สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 343 เปิดเผยความจริง
แม้จะเป็นคำถาม แต่เหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยอย่างมั่นใจ
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์ตกตะลึงในใจ ดวงตาเบิกกว้าง และร้องตกใจขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา
“ท่านรู้ได้เช่นไร!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนอดยื่นมือปัดแก้มเต็มไปด้วยน้ำตาของซินเอ๋อร์ไม่ได้ ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
“เด็กโง่ เจ้าช่างโง่จริงๆ เรื่องบุตรสาวของเจ้าลัทธินอกรีตเป็นเรื่องที่ผู้อื่นแต่งขึ้น เพื่อให้เจ้าได้ยิน จากนั้นให้ไปจากข้า”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนอดถอนหายใจ เพราะสงสารและปวดใจกับซินเอ๋อร์ไม่ได้
ส่วนซินเอ๋อร์หลังได้ยินคำพูดของเหลิ่งอวี้เซวียน กลับตกตะลึงอย่างชัดเจน
หลังได้สติจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เรื่องนี้ ท่านรู้ได้เช่นไร และผู้ใดเป็นคนแต่งเรื่องขึ้นมา ผู้ใดที่ต้องการให้ข้าไปจากท่านกัน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งอวี้เซวียน และรู้ว่าตนไม่ใช่บุตรสาวของเจ้าลัทธินอกรีต ซินเอ๋อร์โล่งใจพร้อมสงสัยเช่นเดียวกัน
เหลิ่งอวี้เซวียนอดถอนหายใจกับคำถามเป็นชุดของซินเอ๋อร์ไม่ได้ ก่อนเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เพราะเจ้าไร้เดียงสาเกินไป ดังนั้นจึงถูกคนจับทางได้ง่าย เรื่องนี้ข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเอง!”
เหลิ่งอวี้เซวียนถอนหายใจ ทันใดนั้นเอ่ยเล่าที่มาที่ไปของเรื่องราวให้แก่ซินเอ๋อร์ฟังอย่างไม่มีปิดบัง
องค์หญิงสี่แห่งแคว้นฉี เพราะชื่นชอบเหลิ่งอวี้เซวียน และเพื่อครอบครองเขา ดังนั้นจึงตั้งใจวางแผนนี้ขึ้น โดยให้คนในโรงเตี๊ยมเอ่ยเรื่องลัทธินอกรีต สิ่งสำคัญคือเพื่อให้ซินเอ๋อร์ได้ยิน และด้วยนิสัยของเธอ ต้องเลือกไปจากเขาแน่นอน
จากนั้น ส่งนักฆ่าอีกกลุ่มหนึ่งมาสังหารซินเอ๋อร์
ตอนแรกขณะที่เหลิ่งอวี้เซวียนรู้ว่าซินเอ๋อร์หายตัวไป รีบส่งคนออกไปตามหาเธอทันที
คิดไม่ถึง ยังตามหาซินเอ๋อร์ไม่พบ กลับพบกับกลุ่มนักฆ่าที่ต้องการสังหารซินเอ๋อร์เข้า
ระหว่างเดินทางเขาไม่รู้ว่าสังหารนักฆ่าไปมากน้อยเพียงใด
และสั่งให้คนไปสืบหาเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ว่าเป็นผู้ใดที่กินดีหมีหัวใจ กล้ากระทั่งแตะต้องสตรีของเขา!
