สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 332 พำนัก
“ซินเอ๋อร์ ฮ่า ๆ ชื่อนี้ไพเราะจริงๆ!”
เมื่อได้ยิน ชายหนุ่มพึมพำชื่นชมซินเอ๋อร์ขึ้นอีกครั้ง พลันเอ่ยขึ้น
“ข้าชื่อต้าหู่ เจ้าเรียกข้าว่าต้าหู่เพียงพอแล้ว”
“ฮ่า ๆ เช่นนั้นต่อไปข้าจะเรียกท่านว่าพี่ต้าหู่!”
เพราะชายหนุ่มอายุมากกว่าเธออย่างชัดเจน ซินเอ๋อร์จึงเอ่ยขึ้นเช่นนี้
ทันใดนั้น คล้ายฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามขึ้น
“จริงสิ พี่ต้าหู่ ที่นี่คือที่ใดหรือ ห่างไกลจากเมืองหลวงหรือไม่”
เมื่อจู่ๆ ได้ยินซินเอ๋อร์เอ่ยถามขึ้น ต้าหู่เพียงตะลึงงัน ก่อนเอ่ยตามความจริง
“ที่นี่คือเขตภูเขาที่ห่างไกล ห่างจากเมืองหลวงยิ่งนัก จริงสิ ซินเอ๋อร์เจ้าคิดจะไปเมืองหลวงหรือ”
“ไม่ ไม่”
ซินเอ๋อร์เอ่ยปฏิเสธ พลันก้มหน้าลงขบคิด
บนโลกกว้างใหญ่แห่งนี้ คล้ายไม่มีที่ใดเหมาะสมกับเธอ
หลังออกจากเมืองหลวง เธอจึงพบว่าความจริงเธอไม่รู้จะไปที่ใด
ตอนนี้ เมื่อเธอมาถึงที่นี่ อาจเป็นลิขิตสวรรค์ก็ได้!
เขตภูเขาอันห่างไกลนี้ เซวียนคงไม่คิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่แน่
ดังนั้น เธอจะอยู่ที่นี่!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์จึงตัดสินใจ
ทว่าเธอถูกชายผู้นี้ช่วยชีวิตมา และไม่ได้สนิทสนมกับเขา ย่อมไม่อาจอยู่ที่นี่รบกวนเขาได้
ดังนั้น ซินเอ๋อร์จึงเอ่ยขึ้น
“จริงสิ พี่ต้าหู่ ข้าขอถามว่าละแวกนี้ มีเรือนที่ต้องการขายหรือไม่ ข้าอยากปักหลักอยู่ที่นี่”
“อะไรนะ เจ้าต้องการอยู่ที่นี่ ดียิ่งนัก!”
เมื่อได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ ต้าหู่พลันเผยสีหน้าดีใจออกมา
ทว่าไม่นาน อาจเพราะรู้สึกตนตื่นเต้นเกินไป ต้าหู่จึงมีสีหน้าเก้อเขิน ก่อนใบหน้าดำคล้ำนั้นจะแดงก่ำขึ้นมา
ก่อนยื่นมือใหญ่ลูบท้ายทอยตน และหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ ข้า ข้าเพียงดีใจ ดีใจ ฮ่าๆ”
เมื่อเห็นท่าทางซื่อตรงและดีใจของต้าหู่ ซินเอ๋อร์รู้สึกคนผู้นี้ไม่ใช่คนเลว ดังนั้นจึงยกยิ้มจางๆ
ทันใดนั้น ได้ยินเสี่ยวหูเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ ละแวกนี้ต่างเป็นบ้านเรือนธรรมดา ทุกคนต่างทำนาและการเกษตรเลี้ยงชีพ จึงไม่มีผู้ใดขายที่ดิน ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ เจ้าสามารถพักอยู่ที่เรือนของข้าได้ เรือนของข้ามีเพี ยงข้าและมารดาสองคน ห้องหับแม้จะไม่ใหญ่ แต่ยังมีห้องว่างอีกห้อง ประเดี๋ยวทำความสะอาด สามารถพักอาศัยได้ เจ้าเห็นเช่นไร!”
หลังเอ่ยจบ ต้าหู่เอ่ยอย่างระมัดระวัง แฝงคาดหวัง
สายตาที่มองซินเอ๋อร์ราวกับหนุ่มน้อยที่มีความรักครั้งแรก
น่าเสียดายที่ซินเอ๋อร์มองไม่ออก เพราะเวลานี้หลังได้ยินคำพูดต้าหู่ เธอลังเลในใจ
เพราะเธอไม่ได้สนิทสนมกับต้าหู่ หากพักอยู่ในเรือนของเขาคงดูไม่ดี!
