สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 333 ต้าหู่สารภาพรัก
ต้าหู่พลางเดิน พลางแนะนำสภาพแวดล้อมรอบๆ แก่ซินเอ๋อร์
“ฮ่า ๆ ซินเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่นี่อย่างสบายใจเถิด ผู้คนที่นี่ แม้จะไม่ได้ร่ำรวย แต่ทุกคนต่างเป็นมิตรยิ่งนัก คนในหมู่บ้านรักใคร่ปรองดอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่ าย แต่สงบสุข”
ต้าหู่ด้านข้าง หลังเอ่ยถึงเรื่องนี้ ใบหน้าปรากฎรอยยิ้มเปี่ยมด้วยความพอใจ และเห็นชัดว่าเขาชื่นชอบหมู่บ้านนี้อย่างยิ่ง
ซินเอ๋อร์ได้ยิน อดมองสำรวจไปรอบๆ ไม่ได้
หมู่บ้านแห่งนี้มีนามว่า หมู่บ้านดอกท้อ
และสมดังสมญานาม หมู่บ้านแห่งนี้ถูกปกคลุมล้อมรอบไปด้วยต้นท้อมากมาย และด้านหน้าเรือนทุกหลังต่างปลูกต้นท้อ
ทุกปีเมื่อลูกท้อสุกงอม ทุกคนล้วนจัดเก็บเหล่าลูกท้อไปขายในเมือง
และคนมากมายจะบ่มสุราดอกท้อ
สุราดอกท้อนี้ หลังผ่านการบ่มที่ยาวนาน มีโรงตี๊ยมจำนวนมากเข้ามาซื้อถึงหน้าบ้าน
ดังนั้นหมู่บ้านนี้ แม้ทุกหลังคาเรือนจะไม่ถือว่าร่ำรวย แต่กลับไม่หิวโซ
ด้านหน้าหมู่บ้านมีแม่น้ำสายหนึ่ง ผู้คนมากมายจะจับปลาในแม่น้ำ เมื่อจับได้มาก จะนำไปขายที่ในเมือง
ต้าหู่พลางอธิบาย จากนั้นยื่นมือชี้ไปที่ภูเขาสูงเขียวขจีพร้อมเอ่ยขึ้น
“ในภูเขาลูกนี้ มีสัตว์มากมาย ดังนั้นทุกวันข้าจะขึ้นไปล่าสัตว์บนนั้น ประเดี๋ยวใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว ข้าจะล่าจิ้งจอก นำหนังมาทำเสื้อให้แก่เจ้า ดีหรือไม่”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ ใบหน้าของต้าหู่เผยความเขินอายและซื่อตรงออกมา
“เอ่อ”
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์ตกตะลึง พลันส่ายหน้าพร้อมเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องหรอก ขอบคุณพี่ต้าหู่”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของซินเอ๋อร์ ต้าหู่เพียงหัวเราะออกมา
“ไม่เป็นไร ข้ามีฝีมือล่าสัตว์ที่ยอดเยี่ยม จริงสิ วันนี้ใกล้จะมืดแล้ว ท่านแม่ข้าคงทำอาหารเสร็จแล้ว พวกเรากลับไปทานอาหารกันเถิด!”
