สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 326 อธิษฐาน
เสียงขลุ่ยไพเราะ ได้จบลงในท่อนที่ไม่น่าเชื่อว่าจะจบลงได้
การร่ายรำอ่อนช้อยของซินเอ๋อร์ จบลงอย่างสมบูรณ์แบบด้วยการหมุนตัวหนึ่งรอบ
ทั้งสองคนหนึ่งเป่าขลุ่ยได้ไพเราะ คนหนึ่งร่ายรำยอดเยี่ยม เข้ากันได้ลงตัวอย่างที่สุด!
หลังการร่ายรำจบลง ซินเอ๋อร์ยิ้มให้กับเหลิ่งอวี้เซวียน พลันรีบร้อนไปที่ข้างกายเขา และเอ่ยขึ้นว่า
“ก่อนหน้านี้เหตุใดข้าไม่เคยได้ยินท่านเป่าขลุ่ยมาก่อน ท่านเป่าได้ยอดเยี่ยม ไพเราะยิ่งนัก!”
“ฮ่า ๆ ก่อนหน้านี้ยุ่งตลอดเวลา ข้าไม่ได้เป่ามานานแล้ว วันนี้ไม่รู้เหตุใดจึงหยิบขลุ่ยเลานี้ออกมา เป็นเช่นไร ชอบหรือไม่”
หลังได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนมีใบหน้าอ่อนโยน เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
ซินเอ๋อร์ได้ยิน อดยิ้มพลางพยักหน้าไม่ได้ ก่อนเอ่ยยืนยันขึ้น
“ชอบ ”
ซินเอ๋อร์เอ่ยพลางแนบศีรษะลงบนหน้าอกชายหนุ่ม ก่อนเอ่ยขึ้น
“เซวียน ข้าตอนนี้มีความสุขมากจริงๆ ท่านดีกับข้า เหตุใดท่านจึงดีกับข้าเช่นนี้!”
“ฮ่า ๆ เด็กโง่ ข้าดีกับเจ้ามิดีหรือ!”
หลังได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนอดกล่าวยิ้มๆ ไม่ได้
“ดี เหตุใดจะไม่ดีเล่า ทว่าข้าเพียงหวังว่าความสุข ความสมหวังเช่นนี้ จะยืนยาวตลอดไป ข้าอยากอยู่กับท่านไปชั่วชีวิต จับมือกันไปจนแก่เฒ่า”
ซินเอ๋อร์เอ่ยความในใจออกมา
สองมือกอดเอวชายหนุ่มไว้แน่น
ใบหน้าเล็กแนบอยู่บนหน้าอกแกร่งของชายหนุ่ม ก่อนสูดกลิ่นกายอันเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่ม
เพราะกลิ่นอายนี้ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบเท่า
สำหรับการทำจมูกฟุดฟิดคล้ายแมวน้อยแสนเกียจคร้านทำตัวออดอ้อนตัวหนึ่งของซินเอ๋อร์ในอ้อมกอดตน เหลิ่งอวี้เซวียนมองอย่างอบอุ่นในใจ
จึงอดยื่นมือออกไปจับคางเล็กของเธอขึ้นไม่ได้
ก่อนริมฝีปากแดงค่อยๆ ประกบลง
แต่เมื่อจุมพิตเหลิ่งอวี้เซวียนกำลังจะประกบลง ซินเอ๋อร์กลัยื่นมือปิดปากหาวออกมา
“อา…”
เห็นเช่นนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนหมดคำพูด
เพราะในช่วงโรแมนติกเช่นนี้ ซินเอ๋อร์กลับหาวออกมา
ซินเอ๋อร์อาจเพราะรู้ตัวว่าตนเองไม่ควรหาวออกมาตอนนี้ แต่เธอทนไม่ไหวจริงๆ
หลังใช้มือปิดปากที่หาวออกมา ก็เอ่ยขอภัยกับชายหนุ่มอีกครั้ง
“ขออภัย เซวียน ข้ารู้สึกเหนื่อย”
ซินเอ๋อร์เอ่ยขึ้น
ไม่รู้เพราะวันนี้เธอเดินซื้อของทั้งวันกับเสี่ยวหวนหรือไม่ เธอจึงเหนื่อยล้าเช่นนี้
รวมทั้งเมื่อกลับมายังถูกชายหนุ่มเปี่ยมด้วยกำลังวังชาทรมานอีกสองชั่วยาม
เธอกับเขาไม่เหมือนกัน
โดยเฉพาะชายหญิงในด้านพละกำลัง ถือว่าไม่เท่าเทียมกัน
หลังได้ยินคำพูดนี้ของซินเอ๋อร์ และเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของเธอ เหลิ่งอวี้เซวียนอดปวดใจไม่ได้
ทันใดนั้น ยื่นมือลูบไล้หน้าผากของซินเอ๋อร์อย่างเบามือ ก่อนเอ่ยขึ้น
“เหนื่อยแล้วหรือ เช่นนั้นพวกเรากลับไปพักผ่อนกันเถิด!”