เมื่อเห็นท่าทางลังเลของซินเอ๋อร์ ต้าหู่ร้อนรนในใจ ก่อนพลันเอ่ยถามขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เจ้ารังเกียจที่เรือนของข้าเรียบง่ายไปหรือ เพียงมองก็รู้ว่าเจ้าคงเป็นคุณหนูในตระกูลสูงศักดิ์ ย่อมไม่เคยชินกับสถานที่เช่นนี้ เมื่อครู่ข้าคงคิดมากเกินไป”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ ต้าหู่มีสีหน้าอ้างว้าง
เพราะเพียงมองชุดที่หญิงสาวตรงหน้าสวมใส่ รู้ว่าทำมาจากเนื้อผ้าชั้นดี จะคล้ายกับคนเช่นพวกเขาได้อย่างไร เสื้อผ้าที่สวมใส่ต่างเนื้อหยาบ มีรอยเย็บ ปะชุนมากมาย
ดังนั้น ต้าหู่จึงคิดว่าซินเอ๋อร์ต้องเป็นคุณหนูในตระกูสูงศักดิ์แน่นอน แม้ไม่รู้เหตุใดจึงมาปรากฎตัวขึ้นในสถานที่แห่งนี้ จึงไม่เคยชินกับสถานที่เรียบง่ายเช่นนี้
ขณะต้าหู่คิดในใจ ซินเอ๋อร์ได้ยินคำพูดต้าหู่ พลันส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้น
“พี่ต้าหู่ ท่านอย่าพูดเช่นนี้เลย ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น และข้าไม่ใช่คุณหนูในตระกลสูงศักดิ์ ข้าเพียงกลัวว่าจะรบกวนท่านเท่านั้น”
หลังได้ยินคำพูดนี้ของซินเอ๋อร์ ต้าหู่ที่มีสีหน้าเสียใจ กลับมาสดใสอีกครั้ง ทันใดนั้นเอ่ยขึ้นว่า
“ไม่รบกวน ไม่รบกวนแม้แต่นิดเดียว ปกติข้าและมารดาอาศัยอยู่ด้วยกันมาตลอด ข้าล่าสัตว์ ปกติจะล่าสัตว์บนภูเขา เก็บฟืน มารดาข้าทุกวันจะทอผ้า เย็บปักถักร้อยอยู่ที่บ้าน หากเจ้าอยู่ ที่นี่ จะสามารถอยู่เป็นเพื่อนมารดาของข้าได้!”
“ฮ่า ๆ เป็นเช่นนี้เอง เช่นนั้นข้าคงต้องรบกวนแล้ว ทว่าข้าพักอยู่ที่นี่ได้ แต่ท่านต้องรับค่าเช่าจากข้า มิฉะนั้นข้าคงไม่สะดวกพักอยู่ที่นี่”
เมื่อถูกชายหนุ่มช่วยเหลือและให้พักอาศัยอยู่ที่นี่ ต้องเป็นการเพิ่มภาระให้เขาอย่างแน่นอน ซินเอ๋อร์ไม่ชื่นชอบเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ดังนั้นจึงเอ่ยเช่นนี้
ต้าหู่ได้ยิน กลัวว่าซินเอ๋อร์จะไม่พักอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงรีบรับปาก
พลันหมุนตัวออกไปทำความสะอาดห้องพักให้กับซินเอ๋อร์ เพราะสถานที่ที่ซินเอ๋อร์อยู่ในตอนนี้ คือห้องพักของเขา!
