว่านายหญิง
เพราะเหลิ่งอวี้เซวียนพอใจกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง ทุกคนจึงต่างมองสีหน้าของเจ้านายออก ดังนั้นจึงย่อมเรียกขานเช่นนี้
แม้ตอนแรกซินเอ๋อร์จะเขินอาย แต่เริ่มเคยชินอย่างช้าๆ
เวลานี้หลังซินเอ๋อร์เอ่ยตอบกลับมา พวกเสี่ยวหวนเดินไปที่พุ่มไม้ตรงนั้น ทว่าเมื่อเห็นตรงนั้นมีเพียงซินเอ๋อร์ ไม่มีผู้อื่น เสี่ยวหวนอดตะลึง และเอ่ยถามอย่างสงสัยไม่ได้
“เอ๊ะ นายหญิง ชายที่บาดเจ็บเมื่อครู่นั้นล่ะ!”
“เอ่อ คือว่า ข้าเองไม่แน่ใจ เมื่อครู่ข้าได้ยินเสียงเรียกของเจ้า จึงหันกลับไปส่งเสียงให้กับเจ้า ผู้ใดจะรู้เพียงหันกลับมาอีกครั้ง ชายผู้นั้นไม่เห็นแล้ว ข้ายังมึนงง เขาบาดเจ็บสาหัสมิใช่หรือ เหตุใดจึงหายตัวไปเร็วเช่นนี้!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยอย่างไม่เข้าใจ
และในใจยังกังวล ชายผู้นั้นบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น และยังมีคนไล่ล่า เขาจะวิ่งหนีไปที่ใดกัน!
ขณะซินเอ๋อร์สงสัยในใจ เสี่ยวหวนด้านข้างเห็นเช่นนั้น อดเอ่ยขึ้นไม่ได้
“นายหญิงไม่ต้องคิดมากหรอก อาจเพราะคนผู้นั้นมีเรื่องบางอย่างที่ไม่ต้องการให้พวกเรารู้ก็ได้ ดังนั้นจึงหนีไป!”
“อืม อาจเป็นเช่นนั้น!”
หลังได้ยินคำพูดของเสี่ยวหวน ซินเออร์รู้สึกมีเหตุผล
เพราะชายผู้นั้น ราวกับปริศนาอย่างหนึ่ง
บนกายคล้ายมีความลับมากมายที่ไม่ต้องการให้ผู้ใดรับรู้
อาจเพราะเขาไม่อยากให้พวกเสี่ยวหวนเห็นเขา ดังนั้นจึงจากไป!
แม้จะคิดเช่นนี้ ซินเอ๋อร์ยังกังวลใจ
เสี่ยวหวนเห็นเช่นนั้น ทราบถึงอารมณ์ของซินเอ๋อร์ดี จึงเอ่ยขึ้น
“นายหญิง ท่านอย่ากังวลเขาเลย เมื่อเขาหนีไปเอง ต้องสามารถดูแลตนเองได้แน่นอน”
“อืม หวังว่าเขาจะไม่เป็นอะไร”
หลังได้ยิน ซินเอ๋อร์พยักหน้าพร้อมเอ่ยขึ้น
เวลานี้มีบ่าวชายคนหนึ่งวิ่งรีบร้อนเข้ามา เอ่ยกับซินเอ๋อร์ว่า
“นายหญิง นายท่านกลับมาแล้ว กำลังเอ่ยถามว่าท่านอยู่ที่ใดขอรับ!”
“หา เซวียนกลับมาแล้วหรือ!”
หลังได้ยินคำพูดของคนที่มา ซินเอ๋อร์ที่หดหู่อยู่เมื่อครู่ อดดวงตาเป็นประกายไม่ได้
เห็นชัดว่าหลังรู้ว่าเซวียนกลับมา ซินเอ๋อร์ดีใจอย่างยิ่ง
ทุกคนเห็นเช่นนั้น ยิ้มแย้มยินดีอย่างที่สุด
เสี่ยวหวนด้านข้างเห็นเช่นนั้น อดเอ่ยกับซินเอ๋อร์อย่างเล่นหูเล่นตาไม่ได้
“นายหญิง เมื่อนายท่านกลับมาแล้ว ท่านรีบกลับไปเถิด มิฉะนั้น หากนายท่านไม่เห็นท่าน อาจจจะร้อนใจนะ!”