“ไม่”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์ส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้น
“ที่นี่งดงามเกินไป ข้าอยากอยู่อีกสักพักค่อยกลับไป”
แม้จะเหนื่อยล้า แต่ซินเอ๋อร์กลับตัดใจไปจากที่นี่ไม่ได้
เพราะที่นี่งดงามมากจริงๆ
ดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า ด้านล่างมีแสงไฟยามค่ำคืนจากอาคารบ้านเรือน ข้างกายมีแสงไฟจากหิ่งห้อย
ทำให้ผู้คนคล้ายอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน เธอตัดใจไปจากที่นี่ไม่ได้จริงๆ!
อาจเพราะรับรู้ความในใจของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนจึงยิ้มมุมปาก ก่อนเอ่ยขึ้น
“ตกลง เช่นนั้นพวกเราอยู่อีกสักครู่เถิด”
เอ่ยจบ เหลิ่งอวี้เซวียนดึงมือซินเอ๋อร์ให้นอนลงบนพื้นหญ้านุ่มอย่างช้าๆ
ในอากาศจะได้กลิ่นสดชื่นของต้นหญ้าที่น่าดอมดม
หลังทั้งสองนอนลง มองเห็นท้องฟ้ากว้างใหญ่ไร้ขอบเขตนั้น
ดวงตาระยิบระยับและพระจันทร์ขาวใสนั้น คล้ายอยู่ห่างเพียงแค่เอื้อมมือ
ซินเอ๋อร์อิงแอบอยู่บนหน้าอกของชายหนุ่ม ดวงตามองดวงดาวบนท้องฟ้า
เวลานี้ทั้งสองต่างไม่พูดจา
สายลมเย็นพัดเอื่อย รอบด้านเงียบสงบ สอดคล้องกันอย่างมาก
ทั้งสองมีความสุขกับช่วงเวลาที่เงียบสงบนี้อย่างยิ่ง
เพราะเวลานี้ข้างกายพวกเขาไร้ผู้คน มีเพียงพวกเขาสองคนอิงแอบแนบชิดกันอยู่ตรงนี้
มองดวงดาวบนท้องฟ้าอย่างเงียบสงบ เสพสุขกับช่วงเวลานี้ที่สวยงาม
แต่ทันใดนั้น บนท้องฟ้าพลันมีดาวตกเกิดขึ้น ซินเอ๋อร์อดร้องตกใจไม่ได้ ก่อนลุกขึ้นนั่ง เอ่ยกับเหลิ่งอวี้เซวียนอย่างดีใจว่า
“อา ไม่ดีแล้ว!”
“เป็นอันใดหรือ!”
เมื่อเห็นซินเอ๋อร์ตกใจเช่นนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนจึงลุกขึ้นตาม ก่อนก้มลงเอ่ยถาม
แต่ซินเอ๋อร์กลับชี้มือไปที่ดาวตกบนท้องฟ้านั้น ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล ก่อนเอ่ยขึ้น
“นั่นคือดาวหาง ได้ยินว่าคนที่เห็นดาวหาง จะเคราะห์ร้าย!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนชะงักไป และเอ่ยขึ้นว่า
“สวรรค์ เซวียนท่านว่าใกล้ถึงวันอภิเษกของพวกเราแล้ว แต่ตอนนี้ข้าเห็นดาวหาง มันคือลางบอกเหตุหรือไม่ งานอภิเษกของพวกเราจะเกิดสิ่งไม่คาดฝันหรือไม่!”