ต่อมาเขาได้รับข้อมูลว่าเหล่านักฆ่าพวกนี้ คือคนที่องค์หญิงสี่แห่งแคว้นฉีจ้างด้วยเงินมหาศาล จึงโมโหในใจอย่างหนัก และได้พบกับกลุ่มนักฆ่าที่ตามสังหารซินเอ๋อร์อีกกลุ่มเข้าพอดี ดังนั้นกองกำลังของเขาจึงปะทะกับกลุ่มนักฆ่าอีกครั้ง
คิดไม่ถึง นักฆ่าครั้งนี้วรยุทธ์ไม่ได้สูงส่ง แต่กลับเจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อน
เพียงเขาไม่ระวัง ดวงตาถูกสาดผงพิษเข้า ร่างกายยังถูกฟันลึกสิบกว่าแผล สุดท้ายจึงตกลงในแม่น้ำ
ความจริงคิดว่าครั้งนี้ เขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
คิดไม่ถึง สวรรค์จะกำหนดให้เขาและซินเอ๋อร์มีวาสนาต่อกันในชาตินี้
ความจริงวันที่สองของการอยู่ที่นี่ เขาคล้ายรู้สึกว่า ‘พี่สะใภ้เหลิ่ง’ นี้แปลกประหลาดยิ่งนัก
ส่วนใหญ่หญิงผู้นี้ จะยืนมองเขาจากทางด้านหลัง
เธอคิดว่าเขาไม่รู้ แต่ความจริงเขารับรู้ทุกอย่าง ทว่าขณะนั้นเขาไม่รู้ความหมายของเธอ เหตุใดจึงต้องมองเขาเช่นนี้
ทว่าไม่นาน เขาเกิดความรู้สึกคุ้นเคยกับหญิงสาวผู้นี้ขึ้นในใจ
เสียงฝีเท้าการเดิน และกลิ่นหอมสดชื่นที่กระจายออกมาขณะเดินผ่านของหญิงสาวผู้นี้ ช่างคุ้นเคยยิ่งนัก คล้ายกับซินเอ๋อร์!
ขณะนั้นเขาทั้งตื่นเต้นและดีใจในใจ
ทว่าเขายังรอจังหวะ เพราะเขากลัวว่าดวงตาตนจะมองไม่เห็น และตนคิดมากเกินไป ดังนั้นเมื่อครู่เขาจึงตั้งใจเอ่ยคำพูดเช่นนั้นออกไป
คิดไม่ถึง การคาดเดาของเขากลับถูกต้อง!
หลังได้ยินเสียงที่คุ้นหูของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนตื่นเต้นจนตัวลอย
ความรู้สึกดีใจหลังได้ของที่หายไปคืนมานั้น ทำให้เขาดีใจจนแทบคลั่ง
และเมื่อได้กอดร่างเล็กของสาวน้อยที่คุ้นเคยนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนตื่นเต้นจนตัวสั่นเทาขึ้นมา
หลังเหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยจบ ซินเอ๋อร์ตกตะลึงอย่างหนัก
ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าอ้าวเทียนเสวี่ยไม่ชอบหน้าตน ทว่าคิดไม่ถึงว่าเธอจะเกลียดชังตนจนกระทั่งส่งนักฆ่ามาสังหารตน!
หญิงผู้นั้นน่ากลัวเสียจริง
และนึกขึ้นว่าตนโง่งมยิ่งนัก ตกหลุมพรางของหญิงผู้นั้นแล้ว และยังคิดว่านี่เป็นการดีกับเซวียน จึงจากเขามา แต่กลับทำให้เซวียนต้องทนทุกข์ทรมาน และยังถูกนักฆ่าทำร้ายจนบาดเจ็บ
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์เสียใจและตำหนิตนเองไม่หยุด
น้ำตานั้น ไหลรินลงอาบสองแก้ม
ก่อนเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาไร้จุดหมายของเหลิ่งอวี้เซวียนคู่นั้น ก่อนเอ่ยขึ้น
“ข้าขอโทษ เซวียน เป็นเพราะข้าไม่ดี ทั้งหมดเป็นเพราะข้า ท่านจึงกลายเป็นเช่นนี้ ขออภัย ฮือๆ”
“เด็กโง่ นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ทั้งหมดเป็นเพราะอ้าวเทียนเสวี่ย ฮึ เรื่องนี้ข้าจะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด เธอกล้าทำเรื่องเช่นนี้ออกมา เช่นนั้นข้าจะให้เธอตอบแทนอย่างสาสม!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนหรี่ตาลง และคำพูดนี้แทบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันออกมา
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์อดตกใจไม่ได้
เพราะการโมโหเดือดดาลของเหลิ่งอวี้เซวียนในตอนนี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ดังนั้นเธอจึงหวาดกลัวบางส่วน
ความจริงซินเอ๋อร์ไม่รู้ว่าเหลิ่งอวี้เซวียน นอกจากต่อหน้าเธอที่มักมีท่าทีอ่อนโยนแล้ว สำหรับผู้อื่นต่างเลือดเย็นไร้เมตตา
มิฉะนั้น เขาจะกลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของแคว้นทั้งที่อายุน้อยได้เช่นไร!