เมื่อเห็นท่าทางเล่นหูเล่นตาของเสี่ยวหวน แฝงไปด้วยความคลุมเครือหลายส่วน ซินเอ๋อร์อดเขินอายไม่ได้ หลังตำหนิเสี่ยวหวนประโยคหนึ่ง มุ่งหน้ากลับวัง
ดังนั้น กลุ่มคนที่รีบร้อนเข้ามาพลันต้องกลับไปอย่างรีบร้อน จึงไม่มีผู้ใดสังเกตว่าบนต้นไม้ใหญ่ข้างพุ่มไม้เมื่อครู่ มีร่างสีดำสูงโปร่งหนึ่งหลบซ่อนอยู่
เห็นเพียงชายชุดดำ กำลังใช้มือกุมกิ่งไม้ไว้ ส่วนอีกมือกุมหน้าอกที่บาดเจ็บของตน
ใบหน้าเย็นชาซีดขาวอย่างหนัก
ทว่าดวงตาคมคู่นั้น กลับจับจ้องที่ร่างเล็กขาวผ่องห่างออกไปนั้น โดยไม่ละสายตา
…
หลังกลับมาถึงวัง รู้ว่าเซวียนอยู่ในห้องหนังสือ ซินเอ๋อร์จึงรีบร้อนไปที่นั่น
ช่วงนี้ซินเอ๋อร์ทราบดีว่าเหลิ่งอวี้เซวียนยุ่งอย่างมาก
เพราะเขาคนเดียวต้องจัดการดูแลกิจการใหญ่โตเช่นนี้ ตอนนี้ยังต้องยุ่งวุ่นวายกับงานอภิเษกสมรสของตน ทุกวันต่างต้องออกไปทำงานแต่เช้าตรู่กลับมาดึกดื่น แม้เขาจะไม่พูด จากดวงตาของเขา ซินเอ๋อร์ยังมองออกถึงความเหนื่อยล้าของเขา
ดังนั้นซินเอ๋อร์จึงปวดใจอย่างมาก
เมื่อรู้ว่าเขาอยู่ในห้องหนังสือ ซินเอ๋อร์จึงรีบร้อนเข้าไป
เวลานี้ความมืดเข้ามาเยือน พระจันทร์ดวงดาวลอยเด่น โคมไฟถูกแขวนขึ้น
ภายในห้องหนังสือจุดไฟสว่างไสว เมื่อซินเอ๋อร์ผลักประตูไม้ รู้สึกเพียงไอเย็นพลันทะลักออกมาจากห้องหนังสือ
เพราะเวลานี้ อากาศเริ่มอบอ้าว ดังนั้นเซวียนจึงให้คนวางถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ไว้ในห้องพัก และในห้องหนังสือแห่งนี้
ดังนั้นจึงทำให้ห้องเย็นสดชื่น สบายตัวอย่างยิ่ง
ซินเอ๋อร์หลังเดินเข้าไปในห้องหนังสือ รีบปิดประตูไม้ลายสลักลงทันที เพราะกลัวความเย็นเหล่านี้จะถูกความร้อนด้านนอกพัดสลายไป
ทว่าเธอเพิ่งหมุนตัว ร่างกายพลันถูกคนโอบกอดแน่น
จากนั้น มีเสียงอบอุ่นแหบพร่าดังขึ้นที่ข้างใบหู
“มืดขนาดนี้เพิ่งกลับมา วันนี้ไปที่ใดมาหรือ!”
หลังได้ยินเสียงทุ้มต่ำแฝงความเกียจคร้านหลายส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์อดใจเต้นไม่ได้ พลันเอ่ยขึ้น
“วันนี้ข้าไปเดินหาของที่จำเป็นต้องใช้ในงานอภิเษกของเรากับเสี่ยวหวน ขออภัยด้วยที่ข้ากลับมาช้า”
“เด็กโง่ กับข้า ไม่จำเป็นต้องเอ่ยขออภัยอันใด ทว่าต่อไปเจ้าต้องรีบกลับมา หรือต้องพาคนตามไปด้วยให้มากขึ้น พักนี้เมืองหลวงไม่ค่อยสงบ กลางคืนมีเพียงหญิงสาวสองคน อาจจะเกิดอันตรายได้ เข้าใจหรือไม่!”
หลังได้ยินคำพูดชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์อดพยักหน้าไม่ได้ ทว่าในใจกลับสงสัยความหมายในคำพูดของชายหนุ่ม
พักนี้เมืองหลวงไม่ค่อยสงบ เกิดเรื่องใดขึ้นหรือ!
ซินเอ๋อร์สงสัยในใจ ทว่าเธอยังไม่ทันเอ่ยถามเรื่องอื่น จู่ๆ ชายหนุ่มที่โอบกอดเธออย่างอ่อนโยน ร่างกายพลันตึงเครียดขึ้น ทันใดนั้นเสียงแฝงความกังวลร้อนใจ กลับดังออกมาจากปากเขา
“ซินเอ๋อร์ เหตุใดบนกายเจ้าจึงมีเลือด เจ้าบาดเจ็บที่ใด ให้ข้าดูเถิด เด็กๆ ไปตามหมอมาเร็วเข้า!”