“อืม”
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์อดพยักหน้าไม่ได้ ทันใดนั้นทั้งสองมุ่งหน้ากลับเรือนของต้าหู่
…
ซินเอ๋อร์เดิมทีคิดว่า เธออาจจะอยู่ไปชั่วชีวิต
เพราะสถานที่เขาเขียวน้ำใสนี้ เซวียนคงตามหาที่นี่ไม่เจอแน่ และที่นี่ไม่มีผู้ใดรู้จักเธอ
อยู่ที่นี่ทุกวันเธอใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ
เธอเองก็เย็บปักได้ ดังนั้น ปกติจึงช่วยมารดาของต้าหู่ปักผ้าเช็ดหน้า และพวกผ้าเช็ดหน้า ถุงหอมเหล่านี้ที่เธอปัก เพียงนำออกไป ไม่นานถูกแย่งซื้อจนหมด
พอเอ่ยถึงตรงนี้ มารดาของต้าหู่เอ่ยชื่นชมซินเอ๋อร์ไม่หยุดปาก
และดีกับซินเอ๋อร์อย่างยิ่ง
เริ่มแรกซินเอ๋อร์คิดว่ามารดาของต้าหู่ นิสัยอบอุ่นเป็นมิตร ล้วนดีกับทุกคน
แต่ต่อมาเธอจึงรู้ว่า ที่แท้ไม่ได้เป็นดังที่เธอคิด
เมื่อพักอยู่ในเรือนของต้าหู่ราวครึ่งเดือน เช้าตรู่วันหนึ่ง หลังซินเอ๋อร์ซักผ้าในแม่น้ำ หยิบเสื้อผ้าที่ซักเสร็จเรียบร้อยเดินกลับไป คิดว่าหลังตากเสื้อผ้าเสร็จแล้วจะไปเก็บ บผักเพื่อทำอาหาร
ทว่า กลับเจอมารดาของต้าหู่และป้าเพื่อนบ้านที่ใต้ต้นไม้ใหญ่
อาจเพราะป้าหวังเป็นหม้ายเช่นเดียวกัน จึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับมารดาของต้าหู่ ทั้งสองเรือนมีเรื่องใด ต่างบอกกล่าวกันเสมอ
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์คิดเดินเข้าไปทักทาย
ผู้ใดจะรู้ ทันใดนั้นกลับได้ยินป้าหวังพลันเอ่ยความลับออกมา
“แม่ต้าหู่ ซินเอ๋อร์ของพวกเจ้า นิสัยไม่เลวจริงๆ ทั้งขยัน รูปโฉมงดงาม ตอนนี้อาศัยอยู่ในเรือนพวกเจ้าแล้ว เมื่อใดเรือนของเจ้าจะจัดงานมงคลเล่า ถึงวันนั้นต้องบอกข้าเป็นคนแรกนะ ะ!”
“ฮ่า ๆ ดูเจ้าพูดเข้าสิ หากพวกเขาแต่งกันจริง ข้าต้องบอกเจ้าเป็นคนแรกอยู่แล้ว ทว่าไม่รู้ว่านางจะยินยอมหรือไม่ ความจริงข้าก็ชอบแม่นางผู้นี้ เจ้าดูสิ ทุกวันต่างช่วยพวกเราซัก กเสื้อผ้า ทำงานบ้าน เย็บปักก็ไม่เลว สามารถทำเงินได้ ไม่รู้ต้าหู่ของข้าจะโชคดีได้แต่งกับนางเป็นภรรยาหรือไม่!”
“อะไรนะ เจ้าพูดเช่นนี้ แม่นางน้อยผู้นั้นไม่ยินยอมแต่งกับต้าหู่หรือ ต้าหู่ของพวกเราก็ไม่เลว นิสัยตรงไปตรงมา และอายุไม่น้อยแล้ว ปีนี้สิบเก้าแล้วมิใช่หรือ!”
“ถูกต้อง สิบเก้าแล้ว พวกเรายากจน และไม่มีหญิงใดถูกใจต้าหู่ของพวกเรา แม่นางผู้นี้รูปโฉมงดงาม ตอนแรกที่ปรากฎตัวขึ้นในเรือนของพวกเรา เนื้อผ้าที่สวมบนกายถือว่าเป็นผ้าชั้น นดี ทว่าก็ไม่รู้ความคิดของนาง ข้าเดาว่านางต้องการอยู่ที่นี่ แต่ไม่รู้ว่าชื่นชอบต้าหู่หรือไม่!”
“เช่นนั้นต้าหู่คิดเช่นไร เจ้าสอบถามแล้วหรือไม่!”
“ฮ่า ๆ คนที่เข้าใจบุตรที่สุดคือมารดาผู้ให้กำเนิด ความในใจของเขาข้าจะไม่ล่วงรู้หรือ ตั้งแต่แวบแรกที่เห็นซินเอ๋อร์ ก็ชื่นชอบทันที ช่วงที่ผ่านมาได้ใกล้ชิด ต้าหู่ของพวกเราทุกค ครั้งที่เห็นซินเอ๋อร์ จ้องตาไม่กระพริบ ฮ่า ๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดของมารดาต้าหู่ ซินเอ๋อร์อดตกใจไม่ได้
เพราะเวลานี้ เธอจึงรู้ว่ามารดาของต้าหู่กลับปฏิบัติต่อเธอเพราะเช่นนี้ และต้าหู่เขาชื่นชอบเธอ!
สวรรค์ เรื่องนี้เธอเพิ่งจะรับรู้ในเวลานี้!