หากไม่มีวิธีการอันร้ายกาจ เขาคงตายไปไม่รู้กี่รอบแล้ว
แต่เหลิ่งอวี้เซวียนจะไม่แสดงความโหดร้ายต่อหน้าคนที่เขารักแน่นอน
เขาต้องปกป้องคนผู้นี้ให้เป็นอย่างดี
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนกอดซินเอ๋อร์แน่น ก่อนเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ ดียิ่งนัก ตอนนี้ไม่มีความเข้าใจผิดใดแล้ว เรื่องพวกนั้นมอบให้ข้าจัดการเองเถิด ตอนนี้เจ้าเพียงอยู่ข้างกายข้าก็พอแล้ว”
เอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนมีท่าทางรักใคร่ดังเช่นที่ผ่านมา
ภายในน้ำเสียงแฝงด้วยความอ่อนโยนและถอนหายใจ
ซินเอ๋อร์ได้ยิน อดใจเต้นไม่ได้
ทันใดนั้นพยักหน้า ก่อนกอดชายหนุ่มตรงหน้าไว้แน่น
และเมื่อนึกถึงว่าชายผู้นี้รักเธอมากขนาดนี้ และต้านทานทุกสิ่งเพื่อเธอ ทำให้ซินเอ๋อร์ซาบซึ้งอย่างที่สุด
“เซวียน ขออภัย เป็นเพราะข้าไม่ดี ทว่าต่อไปไม่ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น ข้าจะไม่ไปจากท่านอีกแล้ว!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์หนักแน่นอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบเท่า
เหลิ่งอวี้เซวียนได้ยิน อดยิ้มมุมปากพลางเอ่ยขึ้นไม่ได้
“ดี คำพูดนี้ของเจ้า ข้าจะจดจำเอาไว้ ต่อไปไม่ว่าต้องเจอกับลมฟ้าหรือพายุฝน พวกเราจะไม่แยกจากกันชั่วชีวิต!”
“ตกลง ไม่แยกจากกันไปชั่วชีวิต”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์หัวเราะทั้งน้ำตา ก่อนเอ่ยอย่างหนักแน่น
ชายหนุ่มได้ยินคำพูดนี้ของเธอ อดใช้นิ้วเลิกคางของเธอขึ้น จากนั้นจุมพิตลงอย่างแม่นยำไม่ได้
แม้เหลิ่งอวี้เซวียนจะมองไม่เห็น
แต่สำหรับความคุ้นชินที่เขามีต่อซินเอ๋อร์ ไม่ว่ามองเห็นหรือไม่ ยังคงประกบริมฝีปากเล็กดังดอกเหมยที่ทำให้เขาใจเต้นคู่นั้นของเธอได้อย่างแม่นยำ
ไม่รู้เพราะได้ของที่สูญหายไปกลับมาหรือไม่ จุมพิตของเหลิ่งอวี้เซวียนจึงอ่อนโยนกว่าที่ผ่านมา
ลิ้นร้อนชื้นนั้น กวาดเล็มริมฝีปากของหญิงสาวไม่หยุด ก่อนรุกเข้าไปในด้านในช้าๆ และพัวพันลิ้นเล็กหอมหวานนั้นอย่างอ่อนโยน
จุมพิตนี้ อ่อนโยนดังสายน้ำ จนแทบทำให้ซินเอ๋อร์อ่อนระทวยจนไม่อาจถอนตัว
ดังนั้น ซินเอ๋อร์จึงลุ่มหลงอยู่ในความอ่อนโยนของชายหนุ่มอย่างช้าๆ
จนกระทั่งร่างกายเปลือยเปล่า จึงพบว่าเสื้อผ้าบนกายตน ถูกชายหนุ่มถอดลงไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์อดใจหายวาบไม่ได้ ก่อนยื่นมือกุมมือใหญ่ที่ประสงค์ร้ายของเหลิ่งอวี้เซวียนไว้ และร้องตกใจขึ้น
“เซวียน ไม่!”