หลังเสียงตื่นตระหนกร้อนใจของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์ยังไม่ทันอธิบาย รู้สึกเพียงร่างกายพลิกหมุน หลังได้สติถูกชายหนุ่มอุ้มไปที่เก้าอี้นอนด้านข้าง
และมือชายหนุ่มเคลื่อนไปที่หน้าอกของเธอ คิดฉีกเสื้อผ้าบนกายเธอทิ้ง
เห็นเช่นนั้น ซินเออร์ร้องตกใจ พร้อมกอดอกแน่น และเอ่ยกับชายหนุ่ม
“เซวียน ท่านเข้าใจผิดแล้ว เลือดนี้ไม่ใช่เลือดของข้า!”
“อะไรนะ ไม่ใช่เลือดเจ้า เช่นนั้นคือผู้ใด!”
หลังได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนที่ร้อนใจและตื่นตระหนก พลันตะลึงงัน ก่อนเอ่ยขึ้นทันที
เมื่อได้ยินคำพูดชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์นึกถึงเหตุการณ์ที่พุ่มไม้เมื่อครู่นั้นขึ้นมา
เพียงนึกถึงชายผู้นั้น ที่กดทับบนร่างกายตน พอคิดถึงตรงนี้ซินเออร์เขินอายอย่างสุดชีวิต
ทว่าเรื่องเหล่านี้ เธอย่อมบอกกับเซวียนไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้น ซินเอ๋อร์จึงชะงัก ก่อนเอ่ยเล่าเรื่องที่พบชายผู้นั้นเมื่อครู่ออกมา ทว่ากลับเลี่ยงส่วนที่มีคนไล่ล่าชายหนุ่มและชายหนุ่มทับอยู่บนกายเธอเอาไว้
ส่วนเหลิ่งอวี้เซวียนหลังได้ยินคำพูดนี้ของซินเอ๋อร์ อดขมวดคิ้ว แววตาเคร่งเครียด คล้ายขบคิดบางอย่างไม่ได้
“ชายชุดดำที่บาดเจ็บผู้หนึ่งหรือ!”
เหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยพึมพำ พลันขมวดคิ้วมุ่น ทว่าไม่นานคลายลง และสายตาที่มองซินเอ๋อร์ แฝงด้วยความกังวลและตำหนิ
“ซินเอ๋อร์ วันหน้าหากเจ้าพบเรื่องเช่นนี้ ทางที่ดีห้ามยุ่งเกี่ยว และข้าคิดว่าชายชุดดำผู้นั้น สถานะน่าสงสัย ร่างกายบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น สุดท้ายกลับพลันจากไปขณะที่มีคนเข้ามา ต้องมีความลับที่ไม่สามารถบอกและถูกผู้ใดพบเห็นไม่ได้แน่ และเจ้าเป็นเพียงสตรีบอบบาง เหตุใดจึงกล้าหาญเช่นนี้ หากคนผู้นี้ไม่ใช่คนดี หากเขาคิดทำร้ายเจ้า ข้าไม่อยู่ข้างกายเจ้า หากเกิดเรื่องกับเจ้า ข้าจะทำเช่นไร!”
เอ่ยจบ น้ำเสียงของเหลิ่งอวี้เซวียนยิ่งเคร่งเครียด ภายในแฝงด้วยความกังวลและห่วงใยอย่างที่สุด
เมื่อครู่เหลิ่งอวี้เซวียนห่วงใยตน ซินเอ๋อร์อดอบอุ่นในใจไม่ได้ พลันกอดเอวชายหนุ่มไว้แน่น ซบใบหน้าเล็กลงบนหน้าอกของชายหนุ่ม ก่อนเอ่ยขึ้น
“เซวียน ท่านอย่ากังวลเลย ตอนนี้ข้าปลอดภัยอยู่ข้างกายท่านมิใช่หรือ!”
“เฮ้อ แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่วันหน้าเจ้าห้ามทำเช่นนี้อีก เข้าใจหรือไม่!”
เมื่อเห็นท่าทางน่ารักของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนอดกอดรัดคนในอ้อมกอดแน่นขึ้นไม่ได้ ก่อนวางคางกดลงบนหน้าผากของคนตัวเล็ก คลอเคลียอย่างเบาๆ
สายตาที่มองหญิงสาวทั้งรักใคร่และกังวล
เพราะหญิงสาวผู้นี้ คือสิ่งล้ำค่าที่ไร้สิ่งเปรียบเทียบของเขา แม้เขาจะสูญเสียทุกสิ่ง แต่กลับไม่อาจสูญเสียเธอไปได้!
ส่วนซินเอ๋อร์หลังได้ยินคำพูดชายหนุ่ม รู้ว่าชายหนุ่มรักเธอจากใจจริง และกลัวเธอจะได้รับบาดเจ็บ จึงอบอุ่นในใจ และอดพยักหน้ารับปากไม่ได้
…………………………………………………………………