หลังได้ยินคำพูดกังวลของซินเอ๋อร์นี้ เหลิ่งอวี้เซวียนอดรู้สึกขบขันไม่ได้
เพราะเหลิ่งอวี้เซวียนไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้
เขาเพียงเชื่อมั่นว่าโชคชะตาของตน ถูกกำหนดด้วยสองมือของตนเท่านั้น!
ทว่าเขาไม่อยากเห็นซินเอ๋อร์กังวลเช่นนี้ ดังนั้นจึงคิดหาวิธี ก่อนคล้ายฉุกคิดบางสิ่งขึ้นมาได้ จึงกล่าวยิ้มๆ ว่า
“เด็กโง่ เจ้าไปฟังผู้ใดพูดเหลวไหลมา นี่ไม่ใช่ดาวหาง เมื่อเห็นมันก็คงไม่โชคร้าย เพราะนี่คือดาวตก ดาวตกนี้เกิดขึ้นน้อยมาก ดังนั้นพวกเราเพียงเห็นดาวตก ต้องรีบอธิษฐาน เช่นนี้ความปรารถนาจะประสบผลเร็วขึ้น!”
เหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง ซินเอ๋อร์ได้ยินอดกระพริบตาชั่วขณะไม่ได้ ก่อนเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ดาวตกหรือ!”
“ถูกต้อง มันคือดาวตก!”
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์อดเอ่ยถามอย่างแปลกใจไม่ได้
“เมื่อครู่ท่านพูดว่าหากเห็นดาวตกให้อธิษฐาน คือความจริงหรือ ท่านฟังมาจากที่ใด!”
“ฮ่า ๆ เรื่องนี้เสด็จแม่ของข้าเป็นคนเล่า ตอนเด็กข้ามักเห็นเสด็จแม่ยามพบเห็นดาวตกจะอธิษฐานขอพร”
“เช่นนั้นพรที่เสด็จแม่อธิษฐานเป็นจริงหรือไม่!”
เมื่อได้ยินคำพูดเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์อดสนใจไม่ได้ จึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
เหลิ่งอวี้เซวียนได้ยิน อดหัวเราะไม่ได้
“อืมล้วนเป็นจริง ก่อนหน้านี้เสด็จแม่พบเห็นดาวตก จะอธิษฐานให้พวกเราพี่น้อง เติบโตอย่างมีความสุข ครอบครัวของพวกเราต่างแข็งแรง เจ้าดูสิ คำอธิษฐานนี้ของเสด็จแม่มิใช่กลายเป็นจริงหรือ!”
“ฮ่า ๆ ใช่ ดูท่าเมื่อเห็นดาวตกแล้วอธิษฐาน ความปรารถนาจะสามารถกลายเป็นจริงได้จริงๆ!”
ซินเอ๋อร์ได้ยิน อดหัวเราะไม่ได้
ความกังวลที่มีพลันสลายหายไป
ทว่าไม่นาน ซินเอ๋อร์คล้ายฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงขมวดคิ้ว เอ่ยอย่างเศร้าใจไม่ได้
“เฮ้อ ดาวตกหาได้ยากกว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ข้าเสียโอกาสเช่นนี้ไป ไม่รู้ดาวตกเช่นนี้จะปรากฎขึ้นอีกเมื่อใด!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์หงุดหงิด
เหลิ่งอวี้เซวียนด้านข้างได้ยิน เคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ ก่อนเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“เป็นอันใด เจ้ามีเรื่องอยากอธิษฐานหรือ!”
“อืม”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์พยักหน้า
เหลิ่งอวี้เซวียนเห็นเช่นนั้น กล่าวยิ้มๆ ว่า
“เจ้ามีคำอธิษฐานใด พูดออกมาเถิด ข้าจะทำเพื่อเจ้าทุกอย่าง!”
ไม่ใช่เหลิ่งอวี้เซวียนมั่นใจในตนเอง เพราะบนโลกนี้ยังมีเรื่องใดที่เขาจะทำไม่ได้เล่า!