เมื่อเห็นต้าหู่ออกไปจัดเตรียมห้องพักให้แก่ตน ซินเอ๋อร์ดึงสายตากลับมา จากนั้นสวมรองเท้า ก่อนออกไปสำรวจสภาพแวดล้อมสถานที่พักของตน
เห็นเพียงเมื่อเธอออกจากเรือน จะเห็นแม่น้ำฮวงโหไหลเอื่อยอยู่ด้านหน้า
ในแม่น้ำยังมีเรือเล็กหลายลำ และชาวประมงกำลังหว่านแหจับปลา
และอีกฝั่งของแม่น้ำ คือภูเขาสูงที่ทอดยาวไม่ขาดสาย
นกบินโฉบไปมาอยู่ในภูเขา พร้อมส่งเสียงออกมาบางครั้ง ภาพเช่นนี้ ช่างสงบสุขและงดงามเสียจริง
ส่วนเรือนของต้าหู่นี้ ตั้งอยู่ด้านหน้าแม่น้ำ และไม่ไกลจากด้านหลังเรือนของพวกเขา ยังมีบ้านเรือนอีกมากมาย
เพียงมองล้วนคือบ้านเรือน ลานบ้าน
และด้านข้างคือเถียงนา ทุ่งนาเป็นต้น
มองดูแล้ว ที่นี่ตั้งอยู่ห่างไกล และทิวทัศน์ความรุ่งเรืองแตกต่างกับเมืองหลวงที่พำนักของโอรสสวรรค์จริงๆ
เพียงนึกถึงต่อไปต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ใจของซินเอ๋อร์พลันหดหู่ ราวกับขวดเครื่องปรุงห้ารสแตกกระจาย สับสนวุ่นวายในใจ
เฮ้อ ซินเอ๋อร์ เมื่อจากมาแล้ว เหตุใดต้องยังคิดมากอีก!
ต่อไป ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ให้มีความสุข!
เพราะสถานะของเจ้า จะทำให้คนรอบกายที่เจ้าใส่ใจที่สุดต้องเดือดร้อน
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์โศกเศร้าในใจ
แต่ทันใดนั้น หญิงคนหนึ่งที่เดินถือของเข้ามาในเรือน เพียงเห็นเธอตะลึงงัน ก่อนพลันดีใจ เอ่ยถามอย่างยิ้มแย้มว่า
“แม่นาง ในที่สุดก็ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้วดียิ่งนัก ดียิ่ง!”
เห็นเพียงหญิงผู้นี้เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม และสายตาที่มองซินเอ๋อร์ดูดีใจและอ่อนโยน
ซินเอ๋อร์เห็นหญิงผู้นี้ และเห็นเครื่องมือเย็บปักในตะกร้าของเธอ รู้ทันทีว่าคนผู้นี้ต้องเป็นมารดาที่ต้าหู่เอ่ยถึงเมื่อครู่แน่นอน
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์พลันเอ่ยอย่างมีมารยาท
“คารวะท่านป้า ท่านคือมารดาของพี่ต้าหู่ใช่หรือไม่!”
“ช่างเป็นเด็กที่มีสัมมาคารวะเสียจริง ถูกต้อง ข้าคือมารดาของต้าหู่ เมื่อวานต้าหู่ช่วยเจ้ากลับมา ข้ายังอยู่ที่เรือน แต่วันนี้เห็นเจ้ายังไม่ฟื้น ต้าหู่จึงอยู่ที่เรือนดูแลเจ จ้า ส่วนข้าเข้าเมืองไปซื้อของพวกเย็บปักถักร้อยเหล่านี้”
หลังได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ มารดาของต้าหู่พลันเอ่ยขึ้นไม่หยุด
และเวลานี้ ต้าหู่เพิ่งปัดกวาดห้องพักเสร็จ หลังได้ยินการเคลื่อนไหวด้านนอก พลันรีบออกมา ก่อนไปยืนข้างกายมารดา และเอ่ยแนะนำทั้งสองคน
“ซินเอ๋อร์ นี่คือมารดาของข้า ท่านแม่นี้คือซินเอ๋อร์ ต่อไปซินเอ๋อร์จะพักอยู่ที่นี่”
หลังได้ยินต้าหู่เอ่ยเช่นนี้ เริ่มแรกซินเอ๋อร์ยังกลัวว่ามารดาของเขาอาจไม่พอใจ ใบหน้าเล็กประณีตนั้น เผยความกังวลออกมาหลายส่วน
ทว่าหลังมารดาของต้าหู่ได้ยินเขาเอ่ยเช่นนี้ เพียงตะลึงเล็กน้อย ก่อนพลันหัวเราะออกมา
“โอ นี่ถือเป็นเรื่องดี เรื่องดียิ่งนัก ข้ายังคิดว่าคงไม่มีผู้ใดคอยอยู่เป็นเพื่อนกับข้า ซินเอ๋อร์เจ้ามาก็ดียิ่งนัก ซินเอ๋อร์หรือ เพียงมองก็รู้ว่าเป็นสาวน้อยที่ดีผู้หนึ่ง ง ต่อไปเจ้าอยู่ที่นี่ให้สบายใจเถิด จะอยู่ไปตลอดชีวิตก็ย่อมได้ ฮ่าๆ”
คำพูดนี้ของมารดาต้าหู่ ทำให้ซินเอ๋อร์ที่ได้ยินตะลึงงัน ต้าหู่ที่อยู่ด้านข้างก็คล้ายนึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ จึงมีสีหน้าเก้อเขิน ก่อนพลันเอ่ยขึ้น
“ท่านแม่ ท่านทำให้ซินเอ๋อร์ตกใจแล้ว!”