สำหรับต้าหู่ เธอเพียงเห็นเขาเป็นพี่ชายเท่านั้น คิดไม่ถึง ผู้อื่นกลับมีใจให้เธอ ตอนนี้ควรทำเช่นไร!
ดูท่า เธอต้องหาเวลาอธิบายกับเขาให้ชัดเจน
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ ได้ยินมารดาของต้าหู่เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“หลายวันนี้ข้า กำลังหาโอกาสเอ่ยถามซินเอ๋อร์ ว่านางคิดเช่นไรกับต้าหู่ หากซินเอ๋อร์เองก็มีใจให้กับต้าหู่ เช่นนั้นเรื่องนี้ต้องจัดการให้เร็วที่สุดจึงจะดี”
“ถูกต้อง แม่นางซินเอ๋อร์ ชายหนุ่มไม่น้อยในหมู่บ้านต่างชื่นชอบ เพราะตอนนี้นางและต้าหู่ยังไม่ได้จัดงานมงคล ทุกคนจึงจ้องตาเป็นมัน พวกเจ้าต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ม มิฉะนั้น หากซินเอ๋อร์ถูกชายอื่นแย่งชิงไป คงไม่ดีแน่”
“ฮ่า ๆ เรื่องนี้ข้าทราบดี คืนนี้ข้าจะเอ่ยเรื่องนี้กับซินเอ๋อร์!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของมารดาต้าหู่ ซินเอ๋อร์ตกใจอย่างสุดขีด
ถาดไม้ในมือร่วงหล่นลงบนพื้นจนเกิดเสียง ‘เคร้ง’ ขึ้นมา
เพราะการกระทำนี้ จึงทำให้ทั้งสองที่สนทนากันอยู่ต่างตกใจ ก่อนพลันหันไปมองทางซินเอ๋อร์
เมื่อเห็นว่าคือซินเอ๋อร์ มารดาต้าหู่และป้าหวังต่างมองตากันรอบหนึ่ง และรู้ว่าซินเอ๋อร์ต้องได้ยินเข้าอย่างแน่นอน
ดังนั้น ป้าหวังหัวเราะพลางเอ่ยทักทายซินเอ๋อร์ หาข้ออ้างจากไป
ก่อนจากไป ยังไม่ลืมส่งสายตาให้กับมารดาต้าหู่
มารดาต้าหู่ย่อมเข้าใจนัยยะของป้าหวัง ดังนั้นจึงหันไปเผยท่าทางยิ้มแย้มออกมา ก่อนเอ่ยกับซินเอ๋อร์อย่างไม่อ้อมค้อม
“ซินเอ๋อร์ คำพูดของพวกเราเมื่อครู่ เจ้าคงได้ยินแล้วสินะ เช่นนั้นข้าจะพูดอย่างตรงไปตรงมา ข้าและต้าหู่ชื่นชอบเจ้ายิ่งนัก ข้าหวังว่าเจ้าจะกลายเป็นลูกสะใภ้ของข้า ต้าหู่ของข้า ซื่อสัตย์ มีความสามารถ ทั้งยังชื่นชอบเจ้ามาก เขานั้นเขินอาย ดังนั้นจึงไม่กล้าเอ่ยเรื่องนี้กับเจ้า ข้าที่เป็นมารดา จึงต้องช่วยเอ่ยแทนเขา ต้าหู่ชื่นชอบเจ้าจริงๆ ไม่รู้ หากต้ องแต่งงานกับต้าหู่ เจ้าจะยินยอมหรือไม่!”
“เอ่อ เรื่องนี้…”
เมื่อได้ยินคำพูดตรงไปตรงมาเช่นนี้ของมารดาต้าหู่ ซินเอ๋อร์พลันไม่รู้ควรเอ่ยเช่นใด
เพราะในใจเธอมีเพียงเซวียนคนเดียวตลอดมา แม้ตอนนี้ เธอจะไม่ได้อยู่ร่วมกับเซวียน แต่ไม่ว่าตอนนี้ หรือในอนาคต เธอคงไม่สามารถชื่นชอบผู้ใดได้อีก
ดังนั้น หลังได้ยินคำพูดของมารดาของต้าหู่ ซินเอ๋อร์ขยับริมฝีปาก คล้ายจะเอ่ยบางอย่าง แต่เสียงโมโหแฝงความสับสน พลันดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ
“ท่านแม่ ท่านพูดเหลวไหลอันใด!”