ซินเอ๋อร์รู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่เธอยังเม้มปากส่ายหน้า เอ่ยอย่างหนักแน่นและเขินอายว่า
“ไม่ ข้าไม่พูด”
เมื่อเห็นท่าทางลับลมคมในของซินเอ๋อร์ และสีหน้าแฝงความเขินอายหลายส่วน
ความจริงเหลิ่งอวี้เซวียนคล้ายคาดเดาได้ว่าคือสิ่งใด
เพราะหญิงสาวข้างกายเขาผู้นี้ บริสุทธิ์คล้ายกระดาษขาว มีเรื่องใดที่เขาไม่รู้หรือ!
แต่เห็นท่าทางลับลมคมในของหญิงสาวนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนอดอยากหยอกเย้าเธอไม่ได้
ดวงตาคมเปล่งประกายชั่วขณะ ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
“ฮ่า ๆ ลึกลับเช่นนี้ ไม่พูดก็ไม่เป็นไร โอ้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เสด็จแม่เคยเอ่ยว่าหากเห็นดาวตกแล้ว หากต้องการอธิษฐาน ต้องร้องตะโกนความปรารถนาของตนออกมาดังๆ เช่นนี้ดาวตกจึงจะได้ยิน และช่วยให้ความปรารถนานั้นเป็นจริง!”
เหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง และสมเหตุสมผล
ซินเอ๋อร์ได้ยิน ย่อมไม่สงสัย
เพียงจดจำไว้ในใจ
แต่ทันใดนั้น บนท้องฟ้ามืดมิดนั้นเกิดดาวตกขึ้นอีกครั้ง
เหลิ่งอวี้เซวียนเห็นพลันยื่นมือชี้ออกไป ก่อนเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ รีบดูเร็วเข้า เกิดดาวตกอีกครั้งแล้ว รีบอธิษฐานเถิด!”
“อา!”
เมื่อได้ยินซินเอ๋อร์พลันตะลึงงัน ไม่นานได้สติกลับมา จากนั้นพนมมือ พลันตะโกนความปรารถนาของตนออกมา
“ข้าหวังว่าจะสามารถอยู่กับเซวียนไปชั่วชีวิต และขอให้ข้ากับเซวียน…”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์อดหยุดชะงักไปไม่ได้ ก่อนเขินอาย คล้ายกระดากที่จะเอ่ยบางสิ่งออกมา
ดวงตาแฝงความเขินอายนั้น อดแอบมองชายหนุ่มหล่อเหลาด้านข้างแวบหนึ่งไม่ได้ ก่อนเอ่ยต่อขึ้น
“มีบุตรด้วยกันหลายคนด้วยเถิด”
ซินเอ๋อร์เอ่ยจบ ดาวตกหายไปอย่างไร้ร่องรอยพอดี
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์อดโล่งใจไม่ได้
โชคดีในที่สุดเธอเอ่ยความปรารถนาของตนออกมาจนจบ
และไม่รู้ว่าดาวตกนั้น จะได้ยินคำพูดของเธอและช่วยให้เธอสมหวังจริงหรือไม่!
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ จู่ๆ ร่างสีดำโผก็เข้าหาเธออย่างรวดเร็ว
ซินเอ๋อร์ตั้งตัวไม่ทัน จึงล้มลงบนพื้นหญ้าอ่อนนุ่มนั้นอย่างแรง
เมื่อได้สติเห็นใบหน้าคุ้นตาและหล่อเหลานั้น
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ตะลึงงัน อดเอ่ยถามอย่างสงสัยและตกใจไม่ได้
“เซวียน ท่านเป็นอันใดหรือ!”
“ฮ่า ๆ..”
เมื่อเห็นซินเอ๋อร์ตกใจ ชายหนุ่มกลับมีสีหน้าหยอกเย้าและขบขัน
ทันใดนั้นยกยิ้มมุมปาก เอ่ยกับซินเอ๋อร์อย่างขบขันว่า
“เด็กไง่ ความปรารถนานี้ของเจ้า ไม่จำเป็นต้องขอให้ดาวตกทำให้เจ้าสมหวัง!”
“หา ไม่จำเป็นต้องขอดาวตก เช่นนั้นผู้ใดทำได้หรือ!”
สำหรับคำพูดนี้ของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์เอ่ยถามกลับไปอย่างโง่เขลา
ทว่าสิ่งที่ตอบเธอกลับมา ไม่ใช่คำพูด แต่เป็นจุมพิตร้อนแรงของเขา
……………………………………………………………….