“ฮ่า ๆ เช่นนั้นข้าจะไม่พูด ตอนนี้ข้าไปทำอาหารก่อน ซินเอ๋อร์ วันก่อนต้าหู่ขึ้นเขาไปล่าสัตว์ได้ไก่ป่าและกระต่ายป่า เย็นนี้พวกเราจะทำอาหารทานกัน เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด!”
เอ่ยจบ มารดาของต้าหู่พลันหมุนตัวเดินไปทางห้องครัว
ซินเอ๋อร์ได้ยิน พลันเอ่ยขึ้น
“ท่านป้า ให้ข้าช่วยเถิด!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยขึ้น
เพราะตอนนี้เธอพักอาศัยอยู่ที่นี่ จึงไม่อาจอยู่อย่างทำตัวไร้ประโยชน์
มารดาต้าหู่ได้ยินพลันตะลึง ก่อนจะปรากฎสีหน้าชอบใจ ทว่าเธอเพียงมองชุดสวยงามที่ซินเอ๋อร์สวมใส่นี้ พลันเอ่ยขึ้น
“ฮ่า ๆ วันนี้ข้าจัดการเอง เจ้าเพิ่งฟื้นขึ้นมา ร่างกายต้องยังไม่หายดีแน่ อีกอย่างเสื้อผ้าสวยงามนี้ หากสกปรกขึ้นมาคงเสียดายแย่”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ ต้าหู่ก็เอ่ยขึ้น
“ถูกต้อง ซินเอ๋อร์ ให้ท่านแม่จัดการเถิด!”
“ใช่แล้วๆ ต่อไปเจ้าจะพักอยู่ที่นี่แล้ว ต้าหู่ เจ้าพาซินเอ๋อร์ไปเดินเล่นแถวนี้ก่อนเถิด เพื่อซินเอ๋อร์จะได้คุ้นที่คุ้นทาง”
เมื่อได้ยินคำชี้แนะของมารดา ต้าหู่พลันหันไปเอ่ยกับซินเอ๋อร์
“ถูกต้อง ซินเอ๋อร์ เช่นนั้นพวกเราไปเดินเล่นละแวกนี้กันเถิด!”
ซินเอ๋อร์ได้ยิน ลังเลอยู่ชั่วขณะ สุดท้ายยังพยักหน้าพลางเอ่ยว่า
“อืม ตกลง รบกวนพี่ต้าหู่แล้ว”
“ฮ่า ๆ ไม่รบกวน ไม่รบกวนเรื่องเล็กน้อย”
เมื่อเห็นท่าทางมีมารยาทของซินเอ๋อร์ ต้าหู่พลันลูบท้ายทอย ก่อนหัวเราะออกมา
มารดาของต้าหู่อยู่ด้านข้าง ผลักเขาไม่หยุด ก่อนส่งสายตาให้กับเขา ต้าหู่มองอย่างขวยเขินและอับอาย
“เช่นนั้นซินเอ๋อร์พวกเราไปกันเถิด!”
“อืม”
เมื่อได้ยินคำพูดต้าหู่ ซินเอ๋อร์เดินเคียงข้างต้าหู่ออกไป
เพราะซินเอ๋อร์มองสำรวจรอบๆ ไม่หยุด จึงย่อมไม่รู้ตัวว่าหลังพวกเธอเดินออกไป มารดาของต้าหู่ยิ้มกว้างจนฉีกไปถึงรูหู และมองเงาร่างของพวกเขาพลางพึมพำว่า
“ฮ่า ๆ เด็กคนนี้หน้าตาไม่เลว คิดแล้วต้าหู่ของข้าถึงคราต้องแต่งภรรยาแล้ว”
เมื่อไม่รู้ถึงแผนการของมารดาต้าหู่ เวลานี้ซินเอ๋อร์จึงเดินเคียงข้างต้าหู่ไปอย่างช้าๆ
ต้าหู่รูปร่างสูงใหญ่ เมื่อเดินจึงเร็วกว่าผู้อื่นหลายก้าว
ทว่าเขาห่วงใยซินเอ๋อร์ เมื่อเดินจึงลดความเร็วลงอย่างมาก