เมื่อได้ยิน ทั้งสองหันมองกลับไป เมื่อเห็นคนที่มาคือต้าหู่ต่างพลันตกตะลึง
จากนั้นมารดาของต้าหู่ได้สติกลับมา และเอ่ยขึ้น
“ข้าพูดเหลวไหลอันใด ข้าไม่ใช่ทำเพื่อเจ้าหรือ เจ้ามีใจให้กับซินเอ๋อร์ไม่ใช่หรือ เมื่อมีใจต้องรีบบอกกับเขา เจ้าเด็กคนนี้โง่งมเกินไปจริงๆ ดังนั้นข้าจึงต้องช่วยพูดแทนเจ้า!”
เมื่อได้ยินมารดาตนเอ่ยเช่นนี้ ใบหน้าซื่อสัตย์ธรรมดาของต้าหู่พลันเก้อเขิน ทันใดนั้นสองแก้มแดงระเรื่อ ทำให้ใบหน้าเขาดูดุจก้นลิงที่แดงก่ำ
“ท่านแม่ ท่านอย่าพูดอีกเลย!”
เมื่อเห็นบุตรตนเขินอาย มารดาของต้าหู่อดแอบปิดปากยิ้มไม่ได้ ดวงตายิ้มหยี พลันมองบุตรชายตนสลับกับซินเอ๋อร์ไปมาไม่ได้
สุดท้าย โบกมือกล่าวยิ้มๆ กับต้าหู่ว่า
“เอาล่ะ ไม่ให้ข้าพูด เช่นนั้นเจ้าก็พูดกับซินเอ๋อร์เองเถิด!”
คำพูดนี้ของมารดาต้าหู่ เอ่ยอย่างมีนัยยะ
สุดท้าย กลับมามองซินเอ๋อร์และต้าหู่อีกครั้ง ก่อนหัวเราะจากไป
คล้ายเรื่องระหว่างซินเอ๋อร์และต้าหู่ต้องสำเร็จแน่นอน
จนกระทั่งหลังมารดาจากไป ต้าหู่จึงหันกลับมาเงยหน้าแดงก่ำ เอ่ยกับซินเอ๋อร์อย่างอ้ำอึ้งว่า
“เอ้อ ซินเอ๋อร์ คำพูดเมื่อครู่ของมารดาข้านั้น เจ้าอย่าเก็บใส่ใจเลย แม้ ข้าจะชอบเจ้าจริงๆ”
เมื่อเอ่ยประโยคสุดท้ายนั้น ใบหน้าของต้าหู่ยิ่งแดงก่ำ
ดวงตาเปล่งประกายไม่หยุด ก่อนแอบมองซินเอ๋อร์
เมื่อเห็นซินเอ๋อร์เพียงก้มหน้าหลุบตา ไม่พูดจา อดกังวลขึ้นในใจไม่ได้
“ซินเอ๋อร์ คำพูดนี้ของข้า เจ้า เจ้าคิดเช่นไร”
เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ ต้าหู่กังวลในใจอย่างหนัก การพูดจาจึงตะกุกตะกัก
ซินเอ๋อร์หลังได้ยิน จึงกัดริมฝีปาก ก่อนเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ มองต้าหู่ที่กำลังมองตนอย่างกังวลและรอคอย
ในใจซินเอ๋อร์ เวลานี้ตกใจและตกตะลึงอย่างมาก
เพราะความจริงเธอไม่รู้ว่าต้าหู่จะมีใจให้กับเธอ
และไม่เคยคิดว่าวันนี้ต้าหู่จะเอ่ยเช่นนี้กับตน
คิดแล้ว ที่ผ่านมาตนคงทำให้พวกเขาเข้าใจผิดอย่างหนัก จึงทำให้พวกเขาคิดเช่นนี้
แต่เธอไม่ได้ชอบต้าหู่แม้แต่นิดเดียว
เธอไม่ได้เอ่ยว่าต้าหู่ไม่ดี ทว่าเพราะในใจเธอ นอกจากคนผู้นั้น ไม่สามารถมีผู้อื่นได้อีก
ดังนั้น สุดท้ายซินเอ๋อร์เพียงเอ่ยปากขอโทษต้าหู่
“พี่ต้าหู่ ขออภัยด้วย”