“ซินเอ๋อร์ ข้าต้องการเจ้ายิ่งนัก”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า คล้ายแฝงด้วยไฟปรารถนา
ซินเอ๋อร์ได้ยินอดแก้มแดงก่ำไม่ได้ และรู้ชัดว่าชายหนุ่มต้องการสิ่งใด แต่เธอตอนนี้ ไม่กล้าทำเรื่องพรรค์นั้นกับชายหนุ่ม
สำหรับความเงียบงันของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนอดขมวดคิ้วไม่ได้ ก่อนเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เป็นอันใดหรือ หรือเจ้าไม่ต้องการ!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนอดมีสีหน้าเสียใจไม่ได้
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์รู้ว่าเขากำลังเข้าใจผิด ดังนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้น
“ไม่ใช่ ท่านอย่าคิดเหลวไหล”
“ข้าไม่ได้คิดเหลวไหล เช่นนั้นเป็นเพราะเหตุใด!”
เมื่อได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนรู้สึกคล้ายมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ดังนั้นซินเอ๋อร์จึงปฏิเสธการขอร้องของเขา
หากเป็นเมื่อก่อน เธอต้องยอมรับความรักของเขาอย่างเขินอายแน่
แต่ครั้งนี้ เป็นเพราะเหตุใด!
ขณะเหลิ่งอวี้เซวียนสงสัยในใจ ซินเอ๋อร์กลับยิ้มอย่างเต็มไปด้วยความสุข สีหน้าอ่อนโยนเช่นคนเป็นมารดา
จากนั้นยื่นมือดึงมือใหญ่ของชายหนุ่ม มาลูบไล้หน้าท้องที่ยังคงแบนราบของตนอย่างเบามือ ก่อนเอ่ยขึ้น
“เซวียน ท่านลูบคลำดู ลูกของพวกเราอยู่ในนี้!”
“อะไรนะ!”
หลังได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนพลันดุจถูกฟ้าผ่า ตกตะลึงอยู่ตรงนั้น
ดวงตาเบิกกว้าง ริมฝีปากแดงอ้าค้าง ใบหน้าตกตะลึงอย่างสุดขีด
หลังผ่านไปนาน เหลิ่งอวี้เซวียนจึงค่อยๆ ได้สติกลับมา ทันใดนั้นยิ้มกว้างจนแทบฉีกไปถึงใบหู
“ฮ่าๆ ซินเอ๋อร์ เจ้าพูดจริงหรือ ข้าจะเป็นบิดาคนแล้ว ฮ่าๆ ข้าจะเป็นบิดาแล้ว!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนตื่นเต้นดีใจอย่างไม่มีที่เปรียบ ก่อนอุ้มซินเอ๋อร์หมุนไปมา
เมื่อรู้สึกถึงความสุขของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์อดหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้
เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขที่ไพเราะราวกับเสียงกระดิ่งเงินนั้น ดังขึ้นภายในห้องที่เรียบง่ายอย่างไม่ขาดสาย
ทั้งสองคนเวลานี้ ดีใจและมีความสุขที่สุดอย่างไม่ตั้งใจ
แต่ขณะที่เขาทั้งสองต่างอยู่ในภวังค์แห่งความสุข กลับไม่รู้เลยว่าที่ประตูด้านนอก มีร่างสูงโปร่งยืนอยู่ตลอดเวลา
เหลิ่งเม่ยเฉินเห็นชายหญิงภายในห้องโอบกอดกันอย่างมีความสุข อดมีสีหน้าเศร้าโศกไม่ได้
ก่อยยิ้มมุมปากอย่างขมขื่น
ในใจก็ปวดร้าว
ทว่าเมื่อเขาเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของหญิงสาวนั้น ความขมขื่นเสียใจทั้งหมด พลันสลายหายไป
ความจริงไม่ว่าเธอจะอยู่กับผู้ใด เพียงสามารถทำให้เธอดีใจ มีความสุข นั่นเพียงพอแล้ว
……………………………………………………………